ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 735 มีแบ็คแข็งมาก ตอนที่ 736 ฉันไม่ได้ตาบอด
ตอนที่ 735 มีแบ็คแข็งมาก
ตัวตัวพยักหน้าและวิเคราะห์ให้หลินเยียนฟัง “ใช่แล้ว พี่ยังไม่รู้เหรอ? ถ้าเป็นข่าวฉาวก็ยังว่าไปอย่าง แต่ครั้งนี้สะเทือนฝ่ายจัดงาน ทำให้ความหนักเบาแตกต่างกันไป
บริษัทใหญ่อย่างพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่สุด เพื่อแสดงจุดยืน ต้องทำอะไรบางอย่างแน่นอน…”
หลินเยียนได้ยินเช่นนั้น เอามือจับคางเล็กน้อย “อื้อ เธอพูดได้สมเหตุสมผล แต่ว่าไม่มีทางหรอก บริษัทไม่มีทางยกเลิกสัญญากับฉัน”
ตัวตัวได้ยินแล้วรู้สึกตกใจเล็กน้อย “เวลานี้แล้ว พี่มั่นใจได้ไงว่าบริษัทไม่ไล่พี่ออก?”
เห็นได้ชัดว่าตัวตัวไม่รู้ว่าหลินเยียนเอาความมั่นใจมาจากไหน
หลินเยียนมองไปทางตัวตัวด้วยสายตาสบายๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “อ้อ ก็เพราะว่าอำนาจหนุนหลังฉันแข็งมากไงล่ะ ไม่มีใครกล้ายกเลิกสัญญาฉันหรอก”
ตัวตัว “…”
ตัวตัวเงียบไปประมาณสิบกว่าวิ จ้องหน้าหลินเยียนอยู่พักใหญ่ ตัวตัวพูดขึ้นด้วยท่าทางเซ็ง “พี่เยียนพูดเพ้อเจ้ออีกแล้ว คนตรงๆ อย่างพี่ ชาตินี้ไม่มีทางได้แบ็คอะไรแบบนั้นมาหรอกนะ
อีกอย่าง พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์เลื่องลือเรื่องความเคร่งครัดมาก ตอนนั้นมีซีอีโอ ญาติหรือว่าอะไรสักอย่างที่อยู่เจเอ็มทำผิดกฎ สุดท้ายก็โดนไล่ออกเหมือนกันน่ะ”
“พี่ลองบอกมาสิว่า จะมีใครแบ็คหนาไปกว่านี้ล่ะ?”
สังคมมีข้อสงสัยสำหรับหลินเยียนร้อยพันประการ แต่ตัวตัวอยู่ข้างหลินเยียนมาโดยตลอดดังนั้นเธอรู้ว่าหลินเยียนไม่มีแบ็คอะไรทั้งนั้น
หลินเยียนรู้สึกเหมือนตัวเองโดนดูถูก “ฉันเนี่ยนะจะหาแบ็คไม่ได้! แบ็คของฉันหนากว่าซีอีโออะไรนั่นอีกเถอะนะ คนละระดับกันเลย!”
“เชื่อก็บ้าแล้ว…”
แต่ว่าหลังจากตัวตัวเห็นหลินเยียนมั่นใจในคำพูดขนาดนี้ รู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย วินาทีต่อมาตัวตัวไม่รู้ว่านึกอะไรขึ้นได้ เธอเอามือปิดปากด้วยความตกใจ…
“หรือว่า…หรือว่าพี่มีซัมติงกับซุปตาร์เผย???”
หลินเยียน “…!!!”
“แฮ่กๆๆๆ ” หลินเยียนแทบจะหัวใจวายตายเพราะเสียงตะโกนของตัวตัว “เธอพูดบ้าอะไรของเธอ!!!”
“ก็พี่บอกว่าแบ็คพี่หนามากเลยหนิ…” ตัวตัวพึมพำขึ้น “แบ็คหนาที่สุดที่ฉันคิดได้…ก็มีแค่ซุปตาร์เผยแล้วล่ะ”
หลินเยียนเบ้ปากเล็กน้อย เผยสีหน้ารังเกียจ “เชอะ สาวน้อย ทำไมเธอไม่มีจินตนาการเลย? ลองกล้าเดากว่านี้ซิ”
มุมปากตัวตัวกระตุก “นี่ยังไม่กล้าพออีกเหรอ???”
