ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่ - ตอนที่ 82 3 เก็บน้ำผึ้งและผลที่ได้ Part 3
- Home
- All Mangas
- ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่
- ตอนที่ 82 3 เก็บน้ำผึ้งและผลที่ได้ Part 3
“เอาล่ะ โลเรียจัง เรามีเหตุเกิดขึ้นนิดหน่อยแล้วนะ”
“ค่ะ เป็นเหตุน่าเศร้าด้วย”
โลเรียจังมีสีหน้าอมทุกข์เลยล่ะ
แต่ว่า ‘เหตุน่าเศร้า’ ที่ว่านั่นน่ะ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังเกิดอยู่ที่สวนหลังบ้านเราอยู่เลย
ถ้าเราสร้างสุขาอย่างง่ายเอาไว้หน้าโฟลทติ้งเต็นท์ ก็คงจะป้องกันโศกนาฏกรรมที่น่าสลดนี้ได้นะ แต่ใครจะไปคาดการณ์ได้ว่าจะมีเหตุแบบนี้เกิดขึ้นกันล่ะ? ช่วยไม่ได้หรอกเนอะ?
“บางที เอายาไปส่งให้พวกคุณอังเดรด้วยก็น่าจะดีนะ ตอนนี้พวกเขาก็อาจจะกำลังทรมานกันอยู่เลยก็ได้ ถ้าปล่อยเอาไว้ไม่ช่วยอะไรล่ะก็ ผลอาจจะเลวร้ายจนถึงชีวิตเลยก็ได้”
ได้ยินคำพูดที่พูดออกมาอย่างสบายๆ ของฉันแบบนั้น โลเรียจังก็ตกใจจนตาโตเลย
“เอ๋!? ขนาดนั้นเลยเหรอคะ? เมื่อกี้ คุณซาราสะบอกว่าไม่ต้องห่วงเรื่องจะถึงชีวิตไม่ใช่เหรอคะ…?”
“ฉันหมายถึงปริมาณของมันไม่ถึงกับเป็นพิษกับร่างกายจนถึงชีวิตเท่านั้นเอง แต่ถ้าทิ้งเอาไว้ไม่รักษา สภาพแบบนี้จะเป็นต่อเนื่องอยู่อีก 2 สัปดาห์เลย ถ้ายังรักษาระดับของน้ำและสารอาหารในร่างกายเอาไว้ได้ อาการก็จะยังทรงตัวอยู่ แต่เรื่องนั้นก็ค่อนข้างลำบากเลย แล้วถ้าโชคไม่เข้าข้างล่ะก็…”
“ร- เรื่องใหญ่แล้วนี่คะ! เออ มีโพชั่น (ยาแปรธาตุ) ใช้รักษามั้ยคะ?”
“โพชั่นที่ใช้รักษาให้หายเป็นปลิดทิ้งเลยน่ะมี แต่เรื่องที่ว่าจะใช้มั้ยมันก็เป็นอีกเรื่องนึงนะ”
ตอนที่โลเรียจังเตรียมจะรีบลุกไปที่ห้องเก็บของ ฉันก็ช่วยสงบเธอลงมาก่อน พลางคิดทบทวนเรื่องสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้อยู่พักนึง
“เอ๋! ทำไมล่ะคะ!?”
“เพราะมันแพงไงล่ะ”
“…อ่า จริงด้วย เรื่องเงิน เป็นปัจจัยสำคัญเลยนี่นา”
“อือ อุตส่าห์ลำบากตามหาน้ำผึ้งมาได้ แต่ถ้าไม่ระวัง สุดท้ายอาจจะกลายเป็นติดตัวแดงกว่าเดิมอีกก็ได้”
ฉันยังไม่ได้ตรวจสอบปริมาณของน้ำผึ้งที่ได้มาเลย แต่ถ้าเป็นโพชั่นสำหรับคน 5 คน รวมพวกคุณอังเดรด้วยแล้วเนี่ย ต่อให้จะได้กำไร มันก็ยังดูยากอยู่ดี
ถ้าเป็นสถานการณ์หน้าสิ่งหน้าขวานที่จำเป็นต้องใช้ การจะให้ใช้ก็คงทำแบบไม่ต้องลังเลแล้วล่ะ แต่อาการในตอนนี้มันไม่ได้วิกฤติขนาดนั้น พิษของน้ำผึ้งจากผึ้งผลเน่าไม่จำเป็นต้องใช้การรักษาระดับนั้นก็ได้
“เอาเป็นว่าคราวนี้ มาทำยาแก้พิษแบบเฉพาะกิจก่อนแล้วกัน ราคาคุ้มค่ากว่ากันมากเลย เริ่มจาก เก็บวัตถุดิบก่อนแล้วกัน โลเรียจัง ช่วยฉันหน่อยได้มั้ย?”
