รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1102 จ้าวแดนพิสุทธิ์ ผู้เดินหมากหลังฉาก!
- Home
- All Mangas
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1102 จ้าวแดนพิสุทธิ์ ผู้เดินหมากหลังฉาก!
บทที่ 1102 จ้าวแดนพิสุทธิ์ ผู้เดินหมากหลังฉาก!
……….
บทที่ 1102 จ้าวแดนพิสุทธิ์ ผู้เดินหมากหลังฉาก!
ร่างแปลงนักพรตเฒ่าเคลื่อนไหว ยกมือขึ้นสำแดงมหาวิชาสะท้านฟ้า น่ากลัวกว่าบรรพมังกรเก้าเล็บหลายเท่านัก
บรรพมังกรเก้าเล็บยังไม่เคยเยียบย่างเข้ามาอยู่ขอบเขตเดียวกับเขา ถึงแม้ว่าจะใกล้ แต่ก็ยังแตกต่างกันอยู่มาก เพียงแค่ร่างแปลงของเขาก็ทรงพลังยิ่งกว่าบรรพมังกรเก้าเล็บหลายเท่าแล้ว!
ขอบเขตเหนือขึ้นไปจากแสวงวิถี คือขอบเขตที่หมีดำและบรรพมังกรเก้าเล็บอยู่มีนามว่า…ขอบเขตปัจฉิม
แน่นอนว่าหมีดำอยู่ในขั้นต่ำของขอบเขตปัจฉิม ในขณะที่บรรพมังกรเก้าเล็บอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตปัจฉิม
เหนือขอบเขตปัจฉิม ระดับที่เหล่าสิ่งมีชีวิตแดนพิสุทธ์อยู่คือ…ขอบเขตไร้กั้น!
ความจริงนามขอบเขตนี้ เป็นพวกเขาที่ตั้งขึ้นมาเอง ทั้งใต้หล้านอกจากพวกเขาแล้ว ไม่มีผู้ใดอยู่ในขอบเขตนี้อีก
และสาเหตุที่พวกเขาตั้งนามขอบเขตนี้ว่าไร้กั้น เป็นเพราะขอบเขตนี้กว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด ทำให้พวกเขาไม่อาจกระโจนหนีออกไปได้
ขณะเดียวกันแบ่งขอบเขตออกอย่างละเอียด หนึ่งชั้นเท่ากับหนึ่งขั้น นักพรตเฒ่าประมาณแล้วน่าจะอยู่ราว ๆ ชั้นแปดของขอบเขตไร้ขั้น
ถัดจากนี้ไปเป็นขอบเขตอันใด พวกเขาล้วนไม่รู้
แต่พวกเขายังคงตั้งนามให้ขอบเขตนั้นขึ้นมาเอง เพื่อกระตุ้นจุดมุ่งหมายของพวกเขา เรียกขอบเขตนั่นว่า…ขอบเขตแก่นนภา!
เนื่องจากในมุมมองของพวกเขา จ้าวแดนพิสุทธิ์อยู่ในขอบเขตเหนือกว่าพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งนามขอบเขตที่อยู่สูงกว่าด้วยนามจวินเทียน
ตู้ม!
ความว่างเปล่าระเบิดออกครั้งใหญ่ ร่างแปลงนักเฒ่าประหนึ่งอสูรร้ายสะท้านฟ้า ด้วยความโกรธจึงลงมืออย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นฉากน่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด!
เหล่าสิ่งมีชีวิตสตรีเพศที่ถูกบรรพมังกรเก้าเล็บจับมาต่างตัวสั่นสะท้าน ดวงวิญญาณหวั่นไหวไม่อาจหยุด
“เหตุใดต้องดุร้ายปานนี้ด้วย?”
หลี่จิ่วเต้ายกมือขึ้นโบกต้นวิเศษสัตตะ พริบตาเดียวพลังทั้งหมดของร่างแปลงนักพรตเฒ่าก็พลันถูกปัดเป่า!