หลินเยียน “…”
ไม่พอน่ะ
ไม่พอเลยจริงๆ
…
ผ่านไปไม่นาน งานเพื่อการกุศลก็มาถึง
งานจัดขึ้นที่ใจกลางศูนย์นิทรรศการเมืองตี้ตู โดยที่รวบรวมคนดังต่างๆ ในวงการการเมืองและธุรกิจเอาไว้
งานที่จัดขึ้นในครั้งนี้มีความพิเศษบางอย่างก็คือทั้งงานจะมีการไลฟ์สดในแพลตฟอร์มที่มีผู้ชมมหาศาล
รายได้ที่ได้จากการไลฟ์สดนั้นจะนำมาทำการกุศลทั้งสิ้น
ปกติดาราออกงานทีไรจะไม่ใส่ชุดเดิมซ้ำ
แต่ช่วงนี้สปอนเซอร์หลินเยียนเกือบจะหายหมด หาเช่าชุดราตรีไม่ทัน สุดท้ายลงเอยที่ชุดราตรีที่เคยใส่ออกงานเมื่อเดือนครึ่งที่แล้ว
“เอ้า ชุดนี้เคยใส่เมื่อหนึ่งครึ่งที่แล้วแล้วหนิ วันนี้ใส่ชุดนี้อีก ต้องโดนหัวเราะเยาะแน่…” ตัวตัวถอนหายใจ
หลินเยียนพูดขึ้นอย่างจริงจัง “นี่มันงานเพื่อการกุศล ไม่ใช่งานประกวดสาวงาม แต่งตัวเวอร์วังไปทำไม มีเงินไปซื้อชุด เอาไปบริจาคคนที่ต้องการความช่วยเหลือไม่ดีกว่าเหรอ?”
ตัวตัวไม่คิดว่าศีลธรรมของหลินเยียนมีมากขนาดนี้ เธอรู้สึกตกใจเล็กน้อย
“ฉันว่าพี่เสียดายเงินซื้อชุดใหม่น่ะสิ…” ตัวตัวพึมพำขึ้น
หลินเยียนยิ้ม “โอ้ว โดนจับได้ซะแล้ว”
ตัวตัว “…”
ตอนที่ 736 ฉันไม่ได้ตาบอด
ณ จุดตรวจก่อนเข้างาน
แขกที่มาร่วมงานต่างถือบัตรเชิญเข้างานกันตามลำดับ
ในงานเปล่งประกายสว่างไสว ผู้คนใหญ่โตในแวดวงต่างๆ มารวมตัวกันที่นี่ บุคคลระดับตำนานในวงการบันเทิงแทบครึ่งวงการมาอยู่ที่นี่กันหมด งานนี้เทียบเท่าระดับงานมอบรางวัลโกลเดนปาล์มเลยล่ะ
วันนี้หลินซูหย่าสวมชุดราตรีไฮคลาสสั่งตัดจากแบรนด์แฟร์รี่
ชุดราตรีของแบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นนางฟ้า ชุดราตรีสีขาวบนตัวหลินซูหย่า เป็นชุดที่สวยที่สุดในคอลเลคชันใหม่ล่าสุด โดยมีชื่อว่า ‘แองเจิล’
หลินเยียนไม่มีสิทธิ์พาผู้ช่วยเข้าไปในงาน ความจริงแล้วตัวตัวเข้าไปในงานแบบนี้ไม่ได้ แต่กลัวว่าหลินเยียนจะเกิดอะไรขึ้นภายในสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้นจ้าวหงหลิงจึงส่งตัวตัวมาอยู่ข้างๆ หลินเยียน
ขณะเดียวกัน ตัวตัวมองไปทางหลินซูหย่าที่อยู่ไม่ไกล กระซิบอยู่ข้างหูหลินเยียน “ชุดหลินซูหย่าดูเหมือนจะเรียบหรูดีนะ แต่จริงๆ แล้วเป็นรุ่นสั่งทำพิเศษของแบรนด์แฟร์รี่ อีกทั้งยังเป็นชุดที่แพงที่สุด มีชื่อว่าแองเจิล ดูเหมือนว่าจะตั้งใจเตรียมเพื่อการประกวดแอมบาสเดอร์เพื่อกุศลในคืนนี้ ถึงแม้ผลการโหวตจะสิ้นสุดตอนเที่ยงคืนวันนี้ แต่คะแนนเธอสูงขนาดนั้น ทุกคนรู้กันหมดว่าคืนนี้เธอต้องคว้าอันดับหนึ่งมาได้แน่นอน!”
