รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1094 เผยแพร่เต๋าในดินแดนเก่า เล่าขานนามพี่ใหญ่!
- Home
- All Mangas
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1094 เผยแพร่เต๋าในดินแดนเก่า เล่าขานนามพี่ใหญ่!
บทที่ 1094 เผยแพร่เต๋าในดินแดนเก่า เล่าขานนามพี่ใหญ่!
……….
บทที่ 1094 เผยแพร่เต๋าในดินแดนเก่า เล่าขานนามพี่ใหญ่!
ทางฝั่งพลังด่างพร้อยนั่นดูแล้วอันตรายกว่าอยู่บ้าง จ้าวตี้จึงเสนอตนเป็นตัวแทนไปเจรจากับฝั่งพลังด่างพร้อย
สุดท้าย พวกเขาก็แบ่งออกเป็นสองทาง หนึ่งมุ่งหน้าข้ามทะเลนิโรธ อีกหนึ่งไปยังฝ่ายพลังด่างพร้อย
…
ดินแดนเก่า
มู่อวี่เคลื่อนไหวรวดเร็วมาก เหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ที่ฟื้นคืนชีพในดินแดนเก่าทั้งหมดถูกจับตัว ไม่รอดเว้นแม้สักคน
สาเหตุหลักเป็นเพราะนางแข็งแกร่งเกินไป หนึ่งความคิดก็ปกคลุมดินแดนเก่าได้ทั้งหมด อีกทั้งผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ที่ฟื้นคืนชีพเหล่านั้นยังห่างไกลจากการฟื้นตัวเต็มที่ ไม่มีทางหลุดรอดไปได้ ถูกนางพบตัวอย่างง่ายดาย
“ตราบใดที่คิดถึงอยู่เสมอ ย่อมมีเสียงตอบรับ ข้าต้องการให้พวกเจ้าเผยแพร่เต๋าในดินแดนเก่า เผยแพร่เต๋าของพี่ใหญ่!”
สีหน้าของมู่อวี่สงบนิ่งยาวเอ่ยกับเหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่
นี่คือจุดประสงค์ที่นางจับตัวเหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่มา
ดินแดนเก่าเป็นบ้างเกิดของพี่ใหญ่ มีร่องรอยหลงเหลืออยู่มากมาย อีกทั้งผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่เหล่านี้ล้วนเคยติดต่อกับพี่ใหญ่ นับได้ว่ามีกรรมกับพี่ใหญ่
หากให้ผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่เหล่านี้ออกเผยแพร่เต๋าในดินแดนเก่า ยกย่องและทำให้เต๋าของพี่ใหญ่แพร่หลายในดินแดนเก่า หลังจากที่สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าล่วงรู้การดำรงอยู่ของพี่ใหญ่แล้ว ประกอบกับร่องรอยที่เหลืออยู่ในดินแดนเก่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่พี่ใหญ่จะตื่นขึ้นและฟื้นคืนชีพกลับมา
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ไม่เอ่ยวาจา ไม่ต้องการตอบรับ
ยามที่พวกเขาทรยศคนผู้นั้น แม้ไม่ได้มาจากความตั้งใจของพวกเขา แต่หลังจากนั้นพวกเขาต่างมีส่วนร่วมในการลงมือลบร่องรอยของคนผู้นั้น เมื่อคนผู้นั้นฟื้นคืนชีพกลับมาจะปล่อยพวกเขาไปหรือ?
“นี่เป็นโอกาสที่พวกเจ้าจะได้ไถ่บาป!”
สีหน้ามู่อวี่เรียบเฉย “ข้าไม่ได้กำลังเจรจาหรือขอร้องให้พวกเจ้าตกลง ข้าแค่แจ้งให้รับรู้และสั่งให้พวกเจ้าทำ หากไม่ทำ ข้าจะส่งพวกเจ้าไปตายเสียตั้งแต่ตอนนี้!”
“เข้า…เข้าใจแล้ว!”
“พวกข้าตกลง!”
