สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1559 อยากกลับบ้าน
ตอนที่ 1559 อยากกลับบ้าน
“ดังนั้นพวกเราควรสังหารจักรพรรดินีต้าโจวก่อน เมื่อจักรพรรดินีต้าโจวตาย ไม่ว่าผู้สำเร็จราชการจะระวังตัวมากขึ้นหรือจะแก้แค้นเขาก็ต้องใช้เวลาในการย้ายทัพกลับมา เช่นนี้พวกเราก็จะมีเวลาหันไปจัดการกับผู้สำเร็จราชการ!” ซีผิงอ๋องกล่าวขึ้นช้าๆ “ทางที่ดีควรหาทางสังหารสองสามีภรรยานั่นให้ตายไปพร้อมกันเลย! ปัญหาที่ตามมาภายหลังจะได้น้อยลงกว่าเดิม!”
“เราดักซุ่มโจมตีจักรพรรดินีต้าโจวก่อน จากนั้นค่อยบอกให้ผู้สำเร็จราชการรับรู้ดีหรือไม่ หากผู้สำเร็จราชการคือสามีของจักรพรรดินีต้าโจวจริงเขาต้องยกทัพมาช่วยเหลือจักรพรรดินีต้าโจวเหมือนที่ทำที่เมืองเจียงจือแน่นอน ถึงเวลานั้นพวกเราค่อยจัดการคนทั้งคู่ทีเดียว” ที่ปรึกษาคนหนึ่งกล่าวขึ้น
“แผนการนี้ไม่ดีเท่าใดนัก ดีไม่ดีพวกเราที่เคยเป็นผู้ล่าอาจกลายเป็นผู้ถูกล่าแทนได้!” ซีผิงอ๋องวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ จากนั้นหลับตาลงพลางยื่นมือไปอังเตาผิงตรงหน้า
“ท่านอ๋องตรัสถูกแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ที่ปรึกษาชุดดำกล่าวขึ้น “ผู้สำเร็จราชการมู่หรงเหยี่ยนของพวกเราเก่งกาจในการรบเช่นเดียวกัน ดูจากสงครามทำลายล้างแคว้นซีเหลียงก็พอจะรู้ได้แล้ว ทว่า ตอนนั้นเขารับภาระหน้าที่สองอย่างไปพร้อมกัน จักรพรรดิต้าเยี่ยนยังทรงพระเยาว์ เขาต้องดูแลราชสำนักและออกรบไปพร้อมกันจึงอาจทำทั้งสองอย่างได้อย่างไม่เต็มที่นัก ทว่า ตอนนี้คือการไปช่วยชีวิตภรรยาของตัวเอง มันไม่เหมือนกัน! ผู้สำเร็จราชการต้องช่วยเหลือจักรพรรดินีต้าโจวด้วยความสามารถทั้งหมดที่มีแน่นอน หากจักรพรรดินีต้าโจวเสียชีวิตลง ฐานะของเขาไม่ชัดเจน ทายาทของเขายังแบเบาะ เขาอาจถูกอ๋องของต้าโจวแย่งบัลลังก์ไปได้ทุกเมื่อ ไม่แน่อาจไม่มีชีวิตรอดด้วยซ้ำ! นี่ไม่ส่งผลดีต่อผู้สำเร็จราชการแม้แต่น้อย”
“ใช่…” ซีผิงอ๋องไม่ได้ลืมตาขึ้น เขาพลิกมือไปมาอยู่หน้าเตาผิง “คราวจริงเรื่องนี้ไม่ได้ยากเท่าใดนัก เชื้อพระวงศ์ทุกคนล้วนอยากสังหารจักรพรรดินีต้าโจวและผู้สำเร็จราชการ เช่นนั้นพวกเราก็รับผิดชอบเรื่องการสังหารจักรพรรดินีต้าโจว ให้ผู้อื่นรับผิดชอบสังหารมู่หรงเหยี่ยนแทน!”
เหตุใดกองทัพซีผิงต้องออกแรงอยู่ฝ่ายเดียวแล้วให้ผู้อื่นพลอยได้ผลประโยชน์ไปด้วย นี่ไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด
“ทว่า หากให้เชื้อพระวงศ์คนอื่นรับผิดชอบเรื่องนี้ ผู้สำเร็จราชการอาจทราบเรื่องนี้ได้นะพ่ะย่ะค่ะ” ที่ปรึกษาคนหนึ่งกล่าวอย่างเป็นกังวล
“แล้วมันเกี่ยวอันใดกับพวกเราล่ะ” ซีผิงอ๋องยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขามีแผนการในใจแล้ว “พวกนั้นเคลื่อนทัพไปสังหารผู้สำเร็จราชการ ผู้สำเร็จราชการต้องระวังตัวมากขึ้นแน่นอน จากนั้นพวกเราค่อยลอบส่งทหารไปสังหารจักรพรรดินีต้าโจวโดยที่นางไม่ทันตั้งตัว ทางที่ดีควรให้จักรพรรดินีต้าโจวรู้ว่ามู่หรงเหยี่ยนกำลังตกที่นั่งลำบากและส่งทหารไปช่วยเขาก่อน เช่นนั้นพวกเราจะมีโอกาสลงมือได้ง่ายขึ้น! นี่ถือเป็นเรื่องดีสำหรับกองทัพซีผิงของพวกเรา!”