หลินเยียนมองตามสายตาตัวตัว เห็นหลินซูหย่าอยู่ในชุดราตรีดุจนางฟ้า สง่างามมีสกุล ราวกับเทพธิดาบริสุทธิ์ เธอกำลังทักทายเจ้าหน้าที่จากสมาคมเพื่อการกุศลอย่างกระตือรือร้น
หลินซูหย่าเพิ่งปรากฏตัวขึ้น กล้องไลฟ์สดรีบวิ่งติดตามเธอไปทันที
คอมเมนต์ที่เด้งขึ้นบนจอในขณะนี้เต็มไปด้วยคำชื่นชมและประจบประแจงเว่อร์วังอลังการมาก
[อ้าๆๆ พระเจ้า! ซูหย่าคือนางฟ้าน้อยชัดๆ! สู้ๆ นะซูหย่า! แอมบาสเfอร์เพื่อกุศลในคืนนี้ต้องเป็นเธอแน่นอน!]
[คุณพี่สวยสุดๆ ไปเลย! ขาของพี่ไม่ใช่ขา เป็นดั่งสายน้ำยามฤดูใบไม้ผลิของแม่น้ำแซน แผ่นหลังของพี่ไม่ใช่แผ่นหลัง แต่เป็นดั่งกุหลาบบัลแกเรีย เอวของพี่ไม่ใช่เอว แต่เป็นใบมีดของซาบุโระโคเมอิ ปากของพี่ไม่ใช่ปาก แต่เป็นน้ำบริสุทธิ์ใต้สะพานอันเหอ!]
[ฉันขอบอกว่าหลินซูหย่าเป็นดาราสาวที่หน้าตาดีและจิตใจดีที่สุดในวงการบันเทิง มีใครจะเถียงไหม]
……
ตัวตัวเปิดมือถือแล้วจ้องไปยังคำชมต่างๆ ที่อยู่บนจอด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
“คนพวกนี้อวยกันเกินเบอร์ไปหรือเปล่าน่ะ ถึงแม้ชุดราตรีของพี่หลินราคาไม่แพง อีกทั้งเคยใส่มาแล้วรอบหนึ่ง แต่ถ้าเปรียบระหว่างหน้าตากับหุ่น พี่แค่พันถุงก๊อบแก๊บมั่วๆ ยังชนะหลินซูหย่าสบายๆ เลยน่ะ”
“แหม่ตัวตัวยอดรัก ไม่ค่อยเห็นเธอแทงใจดำฉันเลยนะ!” หลินเยียนเสยคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ตัวตัวเบ้ปาก “ถึงฉันจะปากจัด แต่ไม่ได้ตาบอดซะหน่อย!”
หลินเยียน “…” พูดได้มีเหตุผลมาก
สีหน้าตัวตัวแลดูเคร่งเครียดเล็กน้อย เธอพึมพำขึ้น “นิสัยอย่างหลินซูหย่าจะใจดีขนาดนั้นจริงเหรอ เธอจะยอมเสียเงินเสียเวลาไปจัดตั้งองค์กรช่วยเหลือสัตว์จรจัดโดยที่ไม่หวังผลประโยชน์ใดๆ เหรอ
เดอะ แองเจิล เฮ้าส์กลายเป็นบัตรโกงตายของเธอแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะทำอะไร แฟนคลับจะคิดว่าเธอถูกหมด ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จก็จะเชื่อเธอไว้ก่อน”
ด้วยเหตุนี้ ต่อให้พวกเธอรู้ว่าหลินซูหย่าจงใจซื้อคะแนนให้พวกเธอ แต่ก็ไม่สามารถออกมาชี้แจงได้ เพราะไม่มีใครเชื่อ อีกทั้งจะทำให้คนอื่นมาด่าเพิ่มจากเดิมอีกด้วย
หลินเยียนยิ้มแล้วเอ่ยปากขึ้น “จริงๆ แล้วเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ไม่ถือว่าเป็นองค์กรเพื่อการกุศลที่ใหญ่โตอะไร อย่างมากก็เป็นแค่องค์กรเพื่อสังคมทั่วไป แต่มูลนิธิชุนหนีกับเบบี้โกโฮมอะไรแบบนั้นต่างหากที่ถือว่าเป็นเครือข่ายภายใต้สมาคมเพื่อการกุศลแห่งประเทศจีนโดยตรง มูลนิธิแบบนั้นจึงจะถือว่าเข้ายากอย่างแท้จริง
แต่ถ้าจะสร้างความสนใจให้ประชาชน ไม่มีมูลนิธิไหนเทียบเท่าองค์กรช่วยเหลือสัตว์จรจัดอย่างเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ได้ และเป็นที่สนใจในหมู่สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปอีกด้วย…”