จากนั้นเสียงตุบดังขึ้นมา ร่างแปลงนักพรตเฒ่าร่วงหล่นจากฟ้าสูง ตกใส่พื้นอย่างแรง กินดินโคลนเข้าไปเต็มปาก
“อะ…อะไรกัน!”
ร่างแปลงนักพรตเฒ่าตกตะลึง มองดูหลี่จิ่วเต้าด้วยความหวาดกลัว เกิดอันใดขึ้น? พลังทั้งหมดของเขาถูกปัดเป่าออกไปเช่นนี้หรือ?
นอกจากนี้ กระทั่งการเชื่อมต่อระหว่างเขากับร่างหลักเองก็ถูกตัดขาด!
เป็นไปได้อย่างไร?!
คาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่ากิ่งไม้ในมือของหลี่จิ่วเต้าจะทรงพลังถึงเพียงนี้!
ทว่าเขาเองก็สงบลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเปิดปากเอ่ยกับหลี่จิ่วเต้าว่า “ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเจ้ากำลังเล่นกับไฟ มีเพียงหนทางตายรออยู่ หวังว่าเจ้าจะไม่ทิ้งชีวิตไปกับเขา กลับใจเสียตอนนี้ยังทัน!”
ขณะเดียวกัน เขามองไปยังต้นวิเศษสัตตะอยู่ตลอดเวลา พยายามคิดว่าพลังที่หลั่งไหลออกมาจากต้นวิเศษสัตตะเป็นของสมาชิกผู้ใดในดินแดนพิสุทธิ์
ต้นวิเศษสัตตะไร้สิ่งใดพิเศษ เพียงแค่ได้รับพลังแข็งแกร่งเข้ามา เขาต้องการสำรวจแหล่งที่มาของพลัง น่าเสียดาย ต่อให้เขาตรวจสอบอย่างไรก็ไม่อาจย้อนกลับมาสืบเสาะไปยังแหล่งที่มาของพลังได้!
สมาชิกดินแดนพิสุทธิ์ที่ลงมือจะต้องแข็งแกร่งเหนือกว่าเขามาก!
‘น่าชิงชังนัก มีสมาชิกดินแดนพิสุทธิ์จำนวนไม่น้อยที่แข็งแกร่งกว่าข้า ไม่มีทางคาดเดาได้โดยสิ้นเชิง!’
เขาสบถสาปแช่งอยู่ในใจ
แม้เขาจะไม่ได้อยู่จุดต่ำสุดในดินแดนพิสุทธิ์ แต่ก็สูงขึ้นไปเพียงแค่เล็กน้อยเท่านี้ มีสมาชิกจำนวนมากแข็งแกร่งกว่าเขา
‘ไม่เป็นไร! แม้การเชื่อมต่อระหว่างข้ากับร่างหลักจะขาดออก ไม่สามารถส่งข้อมูลกลับไปได้ แต่ร่างหลักย่อมต้องตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ จากนั้นจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากสมาชิกคนอื่นแน่!’
เขาเอ่ยในใจ
ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคิด หลังจากการเชื่อมต่อตัดขาดไป ร่างหลักของเขารับรู้ถึงความร้ายแรงของปัญหาครั้งนี้ได้โดยพลัน!
ร่างหลักของเขาติดต่อกับสมาชิกแดนพิสุทธิ์คนอื่นทันที!
“ผู้อยู่เบื้องหลังอันใด?”
หลี่จิ่วเต้าแย้มยิ้ม “นักพรตเฒ่า เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว เบื้องหลังข้าไร้ซึ่งผู้ใด”
ร่างแปลงนักพรตเฒ่าไม่เชื่อคำพูดของหหลี่จิ่วเต้า
ช่วงเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยปล่อยปละละเลยเกี่ยวกับสถานการณ์ในทุกแดนลับ ล่วงรู้ทุกสิ่งประหนึ่งหลังมือ ทำให้ไร้สิ่งมีชีวิตใดในแดนลับสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเดียวกับพวกเขาอย่างขอบเขตไร้กั้นได้
“ช่างเถิด กับหุ่นเชิดเช่นเจ้า พูดมากไปก็ไร้ค่า คร้านเกินกว่าจะเอ่ยวาจา!”
