ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 691 นายอยากจะไปอยู่กับเธอ ตอนที่ 692 ไม่อาจสั่นคลอน
ตอนที่ 691 นายอยากจะไปอยู่กับเธอ?
เมื่อซิงเฉินจากไปแล้ว เจ้าแร๊กดอลล์น้อยก็กระโดดเข้าสู่อ้อมอกหลินเยียนทันที
ตอนนี้หลินเยียนกำลังจ้องมองเงาแผ่นหลังของซิงเฉิน อดรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้างไม่ได้
ดูจากสีหน้าซิงเฉินเหมือนจะไม่ค่อยดี
ซิงเฉินคงไม่ได้กำลังโทษเธออยู่นะ…
ตอนแรกหลินเยียนรับปากซิงเฉินจะไปขอร้องเผยอวี้เฉิงให้เพื่อนของเขา แต่เผยอวี้เฉิงมีท่าทียืนกรานอย่างยิ่ง เธอไม่มีวิธีการอะไรดีๆ เลยจริงๆ
“เยาฉานวั่นก้วน กลับมา!”
จู่ๆ กงสี่ฟาไฉก็วิ่งออกมาจากห้อง
พอเยาฉานวั่นก้วนเห็นกงสี่ฟาไฉก็เหมือนจะมีอารมณ์พลุ่งพล่านอยู่บ้าง ดิ้นหลุดออกจากอ้อมอกหลินเยียนทันที จากนั้นก็ไล่ตามกงสี่ฟาไฉไป
นิสัยของแมวสองตัวนี้ยังพอใช้ได้ ไม่มีทางวิ่งออกไปนอกคฤหาสน์ อยู่ในจำพวกไม่ต้องมีสายจูงก็เดินเล่นได้ตามใจชอบ
หลินเยียนไม่ห่วงว่าเยาฉานวั่นก้วนกับกงสี่ฟาไฉจะวิ่งหนีหาย เพียงแต่เจ้าแมวสองตัวนี้ดันกัดกันไปจนถึงหน้าประตูห้องหนังสือเผยอวี้เฉิง
ด้วยความจนใจ หลินเยียนจึงได้แต่ไล่ตามไปและขวางเยาฉานวั่นก้วนกับกงสี่ฟาไฉที่ห้องหนังสือตรงหน้าประตู
หลินเยียนอุ้มเยาฉานวั่นก้วนกับกงสี่ฟาไฉไว้ในอกข้างละตัวทันที
แมวสองตัวนี้ต่างถลึงตาใส่กันอยู่ในอ้อมอกหลินเยียน ส่งเสียงขู่แฮ่ๆ ออกมาจากปาก
ขณะที่หลินเยียนกำลังจะจากไปกลับได้ยินเสียงทะเลาะจากด้านในห้องหนังสือจากตรงประตู
“ซิงเฉิน นายพอได้แล้วนะ…พี่อวี้ทำแบบนี้ย่อมมีเหตุผลของเขา หลิงเย่ว์ทำผิดก็สมควรได้รับโทษที่ควรได้รับ ทำไมนายต้องดื้อรั้นขนาดนี้ด้วย!”
เสียงของฉินฮวนดังมาจากในห้อง
“เพราะเรื่องของผู้หญิงคนนั้นอีกเหรอ…”
หลินเยียนที่หลบอยู่ใต้หน้าต่างพูดพึมพำ
ผู้หญิงที่ชื่อหลิงเย่ว์คนนี้เหมือนจะสนิทกับซิงเฉินมาก น่าจะเป็นลูกน้องเผยอวี้เฉิง แต่ไม่รู้ว่าทำผิดเรื่องอะไร และถูกลงโทษอย่างไร
“พี่อวี้…ขอเพียงเสี่ยวเย่ว์กลับมาได้ จะให้ผมทำอะไรก็ยินดี พี่อวี้ ให้โอกาสเสี่ยวเย่ว์ ให้โอกาสผมได้หรือเปล่าครับ”
ภายในห้อง เสียงของซิงเฉินร้อนรนอย่างยิ่ง
เมื่อซิงเฉินพูดจบ เผยอวี้เฉิงกับหัวเราะอย่างเย็นชา
“นายกำลังพูดกับใครอยู่”
เสียงเผยอวี้เฉิงดังขึ้นมา
“พี่อวี้…”
“ไสหัวไป” เผยอวี้เฉิงเอ่ยปากพูดอย่างเฉยชา “หรือนายอยากจะไปอยู่กับเธอ”
“พี่อวี้ ผมรู้แล้ว ขอโทษครับ”
สุดท้ายซิงเฉินก็ก้มหน้าออกไปจากห้องหนังสือ
เมื่อเห็นท่าทางหดหู่ของซิงเฉิน หลินเยียนกลับรู้สึกทนไม่ได้อยู่บ้าง
ไม่ว่าอย่างไรตอนแรกที่มาถึงคฤหาสน์เมฆ ซิงเฉินค่อนข้างดูแลเธอดีพอสมควร
เพียงแต่น่าเสียดายที่หลินเยียนช่วยอะไรซิงเฉินไม่ได้ ความสามารถของเธอมีจำกัดมาก