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ไร้หนทางเลือก ทำได้เพียงตอบรับ หากพวกเขาไม่ยอมก็ต้องตายตอนนี้ แต่หากยอมอย่างน้อยก็มีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวขึ้น
หลังจากนั้นภายใต้การจัดแจงของมู่อวี่ พวกเขาจึงได้บอกเล่าความจริงทุกอย่างให้แก่เหล่าสิ่งมีชีวิตโลกใหม่ที่ถูกขังเอาไว้ก่อน
“คนผู้นั้นได้รับการยกย่องว่า…ปิตาจารย์หลี่ ผู้ก้าวออกจากดินแดนเก่า บุกเบิกโลกใหม่ขึ้นมาคนแรกในประวัติศาสตร์ ยืนอยู่จุดสูงสุดแห่งการฝึกตน!”
ปิตาจารย์หลี่ นี่คือนามที่พวกเขาเรียกยกย่องคนผู้นั้น เพราะไม่รู้นามที่แท้จริง คนผู้นั้นไม่เคยบอกกล่าวกับพวกเขามาก่อน
คนผู้นั้นอยู่บนจุดสูงสุด เหนือชั้นอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เห็นได้ชัดว่าอยู่คนละชั้นกับพวกเขา คนผู้นั้น…ให้กล่าวอย่างจริงจังแล้ว ประหนึ่งเป็นเพียงผู้สัญจรผ่านแดนธุลี เฉื่อยชาต่อสรรพสิ่ง ไม่เคยเก็บเรื่องใดมากังวลใจ
พวกเขายามได้ติดตามคนผู้นั้นในครั้งอดีต นับได้ว่าดีต่อพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง ชี้แนะปัญหาด้านการฝึกตนให้และชักนำให้ขึ้นไปยังขอบเขตที่สูงขึ้น ค่อย ๆ เปิดประตูทีละบานทีละบานให้พวกเขา
กล่าวอย่างไม่เกินจริง ก่อนที่คนผู้นั้นจะปรากฏตัว อย่าได้พูดถึงขอบเขตแสวงวิถีเลย กระทั่งขอบเขตคลุมฟ้าหรือขอบเขตล้ำขีด พวกเขาต่างไม่รู้จักมาก่อน ไม่รู้ว่าต้องฝึกฝนขึ้นไปเช่นใดได้
เป็นคนผู้นั้นที่ทำให้พวกเขาได้เห็นขอบเขตล้ำขีด เห็นจนถึงขอบเขตคลุมฟ้าที่อยู่เหนือขั้นไป เห็นกระทั่งขอบเขตแสวงวิถีที่อยู่สูงยิ่งกว่า
แม้คนผู้นั้นจะปฏิบัติใกล้ชิดกับพวกเขายิ่ง แต่พวกเขายังรู้สึกว่าคนผู้นั้นให้ความรู้สึกห่างไกล ประหนึ่งเป็นผู้ก้าวข้ามทุกสรรพสิ่ง ไม่ได้ดำรงอยู่ในโลกธุลี ไม่ได้เหยียบย่างบนโลกผืนเดียวกัน
เกี่ยวกับความเป็นมาที่แท้จริงของคนผู้นั้น พวกเขาไม่ทราบแม้แต่น้อย เพราะคนผู้นั้นไม่เคยบอกเล่าพวกเขา
“อันใดกัน!”
“มีบุคคลเช่นนี้อยู่จริงหรือ?!”
สิ่งมีชีวิตโลกใหม่หลังได้ยินเรื่องราวที่เหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่บอกเล่าต่างตะลึงงัน
เกี่ยวกับคนผู้นั้น…ปิตาจารย์หลี่ พวกเขาเคยได้ยินมาบ้างแล้ว ก่อนหน้านี้มู่อวี่เคยกล่าวเอาไว้ว่ามีตัวตนเช่นบุคคลนี้อยู่ เป็นผู้สร้างสรรโลกใหม่อันรุ่งโรจน์เหนือชั้นขึ้นมา
พวกเขาแสดงท่าทางสงสัย พากันเอ่ยถาม ว่าเหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ถูกมู่อวี่ควบคุมและจงใจสร้างเรื่องโกหกเกี่ยวกับคนผู้นั้นออกมาใช่หรือไม่?
อย่างไรเสียเรื่องทั้งหมดก็สร้างผลกระทบให้พวกเขาใหญ่หลวงเกินไป ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับการดำรงอยู่ของคนผู้นั้นมาก่อน รู้เพียงว่าโลกใหม่นั้นสร้างขึ้นมาจากเหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่
“ไม่ใช่”
ผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่คนหนึ่งกล่าวว่า “พวกข้าไม่ได้ถูกใครควบคุม ทุกสิ่งที่บอกล้วนเป็นความจริง”
จากนั้นพวกเขาก็เล่าต่อตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีการข้าม ทั้งหมดต่างถูกเอ่ยออกมา
“เรื่องที่พวกข้าบอกพวกเจ้าที่โลกใหม่คือคำลวง! พวกข้าบอกว่าดินแดนเก่ามีปัญหาใหญ่ด้านการฝึกฝน หลังจากฝึนฝนถึงจุดหนึ่งแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนสภาพอันแปลกประหลาดน่าสยดสยอง หลังจากนั้นต้องเผชิญกับความเจ็บปวดอันไร้ที่สิ้นสุด ได้รับความทรมานจนตายลง…”
“ยังมีเรื่องที่ดินแดนเก่าเป็นเพียงมายา ดินแดนเก่าที่แท้จริงถูกทำลายสิ้นแล้ว ทั้งหมดเป็นเพียงการโกหก!”
“ดินแดนเก่าที่พวกเจ้ากำลังยืนอยู่คือโลกเก่าที่แท้จริง ไม่ได้ถูกทำลายแต่อย่างใด ยังคงอยู่อย่างเดิมมาตลอด!”
“เหตุผลที่พวกข้าบอกพวกเจ้าว่าดินแดนเก่าเป็นภาพมายา อีกทั้งยังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อลบร่องรอยทั้งหมดที่เกี่ยวกับดินแดนเก่าในโลกใหม่ ก็เพื่อไม่ให้คนผู้นั้นฟื้นคืนชีพ…”
เขายังบอกเล่าถึงความผิดทั้งหมดของพวกเขาออกมาอีกด้วย
คนผู้นั้น…ปิตาจารย์หลี่ ได้พาพวกเขาเข้าสู่โลกใหม่ หลังจากนั้นก็พยายามปรับปรุงดินแดนใหม่ให้สมบูรณ์แบบ
ทุกเรื่องราวดำเนินไปด้วยดี
ภายใต้การจัดการของปิตาจารย์หลี่ โลกใหม่ไร้ซึ่งปัญหาใด พวกเขายังได้รับสสารฝึกฝนอันเหนือชั้น อุดมสมบูรณ์ด้านการฝึกฝน
“แต่ภายหลัง พวกข้าถูกมอมเมาปลุกปั่นด้วยเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมาในใจเหล่าผู้ยิ่งใหญ่!”
เสียงนั้นชักนำพวกเขาไปหาปิตาจารย์หลี่ ณ ที่แห่งนั้น…ทะเลนิโรธ ภายใต้การสะกดจากเสียงนั่น พวกเขาต่างลงมือโจมตีปิตาจารย์หลี่
เมื่อเล่าถึงตรงนี้ สีหน้ามู่อวี่ที่อยู่ด้านข้างพลันเปลี่ยนเป็นทุกข์ตรม
นี่นับเป็นความเจ็บปวดครั้งใหญ่หลวงสุดในใจนางอย่างแท้จริง
ยามนั้นนางเองก็ถูกเสียงนั่นสะกด ลงมือกับพี่ใหญ่เช่นเดียวกัน!
“ปิตาจารย์หลี่สลายหายไปสิ้นเชิงภายใต้การโจมตีของพวกข้า ตายไปจากโลกนี้ หลังจากนั้นพวกข้าจึงได้สติกลับคืนมา…”
ผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ยังคงกล่าวต่ออีกว่า “พวกข้าตระหนักทันทีว่าได้ทำเรื่องผิดพลาดลงไปแล้ว ทั้งยังเป็นความผิดครั้งร้ายแรง พวกข้าหวาดกลัวและกังวลมาก กลัวว่าปิตาจารย์หลี่จะฟื้นคืนชีพ กังวลว่าหลังจากปิตาจารย์หลี่คืนชีพจะกลับมาจัดการสะสางกับพวกข้า”
“ดังนั้น พวกข้าจึงพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อทำลายร่องรอยทั้งหมดของปิตาจารย์หลี่ หลอกว่าดินแดนเก่าเป็นโลกมายา ทำให้ชื่อปิตาจารย์หลี่เลือนหายไปจากโลกนี้!”
