Astral Pet Store ร้านขายอสูรดวงดาว - ตอนที่ 446
ไต้เลอเหมาและเฉินหันไป ใบหน้าของพวกเขาขุ่นมัว
“ ฉันได้ยินว่าตาแก่ติงปิดประตูบ่มเพาะอยู่ เขาไม่ค่อยไปไหน ผู้คนบอกว่าเขามุ่งเน้นวิธีการบ่มเพาะสายฟ้า ไฟและพยายามที่จะเป็นผู้ฝึกสอนชั้นนำ”
“ใช่!”
“ เขากลายเป็นผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์เมื่อยี่สิบปีก่อนใช่ไหม? ถึงเวลาแล้วที่เขาจะก้าวไปอีกขั้น “
“ พวกนาย อย่าเรียกเขาว่าตาแก่ติงสิ เขาจะได้ยิน”ชือหาวจื่อลดเสียงลง
ไต้เลอเหมาถอนหายใจ “ใช่ ถ้าเขาทำสำเร็จเราจะต้องใช้คำที่สุภาพกว่านี้เพื่อพูดกับเขา”
“ เขามาแล้ว ไปทักทายกันเถอะ” เฉินลุกขึ้นยืนแล้ว การสร้างความสัมพันธ์ต้องทำตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเมื่อผู้อาวุโสติงก้าวหน้าแล้วจะทำได้ยาก
ชือหาวจื่อและไต้เลอเหมาพยักหน้า พวกเขาพาศิษย์ไปทางเดินที่มีพรมสีแดง
“ ปรมาจารย์ติง…”
เจิ้นเซียง,ทงทง,เฉียนซิวซิว และโจวหลินจ้องมองชายชราหลังค่อมที่มีรูปร่างหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ มีความแตกต่างในสถานะ แม้กระทั่งในหมู่ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ เมื่อเห็นว่าพ่อ (อาจารย์) ของพวกเขามีปฏิกิริยาอย่างไร พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาจะต้องแสดงความเคารพต่อชายที่เรียกกันว่าปรมาจารย์ติงยังไง ซูผิงเหลือบมองคนๆนั้น แต่ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ ทันใดนั้นเขาก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยสองคนในกลุ่มคนที่เดินตามปรมาจารย์ติงมา
ซูผิงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์คนอื่น ๆ ก็สังเกตเห็นปรมาจารย์ติงเช่นกัน ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ไม่กี่คนยังคงนั่งอยู่ นอกเหนือจากไม่กี่คนเหล่านั้น ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์คนอื่น ๆ “ บังเอิญ” ยืนขึ้น และ“ บังเอิญ” ก้าวมาใกล้ทางเดินที่ปรมาจารย์ติงจะเดินผ่านอย่างแน่นอน
เมื่อปรมาจารย์ติงเดินเข้ามาใกล้ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ก็จะเข้าไปทักทาย
ทางเดินนั้นสั้น แต่ต้องใช้เวลามากกว่าสิบนาทีในการมาถึงจุดที่ซูผิงอยู่“ ปรมาจารย์ติงไม่ได้เจอกันนานเลย!”ชือหาวจื่อ,เฉินและไต้เลอเหมากำลังแกล้งทำเป็นพูดคุยเกี่ยวกับอสูร ในขณะที่พวกเขาคอยสังเกตผ่านหางตาของพวกเขา เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นว่าปรมาจารย์ติงอยู่ใกล้มากพอ ชือหาวจื่อก็“ บังเอิญ” หันกลับมา และทักทายเขาด้วยความประหลาดใจ สงบ และปฏิกิริยาที่เป็นธรรมชาติ
เฉินและไต้เลอเหมาก็แสดงท่าทีประหลาดใจ และทักทายเช่นกัน
อืมพวกเขาซุบซิบนินทาเรียกอีกฝ่ายว่าตาแก่ติง แต่ตอนนี้พวกเขาเรียกเขาว่าปรมาจารย์ติง
ชื่อของปรมาจารย์ติงคือติงเฟิงชุน เขาสังเกตเห็นผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ในวินาทีที่เขาก้าวเข้ามาในห้อง เขาตระหนักดีว่าการเผชิญหน้าเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติ เขากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่จิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับคนที่ยังคงนั่งอยู่
ผู้คนไม่จำเป็นต้องจดจำคนที่ปฏิบัติกับพวกเขาด้วยดีนัก แต่ถ้ามีใครตบหน้าคุณ คุณจะไม่มีวันลืม และคุณจะยิ่งโกรธเมื่อเวลาผ่านไป!
คนที่ยังนั่งอยู่ ดี ฉันจะจำไม่ลืม
“ พวกเธอต้องเป็นลูกสาวของคุณแน่ พวกเธอฉลาดมาก” ติงเฟิงชุนกล่าวกับชือหาวจื่อด้วยรอยยิ้ม
ติงเฟิงชุนไม่เคยสนใจชือหาวจื่อ
อย่างไรก็ตามเขาจำลูกสาวของชือหาวจื่อได้ดี พวกเธอเป็นนักเรียนที่แข็งแกร่งในบรรดาลูก ๆ ของผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ หญิงสาวทั้งสองมีผลการเรียนที่ดี และไปถึงระดับหกก่อนที่พวกเธอจะอายุครบยี่สิบ พวกเธอเก่งมาก!
ในอนาคตพวกเธออาจกลายเป็นผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์เช่นเดียวกับชือหาวจื่อ ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์สามคนในครอบครัวเดียวกัน สุดยอดจริงๆ!
ติงชุนเฟิงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงลูกชายตัวแสบของเขาที่ต้องการเป็นแค่นักรบอสูรเท่านั้น ช่างโง่เขลา
“ ปรมาจารย์ติงก็ชมพวกเธอเกินไป”ชือหาวจื่อกล่าวอย่างนอบน้อม
เจิ้นเซียงและทงทงหน้าแดงด้วยความตื่นเต้น
ซูผิงมองไปที่สองสาว ผู้อาวุโสติงจะบอกได้ยังไงว่าพวกเธอฉลาดในเมื่อแค่มอง? “นาย?!”
ทันใดนั้นมีคนส่งสียงร้องออกมา และก้าวออกมาจากฝูงชนด้านหลังติงเฟิงชุน
ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์กำลังคุยกัน ใครเป็นคนที่แทรกเข้ามา?
คือผู้หญิง
หู่หรงหรงหน้าแดงด้วยความอับอายเมื่อเธอสังเกตเห็นว่ามีคนจ้องมองเธอ แต่เธอยังคงจ้องมองไปที่ซูผิง เธอไม่อยากจะเชื่อเลย ซูผิง ผู้ฝึกสอนระดับพื้นฐานที่เพิ่งมาเยือนเมืองแสงศักดิ์เป็นครั้งแรกมาทำอะไรในการประชุม?
ซูผิงเป็นเพื่อนของผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ทั้งสามนี่หรอ? แต่เขามาจากเมืองฐานอื่น ทำไม?
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆหู่หรงหรงมองซูผิงเล็กน้อย แววตาของชายหนุ่มเย็นชา
“ หรงหรง เธอรู้จักเขาด้วยเหรอ?” ติงเฟิงสวมแววตาใจดีตอนเขาสังเกตเห็นว่าเป็นหู่หรงหรงที่ตะโกนออกมา เนื่องจากคุณปู่ของเธอเป็นผู้ฝึกสอนชั้นนำ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรติงเฟิงชุนก็ไม่เคยดุเธอ
คนใกล้ชิดของชือหาวจื่อต่างก็จ้องมองซูผิงด้วยความประหลาดใจ
ทั้งเจิ้นเซียงและทงทงต่างก็รู้จักหู่หรงหรง ทุกคนรู้เกี่ยวกับคุณปู่ของเธอ และหู่หรงหรงก็มีสถานะที่สูงส่งมากกว่าพวกเธอ
เจิ้งเซียงและทงทงภูมิใจในความจริงที่ว่าพวกเธอไม่มีทักษะใดที่อ่อนแอไปกว่าหู่หรงหรง พวกเธอยังเป็นผู้ฝึกสอนระดับหก และกำลังศึกษาอยู่ในสถาบันที่มีชื่อเสียง ไม่มีการบอกว่าคนใดในพวกเธอจะกลายเป็นผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ได้เร็วกว่ากัน
“ น้องซูรู้จักคุณหนูหรงด้วยเหรอ?”ชือหาวจื่อถามซูผิงด้วยความประหลาดใจ ซูผิงเพิ่งมาที่เมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่หรอ?เขาเป็นเพื่อนกับหลานสาวของผู้ฝึกสอนชั้นนำตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ใช่”
ซูผิงพยักหน้า
แต่เขารู้แค่ชื่อของเธอ
หู่หรงหรงกำลังจะตอบคำถามของติงเฟิงชุน แต่เธอคิดถึงบางสิ่งได้ก่อน ถ้าเธอบอกคนอื่นว่าเธอรู้จักซูผิงได้ยังไง และเขายังเคยโดนดูถูกดูแคลน นั่นคงน่าอับอายเกินไป
เธอพยักหน้า “ เราเคยพบกันมาก่อน แค่คนรู้จัก” เธอให้คำตอบที่คลุมเครือ ติงเฟิงชุนไม่ได้ให้ความสำคัญกับซูผิงต่อ
จากนั้นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆหู่หรงหรงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า“ น้องซูเราพบกันอีกแล้ว นายบอกฉันว่านายเป็นผู้ฝึกระดับพื้นฐานและฉันก็เชื่อ แต่ตอนนี้ฉันสงสัยว่า นายคงไม่ใช่ผู้ฝึกสอนระดับพื้นฐานจริงหรอกใช่ไหม?”
ซูผิงจ้องไปที่ชายหนุ่ม
คนที่ไม่รู้เรื่องข้อพิพาทในอดีตคงคิดว่าชายหนุ่มนี่กำลังชมซูผิง
ชายหนุ่มคนนี้คือเซียวเฟิงสวี่
เขาเป็นนักเรียนหัวกะทิ และเป็นคนเดียวที่ไม่ได้เผชิญหน้ากับซูผิงโดยตรง
ซูผิงประหลาดใจที่เห็นเซียวเฟิงสวี่กระโดดออกมาตอนนี้ ก่อนหน้านี้เขาเคยสังเกตเห็นเจตนาฆ่าของเซียวเฟิงสวี่ แต่ในตอนนั้นเขาไม่ได้ใส่ใจมัน เนื่องจากเขาคิดว่ามันไม่สำคัญ ซูผิงไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะได้พบกันอีก และเซียวเฟิงสวี่ก็ไม่คิดซ่อนเจตนาฆ่าของเขาอีกต่อไป
“ ผู้ฝึกสอนระดับพื้นฐาน?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวเฟิงสวี่ ทุกคนก็หันไปมองซูผิงด้วยความประหลาดใจ
ชือหาวจื่อและเฉินก็ตกใจเช่นกัน แต่ซูผิงยังคงค่อนข้างสงบ ครู่หนึ่งพวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าชายหนุ่มกำลังพูดความจริงหรือไม่
“ คุณรู้จักกันไหม?”ไต้เลอเหมาถามซูผิง
ในเวลาเดียวกันเขาก็มองไปที่ชือหาวจื่อ
ไต้เลอเหมาเคยสงสัยเกี่ยวกับคำพูดของชือหาวจื่อ ท้ายที่สุดแล้วคนที่ฝึกฝนมังกรจันทราเหมันต์ได้จะเป็นผู้ชายคนนี้ได้ยังไง?
เขาไม่มีทางทำเช่นนั้นได้ แม้ว่าเขาจะเริ่มบ่มเพาะมาตั้งแต่ตอนที่เขาเกิด
แม้แต่หู่หรงหรงก็อยู่เพียงแค่ระดับหกเท่านั้น ต่อให้ซูผิงจะมีความสามารถมาก แต่เขาไม่น่าจะสามารถทำให้มังกรจันทราเหมันต์พัฒนาขนาดนั้นได้!
ชือหาวจื่อเต็มไปด้วยคำถาม แต่เขาเชื่อมั่นในตัวซูผิง ลึก ๆ ในใจ ชือหาวจื่อสามารถบอกย้อนกลับไปได้ว่าความสงบของซูผิงไม่ได้สร้างมาเพื่อตบตา
“ เคยเจอ แต่ผมไม่รู้จักเขาจริงๆ” ซูผิงตอบ“ นายเรียกใครว่าน้องซู? เราไม่ได้สนิทกัน”เซียวเฟิงสวี่พยายามที่จะประชดประชันแต่ซูผิงไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นด้วย
เหตุผลนั้นง่ายมาก เซียวเฟิงสวี่ไม่สมควรได้รับมัน
ถ้าเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งเท่าเทียมกัน ซูผิงอาจจะอยากจะเถียงด้วยสักหน่อย แต่เซียวเฟิงสวี่อ่อนแอเกินไป การโต้เถียงกับเขาจะไม่มีอะไรคุ้มค่า
คำตอบของซูผิงทำให้ทุกคนเงียบ