ตอนที่ 759 ยังจะขอแต่งงานอยู่ไหม
ทำไมเป็นแบบนี้…
เห็นๆ อยู่ว่าคืนนี้ควรเป็นช่วงเวลาที่เธอได้รับความสนใจ ทำไมกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้
พอเห็นหลินซูหย่าท่าทางจนตรอกพร้อมจะล้ม พิธีกรชายยังอยากพูดช่วยหลินซูหย่าสักหน่อย แต่ครั้งนี้กลับรอบคอบมากกว่าเดิม ไม่กล้าเอ่ยปากง่ายๆ อีกแล้ว
ตอนนี้เขาไม่กล้าฟันธงแล้วว่า ที่ปกติหลินซูหย่าดูแลสัตว์เลี้ยง ข่าวพวกนั้นที่บอกว่าเธอรักสัตว์เป็นเรื่องจริงหรือไม่กันแน่ มีหรือจะกล้าพูดช่วยหลินซูหย่าอีก
เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยน ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของงานจึงถูกพักไว้ทั้งหมด
เดิมทีทีมงานยังได้ขนหมาแมวจำนวนหนึ่งมาจากเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ด้วย เตรียมปล่อยมาเล่นกับหลินซูหย่าตอนมอบรางวัลให้เธอ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่อบอุ่นโรแมนติก ใช้สำหรับเป็นตอนจบอันสมบูรณ์
ทีมงานได้ยกกรงใส่หมาแมวพวกนั้นมารอไว้แล้ว และก็ใกล้ถึงเวลาที่กำหนดไว้ ปรากฏว่าตอนนี้ไม่รู้ว่าควรทำยังไงแล้ว
คนที่รู้สึกแย่กว่าทีมงานพวกนี้ก็คือคนที่ช่วยหันอี้เซวียนเตรียมเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานอยู่ด้านหลังเวที
ผู้ช่วยของหันอี้เซวียนลังเลอยู่นาน เดินเข้าไปหาหันอี้เซวียนด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน “คุณ…คุณหันคะ…ตอนนี้จะทำยังไงดีคะ…”
หันอี้เซวียนมองสถานการณ์บนเวทีอยู่ห่างๆ ด้วยสีหน้าบึ้งตึง
แต่ผู้ช่วยก็ไม่รู้จักดูสถานการณ์ ยังจะถามขึ้นอีก “เอ่อ พวกเราได้เตรียมทั้งหมดไว้พร้อมแล้ว ยัง…ยังจะขอแต่งงานอยู่ไหมคะ”
หันอี้เซวียน “ไสหัวไป”
ผู้ช่วยตกใจจนเกือบฉี่ราด
ทีมงานคนหนึ่งที่อยู่ข้างกันถลึงตามองผู้ช่วยคนนั้น “สมองเป็นหลุมเหรอ เวลานี้ยังจะเข้าไปหาเรื่องใส่ตัวอีก! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วยังจะขอแต่งงาน ขอกับผีสิ! อยากทำให้ทุกคนรู้เหรอว่าคู่หมั้นของตัวเองเป็นคนหลอกลวง”
ผู้ช่วยทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ ตบหน้าอกพลางพูด “นึกไม่ถึงเลยจริงๆ เห็นๆ อยู่ว่าคุณซูหย่าทั้งอ่อนโยนทั้งจิตใจดี…กลับเป็นหลินเยียนนั่นมากกว่าที่ดูเหมือนคนหน้าเนื้อใจเสือ เรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง”
ทีมงานเบะปาก “เธอก็ไร้เดียงสาเกินไป วงการบันเทิงซับซ้อนจะตาย เรื่องในวงการนี้มันไม่ได้เป็นแบบที่เธอเห็นหรอกนะ”
ไม่รู้ทีมงานคนนี้นึกอะไรขึ้นมาได้ เธอพึมพำกับตัวเอง “เห็นแบบนี้แล้ว เมื่อก่อนที่หลินซูหย่าบอกว่าหลินเยียนเป็นมือที่สามแทรกกลางระหว่างเธอกับหันอี้เซวียน คงไม่ใช่เรื่องจริงด้วยใช่ไหม ว้าว วงการนี้เละเทะเป็นบ้า…”
เวลานี้มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน “สัตว์เลี้ยงที่ก่อนหน้านี้ให้พวกเราขนมาจะให้จัดการยังไงคะ”
