ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 363 ตื่นขึ้น
ร่างที่เมื่อกี้ยังยืนอยู่ด้านข้างทั้งสองคนนั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แม้แต่เทพแห่งการสร้างโลกอย่างอิ้งหลุนและซื่อไป๋ยังไม่ทันได้ตอบสนอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรั้งเอาไว้
“เกิดอะไรขึ้น” ซื่อไป๋ผงะไป เขามองไปรอบด้าน “หายตัวไปแล้ว หรือว่าถูกส่งกลับไปยังดินแดนมนุษย์แล้ว ไม่คิดว่านางจะมีฝีมือ…”
“หุบปาก!” อิ้งหลุนหันไปถลึงตาใส่เขา
“เจ้า…” ซื่อไป๋กำลังจะตอกกลับ แต่พบว่าสีหน้าของอิ้งหลุนซีดเผือด สีหน้าของอีกฝ่ายเคร่งเครียดแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แม้แต่ตอนมาช่วยคนอิ้งหลุนก็ไม่เคยทำหน้าจริงจังเช่นนี้ ทำให้ใจของเขาร่วงหล่นลงไปเช่นเดียวกัน “เกิด…เกิดอะไรขึ้น”
อิ้งหลุนไม่ได้ตอบเขา แต่รีบผนึกคาถาด้วยทั้งสองมือ ก่อนจะส่งผนึกอันซับซ้อนออกมา ทันใดนั้นบริเวณรอบด้านสว่างด้วยแสงสีทอง รูปสีทองซ้อนทับเป็นชั้นปรากฏอยู่กลางอากาศ แผ่ขยายออกไปรอบด้าน
“ผนึกหกดินแดน!” ซื่อไป๋ตกใจ ก่อนจะพึมพำภายในใจ เพียงแค่หาคนเท่านั้น ต้องใช้ผนึกหกดินแดนหรือ
แต่นาทีถัดมา อิ้งหลุนที่ร่ายวิชาเวทเสร็จสิ้นยิ่งมีสีหน้าซีดเซียวมากขึ้น ท่าทางราวกับฟ้าจะถล่มลงมา
“ไม่มี…”
“อะไร”
“ดินแดนทั้งหกไม่มีพลังของนาง” สายตาของเขาเหม่อลอย สีหน้าสิ้นหวัง “ศิษย์หลานตัวน้อย…นางไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว!”
“เป็นไปไม่ได้!” ซื่อไป๋ถึงได้เข้าใจความหมายของเขา “เมื่อครู่นางยังดีๆ อยู่ เหตุใดจึง…”
“ใช่ เป็นไปได้อย่างไร ข้าก็อยากถาม เป็นไปได้อย่างไร!” อิ้งหลุนหันมาถลึงตาใส่เขา อารมณ์ที่ข่มเอาไว้ระเบิดออกมาจนหมด เขากระชากคอเสื้อของซื่อไป๋ เขย่าอย่างบ้าคลั่ง “อ๊ากกก...เจ้าบ้า! เจ้าทำอะไรกับศิษย์หลานตัวน้อยอีก เหตุใดนางจึงจากโลกนี้ไปกัน!”
“ข้าไม่ได้ทำ!” ซื่อไป๋ก็ทำหน้าฉงน ถูกอิ้งหลุนเขย่าจนตาลาย “ข้าแค่อยากกรอกให้นางดื่มหยาดน้ำสวรรค์เท่านั้น อีกอย่าง…อีกอย่าง…”
“ยังมีอะไรอีก!” อิ้งหลุนกระชับคอเสื้อแน่น “รีบพูด!”
“ยังมี…หยาดน้ำค้างลวงจิต!”
“หยาดน้ำค้างลวงจิต!” เขาตะโกนออกมาทีละคำ “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ จบแล้ว จบแล้ว ทุกสิ่งจบแล้ว เจ้าโง่เขลา เจ้าปัญญาอ่อน เจ้าเสียสติ!”
