Astral Pet Store ร้านขายอสูรดวงดาว - ตอนที่ 495

ตอนที่ 495 ร่วมแรงร่วมใจ

 

“ ผมก็หวังว่า…มันจะเป็นเรื่องโกหก”เซี่ยจินชุ่ยตอบ

 

ขณะที่เขามองไปที่ฝูงชนที่โง่เขลา เซี่ยจินชุ่ยก็ไม่สามารถพูดอะไรได้มากไปกว่านี้ ผู้นำตระกูลทั้งห้าเป็นนักรบที่ดุร้ายและทรงพลัง แม้ว่าพวกเขายังไม่อาจซ่อนความกลัวไว้ได้!

 

ราชาสวรรค์ต่างโลก! นักรบอสูรกิตติมศักดิ์สั่นสะท้านเมื่อได้ยินชื่อนั้น เพราะมันเป็นคำพ้องความหมายของคำว่าหวาดกลัว! “ ราชาสวรรค์ต่างโลก?” ซูผิงมองพวกเขาด้วยความสับสน

 

เขาสังเกตเห็นว่าฉินตู้หวงรู้สึกกลัวอย่างเห็นได้ชัด นั่นอาจจะไม่ดี

 

คนอื่น ๆ ถูกดึงกลับสู่ความเป็นจริงด้วยคำพูดของซูผิง ความกลัวของพวกเขาหายไปเล็กน้อยเมื่อพวกเขาหันไปมองซูผิง แต่จิตใจของพวกเขายังคงขุ่นมัว

 

“คุณซู คุณไม่รู้เหรอ”

 

มู่เป่ยไห่ไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้ นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ทุกคนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ถึงกระนั้นดูเหมือนว่าซูผิงจะไม่ได้แกล้ง เซี่ยจินชุ่ยตอบ“ คุณซูคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับราชาสวรรค์ทั้งสี่หรือไม่?”

 

ราชาสวรรค์ทั้งสี่?

 

ซูผิงพยักหน้า “ ผมรู้จัก จางเสว่โหยว หลิว เต๋อหัว กัวฟู่เฉิงและหลี่หมิงสินะ?”

 

เซี่ยจินชุ่ย:“ …”

 

“ ผมไม่รู้ว่าคุณเพิ่งพูดถึงอะไร แต่ราชาสวรรค์ทั้งสี่ที่ผมพูดถึงคือราชาอสูรร้ายที่ทรงพลังที่สุดทั้งสี่ในดาวเคราะห์สีน้ำเงิน!”

 

เซี่ยจินชุ่ยอธิบายว่า“ ราชาสวรรค์ต่างโลก เจ็ดบาป, นรกและดีกับชั่ว!”

 

“ ราชาอสูรร้ายที่ทรงพลังที่สุด?” ซูผิงสงสัยว่าพวกมันเป็นราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรมหรือเปบ่า?

 

“ใช่แล้ว”

 

โจวเทียนหลินกล่าวเสริมด้วยความกลัวในดวงตาของเขา“ หอคอยชี้ให้เห็นว่าทั้งสี่เป็นราชาอสูรร้ายที่ทรงพลังที่สุด! แม้แต่นักรบอสูรในตำนานก็ยังต้องหนีเมื่อเจอหนึ่งในสี่ตัว! “

 

“ราชาสวรรค์ดีชั่วเป็นที่น่าเกรงขามที่สุดสำหรับทั้งสี่ เป็นผู้นำของพวกมัน!”