“พวกข้าสังหารเหล่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ล่วงรู้เกี่ยวกับการดำรงอยู่ของปิตาจารย์หลี่ ทำลายบันทึกทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับปิตาจารย์หลี่…”
ความจริงทั้งหมดถูกเหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่เล่าออกมา ไม่มีเรื่องใดเก็บงำเอาไว้
เหล่าสิ่งมีชีวิตโลกใหม่ทั้งหมดหลังได้ฟังความจริงเหล่านี้แล้ว ทั้งหมดต่างตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดเลย ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาใช้ชีวิตท่ามกลางคำลวงมาโดยตลอด!
ตอนนั้นเองมู่อวี่ก็เดินออกมา
นางเปิดปากเอ่ยว่า “ข้ารู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องยากที่พวกเจ้าจะยอมรับ แต่นี่คือความจริง!”
จากนั้นนางก็ให้เหล่าสิ่งมีชีวิตโลกใหม่และผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่เริ่มเคลื่อนไหวในดินแดนเก่า เผยแพร่เต๋าของพี่ใหญ่
“หลังพี่ใหญ่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง พวกเจ้าจะเข้าใจและยอมรับเอง! ตอนนี้เริ่มลงมือเถิด!”
ภายใต้คำสั่งของนาง เหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ได้นำสิ่งมีชีวิตโลกใหม่ทั้งหมดเดินทางไปยังอาณาจักรต่าง ๆ ของโลกเก่า เพื่อเผยแพร่เต๋าและนามของพี่ใหญ่
“ปิตาจารย์หลี่?”
พวกเมิ่งจีเองก็อยู่ที่นี่ หลังได้ฟังนามยกย่องนี้ สีหน้าของพวกเขาพลันแปลกประหลาดอย่างถึงที่สุด
“อาจเป็นคุณชายก็ได้!”
สุนัขดำอดเอ่ยออกมาไม่ได้ คุณชายเองก็แซ่หลี่เช่นกัน อีกทั้งยังมีความสามารถและพลังสอดคล้องกับปิตาจารย์หลี่ผู้นั้น!
“ข้าก็หวังให้เป็นเช่นนั้น…แต่ไม่ใช่”
มู่อวี่ส่ายศีรษะ “ข้าเคยพบคุณชายแล้ว หากคุณชายเป็นพี่ใหญ่จริง ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? คุณชายไม่ใช่พี่ใหญ่ ข้ามั่นใจในจุดนี้”
“เอาถิด”
เมื่อพวกเมิ่งจีเห็นว่ามู่อวี่มั่นใจถึงเพียงนี้ พวกเขาก็เลิกคิดว่าคุณชายคือปิตาจารย์หลี่
อย่างไรเสียมู่อวี่ก็สนิทสนมใกล้ชิดกับปิตาจารย์หลี่ยิ่ง กระทั่งนางยังเอ่ยเช่นนี้ คุณชายก็ไม่น่าจะเป็นปิตาจารย์หลี่
“ข้าจะไปแสดงความขอบคุณกับคุณชาย!”
