Astral Pet Store ร้านขายอสูรดวงดาว - ตอนที่ 445
หลังจากทานอาหารค่ำ ชือหาวจื่อพาซูผิงห้องพักที่สวยงามและสะดวกสบาย
ซูผิงอาบน้ำ บ่มเพาะสักหน่อยแล้วเข้านอน เขาจัดเวลาของเขาได้ดี
ไม่นานหนึ่งคืนก็ผ่านไป
เช้าวันรุ่งขึ้นซูผิงตื่นขึ้นมาตรงตามเวลา ทำให้ร่างกายสดชื่นและไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อรอทานอาหารเช้า
สาวใช้ยุ่งเหมือนผึ้ง พวกเธอกวาดถูและวางผลไม้สดในชามผลไม้
ชือหาวจื่อนั่งอยู่บนโซฟาอ่านหนังสือพิมพ์ เขาทักทายซูผิงอย่างเป็นมิตร“ คุณตื่นเช้าเชียว นอนหลับเป็นยังไงบ้างครับ?”
“ดีมาก”
ซูผิงพยักหน้า และนั่งลงบนโซฟา
พ่อบ้านเข้ามารายงานชือหาวจื่อว่า“ ท่านครับ ศิษย์ของท่านมาถึงแล้ว”
ชือหาวจื่อเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ “ บอกให้เข้ามา”
พ่อบ้านพยักหน้ารับ และเดินออกไป ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับชายหนุ่มและหญิงสาวที่แต่งตัวสวยงาม ทั้งสองดูเหมือนจะประหม่าเล็กน้อย พวกเขาไม่ได้มองไปรอบ ๆ คฤหาสน์ด้วยซ้ำ พวกเขายืนอยู่ข้างทางเข้าห้องนั่งเล่น และโค้งคำนับให้ชือหาวจื่อ“ สวัสดีตอนเช้าครับ”
ชือหาวจื่อพยักหน้าให้พวกเขา “ ไม่ต้องเกร็ง นั่งลงก่อน พวกเธอทานอาหารเช้ามาหรือยัง?”
“ทานมาแล้วครับ/ค่ะ”
“ โอ้”
หลังจากทักทายชือหาวจื่อก็ไม่พูดอะไรอีก และอ่านหนังสือพิมพ์ต่อไป จากนั้นชายหนุ่มและหญิงสาวก็สังเกตเห็นซูผิงที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกด้าน พวกเขาพบว่าเขาหน้าคุ้นๆ พวกเขาจำได้เมื่อมองใกล้ ๆ
“ คุณ คุณคือคนเมื่อวาน…”
พวกเขาตระหนักว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นคนที่สร้างปัญหาที่หน้าประตูเมื่อวันก่อน ชายคนนี้อ้างว่าเขามาเข้าร่วมการประชุม ผู้ชายแบบนี้ควรได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง ทำไมถึงมานั่งอยู่ในบ้านของอาจารย์?
ชือหาวจื่อมองศิษย์ของเขาและเข้าใจทันทีว่าทำไมพวกเขาถึงประหลาดใจ “ ฟังนะนี่คือคุณซู เราได้ตรวจสอบแล้วว่าเขาได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุม เขามีทักษะการฝึกฝนที่ไม่เหมือนใคร พวกเธอต้องฟังคำพูดของเขาในการประชุมวันนี้ให้ดี แต่จะเรียนรู้ได้มากแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับสมองของพวกเธอ”
“ครับ/ค่ะ…”
นักเรียนทั้งสองคนไม่สามารถเข้าใจได้ว่าสิ่งที่เขาหมายถึงทั้งหมดนั้นคืออะไร
นี่เป็นเหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างรุนแรง
รุนแรงมากจนไม่สามารถประมวลผลได้ด้วยซ้ำ
ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์ของพวกเขา ทั้งสองคนที่เป็นผู้ฝึกสอนระดับหกก็จะไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการประชุมนี่ด้วยซ้ำ แต่ผู้ชายคนนี้ได้รับเชิญ? เขาได้รับเชิญเหมือนอาจารย์ของพวกเขาจริงๆหรอ?
