ตอนที่ 737 แต่งงานกับฉัน
ตัวตัวฟังการวิเคราะห์ของหลินเยียน เธอพูดด้วยความลังเล “เลิกคิดไปในทางมูลนิธิของสมาคมมูลนิธิเพื่อการกุศลไปได้เลย นั่นไม่ใช่ที่ที่คนทั่วไปจะเข้าไปได้ ช่วงแรกเดอะ แองเจิล เฮ้าส์บริหารจัดการดีก็จริง แต่มันดังเกินไป…”
ตัวตัวรู้สึกว่าเรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากลเป็นอย่างมาก หากหลินซูหย่าเพิ่งก่อตั้งองค์กรนี้หลังจากมีชื่อเสียงก็ยังพอเข้าใจได้ แต่กลับไม่ใช่ เธอทำเรื่องพวกนี้ตั้งแต่ก่อนเข้าวงการแล้ว…
ตัวตัวไม่ทันได้คิดอะไรมาก ตอนนี้มีคนเห็นพวกเธอแล้ว เริ่มมองมาทางเธอกับหลินเยียน เธอรีบดึงหลินเยียน อยากพาหลินเยียนเข้างานไปก่อนที่จะถูกคนอื่นเห็นเข้า
จนปัญญา กลัวสิ่งใดสิ่งนั้นก็มา
ดูเหมือนตากล้องถ่ายทอดสดจะเห็นหลินเยียนเข้าแล้ว ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมาทันที รีบหันกล้องมาทางพวกเธอ
เป็นไปตามคาด วินาทีที่หลินเยียนปรากฏตัวในกล้อง ห้องถ่ายทอดสดก็ร้อนระอุขึ้นมาทันที
ทุกคนต่างคาดไม่ถึงว่าหลินเยียนยังจะกล้าออกงานการกุศลใหญ่ในวันนี้
[โวะ! ฉันเห็นอะไรน่ะ! นี่ตาฉันจะบอดแล้วเหรอ! ยัยโง่หลินเยียนมาได้ไง ใครมอบความกล้าให้นางมาที่นี่กันนะ]
[เฮ้ย! หลินเยียนจริงด้วย! ถูกทางฝ่ายจัดงานตักเตือนตัดสิทธิ์ไปแล้วยังจะมีหน้ามาอีก นี่ปรับมาตรฐานความหน้าด้านในสายตาฉันใหม่เลยนะเนี่ย!]
[อุ๊บส์ ชุดที่หลินเยียนใส่นั่นมันอะไรน่ะ ฉันจำได้ว่านางเคยใส่ในอีเว้นท์เมื่อครึ่งเดือนก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ งานสำคัญแบบนี้ยังกล้าใส่ชุดซ้ำ นี่ต้องจนขนาดไหนเนี่ย]
[ถูกถอดออกจากพรีเซนเตอร์โฆษณาหมดแล้ว ได้ยินว่าอีกเดี๋ยวก็จะถูกพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ไล่ออกแล้ว ไม่จนไหวเหรอ วันนี้รีบแจ้นมาออกงาน คงอยากมาสร้างภาพสินะ นางคิดว่าแฟนคลับอย่างพวกเราเป็นคนโง่เหรอ]
เพราะคอมเมนต์ของชาวเน็ตคนนี้ คนอื่นๆ ก็เลยคอมเมนต์ไปทางด้านพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์
[จริงดิ ในที่สุดพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ก็จะไล่ยัยนี่ออกแล้วเหรอ ถ้าให้ฉันพูดนะ ฉันว่าเรื่องที่พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์เซ็นสัญญากับยัยนี่ฉุดคะแนนความนิยมจากคนทั่วไปเยอะเลยล่ะ หลินเยียนคงไม่ได้คั่วอยู่กับผู้บริหารระดับสูงคนไหนของพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นทำไมถึงทนยัยนี่มาได้จนถึงตอนนี้]
[พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ขึ้นชื่อเรื่องความถูกต้องไม่ใช่เหรอ ทำไมทำเรื่องผิดกฎแบบนี้ด้วยล่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ มันก็น่าผิดหวังจริงๆ ! แนวหน้าของวงการที่ไหนกัน พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ก็เป็นแบบนี้กับเขาด้วย!]
