สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1588 จักรพรรดิที่แคว้นดับสูญ
ตอนที่ 1588 จักรพรรดิที่แคว้นดับสูญ
……….
สายตาของเซียวหรงเหยี่ยนหยุดอยู่ที่ร่างซึ่งไม่โดดเด่นของเริ่นเซื่อเจี๋ย จากนั้นกล่าวขึ้น
“รบกวนเริ่นเซียนเซิงไปกับพวกเขาด้วย เจ้าถือเป็นคนคุ้นเคยของจักรพรรดินีต้าโจวเช่นกัน”
เริ่นซื่อเจี๋ยรู้ว่าหากผู้สำเร็จราชการไม่ไปเองก็ต้องส่งเขาไปแน่นอน เขาก้าวไปด้านหน้า
“พ่ะย่ะค่ะ…”
“งานเดียวไม่จำเป็นต้องมีเจ้านายสองคน ให้เริ่นเซียนเซิงนำสาสน์ยอมจำนนไปมอบให้ต้าโจวก็แล้วกัน”
มู่หรงลี่กล่าวกับเริ่นซื่อเจี๋ย
“ฝ่าบาททรงมีรับสั่งกระหม่อมไม่กล้าขัด…ทว่า กระหม่อมเรื่องอยากทูลกับฝ่าบาทและผู้สำเร็จราชการเป็นการส่วนพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า
เหล่าขุนนางเห็นมู่หรงลี่ตัดสินใจแน่วแน่แล้วจึงไม่รู้จะเกลี้ยกล่อมเช่นใด พวกเขาได้แต่ยืนเงียบ
มู่หรงลี่บอกแล้วว่าจะเจรจาสงบศึกและมอบดินแดนให้ต้าโจวก่อน หากไม่สำเร็จจริงๆ ค่อยยอมจำนน
ไม่แน่จักรพรรดินีต้าโจวอาจใจกว้าง เรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือของซีผิงอ๋อง ไม่ใช่คำสั่งของจักรพรรดิต้าเยี่ยน นางอาจยอมรับเมืองที่ต้าเยี่ยนยกให้และยอมยกโทษให้ต้าเยี่ยนก็ได้
ทว่า ความจริงขุนนางทุกคนรู้ดีแก่ใจว่าซีผิงอ๋องคืออ๋องของต้าเยี่ยน ต่อให้การกระทำของซีผิงอ๋องจะไม่ได้มาจากคำสั่งของจักรพรรดิต้าเยี่ยน ทว่า ต้าเยี่ยนเป็นคนดักซุ่มโจมตีจักรพรรดินีของต้าโจวอยู่ดี
หากมองกลับกัน หากจักรพรรดิต้าเยี่ยนของพวกเขาถูกลอบสังหารในต้าโจว พวกเขาก็คงยอมไม่ได้เช่นเดียวกัน
แม้ปากของเริ่นซื่อเจี๋ยจะบอกว่ามีเรื่องต้องการสนทนากับมู่หรงลี่และเซียวหรงเหยี่ยนเป็นการส่วนตัว ทว่า ความจริงเขาต้องการถามคนทั้งคู่ว่าเขามีอำนาจมากเพียงใด เซียวหรงเหยี่ยนบอกกับมู่หรงลี่ก่อนที่หวังจิ่วโจวจะพาเริ่นซื่อเจี๋ยเข้ามาแล้ว
ดังนั้นตอนที่เริ่นซื่อเจี๋ยเอ่ยถามมู่หรงลี่จึงไม่ได้แปลกใจนัก
“เหตุใดจึงถามเช่นนี้”
มู่หรงลี่ยกมือสั่งให้หวังจิ่วโจวหาที่นั่งให้เริ่นซื่อเจี๋ย
“ฝ่าบาทเคยประทับอยู่ในเมืองหลวงของต้าโจวระยะหนึ่งเช่นเดียวกัน พระองค์น่าจะทราบคุณธรรมและนิสัยของตระกูลไป๋ดี พระองค์คิดว่าหากเจิ้นกั๋วอ๋อง ฮู่กั๋วอ๋องและฝู่กั๋วอ๋องที่อยู่ในเมืองหลวงของต้าโจวทราบเรื่องนี้จะเกิดสิ่งใดขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงลี่กำหมัดแน่น เขาเคยคิดเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ยังไม่ต้องกล่าวถึงผู้อื่น แค่ฝู่กั๋วอ๋องไป๋จิ่นซิ่วซึ่งเป็นภรรยาของฉินหล่าง…หากนางทราบว่าพี่หญิงใหญ่ของตัวเองถูกลอบสังหารในต้าเยี่ยนจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดนางต้องรีบยกทัพมายังต้าเยี่ยนแน่นอน ไหนจะเจิ้นกั๋วอ๋องผู้เป็นน้องชายแท้ๆ ของไป๋ชิงเหยียนอีก
“จากความเข้าใจที่กระหม่อมมีต่อคนเหล่านั้น อ๋องของต้าโจวเหล่านั้นต้องยกทัพบุกมาต้าเยี่ยนแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”
เริ่นซื่อเจี๋ยมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยน
“เมื่อครู่ท่านอ๋องตรัสว่าตอนนี้กองทัพใหญ่ของต้าโจวอาจเดินทางถึงชายแดนของต้าเยี่ยนแล้ว กระหม่อมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงลี่มองเริ่นซื่อเจี๋ยด้วยสีหน้าจริงจัง เขาไม่เข้าใจความหมายของเริ่นซื่อเจี๋ย เขาเอ่ยถามออกไปอย่างไม่รอเริ่นซื่อเจี๋ยกล่าวต่อ
“แล้วอย่างใด”
“เริ่นซื่อเจี๋ยหมายความว่าหากกองทัพของต้าโจวบุกประชิดชายแดนของต้าเยี่ยนแล้ว เกรงว่าต้าโจวอาจไม่ยอมรับการยอมจำนนและตกเป็นเมืองขึ้นของพวกเราง่ายๆ”
เซียวหรงเหยี่ยนหมุนแหวนปานจื่อที่นิ้ว
เริ่นซื่อเจี๋ยพยักหน้ารัว
“พ่ะย่ะค่ะ ดังนั้นกระหม่อมอยากทราบว่าหากต้าโจวไม่เห็นด้วยกับการเจรจาสงบศึกและยอมจำนนของต้าเยี่ยน ต้องการให้ต้าเยี่ยนยอมแพ้และรวมเป็นหนึ่งเดียวกับต้าโจวตามผลการเดิมพัน ฝ่าบาทจะทรงยอมรับหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
เริ่นซื่อเจี๋ยรู้ว่าจักรพรรดินีของต้าโจวเป็นคนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ในเมื่อนางอยากรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง นางไม่มีทางยอมรับข้อเสนอการตกเป็นเมืองขึ้นอยู่แล้ว นางต้องการให้ต้าเยี่ยนยอมรวมเป็นหนึ่งกับต้าโจวเหมือนที่ตกลงกันไว้ในการเดิมพันแน่นอน
“เรายอมรับได้…”
มู่หรงลี่ตอบอย่างไม่ลังเล
คำตอบที่รวดเร็วของมู่หรงลี่สร้างความประหลาดใจให้เริ่นซื่อเจี๋ยมาก เริ่นซื่อเจี๋ยมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนแวบหนึ่ง คำกล่าวเกลี้ยกล่อมมู่หรงลี่ที่เตรียมมาไม่ได้ถูกนำออกมาใช้เลยแม้แต่น้อย
“ความจริงตอนที่ต้าเยี่ยนแทงข้างหลังต้าโจวถึงสองครั้งตอนที่ยังเป็นพันธมิตรกันอยู่ก็ทำให้ต้าเยี่ยนสูญเสียโอกาสได้ครอบครองใต้หล้าไปแล้ว! เราไร้ความสามารถ ไม่สามารกถปกครองต้าเยี่ยนได้จึงทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น”
มู่หรงลี่กำชุดของตัวเองแน่น
“เสด็จพ่อ ท่านอาเก้า ข้าและพี่ชายสองล้วนอยากเห็นวันที่ใต้หล้ารวมเป็นหนึ่ง หากต้าโจวนำทัพใหญ่บุกประชิดชายแดนต้าเยี่ยนแล้วจริง แทนที่พวกเราจะดิ้นรน ทำให้ทหารสละชีพโดยเปล่าประโยชน์ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากสงคราม ไม่สู้ยอมแพ้ดีกว่า! ขอเพียงชาวบ้านไม่ต้องเดือดร้อนเพราะสงคราม เรายินดีเป็นจักรพรรดิที่แคว้นดับสูญ!”
มู่หรงลี่นึกถึงเว่ยหรูสิงองค์ชายสามของแคว้นต้าเหลียงที่ยอมจำนนต่อต้าโจวและต่อมาพลีชีพเพื่อปกป้องชาวบ้านแถบชายทะเลของต้าเหลียงขึ้นมา องค์ชายคนหนึ่งยังกล้ายอมจำนนต่อต้าโจวอย่างไม่กลัวชื่อเสียงของตัวเองจะเสียหาย เหตุใดเขาซึ่งเป็นถึงจักรพรรดิจะต้องหวาดกลัวด้วย เขาต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของชาวบ้านเป็นอันดับแรก
เริ่นซื่อเจี๋ยได้ยินคำกล่าวของมู่หรงลี่จึงรู้สึกทึ่งอย่างอดไม่ได้ เขานึกไม่ถึงเลยว่าเด็กที่อายุเพียงแค่นี้จะใจกว้างถึงเพียงนี้ เขาลุกขึ้นยืนทำความเคารพมู่หรงลี่อย่างจริงจัง
“ฝ่าบาททรงพระทัยกว้างจนกระหม่อมละอายยิ่งนัก! กระหม่อมจะไม่ทำให้ทรงผิดหวัง จะพยายามทำเพื่อต้าเยี่ยนจนถึงที่สุดพ่ะย่ะค่ะ!”
