ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่ - ตอนที่ 58 2 สินค้าใหม่และคู่แข่งทางการค้า Part 4
- Home
- All Mangas
- ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่
- ตอนที่ 58 2 สินค้าใหม่และคู่แข่งทางการค้า Part 4
หลังจากนั้น ฉันก็ไปคุยกับคุณผู้ใหญ่บ้าน―――ไม่สิ ให้ถูกกว่าคือ คุณเอรินเนอะ?―――ที่บ้านของพวกเขาอยู่อีกซักพัก
เรื่องหมวกเย็นฉ่ำนี่เป็นไปได้ค่อนข้างฉลุยเลยล่ะ
แต่ว่า มันก็ไม่ได้ราบรื่นมาตั้งแต่ต้นหรอกนะ
อาจจะเพราะมันไม่ได้เงินทันทีที่ส่งของมาก็ได้ หรือไม่ คนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจระบบการทำงานของมันเท่าไหร่ เพราะงั้นคนกลุ่มแรกที่ส่งของมาให้ฉันก็เลยมีแต่คนที่ฉันรู้จักหมดเลย
ถ้าให้เจาะจงเลยก็ มีคุณเอริน คุณแมรี่ที่ร้านขายของชำ คุณจิเมนะที่ร้านตีเหล็ก แล้วก็คุณเอลลิสที่อยู่บ้านข้างๆ เท่านั้นเอง
อาจจะต้องบอกว่าเป็นคนที่มีเงินสำรองอยู่แล้วระดับนึง หรือคนที่ไว้ใจฉันน่าจะดีกว่ามั้ง?
แต่ เรื่องพวกนั้นมันก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นแหละ
ด้วยการแนะนำของคุณเอริน พวกคุณแมรี่ก็ช่วยกันกระจายข่าวลือเรื่องที่สามารถทำเงินได้ออกไปอีก แล้วชาวบ้านคนอื่นๆ ก็เริ่มทำหมวกกันด้วยเหมือนกัน
คุณภาพของหมวกก็ดีด้วยนะ ตอนแรกฉันคิดว่าการตีราคามันอาจจะยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ตอนนี้น่ะ หมวกที่ดีเลยก็ได้ราคาดี ส่วนหมวกที่แย่หน่อยก็ได้ราคาถูกไปนะ
คุณดาร์นาเองก็มาซื้อหมวกเย็นฉ่ำกลับไปที่บ้านด้วยนะ แล้วก็เอาไปขายต่อที่เซาว์ท สแตรก ตอนนี้ นอกจากอาหารกับข้าวของเครื่องใช้ที่มีขายที่ร้านแล้วเนี่ย ก็มีผ้าสำหรับตัดทำหมวกมาขายด้วยแล้วล่ะ
มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลกำไรของฉันซะทีเดียวหรอก… ก็นะ ฉันมองผลในระยะยาวนี่นา
มันไม่มีปัญหาอยู่แล้วล่ะ ขอแค่ผลลัพธ์ออกมาไม่ติดลบก็พอยังไงหล้า!
―――คือ ฉันก็คิดอยู่แบบนั้นล่ะนะ
มันมีปัญหาเกิดขึ้นน่ะสิ
วันนั้น เพราะอะไรไม่รู้ โลเรียจังถึงมาที่ร้านโดยที่สวมกระชอนอยู่บนหัวด้วย
“คุณซาราสะ! เจ้านี่! ชิ้นนี้ดูเป็นไงบ้างคะ?”
มันดูแน่นกว่ากระชอนทั่วๆ ไป แล้วก็สวมได้พอดีกับหัวของโลเรียจังพอดีเลย
บางที ฉันมองไม่ออกงั้นเหรอเนี่ย?
นี่คงไม่ใช่ว่าฉันไปปลุกความพิสดารอะไรให้ตื่นขึ้นมา… ใช่มั้ย?
“โลเรียจัง มีอะไรหรือเปล่า? กระชอนอันนั้นน่ะ”
“ม- ไม่ใช่กระชอนซักหน่อยนะคะ! ดูดีๆ สิคะ! ดูสิ!”