 

“ แต่ราชาสวรรค์ตัวนี้ลอบเร้นมาก แทบไม่เหลือร่องรอยไว้ มันแทบไม่ก่อภัยพิบัติใด ๆ ไม่เหมือนกับราชาสวรรค์ดีชั่วราชาอสูรร้ายอีกสามตัวจะออกมาบ่อยกว่า ราชาสวรรค์เจ็ดบาปได้เดินผ่านเมืองฐาน และเลื่อนลงสู่ทางใต้ในชั่วข้ามคืน นักรบอสูรในตำนานสองคนไล่ตามราชาสวรรค์ตัวนี้ แต่ล้มเหลว”

 

“ ราชาสวรรค์ทั้งสี่ไม่เพียงแต่น่ากลัวเท่านั้น แต่ยังมีกลอุบายด้วย พวกมันดุร้าย และโหดร้ายยิ่งกว่าราชาอสูรร้ายอื่น ๆ !” คนอื่น ๆ รู้สึกว่าจิตใจของพวกเขาถูกดึงต่ำลงด้วยความวิตกกังวลหลังจากได้ยินคำอธิบายของโจวเทียนหลิน

 

ซูผิงไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะทำเป็นเล่นอีกต่อไป

 

แม้แต่นักรบอสูรในตำนานสองคนยังไม่สามารถสังหารราชาอสูรร้ายตัวนั้นได้ มีความเป็นไปได้มากว่าราชาอสูรร้ายที่ทรงพลังที่สุดทั้งสี่ของดาวเคราะห์สีน้ำเงินจะอยู่ที่สภาวะโชคชะตา หรืออย่างน้อยที่สุดก็คือสภาวะว่างเปล่า! การปลุกสายเลือดของโครงกระดูกน้อยยังไม่เสร็จสิ้น อสูรที่ทรงพลังที่สุดที่ซูผิงมีอยู่ในขณะนี้คือจระเข้สงคคราม ซึ่งอยู่แค่สภาวะสมุทรขั้นสูงสุด มันไม่มีทางเทียบได้กับราชาอสูรร้ายที่สภาวะว่างเปล่าได้!

 

“ ในสี่ราชาสวรรค์ ราขาสวรรค์ต่างโลกนั้นอ่อนแอที่สุด แต่มันก็เคยสังหารนักรบอสูรในตำนานไปถึงสามคน!”ฉินตู้หวงกล่าวเสริม

 

เมฆที่ปกคลุมจิตใจของพวกเขาหนาขึ้น

 

พวกเขาสามารถวางใจให้ซูผิงต่อสู้กับราชาอสูรร้ายทั่วไป แต่เมื่อเจอกับราชาอสูรร้ายที่สามารถสังหารนักรบอสูรในตำนานได้…ซูผิงจะไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะมันได้!หลิวเทียนจง และโจวเทียนหลินคิด

 

หากเมืองฐานหลงเจียงถึงวาระแล้ว การจากไปให้ทันเวลาจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตระกูลของพวกเขา

 

พวกเขาจะละทิ้งเมืองฐาน แต่อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็จะทำให้ตระกูลของพวกเขาปลอดภัย เซี่ยจินชุ่ยเงยหน้าขึ้นมองและรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นหลังจากสังเกตเห็นสีหน้าของฉินตู้หวง,มู่เป่ยไห่ และคนอื่น ๆ เขาเพียงแบ่งปันข่าวกับทั้งห้าและซูผิง เพราะเขารู้ว่าจะต้องมีความตื่นตระหนกเมื่อประชาชนรู้เรื่องนี้ ความจริงที่ว่าราชาอสูรร้ายทั้งห้าอยู่ที่นี่เพียงพอที่จะสร้างความโกลาหล ไม่ต้องพูดถึงการมาถึงของราชาสวรรค์ต่างโลก อย่างไรก็ตามประชาชนจะรู้เมื่อเกิดสงคราม เขาสามารถปกปิดข่าวให้นานกว่านี้ได้ แต่เซี่ยจินชุ่ยตัดสินใจที่จะบอกซูผิงและผู้นำตระกูลทั้งห้าเพราะเขาต้องการให้พวกเขาตัดสินใจล่วงหน้า นั่นจะดีกว่าพวกเขาหลบหนีด้วยความตื่นตระหนกระหว่างการต่อสู้

 

เขาแสดงความจริงใจของเขา เขาไม่ได้หวังสูง แต่เขาก็ยังคงหวังว่าซูผิงและตระกูลใหญ่ทั้งห้าจะยังคงอยู่

 

เซี่ยจินชุ่ยเป็นคนเดียวที่ไม่สามารถหันหลังให้เมืองฐานหลงเจียงได้! เขาเป็นนายกเทศมนตรี ผู้นำของเมืองฐาน ผู้พิทักษ์!

