สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 236 การแสดงพรสวรรค์ (1)
ผมยาวดุจเส้นไหมนั้น ใช้กวนหยกประณีตเกล้าขึ้น ทำให้ใบหน้าที่มีคิ้วกระบี่ ดวงตาสดใส จมูกโด่ง ริมฝีปากแดง อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าที่ประณีตนั้น คล้ายหยกงามที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาอย่างประณีต ผสมผสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ!
ชายหนุ่มสูงศักดิ์ บุคลิกโดดเด่น รูปโฉมเหนือผู้คนเช่นนี้ แม้นั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ทำให้คนไม่อาจละสายตา!
เวลานี้ซินเอ๋อร์กำลังยกถาด เดินเข้าใกล้ห้องโถงใหญ่โอ่อ่าสวยงามแห่งนี้อย่างช้าๆ
ดวงตาคู่งามกวาดมอง
เห็นเพียงในห้องโถงใหญ่ ไม่ได้มีเพียงเหลิ่งอวี้เซวียนที่นั่งอยู่ ตำแหน่งด้านซ้ายของเขา ยังมีหญิงงามอายุราวยี่สิบปีคนหนึ่งนั่งอยู่
เห็นเพียงหญิงสาวผู้นี้ รูปโฉมงดงามน่าตกตะลึง บนกายสวมกระโปรงผ้าฝ้ายโปร่งบางสีลายดอกไวโอเล็ตที่นิยมกันอย่างมากในตอนนี้ ชายเสื้อและปกเสื้อ ต่างปักลายดอกไวโอเล็ตสีขาวที่ประณีตงดงาม
และรูปร่างอรชรสูงโปร่งของหญิงสาวนั้น เผยออกมาอย่างยอดเยี่ยม
ส่วนบนใบหน้างดงามของหญิงสาว ประทินโฉมอย่างสวยงาม แต่ทำให้คนมองรู้สึกตกตะลึง
อาจเพราะรับรู้ถึงความสนใจของเธอ เห็นเพียงหญิงสาวชุดม่วงหันศีรษะมา สายตามองมายังซินเอ๋อร์ที่กำลังเดินนุ่มนวลเข้ามาทางนี้
หลังซินเอ๋อร์รู้สึกถึงสายตาของหญิงสาวที่มองมายังตน พลันตกใจ และรู้ว่าการมองสำรวจของตนเมื่อครู่ ค่อนข้างเสียมารยาท ดังนั้นจึงพลันก้มหน้าลง ไม่มองหน้าหญิงสาวอีก
เธอเป็นเพียงสาวใช้ที่มีหน้าที่นำน้ำชามาให้เหลิ่งอวี้เซวียนและหญิงสาวผู้นั้น
แต่ขณะที่ซินเอ๋อร์กำลังก้มหน้าหลุบตาลง กลับไม่รู้ว่าหลังจากหญิงสาวผู้นั้นมองตน กลับไม่เคลื่อนสายตาไปที่ใด
หลังสายตาจื่ออีตกอยู่ที่สาวน้อยชุดขาวที่เดินเข้ามา ดวงตาอ่อนช้อยแต่งแต้มอย่างเรียวงอนนั้น ปรากฎความตกตะลึงขึ้นมา
หญิงสาวที่โดดเด่นผู้หนึ่ง!
แม้สาวน้อยชุดขาวอายุดูไม่มาก แต่อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้า กลับประณีตโดดเด่น แม้จื่ออีจะเห็นคนมามากมาย ยังอดอุทานในใจอย่างตกใจไม่ได้
สาวน้อยชุดขาวนี้ ขาวผ่องไปทั้งตัว กระโปรงหลัวฉวินสีขาวหิมะนั้น คล้ายรังสรรค์ออกมาเพื่อเธอ ทำให้ผิวขาวเกลี้ยงเกลาของสาวน้อย วาววับดังหยกงาม!
เส้นผมยาวดำสนิทนั้น เพียงถักเปียไว้สองเส้นอย่างเรียบง่าย สยายอยู่บนหน้าอกสองข้าง บนศีรษะไร้เครื่องประดับ แต่กลับบดบังความงดงามของสาวน้อยไว้ไม่ได้
กลับกันยิ่งทำให้สาวน้อยเรียบง่าย ไร้เดียงสาขึ้นหลายส่วน คล้ายเทพธิดาที่ไม่ยุ่งเรื่องราวทางโลก
ทว่าสิ่งที่ทำให้จื่ออีแปลกใจคือ สาวน้อยชุดขาวนี้ ดูจากกิริยาท่าทาง กลับเป็นสาวใช้ข้างกายเจ้านายของตน!
เพราะเธออยู่ข้างกายนายท่านมานานหลายปี มาที่วังนี้หลายครั้ง
ภายในวังแห่งนี้ สาวใช้ต่างแบ่งแยกระดับชั้น และสาวใช้ทุกระดับชั้น เครื่องแต่งกายที่สวมใส่จะแตกต่างกัน
และเครื่องแต่งกายบนตัวสาวน้อยชุดขาวนี้ คือสาวใช้ชั้นหนึ่งในวังเท่านั้นที่สวมใส่ได้
งานทั้งหมดที่สาวใช้ชั้นหนึ่งรับผิดชอบคือ ปรนนิบัติเจ้านาย
ดังนั้น เมื่อเห็นเครื่องแต่งกายบนตัวสาวน้อยชุดขาว จื่ออีจะไม่สงสัยในใจได้อย่างไร
เพราะหลายปีก่อน เธอรู้ว่าเพราะสถานะของเจ้านายตน ความมั่งคั่ง สาวใช้มากมายจึงพยายามกันอย่างหนัก เพื่อได้ปรนนิบัติเจ้านายตน บางคนกล้าหาญถึงขนาดแอบขึ้นเตียงเจ้านายกลางดึก คิดว่าเช่นนี้จะสามารถกลายเป็นหงส์ได้
ทว่านี้ก็ไม่แปลก
เพราะเป็นสาวใช้ ชั่วชีวิตต่างเหนื่อยล้า ผู้ใดไม่อยากบินขึ้นสูงกลายเป็นหงส์กัน!
ทว่าสำหรับหญิงสาวเอาตัวเข้าแลกเหล่านี้ หากเป็นชายอื่นที่เจ้าชู้ ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ปฏิเสธ แต่สาวใช้พวกนั้น กลับตามหาผิดคน!
จื่ออีเข้าใจ เจ้านายเธอผู้นี้ อายุแม้จะอ่อนกว่าเธอ แต่ความสามารถมากมาย ไร้คนเปรียบเทียบได้
โดยเฉพาะความสามารถด้านการค้าบนสนามการค้าของเขาไร้เทียมทาน แม้จะเป็นจิ้งจอกเฒ่าในแวดวงการค้า ถือว่าฝีมือห่างชั้นกันอย่างมาก!
แต่เจ้านายของเธอผู้นี้ กลับไม่ได้เจ้าชู้ ก่อนหน้านี้มีคนมอบสาวงามที่สุดในแผ่นดินให้แก่เขามากมายไม่ขาดสาย แต่กลับถูกเขาส่งกลับไป
ดังนั้น ตอนนี้จื่ออีจึงแปลกใจ เหตุใดเพียงเวลาไม่กี่วัน ข้างกายเจ้านายจึงมีสาวน้อยชุดขาวโดดเด่นเช่นนี้เพิ่มขึ้นมา!
พอคิดถึงตรงนี้ สายตาที่จื่ออีมองซินเอ๋อร์ ดูประเมินและค้นหามากขึ้นหลายส่วน
สำหรับสายตาเช่นนี้ของจื่ออี ทำให้ซินเอ๋อร์รู้สึกอึดอัด
สุดท้ายเธอเพียงหลบอยู่ด้านหลังเหลิ่งอวี้เซวียน เพื่อบดบังสายตาของจื่ออี
อาจเพราะรับรู้ถึงสายตามองสำรวจซินเอ๋อร์ไม่หยุดของจื่ออี ดวงตาดำขลับของเหลิ่งอวี้เซวียนอดเหลือบมองจื่ออีแวบหนึ่งไม่ได้
จื่ออีเห็นเช่นนั้น ใบหน้างดงามตะลึงงัน แล้วดึงสายตาที่มองสำรวจซินเอ๋อร์กลับมาอย่างเข้าใจ
ทว่าในใจกลับได้คำตอบบางส่วน
ดูแล้วสาวใช้ผู้นี้ ในใจของเจ้านายต้องสำคัญอย่างมากแน่นอน
จื่ออีคิดในใจ ส่วนซินเอ๋อร์เพราะสายตาจื่ออีไม่ได้มองมายังตนอีก จึงโล่งใจ
ประจวบกับเวลานี้ เสียงพิณอันเป็นธรรมชาติดังขึ้น ซินเอ๋อร์ได้ยิน ใบหน้างดงามตะลึงงัน อดหันไปมองไม่ได้ ก่อนเห็นกลุ่มหญิงสาวสวมชุดสีเขียว ย่างก้าวเข้ามาในห้องโถงอย่างแช่มช้อย ตามจังหวะเสียงพิณ ก่อนร่ายรำขึ้น
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์อดตื่นเต้นไม่ได้
คิดดูแล้ว ก่อนหน้านี้ขณะทำงานในบ้านเศรษฐี มีครั้งหนึ่งเห็นคุณหนูผู้หนึ่งกำลังฝึกการร่ายรำ เห็นคุณหนูผู้นั้นร่ายรำอย่างสง่างาม เธอจึงอิจฉาเป็นพิเศษ
รู้สึกว่าการร่ายรำกลับน่ามองเช่นนี้
ดังนั้น เธอจึงพลางทำงาน พลางแอบมองการร่ายรำของคุณหนูผู้นั้น จากนั้นแอบจดจำไว้
หลังกลับมาถึงบ้าน นึกย้อนถึงวิธีการร่ายรำนั้น ก่อนเต้นขึ้นมา
ซินเอ๋อร์ชื่นชอบการร่ายรำ ดังนั้น เมื่อเห็นกลุ่มหญิงสาวชุดเขียวร่ายรำตรงด้านหน้า สายตาเป็นประกาย
จนกระทั่งหญิงสาวชุดแดงคนหนึ่ง ค่อยๆ ปรากฎตัวขึ้นท่ามกลางหญิงสาวชุดเขียวพวกนั้น
เห็นเพียงเวลานี้หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงกลางสาวน้อยชุดเขียว กำลังร่ายรำ บนกายสวมกระโปรงหลัวฉวินบางเบาสีแดง
ร่างกายสีแดงนั้น สวยงามและเย้ายวนอย่างยิ่ง ขับให้ผิวของหญิงสาวนั้นขาวผ่องดังหิมะ
หญิงชุดแดงนั้น รูปโฉมงดงาม การประทินโฉมบนใบหหน้า แต่งแต้มอย่างอ่อนช้อย จับตาชวนหลงใหล!
การร่ายรำอ่อนช้อย หมุนตัว ดีดขา สะบัดชายเสื้อของหญิงชุดแดงนั้น คือการร่ายรำที่งดงาม ทำให้คนตกตะลึง มองไปดุจเห็นเทพธิดา
ส่วนซินเอ๋อร์ ก็มองอย่างตกตะลึง
เป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่งนัก!
เป็นการร่ายรำที่งดงาม!
ทำให้คนตกตะลึงจริงๆ!
ไม่รู้เธอจะมีโอกาส ร่ายรำออกมาอย่างยอดเยี่ยมเช่นนี้หรือไม่!
ทว่าความคิดนี้ของเธอ ควรเป็นเพียงความเพ้อฝัน!