สีหน้ายิ้มแย้มของเธอเปลี่ยนไปเป็นสีหน้าไม่พอใจทันทีเลย พอโลเรียยื่นหัวโน้มมาใกล้ฉัน พยายามให้ฉันมองกระชอนอันนั้นชัดๆ ฉันก็กุมไหล่ทั้ง 2 ข้างของเธอเอาไว้ไปด้วย
พอดูใกล้ๆ แล้ว ตัวฟางถูกสานเอาไว้ 2 ชั้น ไขว้กันเป็นกากบาทขึ้นและลง แล้วมันก็หนาด้วย
“อืม? งอบฟาง… หรือว่านี่จะเป็นหมวก?”
“ค่ะ! ฉันได้ยินจากข้อคิดเห็นของนักเก็บสะสมมา แล้วก็ลองทำดูน่ะค่ะ! สำหรับคนที่สวมหมวกเกราะอยู่บนหัวด้วย”
โลเรียจังถอดกระชอ―――อะแฮ่ม ถอดหมวกของเธอออกมา แล้วก็ยื่นให้ฉัน ฉันก็รับมาแล้วตรวจสอบดูทั้งข้างนอกข้างใน
หนาประมาณ 1 เซนติเมตร
มันถูกสานเอาไว้ 2 ชั้นเป็นอย่างดีเยี่ยมเลย ต่อให้ออกแรงกดลงไปเบาๆ ก็ไม่แตกออกมาด้วย
สำหรับคนที่สวมหมวกเกราะด้วยงั้นเหรอ… อ๋า แบบนี้เอง ช่องว่างตรงนี้สินะ
มีเอาไว้เพื่อจะทำให้อากาศผ่านมาทางนี้ได้ เพื่อให้ในหัวไม่ชื้นได้ง่ายๆ สินะ ?
แค่นี้อย่างเดียวมันก็พอแล้วล่ะนะ แต่ถ้าเกิดเปลี่ยนมันเป็นหมวกเย็นฉ่ำด้วยล่ะก็ จินตนาการได้ไม่ยากเลยล่ะว่ามันต้องเป็นข่าวดีสำหรับนักเก็บสะสมที่สวมหมวกเกราะเอาไว้ด้วยในหน้าร้อนแบบนี้น่ะ
“นี่มัน สุดยอดไปเลย…”
“เฮะเฮะเฮะ~ ใช่มั้ยล่ะคะ!? ใช่มั้ยล่ะคะ!?”
ฉันประทับใจมากจริงๆ นะ แล้วโลเรียจังเองก็ทำสีหน้าเหมือนผู้ชนะแบบที่เห็นได้ยากออกมาให้ฉันเห็นด้วย
แต่ว่า เธอสามารถภูมิใจในทั้งไอเดียการออกแบบและทักษะการสานฟางได้เลยนะ จริงๆ
สมควรกับรอยยิ้มแบบนี้แล้วล่ะ
“ปัญหามีเรื่องความคงทนนะ จะทำยังไงกับเรื่องนั้นเหรอ”
“ฉันไปยืมหมวกเกราะมาทดลองดูแล้วค่ะ ถ้าเกิดโดนกระแทกนิดๆ หน่อยๆ ตัวหมวกก็ยังไม่เป็นไร”
ดูเหมือนถ้าเกิดโดนโจมตีใส่จนได้รับความเสียหายล่ะก็ มันก็จะเปล่าประโยชน์เลยนั่นแหละ แต่ถ้าเกิดแค่ถอดเข้าถอดออกตามปกติ มันก็ไม่ได้พังง่ายๆ หรือรูของมันจะหายไปเลย
“ถ้างั้น เพิ่มการเสริมความคงทนเข้าไปด้วยเป็นตัวเลือกดีมั้ย?”
“ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอคะ?”