“เจ้าจะตื่นเต้นทำไมกัน ข้ายังไม่ได้กรอกเข้าไปเสียหน่อย” ซื่อไป๋พูดอย่างไม่มั่นใจ “นางไม่ยอมดื่ม เดิมทีข้าจะบังคับนาง ยังไม่ทันสำเร็จเจ้าก็มาแล้ว อย่างมากนางก็แค่ได้กลิ่นเท่านั้น”
“กลิ่น?! เจ้ารู้หรือไม่ว่าศิษย์หลานตัวน้อยเป็นแค่มนุษย์ ถึงจะได้สูดดมแค่กลิ่น หยาดน้ำค้างลวงจิตก็เกิดผลได้!!”
“แต่ก็แค่ลืมเรื่องบางอย่างเท่านั้น หากถูกกระตุ้นก็จะจำได้!” ซื่อไป๋อธิบาย “อย่างมาก…อย่างมาก ข้าถอนให้นางก็ได้!”
“เจ้าโง่ เจ้ารู้ถึงปัญหาหรือไม่” อิ้งหลุนแทบจะบ้า โกรธจนจะตายอยู่แล้ว “ข้าอยากให้เจ้าถอนให้นาง! แต่ตอนนี้จะไปหานางจากที่ใด!!!” คนหายตัวไปแล้ว
อวิ๋นเจี่ยวเป็นคนของดินแดนอื่น ไม่ได้เป็นคนของโลกใบนี้ เดิมทีก็ไม่อาจอยู่ในโลกนี้ได้ ยกเว้นเสียแต่โลกนี้ยินยอม ความหมายคือหนึ่งในพวกเขาทั้งสามคนมีคนยินยอม นางจึงมีสิทธิ์เข้ามาในโลกนี้ ก่อนหน้านี้คือเยี่ยยวนอย่างไม่ต้องสงสัย เขาอยากให้นางอยู่ ดังนั้นนางจึงอยู่
แต่ไม่ได้เป็นเช่นนี้เสมอ การเลือกต้องมาจากทั้งสองฝั่ง นางไม่ได้เป็นคนของโลกนี้ ซึ่งหมายความว่า หากนางยินยอม นางก็สามารถกลับไปได้ทันที!
เดิมทีไม่มีอะไร หากนางยังมีความรักที่หลงเหลืออยู่ในโลกนี้ นางก็สามารถอยู่ต่อได้ แต่ในเวลาสำคัญนี้…หยาดน้ำค้างลวงจิต!
หากนางดมกลิ่นเข้าไปจริง หมายความว่า นางลืมเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้แล้ว แม้แต่ความทรงจำยังไม่มี ย่อมไม่มีอะไรหลงเหลืออีก!
ดินแดนทั้งหกล้วนหาพลังของนางไม่เจอ ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือ…นางกลับไปแล้ว!
