ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 731 ขอบคุณที่มาอุดหนุน ตอนที่ 732 บัตรเชิญวีไอพี
ตอนที่ 731 ขอบคุณที่มาอุดหนุน
เผยอวี้เฉิงได้ยินแล้วไม่ได้ถามอะไรต่อ แค่พยักหน้า “ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไร มาหาฉันได้เลยนะ”
“เอ่อ ข้ามขั้นสิบกว่าเลเวล ไปหาบิ๊กบอสที่อยู่จุดสูงสุดเลย…นี่มันดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมหรือเปล่านะ?” หลินเยียนพูดขึ้นด้วยความลำบากใจ
เผยอวี้เฉิงหัวเราะ “หาบอสถือว่าข้ามขั้นไปหน่อย แต่หาแฟนตัวเองก็อีกเรื่องนะ”
หลินเยียนตะลึงจนแทบตกลงจากเก้าอี้ “แฮ่กๆๆ ”
เพิ่งจะไม่กี่นาทีเธอก็โดนอ่อยจนเกือบจะทนไม่ได้แล้ว ยังจะมาเหมาทั้งคืนอีกเหรอ?
เอาความมั่นใจมาจากไหน!
หลินเยียนสงบหัวใจดวงเล็กๆ ที่เต้นตึกตักอยู่ เปลี่ยนประเด็นทันที “อ้อ คือว่าหลิงเย่ว์เป็นคนให้คุณมาหาฉันหรือเปล่าคะ? ได้ข่าวว่าก่อนหน้านั้นเธอเป็นเจ๊ใหญ่ของพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์เลยล่ะ! ให้เจ๊ที่มากความสามารถแบบนั้นมาเป็นผู้ช่วยฉัน น่าเสียดายเกินไปหรือเปล่าคะ?”
เผยอวี้เฉิงตอบ “ไม่ต้องรู้สึกลำบากใจนะ ตอนนี้เธออิสระอยู่ ตัดสินใจได้เองว่าตัวเองจะอยู่หรือไป”
หมายความว่าหลิงเย่ว์เสนอตัวเองว่าจะมาเป็นผู้ช่วยเธองั้นเหรอ?
ถึงแม้เธอช่วยไว้จริง แต่แค่พูดไปนิดหน่อยแค่นั้น ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย การตอบแทนบุญคุณเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน
…
ตอนแรกหลินเยียนกังวลอยู่ว่าอยู่กับเผยอวี้เฉิงสองต่อสองแล้วจะเก้อ แต่สรุปว่าทั้งสองคนโต้ตอบกันไปเรื่อยๆ ตอนที่ไม่มีเรื่องอะไรจะคุยแล้ว เผยอวี้เฉิงจะโยนประเด็นที่ทำให้เธอสนใจอย่างเหมาะสม
เวลาสองชั่วโมงผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว
ส่วนใหญ่เผยอวี้เฉิงยังเป็นห่วงเธออยู่ หลินเยียนคิดว่าตัวเองก็ควรเป็นห่วงเผยอวี้เฉิงบ้าง ดังนั้นเธอจึงได้เอ่ยปากถามขึ้น “คุณเผย ช่วงนี้สุขภาพร่างกายเป็นยังไงบ้างคะ?”
นิ้วอันเรียวยาวของเผยอวี้เฉิงลูบไล้นาฬิกาสีเงินตรงข้อมือด้วยความเคยชิน “ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว”
“งั้นก็ต้องระวังอยู่ดี โดยเฉพาะอย่านอนดึกเกินไป พักผ่อนไวๆ เพื่อให้มีคุณภาพการนอนที่ดี” หลินเยียนพูดขึ้น
เผยอวี้เฉิงนั่งพิงบนโซฟา เสยคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วมองไปทางหลินเยียนพลันเอ่ยปากขึ้น “นอนดึกบ้างก็ไม่เป็นไรหรอก”
หลินเยียนนึกถึงประโยค ‘เหมาทั้งคืนได้ไหม?’ ที่เธอเผลอหลุดไป แก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
เธอไม่ได้จะเหมาทั้งคืนซะหน่อย!!!