ร่างแปลงนักพรตเฒ่าส่งเสียงเย็นชา ก่อนจะปิดปากไม่เอ่ยอันใด
หลี่จิ่วเต้าไม่ได้เป็นสมาชิกดินแดนพิสุทธิ์ เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดที่สมาชิกแดนพิสุทธิ์ผู้นั้นใช้ พูดคุยกับหุ่นเชิดไปมากเท่าใดก็ไร้ประโยชน์
“เจ้าไม่อยากพูด แต่ข้าอยากให้เจ้าพูด…”
หลี่จิ่วเต้ายิ้ม หยิบเชือกป่านเส้นหนึ่งออกมา เส้นป่านเส้นนั้นพุ่งเข้าไปพันรอบร่างนักพรตเฒ่าทันที
“เอาล่ะ ตอนนี้บอกในสิ่งที่ข้าต้องการจะได้ยินมาเสีย” ชายหนุ่มว่า
อันใดกัน?
หยิบเชือกป่านที่ปุถุชนใช้ออกมาเพื่อต้องการให้เขาเปิดปากพูดหรือ?
ร่างแปลงนักพรตเฒ่าคิดว่าหลี่จิ่วเต้าเองก็เป็นบ้า เสียสติไปโดยสิ้นเชิง ใช้ชีวิตอยู่ในความฝัน!
‘คนบ้าติดตามคนบ้า นี่ย่อมสมเหตุสมผล!’
เขาเอ่ยในใจอย่างดูแคลน
ทว่าพริบตาต่อมาสีหน้าของเขาพลันแปรเปลี่ยน รู้สึกถึงพลังพิเศษที่หลั่งไหลจากเชือกป่านเข้าไปในร่างและวิญญาณของเขา!
วิญญาณของเขาถูกควบคุมเอาไว้!
นี่คือ…เชือกสัจจะ เป็นของที่หลี่จิ่วเต้าแลกเปลี่ยนมาจากบรรพจารย์ฝู บรรพจารย์ฝูกล่าวว่าสิ่งมีชีวิตใดที่ถูกเชือกมัดย่อมเอ่ยเรื่องจริง ไม่อาจโป้ปดได้
“บอกเกี่ยวกับตัวตนที่มาของเจ้าเสีย”
หลี่จิ่วเต้ากล่าว
ภายใต้อิทธิพลของเชือกสัจจะ แม้ร่างแปลงนักพรตเฒ่าจะไม่ยินยอมอย่างถึงที่สุด แต่ปากของเขาก็เอ่ยทุกเรื่องออกมาอย่างรวดเร็ว
“ข้าเป็นร่างแปลงของนักพรตเจวี๋ยเฉิน บรรพมังกรเก้าเล็บเป็นสิ่งมีชีวิตที่นักพรตเจวี๋ยเฉินเลือกไว้เพื่อนำเข้าไปยังแดนพิสุทธิ์จวินเทียน แต่กลับถูกสังหาร ทำให้นักพรตเจวี๋ยเฉินโกรธเป็นอย่างยิ่ง จึงส่งข้ามาที่นี่เพื่อตรวจสอบ!”
ร่างแปลงของนายท่านผู้หนึ่งแห่งแดนพิสุทธิ์จวินเทียน?!
สิ่งมีชีวิตสตรีเพศต่างตื่นตกใจกลัว
ภายในใจของพวกนาง แดนพิสุทธิ์จวินเทียนคือสถานที่สูงส่งที่สุด นายท่านด้านในแดนพิสุทธิ์จวินเทียนเป็นสิ่งมีชีวิตบนจุดสูงสุด ตัวตนอันไร้เทียมทานไม่มีเทียบเคียง!
หลี่จิ่วเต้าไม่ได้ตื่นตกใจอันใดกับที่มาของร่างแปลงนักพรตเฒ่า
ร่างแปลงนักพรตเฒ่ามาพร้อมจิตสังหารล้นทะลัก เขาคิดว่าร่างแปลงนักพรตเฒ่าน่าจะเป็นนายท่านแห่งดินแดนพิสุทธิ์จวินเทียนที่บรรพมังกรเก้าเล็บเอ่ยถึง
“พูดมา ว่าสภาพของแดนพิสุทธิ์จวินเทียนเป็นเช่นไร”
หลี่จิ่วเต้าเปิดปากถาม
จากคำพูดของเหล่าสิ่งมีชีวิตสตรีเพศ เขารู้มาว่าแดนพิสุทธิ์จวินเทียนเป็นสถานที่เหนือชั้นอันสูงสุด สิ่งมีชีวิตแดนลับทั้งหมดต่างต้องการเข้าไป
จำต้องเข้าไปแดนพิสุทธิ์จวินเทียนจึงจะสามารถทะลวงผ่านขึ้นยังขอบเขตที่สูงกว่าได้ พบกับเส้นทางการฝึกตนที่สูงกว่าเดิม
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงสนใจแดนพิสุทธิ์จวินเทียนขึ้นมา ต้องการจะลองไปเดินชมสถานที่แห่งนั้นยิ่ง
ร่างแปลงนักพรตเฒ่ามาจากแดนพิสุทธิ์จวินเทียน เขาจึงต้องการรู้สภาพของแดนพิสุทธิ์จวินเทียนจากปากของร่างแปลงนักพรตเฒ่าเพื่อจะได้เตรียมตัวล่วงหน้า
“ที่นั่น…อันใดล้วนไม่มี นอกเสียจากความโกลาหล”
ปากของร่างแปลงนักพรตเฒ่าซื่อสัตย์ยิ่ง เขาร้อนใจมากเสียจนต้องการจะฉีกปากตนเองเป็นชิ้น ๆ
“อันใด…ล้วนไม่มี?!”
หลี่จิ่วเต้าขมวดคิ้ว สถานการณ์เช่นนี้แตกต่างกับคำพูดของเหล่าสิ่งมีชีวิตสตรีเพศยิ่งนัก
เขาเอ่ยปากถาม “ไม่ใช่ว่าแดนพิสุทธิ์จวินเทียนคือสถานที่อันเหนือชั้นอันสูงสุดหรือ? เหตุใดจึงกล่าวว่าอันใดล้วนไม่มี นอกเสียจากความโกลาหล?”
“โกหก ทั้งหมดล้วนเป็นคำลวง เป็นคำลวงที่สมาชิกแดนพิสุทธิ์จวินเทียนจงใจสร้างขึ้นมา”
ร่างแปลงนักพรตเฒ่าเอ่ย “ทุกช่วงเวลาหนึ่ง สมาชิกผู้หนึ่งจะเลือกสิ่งมีชีวิตทรงพลังพอจะเก็บเกี่ยวได้ในแดนลับออกมา เพื่อดูดซับพลังทั้งหมด”
เพื่อให้พวกเขาเก็บเกี่ยวได้สบายขึ้น พวกเขาจึงสร้างคำลวงดังกล่าวออกมา ทำให้สิ่งมีชีวิตในทุกแดนลับเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะเข้าไปในแดนพิสุทธิ์จวินเทียน
“อะไรกัน!”
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?!”
หลังจากได้ยินความจริง เหล่าสิ่งมีชีวิตสตรีเพศต่างล้วนไม่อยากจะเชื่อหู
ผ่านมานานมากแล้วที่สิ่งมีชีวิตแดนลับอย่างพวกเขาทั้งหมดต่างถือว่าการได้เข้าไปยังแดนพิสุทธิ์จวินเทียนเป็นเกียรติยศ เป็นจุดมุ่งหมายตลอดชีวิต ผลที่ออกมากลับเป็นเพียงคำลวง?
พวกเขาเป็นเพียงแค่เหยื่อให้เหล่านายท่านในแดนพิสุทธิ์จวินเทียนได้เก็บเกี่ยว?
หัวใจของเหล่าสิ่งมีชีวิตสตรีเพศพังทลายลงในพริบตา ความจริงนี้ส่งผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อพวกนาง!