ซีผิงอ๋องกล่าวจบก็ได้ยินเสียงถ่านปะทุในเตาผิง
“ต่อให้จักรพรรดินีต้าโจวจะใจร้ายไม่ส่งทหารไปช่วยเหลือผู้สำเร็จราชการ ทว่า สำหรับพวกเราแล้ว…ขอเพียงผู้สำเร็จราชการถูกยื้อไว้พวกเราก็ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลอีก”
หากไม่พิจารณาเรื่องความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา พิจารณาแค่เรื่องผลประโยชน์…ตอนนี้ทายาทของผู้สำเร็จราชการอยู่ที่ต้าโจว ทว่า ในสายตาของผู้อื่นสามีของจักรพรรดินีต้าโจวเสียชีวิตไปแล้ว จักรพรรดินีไป๋ชิงเหยียนมีพี่น้องที่มีความสามารถอีกมากมาย หากไป๋ชิงเหยียนเสียชีวิตลง ความหวังในการครอบครองใต้หล้าโดยอาศัยทายาทของตัวเองของมู่หรงเหยี่ยนก็จะดับสูญลงไปด้วย ไม่แน่ทายาทของเขาอาจเอาชีวิตไม่รอดเช่นเดียวกัน
ดังนั้นผู้สำเร็จราชการมีเหตุผลที่ต้องช่วยเหลือจักรพรรดินีต้าโจวไป๋ชิงเหยียน
ทว่า สำหรับจักรพรรดินีต้าโจวแล้ว นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาแล้ว จักรพรรดินีต้าโจวไม่มีเหตุผลที่ต้องแบ่งทัพไปช่วยเหลือมู่หรงเหยี่ยนแม้แต่น้อย
หากพิจารณากันในเรื่องนี้ซีผิงอ๋องคือคนที่ทำเรื่องอันตรายและเสี่ยงที่สุด หากเชื้อพระวงศ์คนอื่นทำเรื่องเล็กๆ เช่นนี้ไม่สำเร็จ พวกเขาจะมีสิทธิ์อันใดมาแบ่งผลประโยชน์จากเขากัน แค่เพราะพวกเขาใช้สกุลมู่หรงอย่างนั้นหรือ
หึ…ซีผิงอ๋องไม่ใช่คนมีเหตุผลและเห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดเหมือนจักรพรรดิองค์น้อยของต้าเหยี่ยนหรอกนะ
เมื่อตัดสินใจได้แล้วซีผิงอ๋องจึงกล่าวขึ้น “เอาตามนี้ก็แล้วกัน ให้คนนำจดหมายไปมอบให้เชื้อพระวงศ์ที่อยู่เมืองใกล้เคียง ข้าไม่สนว่าผู้ใดจะเป็นคนจัดการผู้สำเร็จราชการ ทว่า ต้องมีคนไปสังหารเขา มิเช่นนั้นหากกองทัพซีผิงและต้าโจวปะทะกันขึ้นมาแล้วไม่มีผู้ใดไปขัดขวางผู้สำเร็จราชการ ข้าจะถูกผู้สำเร็จราชการล้อมได้ ถึงเวลานั้นข้าจะนำกองทัพซีผิงยอมจำนนต่อผู้สำเร็จราชการ หากผู้สำเร็จราชการสั่งให้ข้าหันมาจัดการกับเชื้อพระวงศ์คนที่เหลือก็อย่าโทษว่าข้าไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดก็แล้วกัน”
“กระหม่อมจะเขียนจดหมายให้เองพ่ะย่ะค่ะ” ที่ปรึกษาชุดดำกล่าว “ท่านอ๋องไม่ต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ”
“ได้ ส่งคนไปจับตาดูทางจักรพรรดินีต้าโจวไว้ให้ดี หิมะคงตกหนักอีกหลายวัน การเดินทางของจักรพรรดินีต้าโจวคงล่าช้ากว่าเดิมแน่ พวกเรายังมีเวลาส่งจดหมายหาเชื้อพระวงศ์คนอื่น หากจักรพรรดินีต้าโจวเริ่มออกเดินทางมายังตานโจวเมื่อใดพวกเราจะไปดักซุ่มโจมตีนางทันที”
“พ่ะย่ะค่ะ!” ที่ปรึกษาชุดดำรับคำเสียงหนักแน่น
ทหารกองทัพซีผิงถูกแบ่งออกเป็นสี่กองทัพ จากนั้นมุ่งหน้าไปยังประตูเมืองทั้งสี่ทิศท่ามกลางพายุหิมะที่ตกหนัก