“รีบพักผ่อนล่ะ ฝันดีนะ” เผยอวี้เฉิงลุกขึ้นแล้วลูบหัวหญิงสาวเบาๆ
“ฝันดีค่ะ…”
หลินเยียนมองดูเผยอวี้เฉิงลุกขึ้นพร้อมจะเดินจากไป สีหน้าเธอเปลี่ยนไป ราวกับว่ารู้สึกย้อนแย้งในใจ
หลังจากลังเลอยู่พักใหญ่ ขณะที่เผยอวี้เฉิงกำลังจะเดินออกจากประตู หลินเยียนรีบพูดขึ้น “เดี๋ยว…เดี๋ยวก่อน!”
เผยอวี้เฉิงได้ยินแล้วชะงักฝีเท้าลง “ทำไมเหรอ?”
หลินเยียนเดินไปตรงหน้าเผยอวี้เฉิง เกาหัวเล็กน้อย ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเขย่งปลายเท้าแล้วจุ๊บลงที่แก้มเผยอวี้เฉิง
ริมฝีปากอันนุ่มนวลจุมพิตลงบนผิวราวกับขนนกอย่างไม่ทันตั้งตัว นัยน์ตาเผยอวี้เฉิงชะงักไปครู่หนึ่งอย่างเห็นได้ชัด
หลินเยียนกระแอมเบาๆ “เอ่อ…ทิปน่ะค่ะ…”
เผยอวี้เฉิงได้ยินแล้วชะงักก่อนแล้วหัวเราะขึ้น นิ้วอันเรียวยาวของเขาลูบไล้ที่ใบหน้าของหญิงสาวเบาๆ จากนั้นเอ่ยปากพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “ทิป…ลูกค้าท่านนี้ดูเหมือนจะขี้เหนียวนะครับ”
หลินเยียน “…” หาว่าเธอขี้เหนียวงั้นเหรอ?!
หลินเยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร วินาทีที่เผยอวี้เฉิงพูดจบ เขาโน้มตัวลงมาจูบลงที่ริมฝีปากของหญิงสาว…
ซึ่งแตกต่างไปจากจุมพิตเบาๆ ของหลินเยียน เผยอวี้เฉิงเชยคางหญิงสาวขึ้นด้วยความแรง
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน จนกระทั่งออกซิเจนในอกหลินเยียนเกือบจะหมดลง จูบครั้งนี้จึงได้สิ้นสุด…
หลินเยียนผ่อนลมหายใจ เสียงเข้มขรึมของเผยอวี้เฉิงดังขึ้นข้างหู “ขอบคุณที่อุดหนุนครับ”
ตอนที่ 732 บัตรเชิญวีไอพี
เช้าวันถัดมา หลินเยียนเพิ่งตื่นไม่นานก็มีสายโทรเข้ามา
สายเรียกเข้า : เลขาหลิวมูลนิธิการกุศลเบบี้โกโฮม
“ฮัลโหล เลขาหลิวเหรอ” หลินเยียนรับสาย
เมื่อได้ยินเสียงหลินเยียนดังขึ้น คนที่อยู่ปลายสายก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “คุณรับสายสักทีนะครับ!”
หลินเยียน “แหะ ขอโทษที ช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งน่ะ”
“ทางมูลนิธิมีธุระอะไรหรือเปล่า” หลินเยียนถามขึ้น
“ไม่มีอะไรครับ ทุกอย่างในมูลนิธิเป็นไปด้วยดี อาทิตย์หน้ามีงานเพื่อการกุศลไม่ใช่เหรอ รองหัวหน้าสมาคมให้ผมโทรหาคุณน่ะครับ ให้ถามว่าคุณจะไปร่วมงานหรือเปล่าครับ” ผู้ชายที่อยู่ปลายสายถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“เหมือนเดิมน่ะ” หลินเยียนตอบ
เลขาหลิวรู้สึกเสียดาย “รองหัวหน้าสมาคมหมายความว่าให้รองหัวหน้าสมาคมร่วมงานแทนคุณน่ะครับ…”
หลินเยียน: “อื้ม”
เลขาหลิวลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วสุดท้ายก็อดที่จะพูดไม่ได้ “หัวหน้าสมาคม ช่วงนี้ผมได้ยินเรื่องของคุณมาบ้างแล้ว ชาวเน็ตว่าคุณแบบนั้น เกินไปจริงๆ!