“ได้เลยค่ะ! ถ้าเป็นอะไรก็ตามที่ฉันพอช่วยได้!”
ฉันหยิบอุปกรณ์สำหรับเก็บรวบรวมมา เดินตรงไปที่ป่าจากประตูหลังร้านพร้อมกับโลเรียจังที่พยักหน้าตกลงอย่างทันทีทันใด แต่ฉันก็หยุดเท้าตัวเองไว้ก่อนกลางทาง ก่อนที่จะกลับหลังหัน ไปเดินออกจากร้านทางประตูด้านข้างของส่วนหน้าร้านแทน
ฉันเดินผ่านไปทางด้านข้างบ้าน เอามือขึ้นมาอุดหูเพื่อไม่ให้ได้ยิน [เสียงทรมานแสนสาหัส] ของคุณไอริส แล้วก็มุ่งหน้าเข้าป่าที่อยู่หลังร้าน
“วัตถุดิบที่จะใช้ทำโพชั่นนี้น่ะหาได้ค่อนข้างง่ายเลย ถ้าขุดรื้อกองใบไม้สุมๆ ในป่าดู… โอ้ เจอแล้ว ตัวจะเล็กๆ หน่อย แมลงตัวนี้แหละ ช่วยหาให้ฉันหน่อยนะ?”
สิ่งที่ฉันขุดขึ้นมาจากพื้นแล้วโยนเข้าไปในกล่องก็คือหนอนดักแด้สีเขียวอ่อนตัวประมาณ 1 เซนติเมตร
มันไม่ใช่แมลงที่หายากอะไรหรอก แต่การจะหาให้พอสำหรับคน 5 คนก็ถือเป็นเรื่องยากใช้ได้เลย
“เข้าใจแล้วค่ะ แล้วต้องใช้แค่ไหนเหรอคะ?
“ถ้าขนาดประมาณนี้ ฉันอยากใช้ประมาณ 10 ตัวต่อคน งั้น… หาเผื่อไว้ก่อนซักหน่อยก็ดี หากันให้ได้ซัก 60 ตัวก็แล้วกันนะ”
“…เจ้านี่ จะกลายเป็นยาเหรอคะ?”
ในขณะที่โลเรียจังหย่อนตัวหนอนลงไปในกล่องอย่างไม่รีรอ เธอก็ถามฉันแบบนั้นด้วยสีหน้าที่อธิบายไม่ถูก ซึ่งฉันก็พยักตอบเธอว่า “แน่นอนสิ”
“ต้นทุนวัตถุดิบของยานี้น่ะมีราคาถูกเลย แค่ต้องใช้เวลากับความพยายามเท่านั้นเอง… ฉันใช้ทางลัดซักหน่อยดีมั้ยนะ?”
“ทางลัด เหรอคะ? จะไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ? ผลของมันจะลดลง… หรืออะไรแบบนั้นหรือเปล่าคะ?”
“เปล่าๆ ในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุแล้ว ฉันไม่ตัดช่องน้อยแบบนั้นหรอก ก็แค่ว่าตัวยาจะรสชาติแย่มาก กับอายุขัยในการเก็บรักษาตัวยาจะลดลง แต่ถ้าจะดื่มมันตอนนี้เลยอยู่แล้ว เรื่องนั้นก็ไม่เป็นไรหรอก”
ถ้าปรุงวันนี้ แล้วดื่มวันนี้เลย ก็ไม่มีปัญหาอะไร
เรื่องรสชาตินี่ ฉันว่ามันคงออกมาแย่สุดๆ―――ล่ะมั้ง
ฉันไม่เคยกินมาก่อนเหมือนกัน ก็เลยไม่รู้น่ะ
“ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่เป็นไรหรอกค่ะ ก็ไม่ยอมใส่ใจคำแนะนำของคุณซาราสะกันนี่นา? ทุกคนเลย”
“อื~ม ฉันก็ไม่ได้เน้นย้ำว่า ‘ห้ามกินเด็ดขาด!’ ด้วย มันก็ออกจะต่างไปหน่อยนะ แต่ว่า… พูดอย่างง่าย ก็อาจจะเพราะขาดความรู้ความเข้าใจล่ะมั้ง? เรื่องนั้นมันก็รวมอยู่กับความรับผิดชอบของนักเก็บสะสมด้วยล่ะนะ แต่ว่าพวกเขาก็น่าสงสารอยู่ดีนะ ว่ามั้ย?”