ที่จริงแล้วหลินเยียนรู้สึกสงสัยใคร่รู้หญิงสาวที่ชื่อหลิงเย่ว์ที่ซิงเฉินพูดถึงคนนั้นมาก ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรกันแน่ ถึงทำให้คนอย่างเผยอวี้เฉิงมีน้ำโหได้มากขนาดนี้
ต่อให้หลินเยียนอยากจะช่วยซิงเฉิน แต่ก็ต้องรู้ต้นสายปลายเหตุถึงจะช่วยได้ เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วจะไปพูดเรื่องนี้กับเผยอวี้เฉิงได้อย่างไรกัน
หลินเยียนลุกขึ้นและตามซิงเฉินไปทันที คิดจะถามต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ให้ชัดเจน
หลังจากไปจากห้องหนังสือได้สักช่วงระยะหนึ่ง ขณะที่หลินเยียนกำลังจะเอ่ยปากเรียกให้ซิงเฉินหยุด เสียงโทรศัพท์มือถือของซิงเฉินก็ดังขึ้นมา
ซิงเฉินเหลือบมองสายที่โทรมาแวบหนึ่งทันที จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปโดยพลัน
ซิงเฉินมองสำรวจรอบด้านแทบจะโดยอัตโนมัติ ถึงกระนั้นกลับมองไม่เห็นหลินเยียนที่ตามอยู่ข้างหลัง
ไม่นานนักซิงเฉินก็เดินไปถึงหัวมุมที่ค่อนข้างห่างไกลแห่งหนึ่งของคฤหาสน์ จากนั้นก็รับสาย
“ผมหวังว่าคุณจะรู้ตัวบ้าง วันหลังอย่ารบกวนผมอีก” ซิงเฉินมีสีหน้าไม่ดี ทั้งยังกดเสียงลงอีกด้วย
“เหอะ…ซิงเฉิน อย่าต่อต้านขนาดนั้นสิ นายติดตามอยู่ข้างกายเผยอวี้เฉิง หลายปีนี้ได้อะไรดีๆ กลับมาบ้างไหม เรื่องของหลิงเย่ว์ นายคงไม่ลืมใช่หรือเปล่า…หืม?”
ตอนที่ 692 ไม่อาจสั่นคลอน
สีหน้าซิงเฉินเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอีกครั้งหนึ่ง แต่ปากกลับพูดออกมาว่า “นี่แกหมายความว่ายังไงกันแน่ ไม่จำเป็นต้องมาพูดเรื่องพวกนี้กับฉัน หลิงเย่ว์ทำความผิดครั้งใหญ่ ไม่ว่ายังไงก็เพราะเธอหาเรื่องใส่ตัว แกไม่ต้องมาสร้างความแตกแยกระหว่างฉันกับพี่อวี้ ฉันว่าแกอย่ามาทำเรื่องไร้ประโยชน์พวกนี้เลยจะดีกว่า นอกจากนี้สถานะของพี่อวี้ไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างพวกแกจะมาสั่นคลอนได้ เข้าใจรึเปล่า!”
“เหอะ ซิงเฉิน เสียทีที่พวกเราคิดว่าในบรรดาคนที่ติดตามเผยอวี้เฉิงพวกนี้ถือว่าแกมีสมองมากที่สุดแล้ว ดูท่าพวกเราคงมองคนผิดไป”
“หมายความว่ายังไง” ซิงเฉินขมวดคิ้วมุ่น
“แกพูดไม่ผิด ไม่มีทางสั่นคลอนสถานะของเผยอวี้เฉิงได้จริงๆ…แต่ถ้าหากเพิ่มคุณชายเดมอนเข้าไปล่ะ”
“แกว่าอะไรนะ…เดมอน?” ดวงตาซิงเฉินฉายประกายเย็นยะเยือก
“ว่ายังไง ตอนนี้ยังจะสนใจรึเปล่า ขอเพียงแกรับปากว่าจะร่วมมือกับพวกเรา เรื่องหลิงเย่ว์พวกเราย่อมมีวิธีเอาเธอคืนให้แกแน่ มิหนำซ้ำสถานะในวันหน้าก็จะสูงขึ้นอีกด้วย ฉันไม่ได้ล้อแกเล่นอีก”
ซิงเฉินอับจนคำพูด หลังจากเงียบงันอยู่ครู่หนึ่งถึงพูดด้วยเสียงเย็นชา “อย่าให้ฉันพูดรอบที่สอง…ฉันไม่มีวันหักหลังพี่อวี้ หลิงเย่ว์เธอหาเรื่องใส่ตัวเอง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามคำสั่งของพี่อวี้ ส่วนพวกแกไม่ว่าจะมีเดมอนสนับสนุนพวกแกหรือเปล่า ทางที่ดีที่สุดคืออย่ามาตอแยฉัน ไม่อย่างงั้น…ก็รับผิดชอบผลเอาเองนะ!”