ในขณะที่นักเรียนสองคนยังคงยืนอยู่ด้วยความงุนงง เจิ้นเซียงและทงทงก็ลงมาจากชั้นบน พวกเธอสองคนใส่ชุดทางการใหม่เอี่ยม เจิ้นเซียงสวมชุดเจ้าหญิงสีม่วงอ่อนซึ่งเผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าของเธอ ชุดนี้ดูเป็นกุลสตรีและไม่เปิดเผยเกินไป
ทงทงสวมชุดเจ้าหญิงสีดำ มีคริสตัลสีเทาเงินประดับคอของเธอยาวไปจนถึงหน้าอกเพิ่มความสง่างามให้กับเธอ
ซูผิงมองไปที่พวกเธอ เขาต้องยอมรับว่าเขารู้สึกประหลาดใจ แต่เนื่องจากเขาอยู่กับโจแอนนามาระยะหนึ่ง เขาจึงเริ่มมีภูมิคุ้มกันต่อสาวสวยแล้ว
“ เซียงเซียง ทงทง”
ศิษย์สาวได้สติเมื่อเห็นทั้งสอง“ วันนี้พวกเธอดูดีมาก” เธออุทานด้วยตาเป็นประกาย
“ พี่สาวซิ่วเอ๋อก็ดูดีเช่นกัน”
สองสาวดีใจที่ได้เจอเธอ เธอเป็นศิษย์ดาวเด่นของพ่อ และผู้หญิงทั้งสามคนก็สนิทกันมาตลอด
สามคนนี้ดูดีพอสำหรับการแสดงละคร พวกเธอรวมกลุ่มกันพูดคุยกันเกี่ยวกับชุด และเครื่องประดับ หรือสีของลิปสติก พวกเธอให้คำแนะนำซึ่งกันและกัน และจะหัวเราะเมื่อเห็นด้วยกับบางสิ่งบางอย่าง
ศิษย์ชายมองซูผิงที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะถามว่าเขาได้รับคำเชิญมายังไง
พวกเขากำลังจะมุ่งหน้าไปที่การประชุมอยู่แล้ว เดี๋ยวเขาก็คงจะได้รู้
ชือหาวจื่อไม่ปล่อยให้การสนทนาดำเนินต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขาเรียกซูผิงและลูกสาวของเขาเพื่อนั่งทานอาหารเช้าเมื่ออาหารมาถึง
ทงทงจ้องมองซูผิงอีกครั้ง เธอแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นว่าเขาจะสื่อสารกับผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์คนอื่น ๆ ยังไงในการประชุม
หลังอาหารเช้าทุกคนเตรียมพร้อม พวกเขารวมตัวกันที่ประตู
พวกเขากำลังจะนั่งรถที่เหมือนกับรถลีมูซีนของลินคอล์นที่พวกเขาทั้งหมดสามารถเข้าไปนั่งได้อย่างง่ายดาย
ในขณะที่นั่งรถชือหาวจื่อคอยบอกสิ่งที่ต้องระวังในการประชุมให้ศิษย์ทั้งสองคนและลูกสาวของเขาฟังเผื่อว่าพวกเขาจะทำให้คนใหญ่คนโตขุ่นเคืองใจ
ท้ายที่สุดแล้วผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์คนอื่น ๆ ก็จะพาลูก ๆ หรือศิษย์ดาวเด่นไปเข้าร่วมการประชุมด้วย ผู้ที่สามารถเข้าร่วมการประชุมได้ไม่ใช่คนทั่วไปอย่างแน่นอน
ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงสำนักงานใหญ่ของสมาคมผู้ฝึกสอน ฝูงชนด้านนอกประตูมีจำนวนมากขึ้นกว่าวันก่อน!
ผู้คนยืนอยู่สองข้างทาง ผู้คุ้มกันพยายามรักษาความสงบเรียบร้อย ช่องว่างมีไว้สำหรับยานพาหนะ
การประชุมผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ในปีนี้ไม่ได้ถูกเก็บไว้เป็นความลับ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าครึ่งแรกของการประชุมไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม แต่จะมีการเปิดชั้นเรียนในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ฝึกสอนจำนวนมาก ทุกคนต่างมาถึงก่อนเวลาเพื่อที่จะได้ที่นั่งดีๆ
ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะได้ฟังชั้นเรียนที่สอนโดยผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์หลายคน ชั้นเรียนแบบเปิดอาจมีประโยชน์มากเลยทีเดียว!
“ ดูป้ายทะเบียนสิ ต้องมีผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์อยู่ข้างในแน่!”
“ โอ้ฉันสงสัยว่าคือคนไหน”
“ ดูอีกคันนั่นสิ พระเจ้าช่วย…”
ฝูงชนที่มารวมตัวกันที่ด้านข้างต่างตื่นเต้น รถหรูขับผ่านมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมด้วยป้ายทะเบียนอันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะสำหรับผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ และมีตัวอักษร “M” เริ่มต้น ซึ่งแสดงถึงสถานะ “ระดับปรมาจารย์” ของพวกเขา
ขณะที่พวกเขามองไปที่ผู้สังเกตการณ์ที่กำลังตื่นเต้นจากในรถ เจิ้นเซียง ทงทงและนักเรียนสองคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า
ในไม่ช้ารถคันหรูก็ขับเข้ามาในบริเวณตึกที่มีโครงสร้างแปลกประหลาด รูปร่างของอาคารเป็นเหมือนอสูรร้ายที่ยืนอยู่ ด้านข้างบันได เป็นเหมือนแขนสองข้างซึ่งนำไปสู่ห้องประชุมชั้นบน
รถหรูหลายคันจอดรออยู่ด้านนอกในลานจอดรถ
“ ใช่ตาแกชือไหมน่ะ? ลูกสาวของนายสวยขึ้นเยอะเลย”
“แน่นอน.พวกเธอมียีนของฉัน นายก็รู้”
“พอเลย โชคดีที่ยีนของคุณไม่ได้มีเยอะมาก ไม่งั้นฉันสงสัยว่าพวกเธอจะโตมาเป็นสาวสวยขนาดนี้ได้ยังไง?” ทันทีที่พวกเขาลงจากรถของชือหาวจื่อ พวกเขาก็พบกับคนอื่น ๆ ที่กำลังก้าวออกจากรถหรูอีกคัน คนที่พูดคือชายวัยกลางคนอายุสี่สิบเศษ ดูเหมือนว่าเขาจะสนิทกับชือหาวจื่อ
ชือหาวจื่อกลอกตาใส่เขา
ทั้งเจิ้นเซียงและทงทงรู้จักเพื่อนของพ่อ “ สวัสดีค่ะ ลุงไต้” พวกเขาพูดอย่างสุภาพ
“ เช่นกันสาวๆ”
“ ยินดีที่ได้รู้จักครับอาจารย์ไต้” ศิษย์ของชือหาวจื่อ เฉียนซิวซิวและโจวหลินรู้สึกประหม่ามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อาจารย์ไต้ยิ้มให้ศิษย์ทั้งสอง “ ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเธอสองคน เธอต้องเป็นเฉียนซิวซิว ฉันอ่านบทความที่เธอเผยแพร่ในนิตยสารผู้ฝึก เธอมีความเข้าใจเกี่ยวกับการฝึกอสูรตระกูลสายฟ้าเป็นอย่างดีทีเดียว!”
เฉียนซิวซิวหน้าแดงจากความตื่นเต้น การได้ฟังคำว่า “ดี” จากผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ถือเป็นเกียรติอย่างสูง
เฉียนซิวซิวที่หน้าแดงตอบ“ขอบคุณค่ะ ฉันได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาจารย์ของฉัน นั่นคือเหตุผลที่ฉันคิดวิทยานิพนธ์ดังกล่าวขึ้นมา” เธอไม่ลืมที่จะยกย่องอาจารย์ของเธอเช่นกัน แม้ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับชือหาวจื่อเพียงเล็กน้อย เพราะเขาเรียนวิชาเอกเกี่ยวกับอสูรตระกูลไฟ
โจวหลินยิ้ม แต่เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ครั้งหนึ่งเขาก็เคยตีพิมพ์บทความเช่นกัน แต่อาจารย์ไต้ไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น เห็นได้ชัดว่าบทความของเขาไม่น่ายกย่อง แน่นอนว่าโจวหลินหวังว่าจะเป็นเพียงเพราะอาจารย์ไต้ไม่เห็นบทความนั่น
“ตาแก่ไต้ทำไมไม่พาเมียมาด้วยล่ะ?”
ชือหาวจื่อมีความสุขมากกับคำตอบก่อนหน้าของเฉียนซิวซิว เขาถามเพื่อนของเขาว่า“ นายก็รู้จักเมียฉัน เธอไม่สนใจเรื่องนี้ เธอไปทำผมอยู่”
“ เธอทำเพื่อนาย”
“ นั่นไม่ใช่เรื่องเลวร้าย”
ชือหาวจื่อหันไปทางซูผิง“ น้องซูนี่คือ ตาแก่ไต้ ปรมาจารย์ไต้เลอเหมา นี่คือน้องซูผิง ผู้ฝึกสอนที่รองประธานของเราเล่าให้เราฟัง คนที่ฝึกฝนมังกรจันทราเหมันต์”
ไต้เลอเหมารู้สึกประหลาดใจ ในตอนนั้นเขาสงสัยว่าทำไมชายหนุ่มไม่ทักทายเขา ไต้เลอเหมาไม่ได้ถามคำถามนั้น แต่ที่ชือหาวจื่อแนะนำตัวก็ทำให้ไต้เลอเหมาตกตะลึง “ เขาเป็นคนที่ฝึกฝนมังกรจันทราเหมันต์? ตาแก่ชือ นายแน่ใจเหรอ?”ไต้เลอเหมาอดไม่ได้ที่จะถาม
“ แน่นอนฉันแน่ใจ ฉันตรวจสอบแล้ว”ชือหาวจื่อสามารถเข้าใจอารมณ์ของไต้เลอเหมาได้อย่างเต็มที่ “ น้องซูเป็นอัจฉริยะ เขาจะกลายเป็นผู้ฝึกสอนระดับแนวหน้าในอนาคตแน่นอน”ชือหาวจื่อดีใจ
ทั้งเฉียนซิวซิวและโจวหลินรู้สึกประหลาดใจ ทำไมอาจารย์ของเราถึงยกย่องชายหนุ่มคนนี้มาก!
สำหรับมังกรจันทราเหมันต์…
นั่นคือหนึ่งในมังกรที่หายากที่สุด! อย่างน้อยต้องเป็นผู้ฝึกสอนระดับเจ็ดจึงจะสามารถฝึกมังกรหายากเช่นนั้นได้ ผู้ฝึกสอนที่อ่อนแอกว่านั้นจะไม่มีความกล้า แม้แต่จะทำเช่นนั้น
เจิ้นเซียงและทงทงต่างก็มองซูผิงด้วยความประหลาดใจเช่นกัน พวกเธอไม่เคยคิดเลยว่าซูผิงจะได้ฝึกฝนมังกรที่หายากเช่นนั้น
หญิงสาวทั้งสองยังคงสงสัยในตัวตนของซูผิง และยังกังวลว่าพ่อของพวกเธอเข้าใจผิด
“ ของเขาหรอ?”ไต้เลอเหมาจ้องซูผิงอย่างไม่เชื่อ “ ใช่ ของเขา”ชือหาวจื่อตอบด้วยความมั่นใจ
ไต้เลอเหมาต้องการขอให้ซูผิงแสดงทักษะหนึ่งหรือสองอย่างเพื่อพิสูจน์ แต่ดูเหมือนว่านั่นจะไม่ค่อยสุภาพและหยาบคาย
ซูผิงไม่กังวลกับการอธิบายอะไรให้คนที่สงสัย เขาคงจะเหนื่อยมากหากต้องพิสูจน์อะไรสักอย่างกับใครก็ตามที่ตั้งคำถามกับเขา
ท้ายที่สุดเขาเพิ่งได้พบกับเพื่อนของชือหาวจื่อคนหนึ่งที่นี่ ใครจะสามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายมีเพื่อนอีกกี่คน? ถ้าเขาต้องพิสูจน์ตัวเองทุกครั้ง…
ไม่ ฉันคิดไม่ออกด้วยซ้ำ
ซูผิงเคยชินกับคำถามแบบนี้ อนิจจาเขาต้องโทษตัวเองที่ฉลาดเกินไป (+2+) …
พวกเขาเดินขึ้นไปชั้นบน และคุยกัน ไต้เลอเหมาไม่ได้ทำให้ซูผิงขุ่นเคือง เขาปฏิบัติต่อซูผิงเป็นอย่างดีเนื่องจากชือหาวจื่อให้ความเคารพซูผิง และยืนยันว่าเขายืนยันตัวตนของซูผิงแล้ว
ไต้เลอเหมาได้เห็นวิดีโอของมังกรจันทราเหมันต์ มังกรสามารถแสดงพลังที่ยิ่งใหญ่เช่นนั่นได้ทั้งที่ระดับของมันไม่ได้สูงขนาดนั้น ผู้ฝึกสอนต้องเก่งมากจริงๆ
ไม่นานพวกเขาก็เข้าห้องประชุม
มีคนมารวมตัวกันมากมาย มีโต๊ะกลมพร้อมเก้าอี้หลายสิบตัวอยู่ตรงกลางห้อง
นอกวงกลมเป็นแถวที่นั่งสำหรับผู้ชม
ถัดจากห้องเป็นนิทรรศการที่เสิร์ฟอาหาร บนผนังแขวนภาพของผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์บางคน รวมทั้งรายชื่อการมีส่วนร่วมของพวกเขาปรากฏอยู่
ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ทุกคนมีความสำเร็จทางวิชาการบางอย่าง ซูผิงเห็นภาพของชือหาวจื่อและสิ่งที่เขาทำ เขาได้ปรับปรุงวิธีการปรับแต่งสำหรับอสูรตระกูลไฟ และเขายังได้พัฒนาวิธีการกลั่นพลังธาตุโดยใช้วิธีการระบายความร้อนด้วยภาพถ่าย นั่นคือผลงานชิ้นเอกของชือหาวจื่อ: ทักษะที่สามารถเสริมความอุดมสมบูรณ์ของพลังธาตุ ยังมีความหวังสำหรับอสูรของตระกูลไฟที่จะได้รับทักษะของตระกูลแสง
แม้แต่ทักษะขั้นต่ำของตระกูลแสง อย่างแฟลชก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าทึ่งได้
“ เฉิน”
ในไม่ช้าชือหาวจื่อก็ได้พบกับเพื่อนอีกคน
“ อ๊ะ นายสองคนอีกแล้ว” ชายที่ชื่อเฉินเดินไปหาชือหาวจื่อและไต้เลอเหมาด้วยรอยยิ้ม เฉินก็พาคนหนุ่มสาวมาด้วย
พวกเขาแนะนำศิษย์ของกันและกัน
“ นี่คือซูผิง เขาคือหนึ่งในผู้มีส่วนร่วมในการประชุม เขาเป็นคนเดียวกับที่รองประธานเล่าให้เราฟัง”ชือหาวจื่อแนะนำซูผิงแยกจากลูกสาว และศิษย์ของเขา
เฉินจ้องมองซูผิงด้วยความประหลาดใจรวมถึงศิษย์ที่เขาพามา
ไต้เลอเหมาเข้าใจเฉินได้อย่างเต็มที่ แต่เขาก็ยิ้มเงียบ ๆ ชือหาวจื่อพาพวกเขาไปที่เพื่อนั่งคุยกัน และรอให้การประชุมเริ่มขึ้น
“ ฉันได้ยินมาว่าผู้อาวุโสไป่จะเข้าร่วมชั้นเรียน”ไต้เลอเหมากล่าวดวงตาของเขาเปล่งประกาย
ชือหาวจื่อพยักหน้า “ ฉันก็ได้ยินมา วิธีการบ่มเพาะมังกรแบบพิเศษของผู้อาวุโสไป่เป็นประโยชน์ต่อฉันมาก เขาทำให้รากฐานของมังกรดีขึ้นจากระดับพันธุกรรมเพื่อขับเคลื่อนการกลายพันธุ์และวิวัฒนาการ ไม่น่าแปลกใจที่เขาเป็นหนึ่งในผู้ฝึกสอนที่ดีที่สุด เรายังมีอะไรให้ต้องเรียนรู้อีกมาก”
“ใช่ ยิ่งฉันรู้มากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้สึกงมงาย” เฉินพยักหน้า
เจิ้นเซียง, ทงทง,เฉียนซิวซิว และศิษย์คนอื่น ๆ ต่างก็กลั้นหายใจอย่างประหม่าขณะที่พวกเขาฟัง
ผู้อาวุโสไป่
นั่นไม่ใช่ชื่อเต็ม แต่ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นหนึ่งในสิบสองผู้ฝึกสอนที่ทรงพลังที่สุดในสมาคมผู้ฝึกสอน!
แม้แต่นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ก็ยังต้องปฏิบัติต่อผู้ฝึกสอนเหล่านั้นด้วยความเคารพ
ผู้ฝึกสอนดังกล่าวมีสถานะที่สูงส่ง และมีสายสัมพันธ์ที่ประชาชนไม่สามารถจินตนาการได้ พวกเขาเป็นรองแค่นักรบอสูรในตำนานเท่านั้น!
ในขณะที่พวกเขาสนทนากัน มีความวุ่นวายที่ประตู พวกเขามองไปเห็นกลุ่มคนเดินเข้ามาโดยมีชายชราหลังค่อมเดินนำหน้า ชายวัยกลางคนสองคนกับหญิงสาววัยกลางคนได้เดินตามชายชรามา
“ นั่นคือปรมาจารย์ติง”ชือหาวจื่อกระซิบ