ฉันตอบเธอพลางหันไปกลับมองที่บ้าน โลเรียจังก็ตอบกลับมาว่า “นั่นสินะคะ”
แถมในกรณีนี้ ฉันเป็นคนแนะนำทุกคนไปด้วย ฉันก็เลยรู้สึกว่าตัวเองต้องรับผิดชอบน่ะ
ฉันออกตัวว่าจะทำยาด้วย นั่นเองก็เป็นหนึ่งในสาเหตุค่ะ
ระหว่างที่คุยไปเรื่อยกับโลเรียจังด้วย เวลาก็ผ่านไป 30 นาทีแล้ว
พอเรารวมหนอนมาได้ตามที่จำเป็นแล้ว ฉันกับโลเรียจังก็รีบกลับบ้านกันทันที แล้วเริ่มเตรียมยากันเลย
ฉันใส่หนอนดักแด้ลงไปในกล่องที่เหมือนตะแกรง แล้วก็ทิ้งพวกมันเอาไว้ซักพักจนกว่ามันจะขับของเสียออกมาจนหมด
ระหว่างรอ ฉันก็เตรียมวัตถุดิบอื่นๆ เอามาบดในโกร่งบดยา
“บดเข้าไป บดเข้าไป… โลเรียจัง ช่วยมาบดเข้าพวกนี้หน่อยได้หรือเปล่า? เดี๋ยวฉันไปดูอาการของคุณไอริสกับคุณเคทก่อน”
“ได้ค่ะ วางใจได้เลยค่ะ!”
งานตรงไปตรงมาแบบนี้ มันดูเป็นส่วนงานของหมอยามากกว่าของนักเล่นแร่แปรธาตุนะ
หลังจากฝากฝังหน้าที่ให้โลเรียจังที่กระตือรือร้นไปแล้ว ฉันก็ออกไปหาคุณเคทกับคุณไอริส
คนแรกก็คือคุณเคท ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังติดอยู่ในห้องน้ำอยู่เลย
“คุณเคท เป็นยังไงบ้างคะ?”
“ก- ก็ ว่าตามตรง หนักอยู่ค่ะ รู้สึกเหมือนทุกอย่างในร่างกายมันออกมาหมดไส้หมดพุงเลย… คุณผู้จัดการคะ อาการนี่จะเป็นไปอีกนานแค่ไหนเหรอคะ?”
“ก็―ขึ้นอยู่กับความสามารถในการฟื้นตัวของระบบทางเดินอาหารกับปริมาณที่ทานเข้าไปนะคะ แต่ก็อาจจะนานประมาณ 2 สัปดาห์ได้”
“หือ―――!! ไม่ไหวค่ะ แบบนี้ตายแน่เลย…”
“พวกฉันกำลังทำยาอยู่ค่ะ อดทนเอาไว้ก่อน สำหรับตอนนี้ ขอให้รักษาระดับน้ำในร่างกายเอาไว้ก่อนนะคะ”
คุณเคทที่ตอนนี้ น้ำเสียงเธอเหมือนใกล้จะตายแล้วจริงๆ ยื่นมือสั่นๆ ออกมาจากห้องน้ำ รับเอาแก้วน้ำที่ฉันเอามาให้ไป
“ขอบคุณค่ะ คุณผู้จัดการ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะแต่ว่า ถ้าไม่รังเกียจอะไร ช่วยไปดูอาการให้ไอริสด้วยได้มั้ยคะ?”
