ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 711 ยังมีอีกชื่อหนึ่ง ตอนที่ 712 เก็บของขวัญได้
ตอนที่ 711 ยังมีอีกชื่อหนึ่ง
หลินเยียนจ้องไปยังหลิงเย่ว์ด้วยสายตาประหลาดใจ หญิงสาวคนนี้ดูไม่ธรรมดาเหมือนภายนอกเลย
“หลิงเย่ว์ เธอรู้เรื่องในวงการบันเทิงเราด้วยเหรอ” หลินเยียนถามขึ้น
ได้ยินเช่นนั้น หลิงเย่ว์พยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ใช่ค่ะ พี่สะใภ้รู้จักพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ไหมคะ”
เมื่อพูดถึงพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์แล้วหลินเยียนชะงักไปครู่หนึ่ง เธอรู้จักพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์อยู่แล้วสิ อีกอย่าง เธอเพิ่งจะเซ็นสัญญากับพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ไปไม่นาน ตอนนี้เธอก็ถือว่าเป็นศิลปินของพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์เหมือนกัน
“รู้สิๆ ” หลินเยียนพยักหน้ายิกๆ
“อื้ม พี่สะใภ้ จริงๆ แล้วตอนแรกคนรับผิดชอบพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์คือฉันเอง…อ้อ ก่อนหน้านั้นฉันยังมีอีกชื่อหนึ่ง ชื่อว่าเอมี่ค่ะ” หลิงเย่ว์พูดขึ้น
สิ้นเสี้ยงหลิงเย่ว์ หลินเยียนชะงักอยู่กับที่
เธอว่าไงนะ?
เธอคือเอมี่เหรอ?!
ที่มีจุดยืนเหมือนทุกวันนี้ได้ก็เพราะพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ มีเอมี่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังถือว่าสร้างผลงานไว้เยอะจริงๆ บอกได้เลยว่าเอมี่เป็นคนที่ผลักดันให้พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์เติบโตขึ้นได้ ทำให้พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งของวงการ
แต่ชื่อเสียงเอมี่ในวงการบันเทิงกลับเป็นไปในเชิงลบเป็นอย่างยิ่ง
จริงๆ แล้วมีแค่คนส่วนน้อยที่รู้จักเอมมี่ แต่เธอเป็นถึงบุคคลคนสำคัญหนึ่งเดียวของพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์
แต่แค่ชื่อเสียงเอมี่ไม่ค่อยดี การกระทำโหดเหี้ยมใจดำ ทำให้พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ที่กำลังรุ่งเรืองกลายเป็นปฏิปักษ์กับบริษัทบันเทิงจำนวนมาก
แม้กระทั่งระดับราชาและราชินีภาพยนตร์หลายคนจบอยู่ในมือเอมี่ก็มีไม่น้อย
ถ้าทำให้เอมี่ไม่พอใจ เธอจะส่งคุณไปขุมนรกไม่ได้ไปผุดไปเกิด
หลินเยียนไม่คิดว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้จะเป็นเอมี่ในตอนนั้น เจ๊ใหญ่ที่บงการโชคชะตาของวงการบันเทิงเกือบทั้งหมดคนนั้น
แต่หลังๆ มา ไม่รู้ทำไม เอมี่จากพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์หายไปและอำพรางตัวเองเรื่อยมา ไม่เคยปรากฎตัวอีกเลย
หรือว่าเป็นเพราะ…มีปัญหากับคุณหรงนั่น…
ดูจากสีหน้าหลินเยียนแล้ว หลิงเย่ว์รู้ว่าหลินเยียนน่าจะพอได้ยินชื่อเสียงของเอมี่มาบ้าง
ผ่านไปไม่นาน หลิงเย่ว์หัวเราะขึ้นเบาๆ พลันพูดขึ้น “พี่สะใภ้คะ เรื่องราวในวงการบันเทิงในตอนนั้น ฉันแค่ดูแลให้เฉยๆ แต่หลังๆ มาฉันไปมีเรื่องกับใครบางคน…ทำให้ฉันโดนบังคับให้ออกมาจากตระกูลเผย ขอบคุณพี่สะใภ้ที่ทำให้ฉันกลับมาได้นะคะ!”
หลินเยียนเผลอถอนหายใจ เธอไปมีเรื่องกับคนระดับไหนเนี่ย!
หลินเยียนไม่มีโอกาสได้พูดต่อ หลิงเย่ว์จ้องไปยังคอมพิวเตอร์แล้วพูดขึ้น “พี่สะใภ้คะ ฉันเคยลองคำนวณดูแล้ว ด้วยระดับของคุณ อยากได้คะแนนสูงขนาดนี้ คงจะเป็นไปไม่ได้นะคะ ฉันคิดว่าน่าจะมีคนตั้งใจโก่งคะแนนให้พี่สะใภ้ อยากให้พี่สะใภ้ร่วมงานเลี้ยงเพื่อการกุศลด้วยน่ะค่ะ”
จุดนี้หลินเยียนไม่ตอบโต้ ด้วยความเป็นเธอ ถ้าวันนี้เป็นการโหวตนักแสดงใจดำยอดเยี่ยมในวงการบันเทิงล่ะก็ คะแนนนี้คงจัดอยู่ในสภาวะปกติ แต่คะแนนสำหรับงานเลี้ยงเพื่อการกุศลนั้น…
แต่ถ้าจะบอกว่ามีคนจงใจโก่งคะแนนให้เธอเยอะขนาดนี้ คนนั้นคือใครเหรอ?
ชาวเน็ตทั่วไปคงไม่มีความสามารถขนาดนี้
“พี่สะใภ้คะ งานเลี้ยงเพื่อการกุศลเป็นงานที่ยกระดับตัวเองขึ้นได้เยอะ อีกทั้งยังผูกมิตรกับคอนเนคชันดีๆ ได้มาก ฉันคิดว่าพี่สะใภ้ไปร่วมงานได้นะคะ” หลิงเย่ว์พูดขึ้น
ก่อนหน้านั้น หลินเยียนไม่เคยคิดถึงเรื่องงานเลี้ยงเพื่อการกุศล เดอะ แองเจิล เฮ้าส์ของเธอตอนนี้ก็โดนแย่งไปแล้ว ทำให้โควตาที่ควรเป็นของเธอในตอนแรก ไปอยู่ที่หลินซูหย่าแทน แต่เธอไม่คิดว่าจู่ๆ คะแนนของเธอจะเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้
“คะแนนนี่…”
หลินเยียนครุ่นคิดสักพัก หรือว่าหลินซูหย่าจะเป็นคนทำ
ตอนที่ 712 เก็บของขวัญได้
คนอื่นไม่รู้จักหลินซูหย่า แต่หลินเยียนรู้ไส้รู้พุงหลินซูหย่าหมด
ด้วยนิสัยของหลินซูหย่า ถ้าตัวเองร่วมงานเลี้ยงเพื่อการกุศลไม่ได้ ก็คงจะไม่เห็นหลินซูหย่าเอาเกียรติยศมหาศาลของเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ที่เป็นของตัวเธอในตอนแรกมาโชว์ต่อหน้าคนอื่นหรอก ถ้าเป็นแบบนั้นคงจะไม่สนุกสินะ
หากหลินซูหย่าเป็นคนหาคะแนนให้เธอ หลินเยียนเข้าใจได้ ซึ่งก็เป็นคำอธิบายที่ดีเลย
หลินซูหย่าจงใจจะแกล้งเธอ อยากให้เธอทรมานเท่านั้นเอง
“พี่สะใภ้คะ หัวหน้าสมาคมของงานเลี้ยงเพื่อการกุศลรุ่นนี้ เป็นคนที่ภูมิหลังหนามาก ถ้าพี่สะใภ้ทำความรู้จักกับเธอซะหน่อย คงจะเป็นประโยชน์กับพี่สะใภ้มาก” หลิงเย่ว์วิเคราะห์ให้หลินเยียนฟังอย่างเป็นมืออาชีพ
หลินเยียน “…”
ไม่แปลกที่หลินเยียนรู้สึกว่าหลิงเย่ว์มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก!
ความเป็นมืออาชีพนี้มีที่มาที่ไปแบบนี้นี่เอง!
เอมี่ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของบริษัทเบอร์หนึ่งในวงการอย่างพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์!
หลินเยียนไม่คิดไม่ฝันเลยว่า คนอย่างเอมี่จะกลายมาเป็นผู้ช่วยเธอซะงั้น…
แล้วแบบนี้จะถือว่าเธอได้ของขวัญวิเศษมาอย่างฟลุ๊คๆ แล้วทะยานขึ้นฟ้าไปเลยหรือเปล่าน่ะ
“ฉันสงสัยว่าหลินซูหย่าเป็นคนโก่งคะแนนให้รึเปล่า” หลินเยียนพูดขึ้น
ได้ยินเช่นนั้น หลิงเย่ว์ไม่รู้สึกประหลาดใจเลย “ถ้าเป็นแบบนั้น…พี่สะใภ้น่าจะเป็นคนก่อตั้งเดอะ แองเจิล เฮ้าส์สินะ?”
สิ้นเสียงหลิงเย่ว์ หลินเยียนรู้สึกตะลึงทันที
เรื่องเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ หลิงเย่ว์รู้ได้อย่างไรกัน
“เธอรู้ได้ไง” หลินเยียนเผยสีหน้าตะลึง
“ฉันไม่รู้หรอก” หลิงเย่ว์ส่ายหน้า “ก็แค่เดาน่ะค่ะ หลินซูหย่าจองเวรจองกรรมกับพี่สะใภ้ ไม่มีเหตุผลที่จะช่วยให้พี่เข้าไปในงานเลี้ยงได้ นอกเสียจากอยากเห็นพี่สะใภ้ทรมาน โดนคนอื่นเหยียดหยามดูถูก อย่างเดียวที่ทำให้เธอเข้าไปในงานกุศลได้ก็คือเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ นอกจากว่าเดอะ แองเจิล เฮ้าส์เป็นของพี่สะใภ้ แต่แน่นอนว่าอาจจะมีความเป็นไปได้ที่หลินซูหย่ามีจิตใต้สำนึกคิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้นะคะ”
หลินเยียน “…” นี่คือสมองเทพแบบไหนกันถึงเชื่อมโยงได้ขนาดนี้เนี่ย
“ฉันอาจจะเป็นเหมือนที่ชาวเน็ตว่ากันก็ได้นะ” หลินเยียนหัวเราะเบาๆ
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว หลิงเย่ว์ส่ายหน้าพลันพูดขึ้น “พี่สะใภ้ไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกค่ะ พี่มีพี่อวี้อยู่ นอกจากพี่สะใภ้ตาบอด ถึงจะไปแย่งคู่หมั้นของหลินซูหย่าน่ะ…
อีกอย่าง พูดกันตรงๆ พี่สะใภ้เป็นคุณผู้หญิงของตระกูลเผยในอนาคต พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์เป็นของพี่สะใภ้หมด ดังนั้น พี่สะใภ้จะมีเหตุผลอะไรต้องไปคอยสร้างกระแส ไปแย่งของของหลินซูหย่าล่ะคะ”
ตอนนี้หลินเยียนนับถือจริงๆ แล้วล่ะ เอมี่ช่างสมคำล่ำลือจริงๆ
“ถึงจะเป็นแบบนั้น เดอะ แองเจิล เฮ้าส์ก็ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับฉันนะ เธอคาดเดาได้ยังไงเหรอ” หลินเยียนยังคงติดใจ
หลิงเย่ว์คิดดูสักพักแล้วพูดขึ้น “อ้อ ก็ไม่ยากหนิคะ ก่อนอื่นเลย พี่สะใภ้รักสัตว์นี่หน่า”
ระหว่างที่พูด สายตาหลิงเย่ว์มองไปทางกรงแมวในห้อง “ก่อนหน้านั้นฉันเคยได้ยินซิงเฉินพูดว่าพี่สะใภ้เก็บแมวจรจัดมาเลี้ยงตั้งสองตัว”
ไม่เปิดโอกาสให้หลินเยียนพูด หลิงเย่ว์พูดต่อ “แต่หันมามองที่หลินซูหย่า กลั่นแกล้งพี่สะใภ้ทุกวิถีทาง พูดจาตลบแตลง ก่อเรื่องที่ไม่เป็นความจริงขึ้นมา ยังเสแสร้งทำตัวน่าสงสารน่าเอ็นดูไปเรื่อย…
คนแบบนี้ คนนิสัยแบบนี้ ถ้าจะบอกว่าเธอจิตใจดีมีเมตตา ถึงขั้นบอกว่าตัวเองก่อตั้งเดอะ แองเจิล เฮ้าส์ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นบุคคลสาธารณะด้วยจำนวนเงินมหาศาล ฉันคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อมากๆ”
ทันใดนั้นหลินเยียนยกนิ้วโป้งให้หลิงเย่ว์ ยอมรับความเก่งในตัวเธอจริงๆ
มีเบาะแสแค่นี้ก็วิเคราะห์ออกมาได้เป็นเรื่องเป็นราว ช่างไม่ธรรมดาเอาซะเลย