มู่อวี่กล่าว รบกวนให้เมิ่งจีช่วยถามว่าหลี่จิ่วเต้าอยู่ที่ใด นางอยากไปแสดงความขอบคุณเขา
ยามนั้นนางคิดว่าหลี่จิ่วเต้าวางตัวเป็นกลาง ไม่ต้องการช่วยเหลือนางมากเกินไป ดังนั้นจึงไม่ได้รั้งอยู่นาน ทั้งยังไม่ได้นึกถึงหนทางติดต่อใดเอาไว้
ทว่าต่อมาก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่านางคิดผิด หลี่จิ่วเต้าไม่ได้เป็นกลาง ซ้ำยังเต็มใจช่วยเหลือนางกับพี่ใหญ่ ทั้งยังลงแรงเป็นอย่างมาก
นางต้องการไปขอบคุณหลี่จิ่วเต้าจริง ๆ
น่าเสียดาย หลี่จิ่วเต้าไม่ธรรมดาเกินไป หนึ่งความคิดของนางสามารถปกคลุมทั่วทั้งดินแดนเก่าได้ ทั้งยังสามารถเข้าใจสถานการณ์ในอาณาจักรนับไม่ถ้วนได้ แต่นางกลับไม่อาจล่วงรู้ถึงตำแหน่งของเขาได้
ทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากพวกเมิ่งจี เพื่อให้นางตามหาตัวเขาได้
เพียงไม่นาน เมิ่งจีก็ให้คำตอบแก่นาง บอกตำแหน่งของหลี่จิ่วเต้าให้
เมิ่งจีติดต่อลั่วสุ่ยเพื่อให้บอกต่อไปยังหลี่จิ่วเต้าอีกทีว่ามู่อวี่ต้องการพบ หลี่จิ่วเต้าแสดงท่าทางยินดีและรอคอยให้มู่อวี่มาหา
“ขอบคุณ!”
มู่อวี่ขอบคุณพวกเมิ่งจี ก่อนจะจากไป
“พวกเราเองก็แยกย้ายกันเถิด ไม่มีวิกฤตกาลในดินแดนเก่าแล้ว! อืม กล่าวให้ถูกคือยามนี้ไม่มีวิกฤตกาลใดแล้ว!”
เมิ่งจีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ลานเล็กพาเหล่าสมบัติมา สำแดงให้เห็นถึงพลังไร้เทียมทาน จ้าวเทียนและเหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่จะต้องไม่กล้าลงมืออย่างบุ่มบ่ามอีกแน่นอน ช่วงนี้ดินแดนเก่าจะอยู่ในความสงบไปสักระยะ
พวกเขาต่างแยกย้ายออกจากอาณาจักรหั่วซาง
ใช้เวลาเพียงไม่นาน มู่อวี่ก็มาถึงจุดที่หลี่จิ่วเต้าอยู่
“ท่านเซียนอวี่มาแล้ว”
หลี่จิ่วเต้ายิ้ม เชิญมู่อวี่ให้นั่งลงอย่างมีไมตรี เขาชงชาเตรียมเอาไว้ให้นางเรียบร้อยแล้ว
ก่อนหน้ายามได้พบกับมู่อวี่ เขารู้สึกถูกคอกับมู่อวี่ยิ่ง และก็คาดไว้ไม่ผิด เขากับมู่อวี่มีวาสนาต่อกันอย่างแท้จริง เช่นนั้นนางจึงได้ไปพบเข้ากับคนคุ้นเคยของเขา
“ขอบคุณคุณชาย!”
มู่อวี่ขอบคุณก่อนจะนั่งลง
จั่วเหยียนเองก็กำลังยืนอยู่ด้านข้าง
‘เลือกปฏิบัติ เลือกปฏิบัตินัก!’
จั่วเหยียนใกล้ร้องไห้แล้ว นี่คือประโยชน์ของการเป็นสาวงามหรือ? ดูเสีย เมื่อคุณชายได้ยินว่ามู่อวี่กำลังมาก็เตรียมน้ำชาเอาไว้ล่วงหน้าอย่างเสร็จสรรพ
ความแตกต่างระหว่างเขากับมู่อวี่มากเกินไปแล้ว!
‘ต่างก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ ทว่ามู่อวี่ได้รับการปฏิบัติดีถึงเพียงนี้ ส่วนข้าได้แต่ทุกข์ตรม กลายเป็นบ่าวรับใช้…’
เขาตะโกนในใจ หากชาติหน้ามีจริง เขาไม่ต้องการเป็นบุรุษแล้ว เขาอยากเป็นสตรี!
‘หากข้าเป็นสตรีงามไร้ผู้เทียบเคียง ยามนี้คงไม่ตกอยู่ในสภาพน่าเวทนาเช่นนี้! อย่างน้อยสุดก็ไม่ต้องเป็นบ่าวรับใช้!’
จั่วเหยียนร่ำไห้ในใจ
……….