“ลำบากเริ่นเซียนเซิงแล้ว เริ่นเซียนเซิงช่วยออกเดินทางตอนนี้เลย ตอนนี้เริ่นเซียนเซิงยังไม่มีตำแหน่งในราชสำนัก เมื่อกลับมา…”
มู่หรงลี่ชะงักคำสัญญาที่จะกล่าวออกไป
เมื่อเริ่นซื่อเจี๋ยกลับมา ไม่รู้ว่าต้าเยี่ยนจะยังมีอยู่หรือไม่ เขาจะให้สัญญากับเริ่นซื่อเจี๋ยได้อย่างใดกัน
“เมื่อกลับมาข้ากับฝ่าบาทจะจัดงานเลี้ยงขอบคุณเจ้า”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวขึ้น
มองส่งเริ่นซื่อเจี๋ยจากไปเสร็จเซียวหรงเหยี่ยนจึงสั่งให้หวังจิ่วโจวไปนำเสื้อผ้าสะอาดมาให้มู่หรงลี่เปลี่ยน เขาเดินไปหยุดอยู่ข้างกายมู่หรงลี่ จากนั้นเอื้อมมือลูบศีรษะหลานชายอย่างแผ่วเบา
“เจ้าทำดีมากแล้ว ปัญหาของต้าเยี่ยนมีมากเกินไป เจ้าควบคุมสถานการณ์ได้ถึงเพียงนี้ก็ดีมากแล้ว”
“ท่านอาเก้า…”
น้ำตาของมู่หรงลี่ไหลพราก ความรู้สึกมากมายถาโถมขึ้นในใจของเขา เขารู้สึกสับสนและไร้ความสามารถมาก
“หากตอนนั้นข้าเชื่อคำของท่านอาเก้า ไม่สนับสนุนลุงของข้าขึ้นรับตำแหน่งในราชสำนักตามคำขอของท่านแม่นางก็คงไม่ถูกท่านลุงของข้าเป่าหูจนเริ่มหวาดระแวงท่านอาเก้าและทำสิ่งผิดพลาดมากมายเช่นนี้ บางทีต้าเยี่ยนอาจไม่ต้องมีจุดจบเช่นนี้!”
“หากเจ้าจะกล่าวเช่นนี้ก็ควรกล่าวว่าหากตอนนั้นข้าไม่แต่งงานกับจักรพรรดินีของต้าโจว ท่านแม่ของเจ้าก็คงไม่หวาดระแวงในตัวข้าเช่นนี้”
เซียวหรงเหยี่ยนลูบศีรมู่หรงลี่อยากปลอบโยน จากนั้นกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนอย่างแทบไม่เคยได้ยิน
“เอาเถิด เรื่องเกิดขึ้นแล้ว คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด รวบรวมสติให้มั่น ยังมีอีกหลายเรื่องที่เจ้าต้องจัดการ”
วันที่สามที่เริ่นซื่อเจี๋ยจากไป ข่าวเจิ้นกั๋วอ๋องไป๋ชิงอวี๋ ฝู่กั๋วอ๋องไป๋จิ่นซิ่วนำทัพทหารสองหมื่นนายตีเมืองจิ้นหยางแตกและข่าวฮู่กั๋วอ๋องไป๋ชิงฉี หย่งอี้โหวไป๋จิ่นเจา จงเต๋อโหวไป๋จิ่นหวา อิงฮุ่ยจวินไป๋จิ่นเซ่อและกองทัพจ้าวเซิ่งยึดเมืองลี่อี้ได้ถูกส่งไปยังเมืองหลวงของต้าเยี่ยน
ราชสำนักแตกตื่นทันที เมื่อเห็นเวลาในรายงานสถานการณ์รบพวกเขาก็รู้ทันทีว่าคนของต้าโจวเร่งเดินทางมาโจมตีต้าเยี่ยนทันทีที่ได้รับข่าวเรื่องที่จักรพรรดินีต้าโจวถูกลอบสังหาร
พวกเขาไม่คิดเลยว่าการที่จักรพรรดินีต้าโจวถูกลอบสังหารจะทำให้อ๋องคนที่เหลือของต้าโจวยกทัพบุกมาต้าเยี่ยนทั้งหมดเช่นนี้