หลี่จิ่วเต้าขมวดคิ้ว โลกแห่งการฝึกฝนนั้นโหดร้ายอย่างถึงที่สุด ความดีงามอย่างสมบูรณ์แบบ ล้วนไม่มีดำรงอยู่!
แดนพิสุทธิ์จวินเทียนที่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดใฝ่หา แท้จริงกลับกลายเป้นนรก สถานที่อันถูกสังหารและเก็บเกี่ยว!
ทันใดนั้นเอง เขาพลันหมดความเฝ้าคอยกับแดนพิสุทธิ์จวินเทียน ไม่ต้องการไปที่นั่นอีก
“เหตุใดพวกเจ้าจึงทำเช่นนี้?”
เขาถาม
“นี่เป็นคำสั่งจากจ้าวแดนพิสุทธิ์ที่มอบหมายมา พวกข้าเป็นลูกสังหารให้กับจ้าวแดนพิสุทธิ์!”
นักพรตเฒ่าเอ่ยอย่างไม่อ้อมค้อม “ขณะเดียวกัน พวกข้าเองก็ต้องการดูดซับพลังจากสิ่งมีชีวิตดินแดนลับเพื่อเปิดหนทางการฝึกฝนหลังจากนี้ของตนเอง”
ปากของเขาบอกเล่าทุกอย่างโดยไร้การเก็บงำ สิ่งมีชีวิตทรงพลังที่ใกล้ก้าวขึ้นสูงขอบเขตที่สูงขึ้นได้ล้วนถูกพวกเขาสังหาร ไม่มีผู้ใดสามารถขึ้นไปยังขอบเขตที่สูงขึ้นได้
นอกจากนี้ สิ่งที่พวกเขาคาดเดาเรื่องเกี่ยวกับการที่จ้าวแดนพิสุทธิ์ออกคำสั่งเช่นนี้ก็ถูกเขาพูดเช่นกัน
“พวกข้าคาดการณ์ว่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ไม่ต้องการให้สิ่งมีชีวิตอื่นฝึกฝนจนทัดเทียมพวกเขาได้…”
กระทั่งเรื่องปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นกับเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ก็ถูกปากของเขาเอ่ยออกมาจนสิ้น
“แม้พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอันใดขึ้นกับเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ แต่พวกข้ามั่นใจยิ่งว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นเรื่องใหญ่!”
ได้ยินถึงตรงนี้ ร่างของมู่อวี่ก็สะท้านขึ้นมาเล็กน้อย
จ้าวแดนพิสุทธิ์นั่นคือศัตรูของพี่ใหญ่ใช่หรือไม่ ผู้ที่เดินหมากกับพี่ใหญ่?!
ดังนั้นสาเหตุที่ทำให้จ้าวแดนพิสุทธิ์เกิดปัญหาใหญ่ คือฝีมือพี่ใหญ่!
“สมควรเป็นเช่นนั้น! จ้าวแดนพิสุทธิ์น่าจะเป็นผู้เดินหมากในเงามืด!”
มู่อวี่เอ่ยในใจ ‘หากเป็นไปตามที่ร่างแปลงนักพรตเฒ่าคาดเดา เป็นไปได้หรือไม่ว่าการดำรงอยู่ของพี่ใหญ่สร้างการคุกคามต่อจ้าวแดนพิสุทธิ์ ดังนั้นเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์จึงลงมือกับพี่ใหญ่?!’
จากนั้นนางพลันเกิดความคิดหาญกล้าบางอย่างขึ้นมาในใจ ‘มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่พี่ใหญ่อาจเคยเป็นหนึ่งในจ้าวแดนพิสุทธิ์?!’
เนื่องจากอิงตามคำพูดของนักพรตเฒ่าแล้ว สมาชิกดินแดนพิสุทธิ์คอยควบคุมเหล่าสิ่งมีชีวิตทรงพลังเอาไว้ ป้องกันไม่ให้สามารถเข้าสู่ขอบเขตที่สูงกว่า และก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด
นี่ทำให้นางอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าพี่ใหญ่มีโอกาสอย่างมากที่จะเป็นหนึ่งในจ้าวแดนพิสุทธิ์!
……….