ทีมงานโบกมือด้วยความปวดหัว “อย่ามาถามฉันเลย ทางฉันก็วุ่นวายเหมือนกัน ใครจะไปรู้เล่า! วางไว้ตรงนั้นก่อนแล้วกัน! ฉันยังต้องรีบไปบอกคนอื่นให้หยุดแผนขอแต่งงานเอาไว้ก่อน…”
ทีมงานพูดพลางรีบร้อนวิ่งออกไป
ในขณะที่ทีมงานเตรียมไปบอกให้หยุดแผนขอแต่งงาน ก็ไม่รู้ว่าผิดพลาดที่ตรงไหน
ระบบที่เดิมทีเตรียมให้เริ่มทำงานตอนเที่ยงคืน ทันใดนั้นกลับทำงานขึ้นมาก่อน
ได้ยินเพียงเสียง ‘ปัง’
ทันใดนั้นก็มีลูกโป่งลอยขึ้นจากเวที กลีบกุหลาบมากมายนับไม่ถ้วนลอยละล่อง เพลงสำหรับเปิดขอแต่งงานก็ดังขึ้น
เดิมทีบนเวทีบรรยากาศกำลังอยู่ในภาวะตึงเครียด ทุกคนต่างงงกับเหตุการณ์นี้
และที่นึกไม่ถึงก็คือหมาแมวที่เดิมทีถูกขังอยู่ในกรงได้ตื่นตกใจ เผลอเปิดกรงได้แล้ววิ่งกรูกันออกมา
หมาแมววิ่งพล่านบนเวที ดาราสาวพากันส่งเสียงกรีดร้อง เหตุการณ์ชุลมุนขึ้นในทันที
ตอนที่ 760 ศึกเจ้าขนปุย
“ว้ายยย มีหมาๆ ฉันกลัวหมา!” ดาราสาวที่ก่อนหน้านี้สร้างภาพว่ารักหมากลับตกใจหมาตัวหนึ่งจนกรีดร้องขึ้นมาอย่างลืมตัว
ดาราสาวคนอื่นๆ ต่างก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก ถึงแม้กู้ซินหานจะอดทนไว้ แต่ก็ยังคงแสดงสีหน้ารังเกียจออกมา รีบวิ่งไปหลบไกลๆ
ทีมงานรีบขึ้นมาบนเวทีลองปลอบสัตว์เหล่านั้นดู แต่หมาแมวพวกนั้นอยู่ในอาการตื่นตกใจ เอาไม่อยู่ ยังคงวิ่งวุ่นไปทั่วเวที
เฉิงหมิ่นหน้าเครียดรีบสั่ง “รีบไปตามทีมงานของเดอะ แองเจิล เฮ้าส์มาเร็ว!”
หากไม่ใช่คนที่คุ้นเคยก็ไม่มีทางทำให้พวกมันสงบได้
ประธานเฉิงเองก็เริ่มร้อนใจ “ทำไมถึงเอาพวกมันมาในที่คนเยอะแบบนี้”
พิธีกรทั้งสองคนทำหน้าลำบากใจ ไม่กล้าพูดความจริง
ไม่นานทีมงานคนนั้นของเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ก็มา
แต่นึกไม่ถึงว่าสัตว์พวกนั้นก็ไม่ฟังคำพูดของทีมงาน
ทีมงานมีสีหน้ากระอักกระอ่วน “เอ่อ ขอโทษค่ะ ฉันเพิ่งมาอยู่ได้ไม่นาน หมาแมวพวกนี้เลยไม่คุ้นชินกับฉัน… อีกอย่างสัตว์ตัวเล็กๆ เดิมทีก็คุมยากอยู่แล้ว…”
หลินซูหย่าไล่พนักงานคนเก่าไปหมดแล้วเพราะกลัวความแตก คนที่เหลือล้วนเป็นคนที่มาใหม่ ย่อมไม่ค่อยคุ้นชิน
เพื่อให้งานในครั้งนี้ราบรื่น หมาแมวที่พวกเขาเลือกล้วนเป็นตัวที่อยู่ในเดอะ แองเจิล เฮ้าส์มาค่อนข้างนาน อายุมากหน่อย นิสัยก็ค่อนข้างอ่อนโยน แต่เมื่อมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แปลกออกไป อีกทั้งยังตื่นตกใจก็เลยควบคุมพวกมันได้ยาก
หากปล่อยให้พวกมันวิ่งพล่านแบบนี้ต่อไปจะต้องได้รับบาดเจ็บแน่นอน
เวลานี้ผู้เข้าร่วมคัดเลือกแอมบาสเดอร์เพื่อการกุศลคนหนึ่งที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูได้เดินเข้ามา
ดาราสาวคนนี้ยิ้มพลางเสนอความคิด “ทีมงานเหรอ ซูหย่าก็เป็นทีมงานของเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ไม่ใช่เหรอ เมื่อก่อนก็เห็นเธอไปดูแลสัตว์พวกนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจบ่อยๆ หลายตัวที่อยู่บนเวทีฉันเคยเห็นซูหย่าลงรูปพวกมัน ดูเหมือนสนิทกันดี ไม่งั้นให้ซูหย่าลองดูสิ!”