ซิงเฉินพูดจบก็วางสายทันที เหมือนไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายได้พูดต่อไป
ซิงเฉินวางสาย เหลียวมองรอบด้าน จากนั้นก็ไปจากที่นี่โดยไม่หันหน้ากลับมาอีกทันที
เมื่อซิงเฉินไปแล้ว หลินเยียนซึ่งหลบอยู่ ณ สถานที่หนึ่งถึงจะอุ้มกงสี่ฟาไฉกับเยาฉานวั่นก้วนเดินออกมา
หลินเยียนในตอนนี้มีสีหน้างุนงง เมื่อกี้เธอได้ยินอะไร
ถึงแม้ไม่รู้ว่าซิงเฉินกำลังคุยกับใครอยู่ และไม่รู้ว่าปลายสายนั้นพูดว่าอะไร แต่คำพูดของซิงเฉิน หลินเยียนกลับไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว ได้ยินทุกอย่าง
อย่างน้อยหลินเยียนก็พอเดาได้คร่าวๆ จากคำพูดของซิงเฉิน
คำพูดที่ซิงเฉินพูดมากที่สุดก็คือเขาไม่มีวันหักหลังเผยอวี้เฉิง นอกจากนี้การกระทำของหลิงเย่ว์คือหาเรื่องใส่ตัว…
หลินเยียนไม่ได้โง่ จากหลายประโยคนี้ก็พอจะเดาเจตนาของทางปลายสายได้
ถ้าหลินเยียนเดาไม่ผิด เมื่อครู่ซิงเฉินน่าจะคุยกับคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามเผยอวี้เฉิง มิหนำซ้ำฝ่ายตรงข้ามยังดึงตัว คิดจะให้ซิงเฉินไปจากเผยอวี้เฉิง กระทั่งถึงขั้นให้หักหลังเผยอวี้เฉิงอีกด้วย ส่วนเบี้ยต่อรองก็คงเป็น หลิงเย่ว์
อันที่จริงหลินเยียนไม่รู้สายสัมพันธ์ระหว่างเผยอวี้เฉิงกับตระกูลเผย กระทั่งพูดได้ว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลยทั้งสิ้น
ทว่าดูจากการคุยของซิงเฉินในวันนี้ น่าจะไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เธอเคยคิดไว้ก่อนหน้านี้
อีกอย่าง ก่อนหน้านี้ซิงเฉินพูดชื่อหนึ่งขึ้นมา และพอพูดถึงชื่อนั้นสีหน้าก็เริ่มผิดปกติไปเล็กน้อย
“เดมอน…” หลินเยียนพึมพำ
หลินเยียนไม่รู้ว่าเดมอนคือใคร และไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่น่าจะเกี่ยวข้องกับเผยอวี้เฉิงอยู่บ้าง
ตอนนี้มีเรื่องหนึ่งที่หลินเยียนมั่นใจได้
ซิงเฉินไม่รู้ว่าเธออยู่ด้วย นอกจากนี้ที่ซิงเฉินพูดว่าไม่มีวันหักหลังเผยอวี้เฉิงนั้นก็น่าจะมาจากใจจริง ถ้าหากซิงเฉินรู้ว่าเธออยู่ด้วย อย่างนั้นซิงเฉินก็ไม่จำเป็นต้องรับสายเมื่อครู่นี้ ตัดสายไปเลยก็ได้
แต่เรื่องของนิสัยคนไม่อาจทดสอบกันอย่างง่ายๆ จริงๆ
หลินเยียนเชื่อว่าซิงเฉินในตอนนี้ไม่คิดที่จะหักหลังเผยอวี้เฉิงจริง
แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามตามตื๊อไม่เลิก? หรือเอาหลิงเย่ว์มาเป็นเบี้ยต่อรองล่ะ…