“ค่ะ ฉันก็กะจะไปอยู่แล้ว ถึงตอนนี้ คุณไอริสอาจจะไม่อยากเจอใครเท่าไหร่ก็เถอะ”
“ถึงตอนนั้น คุณบอกไปว่า ‘สำหรับเธอที่เห็นไปจนถึงตับไตไส้พุงในท้องแล้วน่ะ จะมาพูดอะไรแบบนั้นเอาป่านนี้’ เลยก็ได้นะคะ”
“…อ่า จริงด้วยนะคะ ตอนแรกสุดที่ถูกหามเข้ามา คุณไอริสก็อยู่ในสภาพนั้นเลยนี่นา”
ฉันไม่รู้นะว่ามันช่วยความน่าอายมันเบาบางลงบ้างหรือเปล่า แต่เรื่องที่ว่าฉันเห็นคุณไอริสในสภาพที่แย่กว่าตอนนี้มาแล้วมันก็จริงนะ
อีกอย่าง จะไปบอกว่ารู้สึกอายกับบุคลากรผู้ทำการรักษามันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกนะ
“ฉันคิดว่าถึงดื่มน้ำเข้าไปก็คงออกมาอีกอยู่ดี แต่ถึงจะแค่นิดๆ หน่อยๆ ก็คอยดื่มน้ำเอาไว้นะคะ คุณเคท ตามนี้นะคะ?”
“ได้ค่ะ ขอบคุณนะค-… อุ”
ฉันอำลาคุณเคทที่เสียงอ่อยไปแล้วตอนนี้ แล้วก็เดินออกไปที่สวนหลังบ้านต่อ
ฉันยื่นหน้าออกไปดูจากขอบประตู แล้วก็… อ้อ อยู่ตรงมุมสวนนั่นไง
ขอไม่อธิบายภาพอะไรก็แล้วกันนะ ถือเป็นการรักษาหน้าตาให้คุณไอริสด้วย
“คุณไอริส เป็นยังไงบ้างคะ?”
“น- นายท่านผู้จัดการ!? อย่าเพิ่ง มาดูเลยนะคะ…”
ถึงจะว่าอย่างนั้น แต่ฉันก็ทิ้งคุณไว้ทั้งๆ แบบนี้คนเดียวไม่ได้นี่นา
เสียน้ำจากร่างกายไปมากๆ อันตรายมากเลยนะ
“ป่านนี้แล้วอาจจะสายไปหน่อย แต่ฉันเอาน้ำมาให้ ถึงจะได้แค่นิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ใช้เวลาคอยจิบไปเรื่อยๆ นะคะ”
“เป็นพระคุณยิ่งค่ะ ฮะฮะ… นายท่านผู้จัดการนี่ มาเจอฉันแต่ตอนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอายทั้งนั้นเลยนะคะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ…”
จะบอกว่ามันไม่ใช่แบบนั้นก็ไม่ได้ด้วย ซึ่งก็เพราะแบบนั้นแหละมันเลยน่าเศร้าน่ะ
ถึงยังไง ฉันก็ค่อนข้างจะชอบใจคุณไอริสอยู่นะ
ง่ายๆ เลย เพราะเธอเป็นคนดีไง
แล้วก็ในกิริยาท่าทางที่ดูมีภูมิฐาน บางครั้งก็ยังมีนิสัยขี้เล่นที่น่าดึงดูดแฝงอยู่ด้วย
หืม? หรือจะตรงข้ามกันนะ?
―――เอาเถอะ เอาเป็นว่าคนที่ดูย้อนแย้งในตัวแบบนี้น่ะน่ารักออกนะ พอได้เจอแล้วก็อดพยายามช่วยเท่าที่จะช่วยไหวไม่ได้เลย
“ตอนนี้ฉันกำลังเตรียมยาอยู่ เพราะฉะนั้น ขอให้ทนอีกซักพักนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ บุญคุณในครั้งนี้ ฉันจะต้อง―อึก! น- นายท่านผู้จัดการ! ขอโทษนะคะ! แต่ว่า―――”
“อ่า― ได้ค่ะๆ เดี๋ยวฉันกลับเข้าไปข้างในก่อน ไว้อาการสงบลงบ้างแล้วก็ขอให้เข้ามาข้างในร้านด้วยนะคะ”
“เข้าจ― อื้ออออ! ร- รีบกลับไปก่อนเถอะค―”
เพื่อจะยังรักษาศักดิ์ศรีของคุณไอริสที่กำลังอดทนอย่างสุดกำลังเอาไว้ ฉันก็รีบวิ่งกลับเข้าบ้านทางประตูหลังร้านเลย
“อ๊ะ คุณซาราสะ กลับมาแล้วเหรอค่ะ ทั้ง 2 คน?”