 

เขาจะไม่มีวันจากไปตราบเท่าที่เขายังมีลมหายใจอยู่! “ข้อมูลน่าเชื่อถือแค่ไหน?” ซูผิงถาม เขาเข้าใจว่าข้อมูลนั้นน่าจะเป็นจริงมากที่สุด เพราะเซี่ยจินชุ่ยเต็มใจที่จะแบ่งปันโดยรู้ว่ามันอาจสร้างความตื่นตระหนกได้ ถึงอย่างนั้นซูผิงก็คิดว่าเขาต้องถาม เซี่ยจินชุ่ยมองไปที่ซูผิงและอีกห้าคนที่จ้องมองเขาด้วยความหวัง หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเซี่ยจินชุ่ยตอบว่า“ หน่วยลาดตระเวนได้ถ่ายภาพ ภาพเลือนราง แต่คอมพิวเตอร์สามารถวิเคราะห์ได้ เป็นไปได้มากที่จะเป็นจริง”

 

ความหวังสุดท้ายหายลับไป ฉินตู้หวง มู่เป่ยไห่ และคนอื่น ๆ รู้สึกหมดหวัง มีโอกาสมาก?

 

มีภาพ มันเป็นความจริง! มีราชาอสูรร้ายห้าตัว!

 

แถมยังมีอีกตัวที่สามารถสั่งราชาอสูรร้ายทั้งห้าได้ ราชาสวรรค์ต่างโลก !

 

ซูผิงยืนขึ้นอย่างช้าๆ และกล่าวว่า“ คุณ”

 

เซี่ยจินชุ่ยรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นรัว ซูผิงพูดช้าๆ“ ผมไม่สามารถให้สัญญาได้ แต่ผม ซูผิงจะไม่ออกจากเมืองฐานหลงเจียง!”เซี่ยจินชุ่ยและผู้นำตระกูลอีกห้าคนตกตะลึง

 

ชายหนุ่มเป็นคนจริงจัง เซี่ยจินชุ่ยรู้สึกมีก้อนจุกอยู่ในลำคอ

 

ฉินตู้หวง และคนอื่น ๆ รู้สึกประทับใจ

 

ครู่ต่อมาโจวเทียนหลินก็ประกาศจุดยืนของเขาเช่นกัน “ ตระกูลโจวเต็มใจที่จะอยู่และตายไปพร้อมกับเมืองฐานหลงเจียง!” คนอื่น ๆ หันไปหาเขา โจวเทียนหลินเป็นคนจริงจังและเคร่งขรึม เขาไม่ได้ล้อเล่น พวกเขาสามารถบอกได้ว่าเขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ

 

เขาไม่ได้พูดคำเหล่านั้นเพื่อทำให้ซูผิงหรือเซี่ยจินชุ่ยพอใจ ท้ายที่สุดเมื่อมีราชาอสูรร้ายทั้งห้าและราชาสวรรค์ที่ต้องพิจารณา การทำให้ซูผิงพอใจจะไม่เป็นประโยชน์กับเขาเลย

 

โจวเทียนหลินวางแผนที่จะอยู่ในเมืองฐาน!

 

ฉินตู้หวงถอนหายใจในทันที “ ตระกูลฉินอยู่ในเมืองฐานหลงเจียงมาหลายร้อยปี พ่อและหลานชายของผมเป็นคนของเมืองฐานนี้…” มีความเฉียบคมในดวงตาของเขา “ เนื่องจากเราเป็นคนของเมืองฐานหลงเจียง เราจะเป็นวิญญาณของเมืองฐานหลงเจียงหลังจากที่เราตายไป! ตระกูลฉินจะไม่มีวันตื่นตระหนกจากการต่อสู้!”

 

มู่เป่ยไห่ได้รับแรงบันดาลใจจากคำพูดที่น่าหลงใหลของเขา “ ตระกูลมู่จะร่วมสู้กับพวกคุณ!”

 

“ ตระกูลเย่ไม่เคยรู้จักคำว่ายอมแพ้!”

 

“ ในเมื่อทุกคนอยู่ ตระกูลหลิวก็จะไม่หนี อย่างไรก็ตาม เซี่ยคุณได้ส่งข้อมูลออกไปแล้วหรือยัง? เรามีกำลังเสริมหรือไม่? คุณได้แจ้งหอคอยหรือยัง?”

 

คนอื่น ๆ หันไปหาเซี่ยจินชุ่ยเพื่อขอคำตอบ การกล่าวถึงหอคอยทำให้พวกเขามีความหวังอีกครั้ง เซี่ยจินชุ่ยพยักหน้า “ ผมส่งข้อมูลไปแล้ว แต่ผมไม่รู้…ว่าจะมีใครมาช่วยเราหรือเปล่า ผมจะไปหอคอยด้วยตนเอง เราเพิ่งรู้เรื่องนี้วันนี้และอสูรป่ายังคงรวมตัวกันอยู่ ราชาอสูรร้ายกำลังมา และเรียกอสูรป่าออกมามากขึ้น ผมคิดว่าเรามีเวลาหนึ่งหรือสองวันก่อนที่การโจมตีจะเริ่มขึ้น ดังนั้นยังมีเวลาให้ผมไปหอคอย!”

 

“ตกลง!”

 

“ ถ้าเราสามารถเชิญนักรบอสูรในตำนานมาเพิ่ม แล้วรวมคุณซูกับนักรบอสูรในตำนานหญิงคนนั้นในร้านของเขา เราจะไม่กลัวต่อให้ราชาสวรรค์ต่างโลกจะอยู่ที่นี่!”

 

“ แน่นอน!”

 

ในที่สุดก็มีแสงแห่งความหวังสำหรับพวกเขา พวกเขาสามารถชนะเรื่องนี้ได้!

 

ราชาสวรรค์ต่างโลกทรงพลัง แต่ไม่ทรงพลังเท่าราชาสวรรค์ดีชั่ว ซึ่งเป็นผู้นำของราชาสวรรค์ทั้งสี่ พวกเขาคงจะหนีไปแล้วถ้าเป็นผู้นำตัวจริงมา การต่อสู้กับราชาสวรรค์ดีชั่ว นั้นเท่ากับการทุบก้อนหินด้วยไข่ แม้ว่าครึ่งหนึ่งของนักรบอสูรในตำนานจากหอคอยจะอยู่ที่นี่ พวกเขาก็จะพ่ายแพ้ต่อราชาสวรรค์ ดีชั่ว! หอคอยนี้เคยพยายามต่อสู้กับราชาสวรรค์ตัวนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง นักรบอสูรในตำนานหลายคนต้องตาย นักรบอสูรในตำนานให้ความร่วมมือกันเต็มที่ แต่ถึงกระนั้นราชาสวรรค์ดีชั่ว ก็ได้รับชัยชนะ ใคร ๆ ก็จินตนาการได้ว่ามันน่ากลัวแค่ไหน มันทรงพลังมากกว่าราชาสวรรค์ต่างโลกที่ฆ่านักรบอสูรในตำนานไปแค่สามคน

 

“ เนื่องจากพวกคุณเต็มใจที่จะอยู่และต่อสู้เพื่อเมืองฐานหลงเจียง…แต่ผมไม่มีอะไรมากที่สามารถตอบแทนได้ นอกจากบอกว่าผมจะไม่มีวันลืมความเมตตาของพวกคุณ!”เซี่ยจินชุ่ยลุกขึ้นยืน เขามองไปที่ซูผิง ฉินตู้หวง และอีกสี่คน และโค้งคำนับให้พวกเขา

 

“ เซี่ย!”

 

“ อย่าทำแบบนี้!”

 

ฉินตู้หวงไปห้ามเขา

 

“ใช่ เราทุกคนทำสิ่งนี้ด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้”

 

“ เซี่ยคุณแก่กว่าผม ผมจะไม่รับการคำนับของคุณ!”

 

โจวเทียนหลิน มู่เป่ยไห่ และคนอื่น ๆ พูดอย่างเร่งรีบ ดวงตาของเซี่ยจินชุ่ยแดงขึ้น น้ำตากำลังจะไหลลงมาที่แก้มของเขา เขาสูดหายใจเข้าลึก และกดอารมณ์เอาไว้ “ พวกผมจะไปที่หอคอยคืนนี้ กลับไปเตรียมตัวให้พร้อม เราจะคุยกันหลังจากที่ผมกลับมา”

 

“ตกลง”

 

พวกเขาพยักหน้า

 

การประชุมสั้น ๆ ของพวกเขาสิ้นสุดลงแล้ว หลังจากพวกเขาออกไป เซี่ยจินชุ่ยก็บินออกจากเมืองฐานหลงเจียงด้วยนกระดับเก้าของเขา เพื่อไปขอกำลังเสริมจากหอคอย

 

เมืองฐานอยู่ภายใต้การโจมตี เป็นภาระหน้าที่ของหอคอยที่จะต้องช่วยเหลือ นั่นคือเหตุผลที่เซี่ยจินชุ่ยมุ่งหน้าไปที่นั่น “ ฉันจะไปหาเพื่อนเก่า”ฉินตู้หวงกำลังจะจากไปเช่นกัน มู่เป่ยไห่หันไปมองเขา “ นายไม่กังวลว่าจะหลอกล่อเพื่อนเก่าให้มาติดกับดักโดยไม่เจตนาหรอ? คราวนี้…ฉันเข้าใจว่าเรายังมีความหวัง แต่ก็อาจล้มเหลวได้เช่นกัน!” แม้ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จในตอนท้าย แต่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าพวกเขาจะตายในสนามรบหรือเปล่า เมืองฐานหลงเจียงอาจยังอยู่ แต่นักรบอาจไม่กลับมา

 

การต่อสู้ต้องใช้เลือด!

 

ฉินตู้หวงไม่ได้หันกลับมา “ ฉันจะไม่บังคับให้พวกเขามา ตามความเป็นจริงฉันหวังว่าพวกเขาจะไม่เข้ามายุ่งกับความวุ่นวายนี้ ดังที่กล่าวไว้ตอนนี้เมืองฐานหลงเจียงกำลังมีปัญหา ฉันจะทำทุกอย่างด้วยความสามารถของฉันเพื่อให้มีความหวังมากขึ้น!” เมื่อพูดอย่างนั้นเขาก็จากไปทันที

 

“ ผู้ชายคนนั้น…” มู่เป่ยไห่ไม่พูดอะไรอีก

 

“ ฉันจะไม่โทรหาใคร ฉันไม่มีเพื่อนมากนัก”หลิวเทียนจงส่ายหัว และยิ้มอย่างฝืน ๆ โจวเทียนหลินมองเขาด้วยสายตาเหยียดหยาม “ มันน่าเศร้านะ ฉันสงสัยว่าอะไรทำให้นายกล้าพูดมันออกมา? ”

 

“ไปลงนรกซะ”

 

“ นายสองคนมันไม้เบื่อไม้เมากันจริงๆ อย่าเหน็บแนมกันสิ” ผู้นำตระกูลเย่พูดแทรก พวกเขาพูดคุยกันอีกเล็กน้อย แต่ไม่มีใครอยู่ในอารมณ์ที่จะยืดบสนทนาของพวกเขา ไม่นานพวกเขาก็กลับไปหาตระกูลของตัวเอง ซูผิงจากไปเช่นกัน เขาเดินกลับไปที่ร้านของเขา เขานึกถึงปรมาจารย์ดาบ และโทรหาเขา

 

“ คุณซู?”

 

ปรมาจารย์ดาบรู้สึกประหลาดใจที่ได้รับสายเขาอีกครั้ง

 

ซูผิงเข้าประเด็น“ เมืองฐานหลงเจียงกำลังมีปัญหา อสูรป่ากำลังจะกลับมา และมีราชาอสูรร้ายห้าตัว ว่ากันว่าตรวจพบการปรากฏตัวของราชาสวรรค์ต่างโลก คุณยินดีที่จะมาช่วยไหม?” ปรมาจารย์ดาบยังคงนิ่งงัน เขาไม่ได้ขัดจังหวะซูผิง แม้ว่าเขาจะอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาหลังจากประมวลประโยคสุดท้ายของซูผิง“ราชาสวรรค์ต่างโลก?”

 

“ใช่”

 

“ ราชาสวรรค์ทั้งสี่?”

 

“ใช่”

 

คำตอบที่ซูผิงได้รับคือความเงียบ ปรมาจารย์ดาบคิดสิ่งต่างๆ และซูผิงก็ไม่ได้กดดันเขา เขารอเงียบ ๆ ท้ายที่สุดแล้วปรมาจารย์ดาบไม่ได้ติดหนี้อะไรเขา หลังจากความเงียบงันนั้น ปรมาจารย์ดาบก็ถามว่า“ คุณแน่ใจเหรอ? คุณกำลังวางแผนจะทำอะไร?”

 

ซูผิงตอบด้วยความมุ่งมั่น“ อยู่! อยู่สู้จนจบ!” ปรมาจารย์ดาบตอบกลับด้วยความเงียบอีกครั้ง อยู่สู้จนจบ? นี่อาจเป็นจุดจบของพวกเขาเช่นกันหากราชาสวรรค์ต่างโลกมาถึง! “ผมจะไป!” ปรมาจารย์ดาบตอบ เขาตอบอย่างเด็ดเดี่ยวโดยไม่ลังเลใด ๆ การตอบกลับอย่างรวดเร็วนั้นทำให้ซูผิงประหลาดใจ เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะสามารถโน้มน้าวให้ปรมาจารย์ดาบมาได้ “คุณแน่ใจนะ? คิดดีๆนะ คราวนี้ ผมไม่สามารถสัญญาอะไรได้เลย!” ซูผิงเตือนเขา

 

เขารู้สึกกลัวจริงๆ เขาไม่รู้ว่าราชาสวรรค์ต่างโลกเป็นอย่างไร แม้แต่ฉินตู้หวงก็ไม่รู้เรื่องนี้มากนัก ราชาสวรรค์ทั้งสี่จะติดต่อกับมนุษยชาติทุกๆสิบหรือหลายสิบปีเท่านั้น พวกมันจะสร้างหายนะทุกครั้งที่ปรากฏตัว ไม่มีใครตระหนักถึงความสามารถที่แท้จริงของพวกมัน

 

ปรมาจารย์ดาบตอบ “ ผมเข้าใจ แต่ผมจะไป ถ้าคุณจะอยู่จนถึงที่สุด ผมก็หวังว่าจะสามารถช่วยอะไรคุณได้บ้าง”

 

มันคงเป็นเรื่องไม่ดีหากซูผิงบอกว่าเขาสามารถสัญญาว่าจะช่วยทุกคนหากราชาสวรรค์ต่างโลกมาถึง

 

ใครจะมีความมั่นใจที่จะเอาชนะราชาสวรรค์ทั้งสี่ได้? ปรมาจารย์ดาบจะไม่ช่วยเพื่อประโยชน์ของซูผิง เขาจะไปเพื่อช่วยชีวิตผู้คน!

 

ผู้คนมากมาย!

 

เนื่องจากพวกเขาไม่ยอมละทิ้งเมืองฐานหลงเจียง ปรมาจารย์ดาบเพียงหวังว่าจะลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้! ซูผิงรู้สึกหวั่นไหว เขาสามารถเข้าใจอารมณ์ของเซี่ยจินชุ่ยได้ชั่วขณะ “ขอบคุณ!” ซูผิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม ปรมาจารย์ดาบหัวเราะ “ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณผม ทำไมคุณซู? คุณคิดว่าผมเป็นคนขี้ขลาดขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

ซูผิงหัวเราะเช่นกัน

 

“ ในเมื่อคุณจะมา ผมก็จะให้ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ กับคุณหลังจากการต่อสู้” ซูผิงกล่าวเสริม ปรมาจารย์ดาบสนใจ “จริงหรอ? มันคืออะไร?”

 

“ ความลับ” ซูผิงตอบ ปรมาจารย์ดาบไม่ได้เร้าจะเอาคำตอบ

 

พวกเขาวางสาย จากนั้นซูผิงก็โทรหาหลินจื่อฉิงซึ่งเป็นคนที่กำลังค้นหาของให้เขาอยู่

 

เขาได้ยินเสียงบางอย่างจากปลายสายของหลินจื่อฉิงเมื่อซูผิงบอกว่าราชาสวรรค์ต่างโลกกำลังมุ่งหน้ามายังเมืองฐานหลงเจียง ในไม่ช้าหลินจื่อฉิงก็บอกว่าสัญญาณหาย และเขาก็วางสาย ซูผิงไม่ใส่ใจ เขารู้ดีว่าการรบกวนสัญญาณนั้นเกิดขึ้นได้เมื่อมีพลังดวงดาวเพียงพอ

 

ไม่แปลกที่ผู้คนจะไม่ต้องการมาที่นี่ และรับกับความเสี่ยง

 

ซูผิงโทรหาคนอื่น แต่หานยู่เซียงบอกว่าเขาสามารถอยู่ที่สถาบัน และดูแลซูหลิงเยวี่ยได้ ในเวลาเดียวกันซูผิงกังวลว่าหานยู่เซียงจะบอกซูหลิงเยวี่ยเกี่ยวกับการโจมตีครั้งนี้ นั่นมีแต่จะทำให้เธอกังวล มันจะลำบากกว่านี้ถ้าเธอยืนกรานที่จะกลับบ้าน

 

ในที่สุดซูผิงก็โทรหาตระกูลถัง และเซี่ยกังจากองค์กรดวงดาว พวกเขาไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นกองกำลังที่ทรงพลังสุดที่ซูผิงรู้จัก

 

ถังหมิงชิงตกใจจนน่ารังเกียจ เขาสงสัยว่าสมองของซูผิงมีปัญหาอะไรหรือเปล่า พวกเขาเป็นศัตรู! ซูผิงมาถามพวกเขาทำไม?

 

แต่เมื่อเขานึกถึงฝีมือของซูผิงที่ลีกสูงสุดด ถังหมิงชิงก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังในทันที เขาบอกเพียงว่าเขาจะรายงานกลับไปยังผู้นำตระกูลของเขา และจะโทรกลับหาซูผิง

 

เซี่ยกังสมองชาด้านเมื่อรับสาย เป็นเรื่องแปลกที่ซูผิงจะหันมาหาองค์กรดวงดาว เซี่ยกังปฏิเสธโดยไม่ลังเลใด ๆ ตอนเขาได้ยินชื่อของราชาสวรรค์ต่างโลก ไม่ได้ล้อเล่น มันเป็นเรื่องยากสำหรับองค์กรดวงดาวที่จะรักษาสถานะของพวกเขาหลังจากผู้นำระดับตำนานของพวกเขาจากไปในถ้ำลึก พวกเขาไม่มีความสามารถอะไรที่จะช่วยซูผิงได้

 

นอกจากนี้พวกเขายังมีความบาดหมางซึ่งกันและกัน การแสดงของซูผิงที่ลีกสูงสุดนั้นน่าทึ่ง แต่นี่เป็นเรื่องที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

 

ซูผิงไม่แปลกใจหรือผิดหวัง เขาโทรหาทุกคนที่เขานึกได้ หลังจากนั้นเขาก็กลับไปที่สนามบ่มเพาะขั้นพื้นฐานเพื่อทำการบ่มเพาะ ในขณะเดียวกันก็หวังว่าโครงกระดูกน้อยจะตื่นขึ้นก่อนการต่อสู้ เวลาผ่านไป ในไม่ช้าข่าวเรื่องวิกฤตที่เกิดขึ้นกับเมืองฐานหลงเจียงก็แผ่ไปยังเมืองฐานอื่น ๆ

 

ประชาชนทั่วไปของเมืองฐานอื่น ๆ ยังไม่ทันลืม แต่ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับเมืองฐานหลงเจียงเพิ่มมากขึ้น ราชาอสูรร้ายห้าตัว! ราชาสวรรค์ต่างโลก! ข่าวทั้งสองนี้น่าทึ่งมาก รถไฟใต้ดินบางขบวนที่มุ่งหน้าไปยังเมืองฐานหลงเจียงถูกระงับ ในวันต่อมาก็มีคนจำนวนมากมาปรากฏตัวที่กำแพงด้านนอกของเมืองฐานหลงเจียง

 

ผู้คุมที่ยืนอยู่บนกำแพงด้านนอกค่อนข้างประหม่า แต่ก็รู้สึกประหลาดใจที่เห็นนักรบอสูรขั้นสูงเหล่านั้น รวมถึงนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ที่เพิ่งถึงระดับเก้า “ เราได้ยินมาว่าเมืองฐานหลงเจียงกำลังมีปัญหา เราพร้อมให้ความช่วยเหลือ!”

 

“ พี่ชาย ช่วยหาที่ให้พวกเราปักหลักหน่อยได้ไหม สหพันธ์ไฟพร้อมจะร่วมรบไปกับคุณ!” นักรบอสูรบางคนเดินทางมาเพียงลำพังในขณะที่คนอื่น ๆ เป็นกลุ่มนักสำรวจจากเมืองฐานอื่น ๆ

 

นอกจากนี้ยังมีนักรบอสูรกิตติมศักดิ์คอยช่วยเหลือ ผู้คุมที่กำแพงด้านนอกตื่นเต้นมาก และตื้นตันจนน้ำตาไหล เมืองฐานหลงเจียงไม่ได้โดดเดี่ยว! มนุษย์ไม่ได้โดดเดี่ยว !!

 

ทั้งเมืองฐานหลงเจียงตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน เด็กและผู้หญิงที่เพิ่งออกจากศูนย์พักพิงก็กลับไปที่นั่นอีกครั้ง

 

ผู้สูงอายุบางคนสมัครใจอยู่ข้างนอกเพื่อให้เด็ก ๆ ได้อยู่ในศูนย์พักพิง โดยบอกว่าพวกเขาต้องการกอบกู้ความหวังในอนาคตให้มากขึ้น

 

ความงามผลิบานเมื่อเผชิญกับภัยพิบัติ

 

มีเพียงความมืดเท่านั้นที่แสงจะสามารถทะลุผ่านได้!

 

หลายคนสละบ้านเพื่อให้คนที่มาช่วยมีที่อยู่ ภายใต้การนำของฉินตู้หวง ตระกูลหลักทั้งห้าได้ระดมคนรู้จัก และอำนาจเพื่อขอทรัพยากร จัดหาให้กับกองกำลังเสริม และกองกำลังของรัฐบาลโดยไม่เสียคิดค่าใช้จ่าย วันนี้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยมีเพียงจุดประสงค์เดียว!