ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 695 แฟน ตอนที่ 696 สมองเพี้ยนแล้วหรือเปล่า
ตอนที่ 695 แฟน?
หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน หลินเยียนถึงจะได้สติคืนกลับมา หัวสมองยังคงมึนงงอยู่บ้าง
“คุณเผย เดี๋ยวก่อนค่ะ…ที่ฉันมาหาคุณ เพราะมีเรื่องอยากจะหารือกับคุณนิดหน่อยค่ะ” หลินเยียนมองเผยอวี้เฉิงพร้อมเอ่ยปากพูดเบาๆ
เผยอวี้เฉิงมีท่าทีครุ่นคิด จากนั้นก็ปล่อยหลินเยียนทันที “เรื่องเผยอวี่ถังกับทีมรถแข่งของเขางั้นเหรอ”
พอได้ยินหลินเยียนก็ส่ายหน้า ใครจะมีเวลาไปสนใจการอยู่รอดของเผยอวี่ถังกับทีมรถแข่งของเขากันล่ะ
“คุณเผยคะ เป็นเรื่องของ…ซิงเฉิน” หลินเยียนเอ่ยปากเลียบเคียง
เมื่อหลินเยียนพูดจบ ดวงตาเผยอวี้เฉิงปราศจากการกระเพื่อมไหวใดๆ ประหนึ่งว่าไม่ได้รู้สึกแปลกใจต่อสิ่งที่หลินเยียนพูดมา
“พี่อวี้…”
หลินเยียนยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เสียงของซิงเฉินก็ดังอยู่ข้างนอก
“เข้ามา” เผยอวี้เฉิงเอ่ยปากพูดเรียบๆ
วินาทีต่อมาซิงเฉินก็นำชายหนุ่มหญิงสาวหลายคนเดินเข้ามาในห้องหนังสือ
ชายหนุ่มหญิงสาวจำนวนหลายคนที่ซิงเฉินพามานั้นแต่ละคนต่างมีท่าทางเย่อหยิ่ง แววตาฉายแววหยิ่งผยองออกมาให้เห็น
คนเหล่านี้หลินเยียนรู้สึกไม่คุ้นหน้าอย่างยิ่ง เหมือนก่อนหน้านี้จะไม่เคยเห็นมาก่อน
“พี่อวี้ พวกเรามาแล้วครับ”
ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้ามองเผยอวี้เฉิงพร้อมกล่าวระคนหัวเราะเบาๆ
“พี่อวี้ ไม่ได้เจอกันนานเลย” อีกคนเอ่ย
ขณะนี้เผยอวี้เฉิงกวาดตามองคนเหล่านี้แวบหนึ่ง ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร
“พี่อวี้ ครั้งนี้คุณหนูหรงให้พวกเรามา คุณหนูหรงเป็นห่วงพี่อวี้มาก และคิดถึงพี่อวี้มากเช่นกัน แถมยังให้พวกเราบอกพี่อวี้โดยเฉพาะ หากพี่อวี้ยังไม่ไปเยี่ยมเธออีก เธอจะมาหาพี่เองนะครับ” ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้ากล่าวกับเผยอวี้เฉิง
เมื่อได้ยินหลินเยียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
คุณหนูหรง…นี่มันใครอีกล่ะ แล้วมีที่มาที่ไปยังไง
ก่อนหน้านี้เดมอนก็ทำให้เธองุนงงแล้ว คราวนี้ยังจะมีคุณหนูหรงเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่งอีก
มิหนำซ้ำฟังจากน้ำเสียงของคนพวกนี้ เหมือนว่าคุณหนูหรงคนนี้กับเผยอวี้เฉิงจะสนิทสนมกันมากๆ แถมความสัมพันธ์ก็ไม่ธรรมดามากอีกด้วย
“เดี๋ยวนะคะ พี่อวี้ คนนี้คือ?”
สายตาของหญิงสาวชุดแดงคนหนึ่งพลันไปอยู่ที่ร่างหลินเยียน ดวงตาผุดประกายเย็นเยียบ
ทำไมผู้หญิงคนนี้สนิทสนมกับเผยอวี้เฉิงมากขนาดนี้?
“พี่สวีเหยา เธอคือแฟนของพี่อวี้ครับ” ซิงเฉินซึ่งเงียบงันอยู่นานด้านข้างเอ่ยปากพูดขึ้นมา
“ฟะ…แฟน?”
เมื่อได้ยินคำพูดของซิงเฉิน หญิงสาวที่ซิงเฉินเรียกว่าสวีเหยาก็อึ้งไปทันที
สวีเหยาสบตาหลินเยียนโดยพลัน
หลินเยียนรับรู้การดูแคลนและการเย้ยหยันภายในดวงตาหญิงสาวได้อย่างชัดเจน
“อย่างนี้นี่เอง”
อย่างไรก็ตามสวีเหยาไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ทำเพียงยิ้มและผงกศีรษะเท่านั้น
หลินเยียนลอบขมวดคิ้ว คนพวกนี้มันอะไรกันแน่นะ
ไม่ใช่แค่ผู้หญิงคนนี้ พอชายหนุ่มหญิงสาวที่ซิงเฉินพามาเหล่านี้ได้ยินว่าเธอคือแฟนของเผยอวี้เฉิงก็เหมือนจะมีประกายแห่งการดูแคลนและการเย้ยหยันฉายวาบขึ้นมาในดวงตาเช่นเดียวกัน
และการเย้ยหยันนี้พวกเขาไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน เพียงแต่ผุดขึ้นยามมองหลินเยียนเท่านั้น
ซิงเฉินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วส่งข้อความหาหลินเยียนอย่างเงียบๆ ทันที พร้อมส่งสายตาให้หลินเยียนอ่านข้อความ
หลังจากได้รับสัญญาณบอกใบ้ หลินเยียนจึงแอบหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วอ่านข้อความของซิงเฉิน
ในสถานการณ์แบบนี้ หรือต่อหน้าคนพวกนี้ ซิงเฉินไม่ค่อยสะดวกที่จะอธิบายอะไรต่อหลินเยียน ดังนั้นจึงได้แต่แอบเตือนเท่านั้น
เด็กน้อยที่ชอบอมยิ้ม : [คุณหลินครับ คนพวกนี้เป็นคนสนิทของคุณหนูหรง คุณหนูหรงกับพี่อวี้เติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก สนิทสนมกันอย่างยิ่ง นอกจากนี้เบื้องหลังยังสลับซับซ้อนมาก ยากจะอธิบายให้ชัดเจนภายในไม่กี่ประโยค คนพวกนี้ไม่ค่อยให้ความสนใจคุณหลินเยียนสักเท่าไหร่ คุณหลินไม่ต้องใส่ใจ และไม่ต้องสนใจพวกเขานะครับ]
ตอนที่ 696 สมองเพี้ยนแล้วหรือเปล่า
เมื่ออ่านข้อความของซิงเฉินจบ ขณะที่หลินเยียนกำลังจะตอบกลับไป ฟากซิงเฉินก็ส่งมาอีกข้อความหนึ่ง “คุณหลิน ที่จริงมีเรื่องบางอย่างที่ยากจะอธิบายให้ชัดเจน
นอกจากนี้ตระกูลเผยสลับซับซ้อนมาก สลับซับซ้อนมากๆ จริงๆ กระทั่งว่าแม้แต่พี่อวี้เองบางครั้งก็ยังยากจะถอนตัวออกมาจากความวุ่นวายภายในตระกูลเผยได้
ส่วนคุณหนูหรงเป็นคนที่สำคัญมากคนหนึ่ง ถ้าหาก…คนพวกนี้สร้างความลำบากให้คุณหลิน ถ้าทนได้…ก็ทนไปสักหน่อยนะครับ เรื่องนี้ไม่ใช่เกี่ยวพันถึงพี่อวี้เท่านั้น ยังมีคุณพ่อของพี่อวี้อีกด้วย”
หลินเยียน “…”
ที่ผ่านหลินเยียนไม่ได้คิดซับซ้อนมากขนาดนั้น และไม่ได้ลึกซึ้งมากขนาดนั้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเกี่ยวกับตระกูลเผยก็ดี หรือเผยอวี้เฉิงก็ช่าง
อย่างไรก็ตามวันนี้หลังจากวิเคราะห์คนพวกนี้ รวมทั้งข้อความที่ซิงเฉินส่งมาหาเธอ บางทีสิ่งที่เธอคิดมาก่อนหน้านี้ทั้งหมดอาจผิดอย่างมหันต์ก็เป็นได้
บางทีอาจเป็นอย่างที่ซิงเฉินว่าไว้ตระกูลเผยเป็นปลักโคลนที่มองไม่เห็นก้น และบางทีแม้แต่คนอย่าง เผยอวี้เฉิงเองก็ยังไม่อาจถอนตัวออกมาโดยง่าย
อย่างนั้น…เดมอนคนลึกลับที่ถูกพูดถึงในโทรศัพท์ระหว่างการสนทนากับซิงเฉินมีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลเผยบ้างหรือเปล่า
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้หลินเยียนประหลาดใจมากที่สุดก็คือความหมายแฝงที่อยู่ในข้อความของซิงเฉิน
คล้ายกับว่าแม้แต่เผยอวี้เฉิงเองก็ยังต้องไว้หน้าคุณหนูหรงอะไรนั่นอยู่หลายส่วน
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีคุณพ่อของพวกเผยอวี้เฉิงกับเผยอวี่ถังอีก ราวกับว่าอยู่ในปลักโคลนนี้เช่นเดียวกัน
“จริงสิ พี่อวี้ คุณหนูหรงให้ผมถามพี่ว่าหลิงเย่ว์คนนั้นยังคงรับโทษอยู่ใช่รึเปล่าครับ” ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้ามองเผยอวี้เฉิงพร้อมเอ่ยถาม
เมื่อชายหนุ่มพูดจบ หลินเยียนก็ขมวดคิ้วทันที
หลิงเย่ว์? เกี่ยวข้องกับคุณหนูหรงคนนั้นด้วยเหรอเนี่ย
“ความผิดของเธอก็ต้องแบกรับไว้ด้วยตัวเอง” เผยอวี้เฉิงตอบเรียบๆ
“อืม พี่อวี้ อันที่จริงก็ไม่ได้มีเจตนาอื่นหรอกนะคะ คุณหนูหรงเป็นคนให้ฉันถามเอง เพราะถึงยังไงนังสารเลวที่ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือนั่นก็ทำให้คุณหนูหรงไม่พอใจเสียขนาดนี้ สมควรไม่ตายดีอยู่แล้วล่ะค่ะ แน่นอนว่านังสารเลวนั่นทำให้คุณหนูหรงไม่พอใจก็เท่ากับทำให้พี่อวี้ไม่พอใจด้วย” สวีเหยากล่าวระคนหัวเราะเบาๆ กลับพูดตามมารยาทเสียหมดจดงดงามขนาดนี้ได้
หลินเยียน “…”
ข้อมูลที่หลินเยียนได้รับมานั้นช่างมากมายเสียเหลือเกิน จนถึงขั้นที่ว่าสมองของเธอใกล้จะช็อตแล้ว
หมายความว่าที่ผ่านมาผู้หญิงที่ชื่อหลิงเย่ว์คนนั้นไม่ได้ทำให้เผยอวี้เฉิงไม่พอใจหรือว่าทำผิดอะไรร้ายแรงถึงได้ถูกลงโทษ แต่เพราะทำให้คุณหนูหรงคนนั้นไม่พอใจล้วนๆ
ตอนนี้หลินเยียนรู้สึกสงสัยใคร่รู้อย่างยิ่ง คุณหนูหรงที่คนเหล่านี้พูดถึงนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ มีอำนาจล้นฟ้ามากแค่ไหน ถึงทำให้เผยอวี้เฉิงทำจนถึงขั้นนี้ได้
แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือคุณหนูหรงกับเผยอวี้เฉิงมีความสัมพันธ์อะไรกัน
นิ้วมือของเผยอวี้เฉิงเคาะโต๊ะหนังสือเบาๆ อย่างไรก็ตามเผยอวี้เฉิงยังไม่ทันจะได้เอ่ยปาก ซิงเฉินที่อยู่ด้านข้างกลับอดส่งเสียงพูดออกมาไม่ได้อีกครั้งหนึ่ง “พี่อวี้…ผมรู้ว่าตอนนั้นเสี่ยวเย่ว์ทำให้คุณหนูหรงไม่พอใจ เป็นเธอที่ทำไม่ถูก
แต่นิสัยของเสี่ยวเย่ว์ก็เป็นแบบนี้ ปากตรงกับใจ แต่ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรทั้งนั้น นอกจากนี้เธอก็ได้รับการลงโทษไปมากมายแล้ว พี่อวี้ น่าจะพอได้แล้วล่ะครับ…”
เมื่อซิงเฉินพูดจบ ภายในห้องหนังสือก็เงียบสงัดไปทันที
หลินเยียนจ้องมองซิงเฉินด้วยสีหน้างุนงง
ซิงเฉินคนนี้สมองเพี้ยนไปแล้วหรือเปล่า
มาพูดจาแบบนี้ในสถานการณ์แบบนี้ ต่อให้อยากจะพูด นั่นก็ต้องพูดกับเผยอวี้เฉิงเป็นการส่วนตัวสิ!
ว่ากันว่าความเป็นห่วงทำให้จิตใจสับสน คำพูดนี้กลับไม่ผิดเลยสักนิด
ก่อนหน้านี้ซิงเฉินยังส่งข้อความหาเธอเพื่อเตือนสติเธออยู่เลย แต่พอพูดถึงหลิงเย่ว์ ซิงเฉินกลับกลายเป็นคนโง่ภายในชั่วพริบตา