…
ตัวตัวอ่านข้อความที่เด้งขึ้นบนหน้าจออย่างบ้าคลั่ง สีหน้าเริ่มแย่ลง “ต่อให้เดิมทีบริษัทไม่ได้วางแผนจะทำแบบนั้น แต่ถ้าพวกแฟนคลับยังเล่นแบบนี้ต่อไป คงได้ทนแรงกดดันคำวิจารณ์ไม่ไหวแล้วแน่…”
ตัวตัวพูดพลางเหลือบมองหลินเยียน เธอกระซิบด้วยเสียงที่เบามาก “พี่เยียน ครั้งนี้ต่อให้พี่มีราชาภาพยนตร์เผยหนุนหลัง ฉันว่าก็ช่วยปกป้องไม่ได้แล้วล่ะ…”
“ก็บอกแล้วว่าไม่ใช่เขา…”
ขณะที่หลินเยียนกำลังปกป้องความบริสุทธิ์ของไอดอลที่ตัวเองชอบด้วยความจนใจอยู่นั้น ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นว่าได้รับหนึ่งข้อความ
เผยอวี้เฉิง : [ถึงหรือยัง?]
พอเห็นเป็นข้อความของเผยอวี้เฉิง หลินเยียนก็ไม่กล้ารอช้า รีบตอบกลับทันที : [ถึงแล้ว!]
เผยอวี้เฉิง : [อย่าคิดมาก ต่อให้เป็นผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดก็ยังมีทางแก้]
หลินเยียนอ่านข้อความปลอบใจของเผยอวี้เฉิงแล้วก็อดรู้สึกอบอุ่นใจไม่ได้ จากนั้นก็ถามกลับด้วยความอยากรู้ : [วิธีแก้คืออะไร?]
ปกติเผยอวี้เฉิงตอบกลับอย่างรวดเร็วมาตลอด ครั้งนี้กลับเว้นสักพักถึงตอบกลับมา
โทรศัพท์มือถือดัง ‘ติ๊ง’ ขึ้นมาหนึ่งที หลินเยียนกดเปิดอ่านทันที
จากนั้นก็เห็นข้อความที่เผยอวี้เฉิงตอบกลับ : [แต่งงานกับฉัน]
วินาทีที่หลินเยียนเห็นคำนี้ เธอก็ตกใจจนไออย่างหนักออกมา “แค่กๆๆ …”
ตอนที่ 738 บัตรเชิญถูกยกเลิก
“พี่เยียน เป็นอะไรไป” ตัวตัวถามด้วยความร้อนใจ
หลินเยียนรีบเก็บโทรศัพท์มือถือเพื่อที่จะได้ไม่ถูกเห็นเข้า “เปล่าๆ…”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เผยอวี้เฉิงพูดกับเธอแบบนี้
ครั้งแรกเป็นตอนที่เฝิงอันหวาอยากแนะนำคู่ดูตัวให้เธอ เธอบอกว่ามีแฟนแล้วเปลืองเงิน ไม่ชอบผู้ชายที่บ้าวัตถุเกินไป ไม่ชอบการมีแฟน ปรากฏว่าไม่ทันระวังถูกเผยอวี้เฉิงได้ยินเข้า
ตอนนั้นเผยอวี้เฉิงบอกว่า “อันที่จริงก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีแก้”
หลินเยียนถามว่าวิธีอะไร เผยอวี้เฉิงก็ตอบกลับมาว่า “แต่งงานกับฉัน”
หลินเยียนไม่มีทางลืมคำพูดของเผยอวี้เฉิงในตอนนั้นที่ว่า ‘หลังแต่งงานไม่จำเป็นต้องใช้วิธีหารครึ่งกันจ่าย ส่วนเรื่องเงิน แน่นอนว่าไม่ต้องแบ่งคนละกระเป๋า ทรัพย์สินของฉันยกให้เธอดูแลทั้งหมด’
ทรัพย์สินของฉันยกให้เธอดูแลทั้งหมด…
นี่มันชักจะเลยเถิดเกินไปแล้ว!
ตอนนี้เผยอวี้เฉิงพูดคำนั้นออกมาอีกแล้ว
แต่ก็ต้องยอมรับว่าวิธีนี้ของเผยอวี้เฉิงมีประโยชน์จริงๆ เป็นวิธีที่สามารถแก้ปัญหาเรื่องทั้งหมดได้
สรรพนามคุณนายเผยเมื่อมาอยู่ตรงนี้สามารถสยบได้ทุกตำแหน่ง
แต่ต่อให้ตอนนี้เธอแต่งงานกับเผยอวี้เฉิง ชาวเน็ตก็ยังสาดโคลนใส่เธอได้อยู่ดี อีกทั้งยังจะพาลด่าไปถึงเผยอวี้เฉิงด้วย คงด่าว่าเขาตาบอด
หลินเยียนถอนหายใจ เธอส่งข้อความกลับไป [คุณเผย เลิกล้อเล่นเถอะ ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้…ต่อให้เป็นอย่างที่คุณพูด ก็มีแต่จะลากคุณเข้ามาถูกด่าไปด้วย]
ไม่นานเผยอวี้เฉิงก็ตอบกลับมาอีก [ถ้าเธอแต่งงานกับฉันตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้ว ถ้าเธอเป็นคุณนายเผยตั้งแต่แรกแล้วล่ะ]
หลังจากหลินเยียนอ่านข้อความของเผยอวี้เฉิง เธอก็เหม่อลอยไม่ได้สติอยู่นาน
หา?
โวะ!
อะไรคือถ้าเธอแต่งงานกับเผยอวี้เฉิงตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้ว อะไรคือถ้าเธอเป็นคุณนายเผยตั้งแต่แรกแล้วล่ะ
ถ้าเธอเป็นคุณนายเผยตั้งแต่แรก ถ้าเธอแต่งกับเผยอวี้เฉิงตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้ว ยังจำเป็นต้องเข้าวงการบันเทิงอีกเหรอ ยังจำเป็นต้องปล่อยข่าวฉาวเรียกความสนใจไปทุกที่เพื่อเงินแค่นั้นด้วยเหรอ ยังจำเป็นต้องปั่นโหวตเพื่อชิงเป็นแอมบาสเดอร์เพื่อการกุศลอะไรนี่ด้วยเหรอ
ข้อมูลในแง่ลบทั้งหมดของเธอก็คงไม่มีหลงเหลืออยู่แล้ว
แต่คำว่า ‘ถ้า’ ของเผยอวี้เฉิงก็น่าตกใจเหลือเกิน…
น่าตกใจยิ่งกว่าคำว่า ‘แต่งงานกับฉัน’ เมื่อกี้อีก
น่าแปลก ด้วยนิสัยของเผยอวี้เฉิง ทำไมอยู่ๆ ก็พูดอะไรแปลกประหลาดแบบนี้ออกมาได้
ไม่รอให้หลินเยียนกับเผยอวี้เฉิงได้คุยกันมากมาย เธอก็เดินมาถึงจุดตรวจรักษาความปลอดภัย
เป็นไปไม่ได้ที่กล้องถ่ายทอดสดจะเอาแต่ถ่ายหลินเยียน ในที่สุดตอนนี้ก็เบนไปหาแขกคนอื่น
พอทีมงานเห็นหลินเยียน ใบหน้าก็ฉายแววดูถูกโดยไม่ปิดบังเลยสักนิด “ขอดูบัตรเชิญด้วย”
หลินเยียนเอาบัตรเชิญที่จ้าวหงหลิงให้มายื่นให้ดู
ทีมงานรับไปอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็เอาไปสแกนกับเครื่อง
ทันใดนั้นเครื่องก็ส่งเสียงร้องแจ้งเตือนขึ้นมาเสียงดังแสบแก้วหู ทำให้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่แถวนั้นหันมามอง
รวมถึงหลินซูหย่ากับผู้จัดการส่วนตัวที่เดินผ่านจุดตรวจเข้าไปแล้วก็หยุดหันมามองทางหลินเยียนด้วย
“เกิดอะไรขึ้น” ตัวตัวคิ้วขมวดถามทีมงาน
ทีมงานมองสัญลักษณ์แจ้งเตือนไฟสีแดงที่กะพริบชวนแสบตาอยู่บนเครื่อง จากนั้นได้พูดขึ้น “ขอโทษด้วยคุณหลิน คุณเข้าไปไม่ได้”
ตัวตัวพูด “พวกเรามีบัตรเชิญทำไมจะเข้าไปไม่ได้!”
ทีมงานแสยะยิ้มพลางพูด “เพราะบัตรเชิญใบนี้ถูกยกเลิกแล้ว”
ตัวตัวถลึงตามอง “ยกเลิกแล้ว…เป็นไปได้ยังไง อยู่ดีๆ ทำไมถึงถูกยกเลิกได้! นี่เป็นบัตรเชิญที่ฝ่ายจัดงานส่งมาให้เลยนะ”
