สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1594 เปลี่ยนฝ่ายรับฝ่ายรุก
ตอนที่ 1594 เปลี่ยนฝ่ายรับฝ่ายรุก
……….
ซือหม่าผิงกระชากบังเหียนม้าที่ตกใจจนเสียสติแน่น เขาชักดาบออกมาพลางตะโกนเสียงดังลั่น
“มีกับดัก! ปกป้องเสบียงอาหารให้ดี อย่าเข้าไปในหุบเขา ถอย รีบถอยออกมา!”
หากเป็นทหารปกติทั่วไปเมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้คงสติหลุดกระเจิงไปแล้ว ทว่า ผู้ที่คุ้มกันเสบียงอาหารมาส่งในครั้งนี้คือทหารกองทัพไป๋
กองทัพไป๋เผชิญกับเหตุการณ์เสี่ยงตายมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง การดักซุ่มโจมตีในช่วงสงครามคือเรื่องปกติ เมื่อได้สติหลังจากตกใจไปชั่วขณะพวกเขาไม่เพียงไม่ถูกต้อนเข้าไปในหุบเขา กลับบุกขึ้นไปต่อสู้กับศัตรูบนภูเขาอย่างดุเดือด
ทว่า ทหารที่คุ้มกันเสบียงอาหารของต้าโจวมีจำนวนน้อยกว่าฝ่ายของศัตรูเกือบเท่าตัว ช่วงแรกพวกเขาอาจต่อสู้ได้อย่างฮึกเหิม ทว่า เมื่อนานเข้ากำลังกายของของฝ่ายต้าโจวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
แม้แต่ม้าศึกของซือหม่าผิงยังถูกหอกยาวของศัตรูแทงทะลุช่วงท้อง ร่างของเขาถุกสะบัดตกจากหลังม้า ซือหม่าผิงต่อสู้กับศัตรูจนแขนของเขาอ่อนล้าไปหมดแล้ว ดวงตาทั้งสองเต็มไปด้วยเลือดของศัตรูที่แห้งกรังหมดแล้ว
จี๋อันซื่อจื่อเห็นว่ากองทัพต้าโจวถูกต้อนไปจนถึงหน้าหุบเขาแล้ว ทว่า ไม่ยอมถอยเข้าไปในหุบเขาเสียที พวกเขาพร้อมต่อสู้จนตัวตาย ไม่มีผู้ใดไปขอความช่วยเหลือจากเจิ้นกั๋วอ๋องทั้งสิ้น
เดิมทีจี๋อันซื่อจื่ออยากให้พลธนูของเขายิงธนูออกไป ทว่า ทหารต้าโจวกำลังต่อสู้ปะปนอยู่กับทหารของกองทัพจี๋อัน หากยิงธนูออกไปตอนนี้ฝ่ายเขาคงต้องสูญเสียกว่าครึ่งเช่นเดียวกัน กำลังคนของกองทัพจี๋อันมีมากกว่า พวกเขาต้องสูญเสียมากกว่าต้าโจวแน่นอน
เมื่อคิดได้ดังนี้จี๋อันซื่อจื่อจึงตะโกนออกคำสั่งให้ทหารจี๋อันทั้งหมดบุกลงไปต่อสู้อย่างเต็มที่ ต้องบีบให้ต้าโจวส่งคนไปขอกำลังเสริมให้ได้!
ทหารกองทัพจี๋อันบุกลงมาจากภูเขามากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับต้องการล้อมขบวนส่งเสบียงอาหารของพวกเขาเอาไว้ ทันใดนั้นเสียงขลุ่ยดังขึ้น…
เสียงขลุ่ยดังผ่านเสียงสู้รบรอบกายกระทบเข้าที่ใบหูของซือหม่าผิง
ใบหูของซือหม่าผิงที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดขยับเล็กน้อย เขาตะโกนขึ้นเสียงดัง
“ฝ่าออกไปให้ได้ มุ่งหน้าไปทางค่ายทหารของต้าโจว!”
สิ้นเสียงคำสั่งของซือหม่าผิง ทหารต้าโจวรีบเปลี่ยนเป้าหมายในการต่อสู้อย่างพร้อมเพรียงกันในทันที
จี๋อันซื่อจื่อได้ยินว่าทหารเหล่านี้จะย้อนกลับไปยังค่ายทหารต้าโจว เขาจะปล่อยให้เหยื่อล่อเหล่านี้หนีไปง่ายๆ ได้อย่างใดกัน เขาชี้ดาบยาวของตัวเองไปยังร่างของซือหม่าผิง จากนั้นตะโกนเสียงดัง
“ผู้ใดตัดศีรษะของแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามได้ ข้าจะให้เงินหนึ่งร้อยตำลึง!”
กองทัพไป๋คุ้มกันซือหม่าผิงบุกเข้าไปในหุบเขาด้วยสภาพสะบักสะบอม พวกเขาถอยหนีพลางต่อสู้กับศัตรูไปพลาง จี๋อันซื่อจื่อพาทหารจี๋อันไล่ตามไปติดๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นจึงเห็นว่าทหารต้าโจวถูกพวกเขาต้อนเข้าไปในหุบเขาแล้ว ทหารกองทัพจี๋อันตามเข้าไปเกือบครึ่งเช่นเดียวกัน จี๋อันซื่อจื่อตะโกนสั่ง
“พลธนูบุกขึ้นไปบนภูเขาสูง!”
สิ้นเสียงคำสั่งของจี๋อันซื่อจื่อเขาก็เห็นทหารชูธงเฮยฟานไป๋หมั่งปรากฏตัวขึ้นที่ภูเขาสูงทั้งสองด้าน
จี๋อันซื่อจื่อเบิกตาโพลง นี่มัน…เขาตกหลุมพรางของต้าโจวอย่างนั้นหรือ!
เขาเห็นสตรีสวมชุดเกราะที่นั่งวอยู่บนหลังม้าชี้หอกยาวไปทางถ้ำ
“ยิง!”
ซือหม่าผิงที่กำลังเหนื่อยหอบมองเห็นเพียงเสื้อเกราะสีเงินสะท้อนแสงอาทิตย์ของไป๋จิ่นจื้อ เสื้อคลุมกันลมสีแดงของหญิงสาวโบกสะบัดตามแรงลมเช่นเดียวกับธงเฮยฟานไป๋หมั่งของกองทัพไป๋
ครั้งนี้…ไป๋จิ่นจื้อเป็นคนมาช่วยเขา!
“ถอย! ถอย! รีบถอยออกมาจากถ้ำ!”
จี๋อันซื่อจื่อตะโกนเสียงดังลั่น จากนั้นหันไปกล่าวกับรองแม่ทัพของตัวเอง
“รีบให้คนไปรายงานเสด็จพ่อเร็วเข้า!”
เมื่อลูกธนูถูกยิงออกไป เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังกระหึ่งขึ้นทันที
“เล็งให้แม่นแล้วค่อยยิงออกไป อย่างยิงพลาดโดนพวกเดียวกันเด็ดขาด! ไม่ต้องไว้ชีวิตฝ่ายศัตรู!”
ไป๋จิ่นจื้อตะโกนสั่งเสียงดังลั่น
กองทัพของจี๋อันซื่อจื่อคุ้มกันจี๋อันซื่อจื่อหนีออกมาจากถ้ำ ทว่า ยังไม่ทันหนีพ้นก็ถูกกองทัพต้าโจวล้อมไว้เสียก่อน
พวกเขาเปลี่ยนจากฝ่ายรุกเป็นฝ่ายรับทันที…
เมื่อครู่กองทัพจี๋อันของเขายังเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่
ตอนนี้กองทัพจี๋อันของเขาถูกกองทัพต้าโจวล้อมราวกับสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ
“จี๋อันซื่อจื่อ จี๋อันอ๋องที่ดักซุ่มอยู่ห่างออกไปสิบลี้ถูกจับเป็นและยอมจำนนกับพวกเราแล้ว เจ้ายังคิดจะต่อต้านพวกเราอีกหรือ”
เมื่อได้ยินเสียงของไป๋จิ่นจื้อจี๋อันซื่อจื่อเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เป็นไปได้อย่างใดกัน!
กองทัพจี๋อันของเขามีคนทรยศอย่างนั้นหรือ ต้าโจวรู้ได้อย่างใดว่ามีกองทัพดักซุ่มโจมตีอยู่อีกแห่ง
จี๋อันซื่อจื่อขบกรามแน่น เขาไม่เชื่อว่าบิดาของเขาจะยอมจำนน กระทั่งไม่เชื่อว่าบิดาของเขาจะถูกจับได้ เขาดักซุ่มโจมตีอยู่ตรงนี้ กองทัพของบิดาของเขาดักซุ่มอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ หากทางนั้นเกิดเรื่องขึ้นจริงเขาไม่มีทางไม่ได้ยินความเคลื่อนไหว เขาควรได้รับรายงานนานแล้ว
จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้รับข่าวถอยทัพหรือขอกำลังเสริมจากบิดา เกาอี้อ๋องของต้าโจวต้องแต่งเรื่องขึ้นมาหลอกเขาอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นจี๋อันซื่อจื่อยังคงไม่ยอมแพ้ไป๋จิ่นจื้อจึงสั่งให้คนโยนดาบประจำตัวของจี๋อันอ๋องไปทางจี๋อันซื่อจื่อ จี๋อันซื่อจื่อเบิกตาโพลงมองไปทางร่างของสตรีที่สวมชุดเกราะนั่งอยู่บนม้าศึกนอกวงล้อมของทหารอย่างไม่เชื่อ
ไป๋ชิงอวี๋ไม่ได้ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ทว่า บริเวณนี้มีเพียงสองที่นี้เท่านั้นที่เหมาะสำหรับดักซุ่มโจมตี ดังนั้นไป๋ชิงอวี๋จึงให้คนจับตาดูสองสถานที่นี้ไว้นานแล้ว
เดิมทีเขาแค่อยากรู้ว่ากองทัพจี๋อันจะเลือกดักซุ่มตรงที่ใด นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะดักซุ่มทั้งสองที่เช่นนี้
หากไป๋ชิงอวี๋ยังเดาแผนการของจี๋อันอ๋องไม่ออกก็คงผิดต่อคำสั่งสอนของท่านปู่ ท่านพ่อและพี่สาวของเขามาก
วันที่ยี่สิบสาม เดือนสาม รัชศกหยวนเหอปีที่สาม จี๋อันอ๋องของต้าเยี่ยนดักซุ่มโจมตีขบวนส่งเสบียงอาหารของต้าโจว ทว่า กลับพ่ายแพ้อย่างหมดท่า จี๋อันอ๋องได้รับบาดเจ็บหนักจนเสียชีวิต
วันที่ยี่สิบสี่ เดือนสาม รัชศกหยวนเหอปีที่สาม
ไป๋ชิงเหยียนและไป๋ชิงเจวี๋ยยืนเอามือไขว้หลังก้มมองครอบครัวของหวงซานอ๋องที่คุกเข่าอยู่บนบันไดไม้หน้าค่ายทหารในเมืองเติงเฟิง
หวงซานซื่อจื่อไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น พวกเขาออกเดินทางเพราะการตัดสินใจอย่างกะทันหันของบิดา ทว่า กลับถูกกองทัพของต้าโจวจับตัวไว้ทั้งหมด ไม่อาจให้คนส่งสารไปขอความช่วยเหลือจากบิดาได้แม้แต่น้อย
ไฟในคบเพลิงที่อยู่บนเสาสูงสองข้างของกระโจมสะบัดไปมาตามแรงลม
หวงซานซื่อจื่อเห็นเงาของไป๋ชิงเหยียนบนพื้นส่ายไปมาตามแสงไฟเช่นเดียวกัน เขารวบรวมความกล้าเงยหน้ามองใบหน้าของสตรีที่เห็นได้อย่างริบหรี่จากแสงไฟ
“เจ้าคือซื่อจื่อของหวงซานอ๋องใช่หรือไม่”
เมื่อได้ยินเสียงไป๋ชิงเจวี๋ยเอ่ยถามสายตาของหวงซานซื่อจื่อจึงหยุดอยู่แค่บริเวณเอวของไป๋ชิงเหยียน ไม่กล้ามองสูงไปกว่านั้น เขาก้มศีรษะคำนับแนบพื้น
“ทูลฝ่าบาท จงกั๋วอ๋อง กระหม่อมคือหวงซานซื่อจื่อพ่ะย่ะค่ะ ต้าเยี่ยนตัดสินใจยอมจำนนต่อต้าโจวแล้ว เสด็จพ่อของกระหม่อมกำลังเตรียมมอบอำนาจทางทหารให้ฝ่าบาทอยู่พ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นเหตุใดซื่อจื่อจึงพาพระชายาและคนอื่นๆ ในครอบครัวเดินทางออกจากเมืองในเวลานี้”
ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม
หวงซานซื่อจื่อรีบก้มหน้าเอ่ยตอบไป๋ชิงเหยียนอย่างนอบน้อม
“ทูลฝ่าบาท เสด็จแม่ของกระหม่อมไม่ค่อยแข็งแรงนัก เสด็จพ่อมอบหมายให้คนในจวนเป็นคนจัดการมอบอำนาจให้ฝ่าบาท เสด็จแม่ของกระหม่อมเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียแคว้นไป กระหม่อมจึงขออนุญาตเสด็จพ่อพาเสด็จแม่และบรรดาน้องๆ ไปพักผ่อนที่ตระกูลของเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ”