สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1592 เป้าหมายชัดเจน
ตอนที่ 1591 ปกป้องจนตาย
……….
“พี่หญิงใหญ่ต้องการแค่ข่มขู่แคว้นเทียนเฟิ่งหรือต้องการเปิดศึกกับพวกเขาจริงๆ ขอรับ” ไป๋ชิงเจวี๋ยซึ่งยืนเอามือไพล่หลังลูบนิ้วมือของตัวเองเบาๆ “หากต้าเยี่ยนยอมตกเป็นของพวกเรา ต้าโจวจะมีเวลาหันไปจัดการกับเทียนเฟิ่ง หากพี่หญิงใหญ่ต้องการกำจัดภัยอย่างเทียนเฟิ่งให้สิ้นซากสามารถให้เสิ่นคุนหยางนำทัพย้อนกลับไปเตรียมตัวที่หนานเจียงก่อนได้ขอรับ”
“ตอนนี้เทียนเฟิ่งมีอำนาจต่อสู้กับต้าโจวอย่างนั้นหรือ” สีหน้าตอนไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถึงแคว้นเทียนเฟิ่งเต็มไปด้วยความรังเกียจ “เทียนเฟิ่งกล้ารับคำท้ารบจากสาสน์ที่จักรพรรดินีต้าโจวอย่างพี่ส่งไปอย่างนั้นหรือ ดินแดนของเทียนเฟิ่งแร้นแค้น อีกทั้งกำลังถูกทะเลทรายกลืนกิน มีภูเขาหิมะกั้นกลางระหว่างเราและพวกนั้น ต้าโจวไม่จำเป็นต้องยกทัพบุกไปโจมตีแคว้นเทียนเฟิ่ง”
ที่สำคัญซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นผู้เป็นจักรพรรดิของแคว้นเทียนเฟิ่งไม่สนใจความเป็นอยู่ของชาวบ้าน คิดแต่อยากจะย้อนเวลากลับไปเพื่อทำสงคราม แคว้นเช่นนี้ไม่มีทางยืนหยัดอยู่นานแน่นอน ขอแค่ต้าโจวกักแคว้นเทียนเฟิ่งไว้ในทะเลทรายฝั่งนั้นก็เพียงพอแล้ว
เสนาบดีกรมการคลังสั่งให้คนขี่ม้าเร็วนำจดหมายไปให้จักรพรรดิต้าเยี่ยนและผู้สำเร็จราชการที่เมืองหลวงภายในห้าวัน ทหารส่งสารห้านายเร่งขี่ม้าตรงไปยังเมืองหลวงทั้งวันทั้งคืนโดยไม่หยุดพัก ม้าเสียชีวิตไปหลายตัว ในที่สุดพวกเขาก็มอบจดหมายถึงมือจักรพรรดิต้าเยี่ยนและผู้สำเร็จราชการในวันที่ห้าตามคำสั่งของเสนาบดีกรมการคลังได้สำเร็จ
เซียวหรงเหยี่ยนอ่านจดหมายจบก็เข้าใจทันทีว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการสิ่งใด
“พี่สาวไป๋…ท่านอาสะใภ้เก้าหมายความว่าต้องการให้พวกเรากำจัดอ๋องเหล่านั้นหรือขอรับ” มู่หรงลี่มองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนทันทีที่ตั้งสติได้
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า “ซีผิงอ๋องที่ทำร้ายจักรพรรดินีต้าโจวเสียชีวิตแล้ว หากต้าโจวยอมรับการยอมจำนนของต้าเยี่ยนก็เท่ากับยอมรับการจำนนของอ๋องเหล่านั้น หากอ๋องเหล่านั้นไม่เคลื่อนไหว ต้าโจวก็ไม่อาจทำสิ่งใดพวกเขาได้ หากปล่อยไว้ต่อไปวันหน้าต้าโจวคงไม่สามารถกำจัดอ๋องเหล่านี้ได้อย่างราบรื่นอีกแล้ว”
มู่หรงลี่คิดตามแล้วพยักหน้า “ตอนนี้กองทัพหลักเกือบทั้งหมดของต้าโจวอยู่ในต้าเยี่ยน หากทำสงครามกับพวกอ๋องเหล่านั้นขึ้นมาจริงๆ อ๋องเหล่านั้นไม่มีทางสู้ต้าโจวได้แน่นอน ทว่า หากตอนนี้ต้าโจวยอมรับการจำนนของต้าเยี่ยน หากต้าโจวนำทัพกลับแคว้นต้าโจวและคิดกำจัดอ๋องเหล่านั้นภายหลังคงไม่ง่ายดายเหมือนตอนนี้แน่นอน ในเมื่อท่านอาสะใภ้เก้านำทัพมายังต้าโจวแล้วนางก็คงอยากกำจัดปัญหานี้ให้สิ้นซากตั้งแต่ตอนนี้เลย”
“ให้คนแพร่กระจายข่าวนี้ไปยังบรรดาอ๋องตามเมืองต่างๆ” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวขึ้น
ข่าวส่งถึงจี๋อันอ๋องเป็นคนแรก มู่หรงลี่ส่งคนไปรับมอบอำนาจทางทหารต่อจากจี๋อันอ๋อง จากนั้นให้จี๋อันอ๋องพาครอบครัวของเขาเดินทางมายังเมืองหลวงของต้าเยี่ยนเพื่อรอจำนนกับต้าโจว…
เมื่อจี๋อันอ๋องได้รับราชโองการสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที ทว่า เขาไม่กล่าวสิ่งใดออกมา ทำเพียงให้คนพาคนของจักรพรรดิต้าเยี่ยนไปยังที่พักของเขาและดูแลอย่างดี
เมื่อคนของมู่หรงลี่จากไปจี๋อันอ๋องถีบโต๊ะตรงหน้าจนคว่ำด้วยความโมโห “ข้าเคยเห็นจักรพรรดิโง่เง่ามากมาย ทว่า ไม่เคยเห็นผู้ใดโง่เขลาเท่านี้มาก่อน! เชื่อใจสามีของจักรพรรดินีของแคว้นศัตรูอย่างสนิทใจ ไม่เพียงยอมจำนนต่อแคว้นศัตรูเท่านั้น ยังไม่รู้จักกอบโกยผลประโยชน์ให้ตัวเองให้ได้มากที่สุดอีก ผู้อื่นให้เขากำจัดอำนาจของอ๋องเขาก็ยอมทำตามอย่างว่าง่ายราวกับกลัวว่าต้าโจวจะไม่ยอมรับการยอมจำนนของเขาอย่างนั้นแหล่ะ!”
“ท่านอ๋องโปรดระงับโทสะพ่ะย่ะค่ะ” ที่ปรึกษาของจี๋อันอ๋องก้มลงเก็บตำราไม้ไผ่ที่หล่นกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมา เมื่อบ่าวรับใช้จัดโต๊ะเรียบร้อย เขาจึงวางตำราเหล่านั้นลงบนโต๊ะ “ผู้สำเร็จราชการคอยอยู่ข้างกายฝ่าบาท ฝ่าบาททรงพระเยาว์ไม่รู้ความ ย่อมต้องเชื่อคำกล่าวของผู้สำเร็จราชการอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“จิ่วเจียงอ๋องก็ไม่ได้เรื่อง! แค่ให้สังหารมู่หรงเหยี่ยนก็ทำไม่สำเร็จ! หากตอนนั้นมู่หรงเหยี่ยนอยู่ในเมืองของข้าจี๋อันอ๋อง เขาคงตายไปไม่รู้กี่รอบแล้ว!” จี๋อันอ๋องนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความโมโห “เศษสวะ! ไม่ได้เรื่องกันสักคน!”
ที่ปรึกษาจัดตำราไม้ไผ่เสร็จจึงนั่งลงฝั่งตรงข้ามจี๋อันอ๋อง จากนั้นกล่าวขึ้น “จักรพรรดินีต้าโจวทรงกำจัดอำนาจของอ๋องอย่างเด็ดขาดตอนนางเพิ่งขึ้นครองราชย์ใหม่ๆ ดังนั้นต้าโจวจึงไม่มีอ๋องตามเมืองต่างๆ จักรพรรดินีต้าโจวไม่ได้มอบเมืองศักดินาให้บรรดาน้องๆ ของนาง วันหน้าต้าโจวก็คงไม่มีอ๋องตามเมืองต่างๆ แน่พ่ะย่ะค่ะ ดังนั้นจักรพรรดินีต้าโจวจึงยื่นโจทย์ยากให้แก่จักรพรรดิต้าเยี่ยน หากจักรพรรดิต้าเยี่ยนไม่ยอมกำจัดอำนาจของอ๋องตามเงื่อนไขของต้าโจว ต้าโจวก็จะยกทัพบุกโจมตีต้าเยี่ยนอย่างชอบธรรม! หากจักรพรรดิต้าเยี่ยนยอมกำจัดอ๋องตามคำขอของต้าโจว ต้าโจวก็ทำเพียงรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ภายหลังเท่านั้น ถึงเวลานั้นจักรพรรดิต้าเยี่ยนจะมีความดีความชอบในการกำจัดอำนาจของอ๋อง ต้าโจวดูแลจักรพรรดิต้าเยี่ยนดีหน่อยหลังรวมแคว้นเป็นหนึ่งก็สิ้นเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
จี๋อันอ๋องได้ยินที่ปรึกษากล่าวเช่นนี้จึงเงยหน้ามองที่ปรึกษาซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างรอให้เขากล่าวต่อไป “ส่วนจักรพรรดิต้าเยี่ยนทั้งกลัวการทำสงคราม ทั้งถูกผู้สำเร็จราชการเป่าหู ที่สำคัญเขาได้รับบทเรียนจากเรื่องที่อ๋องตามเมืองต่างๆ ร่วมมือกับเชื้อพระวงศ์มาครั้งหนึ่งแล้วดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียเวลาและเงินในคลังทำสงครามกับต้าโจวอีก เขาจึงให้คนนำราชโองการมาให้พวกเราที่นี่พ่ะย่ะค่ะ” ที่ปรึกษากล่าวอย่างไม่รีบร้อน จี๋อันอ๋องฟังและคิดตาม “จักรพรรดิต้าเยี่ยนกำลังแสดงให้จักรพรรดินีต้าโจวเห็นว่าเขายินดีทำตามคำสั่งของต้าโจว หากอ๋องต่างๆ ยอมเชื่อฟัง จักรพรรดิต้าเยี่ยนก็ไม่เสียสิ่งใด ทว่า หากพวกเราไม่ยอมเชื่อฟัง เช่นนั้นพวกเราก็ต้องยกกองทัพจี๋อันไปทำสงครามกับต้าโจว จักรพรรดิต้าเยี่ยนสามารถเก็บกำลังทหารของตัวเองไว้ได้ หากพวกเราโชคดีเอาชนะต้าโจวได้ ต้าเยี่ยนก็จะยังดำรงอยู่ต่อไป”
จี๋อันอ๋องได้ยินที่ปรึกษาวิเคราะห์ให้ฟังอย่างละเอียดสีหน้าก็ยิ่งเคร่งเครียดขึ้นกว่าเดิม “จักรพรรดิต้าเยี่ยนผู้นี้เก่งกาจพอตัวนะ”
“หากเขาไม่เก่ง ตอนนั้นเขาคงไม่กล้าตัดสินใจเดิมพันกับต้าโจวอย่างเด็ดขาดตอนที่ต้าเยี่ยนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนั้นหรอกพ่ะย่ะค่ะ” ที่ปรึกษาโค้งกายคำนับจี๋อันอ๋อง “จี๋อันอ๋องทรงอย่าดูถูกจักรพรรดิต้าเยี่ยนเด็ดขาดนะพ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไรดี” จี๋อันอ๋องไม่อยากส่งทหารของตัวเองไปเสี่ยงอันตรายเป็นด่านหน้าและปล่อยให้จักรพรรดิต้าเยี่ยนได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว ทว่า เขาก็ไม่อยากถูกยึดอำนาจเช่นเดียวกัน
ในบรรดาอ๋องทุกคนมีผู้ใดอยากถูกยึดอำนาจไปบ้าง
แม้เขาจะเป็นเพียงอ๋องที่ได้รับเมืองศักดินา ทว่า เขาเปรียบเสมือนจักรพรรดิในเมืองที่เขาปกครอง
พวกเขาเคยเห็นจุดจบของอ๋องของต้าโจวมาแล้ว หากตอนนี้พวกเขายอมจำนนต่อต้าโจว พวกเขาต้องถูกยึดอำนาจแน่นอน
“ท่านอ๋องให้คนของจักรพรรดิต้าเยี่ยนกลับไปทูลจักรพรรดิว่าท่านตกลงทำตามราชโองการ ท่านจะพาครอบครัวเดินทางไปยังเมืองหลวง ทว่า การมอบอำนาจทางทหารคืนให้ราชสำนักต้องใช้เวลา! ท่านให้พระชายาเสด็จไปเคารพศพของไทเฮาก่อน ให้จักรพรรดิต้าเยี่ยนเลิกมุ่งความสนใจมาที่พวกเราก่อน จากนั้นค่อยลอบจัดทัพบุกไปดักซุ่มโจมตีกองทัพส่วนหนึ่งของต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ” ที่ปรึกษาเคาะนิ้วลงบนโต๊ะ “ขอเพียงพวกเราเริ่มเปิดศึก หวงซานอ๋องต้องร่วมมือกับพวกเราแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ จักรพรรดิต้าเยี่ยนจะคอยสังเกตการณ์อยู่เฉยๆ ก่อน หากเขาเห็นว่าพวกเราเริ่มต่อกรกับต้าโจวได้เขาจะต้องส่งกองทัพมาช่วยเหลือพวกเราแน่นอน การเลือกว่าจะเก็บบรรดาอ๋องไว้และแคว้นดำรงอยู่ต่อไปหรือกำจัดอ๋องและแคว้นดับสูญไม่ใช่การตัดสินใจที่ยากสักนิดพ่ะย่ะค่ะ!”
ตอนที่ 1592 เป้าหมายชัดเจน
……….
ที่ปรึกษาพยักหน้าแล้วกล่าวขึ้น
“อีกไม่นานหวงซานอ๋องก็คงได้รับราชโองการของจักรพรรดิต้าเยี่ยนเช่นเดียวกับพวกเรา ท่านอ๋องรีบให้คนส่งข่าวบอกให้หวงซานอ๋องรับรู้ก่อนจะได้เตรียมช่วยเหลือกันทันเถิดพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้หวงซานอ๋องอยู่ใกล้จักรพรรดินีต้าโจวมากที่สุด เขาลงมือได้ง่ายที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”
จี๋อันอ๋องเริ่มมีความมั่นใจขึ้น เขาพยักหน้า จากนั้นหยิบพู่กันขึ้นเขียนจดหมายถึงหวงซานอ๋องด้วยตัวเอง
“ข้าจะเขียนจดหมายถึงหวงซานอ๋องด้วยตัวเอง เจ้าไปบอกให้ซื่อจื่อส่งคนไปสำรวจสถานการณ์ของกองทัพต้าโจวที”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ที่ปรึกษาทำความเคารพและจากไปหาจี๋อันซื่อจื่อทันที
วันนั้นชายาของจี๋อันอ๋องพาชายาของจี๋อันซื่อจื่อที่กำลังตั้งครรภ์เดินทางไปยังเมืองหลวงของต้าโจวพร้อมกับทูตที่จักรพรรดิต้าเยี่ยนส่งมา
จี๋อันซื่อจื่อมองส่งรถม้าคันหรูของมารดาและภรรยาของตัวเองจากไป จากนั้นจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปพบบิดาของตัวเอง ก่อนเข้าไปในห้องหนังสือเขาสั่งให้องครักษ์หน้าห้องเฝ้าห้องหนังสือไว้ให้ดี ห้ามให้ผู้ใดเข้าใกล้เด็ดขาด จากนั้นจึงแหวกม่านเข้าไปด้านใน
เขาเห็นบิดาของตัวเองยืนถือเทียนที่ส่องแสงริบหรี่อยู่หน้าแผนที่อย่างไม่รู้กำลังจ้องสิ่งใดอยู่ เขาก้าวเข้าไปทำความเคารพ
“เสด็จพ่อ ข้ามีเรื่องอยากสนทนากับท่านพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้ากล่าวไป ข้าฟังอยู่”
จี๋อันอ๋องกล่าวเสียงขรึมโดยไม่ได้ละสายตาจากแผนที่แม้แต่น้อย
แม้จี๋อันอ๋องจะตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำศึกต่อกรกับต้าโจว ทว่า ในใจยังคงไม่มีความมั่นใจอยู่ดี
จี๋อันอ๋องเคยได้ยินว่าแม้ไป๋ชิงเหยียนจะเป็นเพียงสตรี ทว่า ปณิธานในการรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งของนางแกร่งกล้าและเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก คราวที่แล้วซีผิงอ๋องลอบสังหารไป๋ชิงเหยียนไม่สำเร็จต้องยิ่งทำให้ต้าโจวเพิ่มการป้องกันมากกว่าเดิมแน่นอน นี่คือปัญหาใหญ่ของพวกเขา
ทว่า จี๋อันอ๋องคิดสิ่งใดบางอย่างได้จากการรับรู้ข่าวว่ากองทัพของต้าโจวยกทัพมาเกือบหมด
แม้คนภายนอกจะกล่าวว่าบรรดาพี่น้องของจักรพรรดินีต้าโจวมีใจเป็นหนึ่งเดียว พวกเขายกทัพมาโจมตีต้าเยี่ยนทันทีที่รู้ว่าจักรพรรดินีต้าโจวถูกลอบสังหาร
ทว่า เขาและที่ปรึกษาของเขาเคยทบทวนเรื่องนี้อย่างละเอียดแล้ว หากคำนวณเวลาการเดินทัพของต้าโจว ทางต้าโจวเร่งนำทัพมายังต้าเยี่ยนโดยไม่หยุดพักตั้งแต่ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนกำลังถูกลอบโจมตีแล้ว
หากจักรพรรดินีต้าโจวเพิ่งส่งคนไปแจ้งต้าโจวหลังจากที่นางโดนลอบสังหาร จากนั้นต้าโจวค่อยส่งทหารมายังต้าเยี่ยน ต่อให้ทหารเหล่านั้นมีปีกก็ไม่สามารถเดินทางมาถึงต้าเยี่ยนได้เร็วเช่นนี้แน่นอน!
สิ่งที่อธิบายเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ที่ร่วมมือกับอ๋องอย่างพวกเขาทรยศพวกเขา…ลอบส่งข่าวให้ต้าโจวรับรู้
มิเช่นนั้นก็อาจเป็นได้ว่าจักรพรรดินีต้าโจวแสร้งทำเป็นเดินทางมาช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดโรคระบาดในต้าเยี่ยน ทว่า แท้จริงแล้วต้าโจวต้องการทำลายล้างต้าเยี่ยนด้วยสงคราม แต่ซีผิงอ๋องกับเชื้อพระวงศ์ต้าเยี่ยนกลับร่วมมือกับลอบสังหารจักรพรรดินีต้าโจวเสียก่อนดังนั้นต้าโจวจึงมีสามารถเปิดศึกได้อย่างชอบธรรม
จี๋อันอ๋องไม่เชื่อว่าพระเชื้อวงศ์ของต้าเยี่ยนจะทรยศพวกเขาเพราะผลประโยชน์ของพวกเขาเหมือนกัน
ดังนั้นจี๋อันอ๋องจึงคิดว่าเป็นเหตุผลหลังมากกว่า เขาสงสัยกระทั่งว่าต่อให้ซีผิงอ๋องไม่ลงมือกับจักรพรรดินีต้าโจว นางก็คงหาเหตุผลอื่นเพื่อเปิดศึกกับต้าเยี่ยนได้แน่
จี๋อันอ๋องเดาว่าที่อ๋องของต้าโจวยกทัพใหญ่บุกมายังต้าเยี่ยนไม่ใช่เพราะพวกเขาผูกพันกันลึกซึ้งจนต้องยกทัพมาช่วยเหลือจักรพรรดินีต้าโจวทันทีอย่างทนไม่ได้
ทว่า เป็นเพราะจักรพรรดินีต้าโจวส่งคำสั่งเคลื่อนทัพไปยังต้าโจวตั้งแต่ก่อนที่นางจะถูกลอบโจมตีแล้ว ดังนั้นกองทัพใหญ่ของต้าโจวจึงบุกมายังต้าเยี่ยนได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
“เสด็จพ่อ ข้าคิดว่าหากเสด็จพ่ออยากให้ต้าเยี่ยนปลอดภัย…จักรพรรดินีต้าโจวต้องถูกกำจัดพ่ะย่ะค่ะ ข้าอยากให้เสด็จพ่อส่งจดหมายไปบอกให้หวงซานอ๋องสังหารจักรพรรดินีต้าโจวทิ้งเสียพ่ะย่ะค่ะ”
จี๋อันซื่อจื่อกล่าวอย่างไม่รีบร้อน
“กองทัพจี๋อันของพวกเราจะเปิดศึกกับต้าโจว ถ่วงเวลากองทัพของเจิ้นกั๋วอ๋องและฝู่กั๋วอ๋องของต้าโจวให้ หวงซานอ๋องจะได้มีเวลาสังหารจักรพรรดินีต้าโจว เป้าหมายของหวงซานอ๋องชัดเจน เขาแค่สังหารจักรพรรดินีต้าโจวเท่านั้น ไม่ต้องสนใจกองทัพใหญ่อื่นๆ เขาน่าจะทำได้สำเร็จพ่ะย่ะค่ะ”
จี๋อันอ๋องได้ยินคำของบุตรชายจึงหันไปวางเทียนในมือลงบนโต๊ะ จากนั้นมองหน้าบุตรชายด้วยสีหน้าจริงจัง
“เหตุใดต้องสังหารจักรพรรดินีต้าโจว”
“เสด็จพ่อลองคิดตามดูนะพ่ะย่ะค่ะ ข้าคิดว่าเวลาเดินทัพของต้าโจวไม่ถูกต้อง! จักรพรรดินีต้าโจวน่าจะอยากโจมตีต้าเยี่ยนและสั่งให้อ๋องของต้าโจวจัดทัพไว้รอนานแล้ว การลอบสังหารของซีผิงอ๋องเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่ทำให้ต้าโจวสามารถยกทัพบุกมายังต้าเยี่ยนได้อย่างชอบธรรมเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
จี๋อันซื่อจื่อเงยหน้ามองบิดาของตัวเอง
“ข้ายังคิดว่าหากจักรพรรดินีต้าโจวเสียชีวิต ต้าโจวไม่มีทางเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างเช่นตอนนี้แน่นอน อ๋องคนอื่นๆ ต้องคิดหาทางแย่งบัลลังก์กันเองแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
จี๋อันอ๋องได้ยินบุตรชายกล่าวเช่นนี้จึงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเบาๆ จากนั้นยกถ้วยชาขึ้นดื่ม
“เจ้าคิดเหมือนข้า!”
จี๋อันซื่อจื่อได้ยินบิดากล่าวเช่นนี้จึงยิ่งมั่นใจมากขึ้น ทว่า ใบหน้าไม่แสดงสีหน้าใดๆ ทั้งสิ้น เขากล่าวต่อ
“ข้าคิดว่าเมื่อหวงซานอ๋องได้รับราชโองการของฝ่าบาท เขาย่อมคิดเช่นเดียวกับพวกเรา ไม่มีทางยอมมอบอำนาจในมือเขาให้ฝ่าบาทแน่นอน เช่นนั้นเขาย่อมรู้ดีว่าการสังหารจักรพรรดินีต้าโจวคือทางออกเดียวของพวกเราในตอนนี้พ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้ากล่าวมีเหตุผล ทว่า หากพวกเราลงมือก่อน หวงซานอ๋องเป็นคนขี้ขลาด”
เมื่อเห็นจี๋อันอ๋องลังเลจี๋อันซื่อจื่อจึงกล่าวต่อ
“เสด็จพ่อ หวงซานอ๋องเป็นคนขี้ขลาดจึงไม่ร่วมมือกับอ๋องคนอื่นๆ ทำสิ่งใดทั้งสิ้น ทว่า ครั้งนี้จักรพรรดิต้าเยี่ยนต้องการกำจัดอำนาจของอ๋อง มันไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา นี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของพวกเรา ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดพวกเราก็แค่ป้องกันเมืองของตัวเองไม่ออกไปนอกเมืองก็เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
จี๋อันอ๋องนิ่งคิดครู่หนึ่ง จากนั้นตบโต๊ะและกล่าวขึ้น
“ทำตามที่เจ้าว่า”
“ในเมื่อเสด็จพ่อตัดสินพระทัยได้แล้ว ข้าขออาสานำทัพอ้อมไปโจมตีกองทัพต้าโจวทางตะวันออก ตัดเส้นทางเสบียงอาหารของพวกเขา หากต้าโจวขาดเสบียงอาหาร พวกเขาต้องรอเสบียงอาหารส่งมาใหม่ ถึงเวลานั้นพวกเราจะได้เปรียบทันทีพ่ะย่ะค่ะ”
จี๋อันซื่อจื่อขออาสาทำหน้าที่นี้ แววตาที่คล้ายยคลึงกับจี๋อันอ๋องสะท้อนแสงไฟที่ริบหรี่ในห้อง
ไป๋จิ่นจิ่นจื้อเดินทางไปถึงค่ายทหารของไป๋ชิงอวี๋และไป๋จิ่นซิ่ว
เมื่อไป๋จิ่นซิ่วได้ยินคำที่ไป๋ชิงเหยียนฝากไป๋จิ่นจื้อมาบอกจึงมองไปทางไป๋ชิงอวี๋
“มิน่าคนของเราจึงรายงานว่าเมืองจี๋อันส่งสายลับออกมาหลายรอบแล้ว”
ในเมื่อไป๋ชิงอวี๋รู้แล้วพี่สาวของเขาต้องการกำจัดอำนาจของอ๋องต่างเมืองเหล่านั้นให้หมดสิ้นเขาจึงไม่อยากอดทนรอให้จี๋อันอ๋องเริ่มลงมือและไม่อยากให้สถานการณ์อยู่เหนือการควบคุมของตัวเอง
ชายหนุ่มเดินไปหยุดอยู่หน้าแผนที่ สายตาหยุดอยู่ที่สถานที่ที่เหมาะสำหรับการดักซุ่มโจมตีมากที่สุด เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นกล่าวขึ้น
“อีกสามถึงห้าวันเสบียงอาหารใหม่ของพวกเราก็คงจะมาถึงแล้ว ส่งข่าวนี้ให้คนของจี๋อันอ๋องรู้”
ไป๋จิ่นซิ่วพยักหน้า
“พี่จะจัดการเรื่องนี้เอง!”