พอได้ฟังคำพูดของดาราสาวคนนี้ สายตาของทุกคนก็ไปตกอยู่ที่หลินซูหย่าทันที
หลินซูหย่ากัดฟัน แอบถลึงตาใส่ดาราสาวที่พูดคนนั้น
สนิทบ้าบออะไร หมาแมวพวกนี้เธอก็แค่เอามาถ่ายรูปไม่กี่ครั้งแล้วโพสต์ลงบนเวยปั๋วเท่านั้น
แต่ตอนนี้นี่คงเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยเธอได้แล้ว…
“ฉัน…จะลองดูแล้วกัน…” หลินซูหย่าสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด วิ่งเข้าไปหาลูกหมาตัวหนึ่งที่กำลังวิ่งวุ่น “ต้าหวง! ต้าหวงมานี่ อย่าวิ่งซน!”
หมาที่ชื่อต้าหวงตัวนั้นพอเห็นหลินซูหย่าก็แยกเขี้ยวใส่ด้วยความระแวง เห่าขู่เธอ
สีหน้าของหลินซูหย่าเต็มไปด้วยความอับอาย ทำได้เพียงลองอุ้มแมวลายสลิดที่อยู่ข้างเท้า “ฮวาฮวา…ฮวาฮวาเด็กดี…”
ทันใดนั้นลูกแมวที่ชื่อฮวาฮวาก็ตกใจวิ่งหนีไปไกล อีกทั้งกรงเล็บอันแหลมคมยังได้เกี่ยวชุดเดรสราคาแพงของหลินซูหย่าจนขาดอีกด้วย
หลินซูหย่าลองอยู่นาน ปรากฏว่าไม่มีสักตัวเดียวที่ไว้หน้าเธอ สุดท้ายออกแรงจับแมวอ้วนลายเสือตัวหนึ่งได้ “โต้วโต้ว โต้วโต้วเด็กดีไม่วิ่งซนนะ…”
หลินซูหย่าจับแรงเกินไป แมวลายเสือตัวนั้นถูกบีบคอ เจ็บจนร้องเมี้ยวๆ ออกมา
หลินเยียนที่นั่งอยู่ด้านล่างมองอยู่นานในที่สุดก็ทนนั่งต่อไปไม่ไหวแล้ว
เมื่อก่อนเธอเคยสอนหลินซูหย่าว่าต้องดูแลและจัดการกับเจ้าพวกนี้อย่างไร แต่ดูท่าหลินซูหย่าจะไม่ได้ฟังคำพูดของเธอเลยแม้แต่คำเดียว
ถึงขนาดที่แม้แต่ชื่อของสัตว์พวกนี้ก็ยังจำไม่ได้
วินาทีถัดมาหลินเยียนก็วิ่งขึ้นเวทีอย่างรวดเร็ว
“วั่งฉาย!”
ถัดจากเสียงเรียกของหลินเยียน แมวลายเสือที่หลินซูหย่าอุ้มไว้และเรียกมันว่าโต้วโต้วก็ร้องเมี้ยวออกมาอย่างตื่นเต้น จากนั้นก็ออกแรงข่วนหลินซูหย่าแล้วกระโจนวิ่งไปหาหลินเยียน