“อืม สภาพไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็ยังปลอดภัยนะ ส่วนเรื่องตัวหนอนนี่… ตอนนี้ก็ใช้ได้แล้วล่ะ”
ฉันล้างตัวหนอนดักแด้ในน้ำ โกยพวกมันใส่ลงในโกร่งบดยา ก่อนจะบดลงไปเสียง *กร๊วม กร๊วม*
เสียงที่ดังออกมาบูบี้เหมือนมีชีวิตนี่ทำเอาโลเรียจังทำหน้าแหวะ เบือนหน้าหนีออกไปเลย
“อื๋อ เออคือ นั่นมันยาจริงๆ ใช่มั้ยคะ?”
“แน่นอน ทำไมล่ะ?”
“แล้วมัน เป็นยากิน… จริงๆ ใช่มั้ยคะ?”
“อื้อ เป็นยาใช้ภายใน สำหรับบรรเทาอาการของกระเพาะอาหารและลำไส้น่ะ”
“ต้องดื่มจริงๆ สินะคะ? นี่น่ะ?”
โลเรียจังชี้มาที่โกร่งบดยาทั้งๆ ที่ยังเบือนหน้าหนีไม่กล้าหันมามอง ซึ่งในนั้นก็มีของเหลวสีเขียวเข้ม… ไม่สิ เป็นสีน้ำตาลที่ใกล้เคียงกับใบชาเผามากกว่า
TN: 焦げ茶 (kogecha) คือชาเผาหรือชาคั่ว สามารถใช้เพื่ออธิบายรสชาติหรือกลิ่นชาที่ได้รับการปิ้งหรือเผาในระหว่างกระบวนการผลิต ในที่นี้ จะเป็นการบรรยายถึงสีน้ำตาลเข้มแบบในรูปนี้ครับ
ดูข้นมากเลย… ฉันเติมน้ำลงไปซักหน่อยแล้วกัน น่าจะดีขึ้นบ้างแล้วนะ…
“ไม่อยากดื่มยานี่เลยแฮะ โลเรียจัง ลองชิมหน่อยมั้ย?”
“ไม่เอาค่ะ! นี่ถ้าคุณซาราสะไม่เร่งใช้ทางลัดมาแบบนี้ มันก็อาจจะออกมาดีกว่านี้หรือเปล่าคะ?”
“ก็จริงนะ ฉันไม่จำเป็นต้องใส่ตัวหนอนดักแด้ลงไปทั้งตัวก็ได้ แต่ว่า การชำแหละหนอนดักแด้ที่ตัวเล็กกว่า 1 เซนติเมตร แยกเอามาแต่ส่วนที่จำเป็น… แบบนั้นไม่ฟังดูเป็นงานช้างเลยเหรอ?”
“อือ ดูเป็นงานหยะแหยงจังเลยนะคะนั่นน่ะ”
แล้วนี่มันตั้ง 60 ตัวเลยนะ ฉันทนทำขนาดนั้นไม่ไหวหรอก
“ต่อให้ใส่หนอนดักแด้ลงไปทั้งตัว ฤทธิ์ของยาก็ไม่เปลี่ยนแปลงหรอกน้า~ จากนั้นก็เติมน้ำ ใส่ลงในหม้อเล่นแร่…”
เติมน้ำลงไปในโกร่งบดยาปริมาณนิดๆ เพื่อให้เนื้อยาเจือจางลงไปบ้าง แล้วก็ถ่ายตัวยาจากโกร่งบดยามาใส่ในหม้อเล่นแร่ขนาดเล็ก กวนเบาๆ ไปด้วย พลางใส่พลังเวทลงไปด้วย…
“ยา เสร็จ・แล้ว! รับประกันทั้งผลลัพธ์การรักษา ทั้งรสชาติอันไม่น่าอภิรมย์เลยล่ะ!!”
“อืม ถึงฉันว่า ไม่จำเป็นต้องรับประกันตรงท่อนหลังนั่นก็ได้นะคะ”
ฉันชูหม้อเล่นแร่ขึ้นมาพร้อมกับยิ้มกว้าง ส่วนโลเรียจังก็ตอบฉันกลับมาด้วยสีหน้าที่ดูเหนื่อยใจนิดๆ
TN: ยานี่… เอาไว้แก้ปวดท้องแน่นะ…? ดูแล้วเหมือนกินเข้าไปแล้วอาการจะหนักกว่าเดิมยังไงไม่รู้…
แถมฉากจากในมังงะเพิ่มอรรถรสในการอ่านอีกนิดนะครับ ^^
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r