หิมะตกหนักสามวันติด ในที่สุดเช้าของวันที่ห้าจึงเริ่มมองเห็นท้องฟ้าที่โปร่งใส
แสงสีทองของดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาเล็กน้อย ก้อนเมฆบนท้องฟ้าราวกับถูกเคลือบด้วยสีทองอร่าม
หลิ่วผิงเกาและหลู่หยวนเผิงรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนจะออกเดินทางทันทีที่หิมะหยุดตกพวกเขาจึงสั่งให้ทหารเตรียมเก็บสัมภาระให้พร้อมสำหรับออกเดินทาง
ถนนที่หิมะตกค่อนข้างเดินทางลำบาก ทว่า เส้นทางที่พวกเขาจะเดินไปคือเส้นทางกลับบ้านดังนั้นจึงไม่มีทหารคนใดบ่นสักคน พวกเขาต่างเก็บสัมภาระด้วยความดีใจ บางคนยัดมันเทศเผาไว้ในหน้าอกเพื่อทานระหว่างเดินทาง
เว่ยจงแหวกม่านสีเขียวเข้าไปด้านใน เขาเห็นไป๋ชิงเหยียนผูกชุดคลุมกันลมอยู่ด้านในฉากกั้นจึงทำความเคารพผ่านฉากกั้น จากนั้นกล่าวขึ้น “ฝ่าบาท รถม้าพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“วันนี้พี่หญิงใหญ่จะขี่ม้า! เว่ยกงกงบอกว่าทิวทัศน์หลังหิมะตกไม่เลว พวกเราสามารถชมระหว่างทางได้…” ไป๋จิ่นจื้อเดินออกมาจากฉากกั้นเป็นคนแรก เสื้อคลุมกันลมสีเขียวอ่อนพาดอยู่ที่แขนของนาง ดูเหมือนสาวน้อยจะอารมณ์ดีมาก
ไป๋ชิงเหยียนเดินอ้อมฉากกั้นออกมา “ข้าจะขี่ม้ากลับ ไม่จำเป็นต้องคอยคุ้มกันรถม้า เช่นนี้พวกเราจะได้เร่งเดินทางได้”
“ฝ่าบาททรงคิดถึงองค์ชายน้อยกับองค์หญิงจนอยากเสด็จกลับบ้านพระทัยจะขาดแล้วใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงกล่าวขึ้นยิ้มๆ จากนั้นกล่าวต่อ “บ่าวจะไปเตรียมม้าเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”
แม่ทัพคุ้มกันเมืองและนายอำเภอเมืองเปี้ยนจิงออกไปส่งขบวนของไป๋ชิงเหยียนที่นอกเมือง ก่อนจากไปไป๋ชิงเหยียนกำชับให้พวกเขาดูแลชาวบ้านให้ดี จากนั้นกล่าวกับแม่ทัพคุ้มกันเมืองเปี้ยนจิงว่าขอให้เขาช่วยดูแลชาวบ้านเมืองเปี้ยนจิงไปอีกสองปี
แม่ทัพคุ้มกันเมืองรีบรับคำ เขามองส่งขบวนของไป๋ชิงเหยียนจากไปท่ามกลางหิมะที่ขาวโพลน จากนั้นจึงกลับเข้าเมือง
ไป๋ชิงเหยียนและไป๋ชิงเจวี๋ยแยกกันเดินทางไปปลอบขวัญชาวบ้านตามเมืองต่างๆ ครั้งนี้พวกเขาจะกลับไปพบกันที่เมืองเส่อชวี จากนั้นค่อยเดินทางกลับต้าโจวพร้อมกัน
เมื่อสายลับที่อยู่ในเมือเปี้ยนจิงเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินทางออกจากเมืองไปแล้วเขาจึงรีบไปรายงานซีผิงอ๋องว่ากองทัพของไป๋ชิงเหยียนมีไม่ถึงหนึ่งหมื่นนาย
กองทัพซีผิงดักซุ่มโจมตีอยู่นานแล้ว เมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นสายลับก็กลับมารายงานพวกเขาว่ากองทัพของไป๋ชิงเหยียนมีจำนวนเท่าใด
“น่าแปลกยิ่งนัก จักรพรรดินีต้าโจวไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำสงคราม ทว่า นางกลับพาทหารมาไม่น้อยทีเดียว…”