คุณเป็นหัวหน้าสมาคมของมูลนิธิเราเลยนะ ยังต้องไปลงประกวดบ้าบอคอแตกอะไรนั่นอีกเหรอ? โครงสร้างสมองพวกนั้นเป็นแบบไหนกันน่ะ
หัวหน้าสมาคม ไม่ต้องการให้พวกเราช่วยชี้แจงหน่อยเหรอครับ”
“ไม่ต้องหรอก เรื่องของฉันไม่ได้ชี้แจงกันง่ายๆ อีกอย่างก็ไม่จำเป็นเลย พวกเธออย่ามายุ่งเรื่องนี้เลย” หลินเยียนเอ่ยปากขึ้น
อีกอย่างเธอไม่อยากเปิดเผยตัวตนเหมือนกัน
“เฮ้อ ก็ได้ครับ…” เห็นหลินเยียนยืนยันเช่นนั้น เลขาหลิวก็ไม่อยากพูดอะไรมาก
หลินเยียนนั่งพิงอยู่บนโซฟาแล้วหลับตาลง
ตอนนั้นเธอได้มาเจอกับมูลนิธิการกุศลเบบี้โกโฮมตอนที่เธอกำลังหาตามหาน้องชายตัวเองอยู่
ในตอนนั้นคนที่รู้จักมูลนิธิยังไม่เยอะ ตอนแรกเธอแค่บริจาคเฉยๆ เนื่องจากรายได้ไม่สูงจึงบริจาคไม่เยอะ หลังจากไปต่างประเทศได้เข้าร่วมทีมรถแข่งแล้ว พอมีรายได้ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จึงได้บริจาคมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้เธอก็ยังโอนเข้าบัญชีบริจาคอย่างเป็นประจำ
นอกจากนี้แล้วเธอเสนอแผนการโปรโมทและระดมทุนให้แผนกระดมทุน ทำให้มูลนิธิกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ
แผนงานจำนวนไม่น้อยได้รับการยอมรับจากแต่ละวงการในสังคม
ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้รับคำเชิญจากผู้รับผิดชอบมูลนิธิเพื่อเข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกโปรเจค
แน่นอนว่าเธอตอบรับไปโดยปริยาย
หลังจากนั้นมาตำแหน่งของเธอในมูลนิธิสูงขึ้นเรื่อยๆ จากแผนกโปรเจคไปสู่แผนกระดมทุน จากแผนกระดมทุนไปสู่บอร์ดคณะบริหาร จากผู้จัดการไปยังรองหัวหน้าสมาคม ไปๆ มาๆ ได้ตำแหน่งหัวหน้าสมาคมมาครองอย่างไม่รู้ตัว
นอกจากนั้น มูลนิธิอนุญาตให้ไม่เปิดเผยตัวตนของเธออย่างเป็นกรณียกเว้น งานที่ต้องไปโชว์ตัว ล้วนแต่เป็นรองหัวหน้าสมาคมออกงานแทนเธอ
เพราะนอกจากว่าเธอต้องแข่งรถแล้วยังต้องดูแลมูลนิธิเบบี้โกโฮม แยกร่างไม่ได้ รวมถึงเธออยู่ต่างประเทศไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ตอนนั้นเลยได้วานธุระของเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ให้หลินซูหย่าจัดการแทน
เรื่องนี้ทั้งแม่และหลินซูหย่าไม่รู้
ทุกคนต่างมองว่าน้องชายไม่มีความเป็นไปได้ที่จะยังมีชีวิตอยู่ เธอเองก็ไม่กล้าให้ความหวังกับแม่และน้องสาวสำหรับความหวังที่ไร้สาระ ทำได้เพียงตามหาอย่างเงียบๆ
ระหว่างตามหาน้องชาย เธอค้นพบว่ามีครอบครัวจำนวนมากที่สูญเสียคนในครอบครัวไปเหมือนเธอก็เลยเกิดความคิดอยากช่วยเหลือพวกเขา
หลายปีที่ผ่านมานี้ เธอช่วยครอบครัวจำนวนมากค้นหาคนในครอบครัวที่พลัดพรากไปจนเจอ แต่เสียดายที่ในส่วนน้องชายเธอยังไม่มีข่าวคราวใดๆ
ถึงแม้หลินเยียนจะแสดงจุดยืนว่าจะไม่ออกงานในฐานะหัวหน้าสมาคม แต่เลขาหลิวยังคงส่งบัตรเชิญวีไอพีไปให้เธอ