เพราะสถานะของเธอตอนนี้ เป็นเพียงสาวใช้คนหนึ่งเท่านั้น
พอคิดถึงตรงนี้ แววตาของซินเอ๋อร์ปรากฎความเสียใจขึ้นมา
ทว่ายังคงปิดบังความชื่นชอบภายในดวงตาไม่ได้
แต่เธอไม่รู้ว่า สีหน้าเวลานี้ของตน กำลังเปิดเผยออกมาสู่ดวงตาสวยงามคู่หนึ่ง
…
การแสดงความสามารถด้านศิลปะที่มีปีละครั้งของ ‘หอสุราดับทุกข์’ ยังเหลือเวลาจัดงานอีกสิบวัน
ทุกวันจื่ออีต่างพาเหล่านางรำที่ตนฝึกฝนออกมา มาฝึกร่ายรำที่เรือนสงบใจ
และให้เหล่านางรำทำการร่ายรำหลากหลายประเภท เพื่อให้เหลิ่งอวี้เซวียนคัดเลือกด้วยตนเอง เพื่อใช้แสดงในวันงาน
หลายวันนี้ ซินเอ๋อร์ติดตามอยู่ด้านหลังเหลิ่งอวี้เซวียน ได้เห็นเป็นบุญตา
เมื่อเห็นมามากมาย ย่อมเข้าใจบางส่วน
และซินเอ๋อร์ความจำดี เพียงเหล่านางรำร่ายรำไป เธอก็สามารถจดจำได้ถึงเจ็ดแปดส่วน
หากชมมากกว่าสองครั้ง ก็สามารถจดจำได้ทั้งหมด
ทุกวันเธอจะเล่าเรื่องการร่ายรำของเหล่านางรำในเรือนสงบใจให้แก่เสี่ยวหวนฟัง เสี่ยวหวนที่เป็นสาวใช้ชั้นสอง ย่อมไม่สามารถเข้าไปชมได้ ดังนั้นจึงเพียงอิจฉา
หลังได้ฟังซินเอ๋อร์ เอ่ยว่าเหล่านางรำร่ายรำอย่างสวยงาม คาดหวังอยากเข้าชม แต่ความจริงเป็นไปไม่ได้
เมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของเสี่ยวหวน ซินเอ๋อร์ทำใจไม่ได้ จึงเอ่ยว่าตนจะลองร่ายรำให้เสี่ยวหวนชม
สำหรับเรื่องนี้ เสี่ยวหวนย่อมดีใจแน่นอน
ดังนั้น ตอนบ่ายแสงอาทิตย์เจิดจรัสนี้ ซินเอ๋อร์ยืนอยู่กลางผืนหญ้าเขียวชอุ่มนั้น ก่อนนึกถึงการร่ายรำของเหล่านางรำ จากนั้นเริ่มโยกย้ายร่างกาย
ที่นี่ไม่มีดนตรี ไม่มีผู้ใดร่วมร่ายรำ
แต่สาวน้อยชุดขาว กลับร่ายรำได้อย่างชำนาญ
อาจเป็นเพราะซินเอ๋อร์เพียงเป็นเรื่องที่ตนชื่นชอบ ไม่ว่าสิ่งใด ล้วนทุ่มเทแรงกายแรงใจ
เห็นเพียงเวลานี้ ซินเอ๋อร์ยกชายเสื้อยาวขึ้น ก่อนหมุนตัวขึ้นมา
เอวบางอ่อนนุ่มดังกิ่งหลิว งดงามอ่อนช้อย จังหวะหนักเบา เสื้อผ้าพริ้วไหว เส้นผมยาวปลิวตามขึ้นมา
การร่ายรำนี้ ดุเทพธิดาซุ่นเสียน ร่ายรำอย่างสง่างาม งดงาม สมบูรณ์แบบ
และใบหน้ามีสมาธิ จริงจังระหว่างร่ายรำนั้น
ดวงตาดุจสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ดวงตาดำขลับและเยือกเย็น มองไปรอบด้าน โคมไฟสว่างไสว มองย้อนกลับไป ยั่วยวนชวนหวั่นไหว สะดุดตาดึงดูดใจ
ทำให้เสี่ยวหวนมองอย่างตกตะลึงโดยไม่รู้ตัว