“อื้อ ฉันอาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มอีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
ถ้าแค่สร้างอาร์ติแฟกต์ (อุปกรณ์แปรธาตุ) ตามที่เขียนไว้ในสารานุกรมแปรธาตุเฉยๆ ก็แค่คัดลอกวงจรเวทมาง่ายๆ เลยเท่านั้นแหละ
แต่ว่า ถ้าเกิดมีการปรับแต่งล่ะก็ มันจะเป็นเรื่องยากเลย ถ้าเกิดไม่มีความเข้าใจในความหมายจริงๆ ของวงจรเวทล่ะก็นะ
มันก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วล่ะนะที่นักเล่นแร่แปรธาตุจะทำแบบนั้นได้―――แต่มันก็แค่ว่าพวกเราไม่ได้ทำแบบนั้นกันจริงๆ อยู่เป็นประจำซักหน่อย
ต่อให้ทำไม่ได้ ก็ไม่ตกหน่วยกิจอยู่ดี
ถ้าเกิดเป็นพวก ‘ฉันไม่เข้าใจอะไรเลย’ เนี่ยไม่ไหวหรอก แต่ถ้าอย่างน้อย ยังเป็นแบบ ‘ฉันจัดการเรื่องซับซ้อนแบบนี้ไม่ไหว’ เฉยๆ ก็ยังผ่านได้หน่วยกิจอยู่นะ เรื่องที่พอหยวนๆ ให้กันได้นี่ก็เพราะเรื่องความขาดแคลนของนักเล่นแร่แปรธาตุนั่นแหละ
ไหนๆ ก็พูดเรื่องนี้แล้วเนี่ย… ฉันทำได้นะ
ถ้าเกิดทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้ล่ะก็ ไม่มีทางจะได้เกรดสูงๆ หรอกนะ เพราะงั้น ฉันก็เลยต้องเรียนให้หนัก ควบคู่ไปกับการช่วยสอนของอาจารย์ด้วย
“แต่ว่า โลเรียจัง ไปได้ทักษะการเย็บการถักที่ซับซ้อนแบบนี้มาจากไหนเหรอ?”
“อ่า ฉันได้คุณยายทวดช่วยสอนให้น่ะค่ะ เอะเฮะเฮะ”
พอพูดแบบนั้น โลเรียจังก็เขินหน้าแดงเลย
อย่างนี้นี่เอง ยายทวดงั้นเหรอเนี่ย
เป็นองค์ความรู้ที่สืบทอดมาจากคนเฒ่าคนแก่งั้นสินะ?
“ฉันไม่เคยเจอท่านเลยนี่นา ท่านอาศัยอยู่ที่อื่นเหรอ?”
“ก็อยู่ที่บ้านเหมือนกันค่ะ แต่ท่านไม่ค่อยได้เดินออกมาเพราะว่าขาท่านไม่ค่อยดี อ๊ะ แต่ว่าเรื่องงานก็ไม่มีปัญหาหรอกนะคะ เพราะท่านยังทำงานโดยที่ยังนั่งอยู่ได้ ใช่มั้ยล่ะคะ? เกินครึ่งของหมวกที่คุณแม่เอามานี่ก็เป็นผลงานฝีมือคุณยายทวดค่ะ”
“อ๋า ฟังแล้วเข้าเค้าอยู่นะ…”
คุณมาเรียเองก็ต้องยุ่งเหมือนกันแน่ ฉันก็เลยคิดว่าเธอคงจะไม่มีเวลามาทำหมวกได้มากขนาดนั้น
คุณดาร์นาทำหน้าที่ขายหมวกเย็นฉ่ำ ฉันนึกว่าเธอเองก็คงต้องพยายามเต็มที่เพราะเรื่องนั้นด้วยนั่นแหละ แต่บางที คุณยายทวดของโลเรียจังเองก็คงจะช่วยคุณมาเรียด้วยล่ะมั้ง
“ต้องขอบคุณคุณซาราสะเลยนะคะ คุณยายทวดดีใจมากเลยที่ท่านสามารถทำงานหาเงินได้เองด้วย ขอบคุณมากนะคะ”
“งั้นเหรอ? แสดงว่ามันช่วยให้ท่านเห็นคุณค่าในตัวเองขึ้นมาได้ด้วยสินะ ดีจังเลย”
“ค่ะ!”
ดูแล้วโลเรียจังคงต้องรักคุณยายทวดของเธอมากแน่ๆ แล้วเธอก็ตอบฉันมาอย่างยิ้มแย้มดีใจเลย
“แล้วก็ คุณซาราสะคะ ฉันมีเรื่องอยากจะเสนอหน่อยค่ะ คือ หมวกใบนี้เนี่ย เก็บเอาไว้เป็นใบตัวอย่างได้หรือเปล่าคะ? เพราะขนาดของมันต้องใส่ให้พอดีกับหัวเลย ฉันเลยคิดว่าจะทำมันเป็นแบบสินค้าสั่งทำน่ะค่ะ…”
“อา จริงด้วยนะ อื้ม เอาแบบนั้นได้เลย”
ฉันพยักให้พร้อมกับรอยยิ้มไปให้โลเรียจังที่ดูเหมือนจะรู้สึกลำบากนิดหน่อยที่ต้องพูดออกมาแบบนั้น
ถ้าคิดว่าต้องเอาไปใส่ไว้ใต้หมวกเกราะแล้วเนี่ย มันก็เป็นเรื่องปกติเลยนะ
ต้องใช้ทั้งเวลาทั้งความพยายามเยอะกว่า เรื่องจะทำแยกขนาดเอาไว้เลยเนี่ยเป็นไปไม่ได้หรอก
“ขอบคุณมากนะคะ”
“ข้อเสียอันเดียวก็คือ นักเก็บสะสมหลายๆ คนเองก็มีหมวกเย็นฉ่ำอยู่แล้วด้วยเนี่ยสิ… หน้าใหม่เองก็มีเพิ่มขึ้นมากด้วย จะไม่เป็นปัญหาเหรอ?”
“อะ นั่นสินะคะ ช่วงนี้ก็เพิ่มขึ้นมาจริงๆ”
“อาจจะเพราะวัตถุดิบของเฮล เฟลม กริซลีกับเขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งที่ไหลเข้าไปในเมืองเซาว์ท สแตรกก็ได้นะ?”
เพราะแบบนั้นแหละ ก็เลยเป็นการยืนยันเรื่องการปราบปรามไปในตัว แล้วเขี้ยวของค้างคาวเขี้ยวน้ำแข็งที่เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากในช่วงนี้ของปีเองก็มีเพิ่มขึ้นด้วย เพราะงั้น ก็ไม่แปลกหรอกที่พวกนักเก็บสะสมที่คิดว่าจะทำเงินได้จะมารวมตัวกันน่ะ
แต่ว่านะ ฉันยังไม่เห็นพวกนักเก็บสะสมที่หนีไปตอนนั้นเลยซักคนเลย
ฉันเองก็เข้าใจความรู้สึกพวกเขาอยู่นะ ก็ไม่ได้จะตีตราบาปอะไรพวกเขาหรอกถ้าเกิดพวกเขาจะเข้ามาในฐานะลูกค้า แต่ฉันก็ยังหงุดหงิดอยู่ดี ในฐานะคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ล่ะนะ
*―――กรุ๊ง กริ๊ง*
“ขอรบกวนหน่อยนะครับ”
“อะ ยินดีต้อนรับค่า~”
ระหว่างที่ฉันกำลังคุยกับโลเรียจังอยู่ ลูกค้าคนแรกของวันนี้ก็เข้ามาในเวลาเช้าแล้วเรียบร้อย
นี่อาจจะเพราะเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอเขาเลยก็ได้มั้ง ท่าทางของเขาดูเหมือนผู้ชายสุภาพๆ อายุน่าจะประมาณ 20 นิดๆ ล่ะมั้ง?
ร่างกายของเขาดูเหมือนจะไม่ผ่านการฝึกฝนมามากขนาดนั้น แสดงว่าคงจะไม่ใช่นักเก็บสะสมสินะ แต่หน้าตาของคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้เองก็ต่างออกไปอยู่เหมือนกัน ออกจะดูแปลกอยู่เทียบกับคนแถวๆ นี้ แต่ก็…
เหมือนกับว่าเขาจะเห็นสายตาเคลือบแคลงสงสัยของฉัน เขาถึงได้โบกมือให้พร้อมอ้าปากกว้างเลย
“อา ค- คือว่า ผมชื่อเกรทส์ครับ! ลูกชายของแจสเปอร์ นายพรานที่อยู่บ้านข้างๆ นี่น่ะครับ!”
TN: อย่าไปล้อว่าเป็นกระชอนสิ!! 555