“ไม่ใช่ อิ้งหลุน…” ซื่อไป๋คิดจะอธิบาย “ข้าไม่รู้ว่าจะบังเอิญเพียงนี้ นางกลับไปอย่างกะทันหัน เจ้าฟังข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจ…”
“เจ้าไม่ต้องบอกข้า!” อิ้งหลุนพูดขัดเขา มองไปบนท้องฟ้าด้วยสีหน้าสิ้นหวัง “เยี่ยยวนตื่นแล้ว…”
นาทีถัดมา เห็นเพียงแต่ท้องฟ้าของอาณาเขตนี้แยกออกจากกัน ราวกับถูกบางอย่างบดละเอียด ฉีกออกเป็นรอยร้าวสีดำขนาดใหญ่ รอยร้าวนั้นแผ่ขยายไปอย่างต่อเนื่อง ราวกับทั้งโลกกำลังแหลกละเอียด ภายในรอยร้าวนั้นมีพลังพิเศษบางอย่าง ไม่ใช่พลังเซียน ไม่ใช่พลังหยิน ไม่ใช่พลังปีศาจ แต่เป็นพลังแห่งความวุ่นวายของตอนที่ยังไม่กำเนิดโลก
ไม่เพียงแต่อาณาเขตของซื่อไป๋ ดินแดนทั้งหกล้วนกำลังพังทลาย ราวกับกลางคืนมาเยือนชั่วนิรันดร ทั้งโลกตกอยู่ในความโกลาหล
ร่างขาวสะอาดปรากฏขึ้นกลางอากาศ ใบหน้าที่งดงามเช่นเดียวกับซื่อไป๋เย็นชาราวกับน้ำแข็ง พลังรอบตัวถาโถมราวกับทะเลที่เผชิญกับพายุ พลังที่ไร้จุดสิ้นสุดกำลังบีบอัดดินแดนทั้งหก ราวกับต้องการบดโลกใบนี้ให้แหลกละเอียด
“ศิษย์หลานของข้าอยู่ที่ใด!” เขาเปิดปากพูดออกมา สายตาจ้องมองไปยังคนทั้งสองที่อยู่ด้านล่าง
“เยี่ยยวน…” ซื่อไป๋ผงะไป มองดูคนที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันกลางอากาศ ภายในใจเกิดความหวาดกลัวอย่างแปลกประหลาด
อีกฝ่ายไหวตัวมาปรากฏอยู่ด้านหน้าของคนทั้งสอง มือหนึ่งบีบเข้าที่ลำคอของซื่อไป๋ ก่อนจะถามย้ำขึ้นอีกครั้ง “ศิษย์หลานของข้าอยู่ที่ใด” หาไม่เจอ เขาตามหาพลังของศิษย์หลานในดินแดนทั้งหกไม่เจอ
“เยี่ยยวน เจ้าใจเย็นก่อน” อิ้งหลุนรีบห้ามเอาไว้ “หากเจ้ายังคงโกรธต่อไป ดินแดนทั้งหกต้องพังทลายแน่! ศิษย์หลานตัวน้อยไม่เป็นอะไร เพียงแค่กลับไปยังโลกเดิมแล้ว ถึงเจ้าจะฆ่าซื่อไป๋ก็ไร้ประโยชน์!”
เยี่ยยวนไม่ได้หยุดลงแต่อย่างใด พลังรอบตัวถาโถมเข้ามามากขึ้น ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาต ก่อนจะเค้นพูดออกมา “หยาดน้ำค้างลวงจิต!”
“…” เขาได้ยิน!
ความเย็นชาในดวงตาของเยี่ยยวนปรากฏสีแดง มือที่จับซื่อไป๋อยู่กระชับแน่นขึ้น ความโกรธที่ไร้ที่สิ้นสุดกำลังกลืนกินโลกทั้งใบ
อิ้งหลุนและซื่อไป๋ไม่เคยเห็นเยี่ยยวนเป็นเช่นนี้มาก่อน พลังที่ระเบิดออกมาแม้แต่พวกเขาทั้งสองก็ไม่อาจขัดขืนได้ ไม่เพียงแต่ซื่อไป๋ แม้แต่อิ้งหลุนยังคิดเสมอมาว่าพวกเขาทั้งสามล้วนเหมือนกัน แต่ตอนนี้ถึงได้พบว่า เยี่ยยวนแตกต่างจากพวกเขา อย่างน้อยด้านพลัง!
“เยี่ยยวน!” อิ้งหลุนตะโกนออกมาอย่างตกใจ
อีกฝ่ายกลับยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น ภายในดวงตาสีแดงเต็มไปด้วยความอาฆาตที่พร้อมจะทำลายล้างฟ้าดินและความน้อยใจอย่างเลือนราง
เขามีศิษย์หลานแค่คนเดียว แค่คนเดียว!!! กว่าเขาจะ…กว่าเขาจะเกลี้ยกล่อมนางได้ มีสิทธิ์อะไรกัน!!!