รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1074 เข้าใจความจริง ทุกอย่างไม่อาจปล่อยไปเช่นนี้!
- Home
- All Mangas
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1074 เข้าใจความจริง ทุกอย่างไม่อาจปล่อยไปเช่นนี้!
บทที่ 1074 เข้าใจความจริง ทุกอย่างไม่อาจปล่อยไปเช่นนี้!
……….
บทที่ 1074 เข้าใจความจริง ทุกอย่างไม่อาจปล่อยไปเช่นนี้!
กระทั่งเลียก้นถ้วยยังไม่มีคุณสมบัติ!
ใช่แล้ว เขาน่าเวทนาถึงเพียงนั้น ครั้งหนึ่งเคยคิดจะกินของเหลือ แต่ก็ทำไม่ได้ ถูกต้าเต๋อจับได้ก่อนและทุบตีจนเกือบตาย!
‘เป็นบ่าวรับใช้เช่นนี้ ยังไม่อาจเทียบสุนัขได้เลย!’
จั่วเหยียนยิ่งคิดยิ่งปวดใจ หากเป็นสุนัขตัวหนึ่งก็ยังคงเหลือกระดูกให้กิน ทว่าเขากลับไม่อาจกินสิ่งใดได้เลย
แต่เรื่องนี้เขาคิดผิดแล้ว
เขายังไม่เคยได้พบสุนัขดำที่หลี่จิ่วเต้าเลี้ยงไว้ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เอ่ยออกมาเช่นนี้ สุนัขดำนั้นดีกว่าเขามาก!
หลี่จิ่วเต้าไม่เคยเลี้ยงสุนัขดำด้วยกระดูกเหลือเลย หากจะให้สุนัขดำก็เป็นแกงตุ๋นกระดูกสดใหม่
หากจั่วเหยียนได้เห็นฉากนี้เข้าจริง เกรงว่าอาจร้องไห้เสียจนน้ำตาเหือดแห้ง
อีกด้านหนึ่ง มู่อวี่จิบชาอีกครั้ง
อึดใจเดียว ลมหายใจทั้งหมดของนางเกิดการเปลี่ยนแปลงทันที ดียิ่งกว่านางยามเพิ่งมาถึงเป็นอย่างมาก จั่วเหยียนรับรู้ได้ถึงแรงกดดันมหาศาลจนเขาแทบหายใจไม่ออกทันที
ยิ่งไปกว่านั้น ร่างของจั่วเหยียนพลันงอลงอย่างไม่อาจควบคุมได้ ทั้งยังมีแววจะถูกกดจนติดพื้น
ยังดีที่แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวถูกมู่อวี่เก็บกลับไปอย่างรวดเร็ว ทำให้จั่วเหยียนกลับสู่สภาพปกติ
‘มารดาเจ้าเถิด ทรงพลังเหลือเกิน! เพียงจิบชาไปสองอึก มู่อวี่ก็ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์กลับไปสู่ยามอยู่จุดสูงสุด’
ไม่ต้องกล่าวเลยว่าจั่วเหยียนริษยามากเพียงใด ภายในใจครุ่นคิดว่า ‘ยังมีน้ำชาเหลืออีกมาก’
หลังมู่อวี่ดื่มชาจนหมดถ้วยแล้ว นางจะต้องก้าวขึ้นไปในขั้นที่สูงกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย
‘ขอบเขตแสวงวิถี ยากยิ่งจะก้าวหน้า ปรับปรุงนับหลายร้อยปีได้เพียงน้อยนิด ราวเป็นเพียงฝันไม่ใช่ความจริง…’
จั่วเหยียนอดทอดถอนใจไม่ได้ ‘ตอนนี้ความก้าวหน้าของมู่อวี่จะต้องมากกว่าคำว่าน้อยนิดอย่างแน่นอน หลังจากดื่มชาที่เหลือหมดแล้ว มู่อวี่จะต้องไปรับความก้าวหน้ามหาศาล!’
ชาสองจิบก็สามารถทำให้มู่อวี่ฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิม มิหนำซ้ำด้านในถ้วยยังเหลือน้ำชาอีกมาก นางจะต้องก้าวหน้ามหาศาลอย่างแน่นอน
ผลลัพธ์ทั้งหมดเป็นดั่งที่เขาคาดเอาไว้ มู่อวี่ดื่มชาที่เหลือในถ้วยลงไป เขาสัมผัสได้ว่าบนตัวนางมีสัญญาณการทะลุทะลวง!
‘แสวงวิถีวรรณะหก!’
หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำราวกับกลองศึก สั่นสะเทือนไม่หยุด!
ขอบเขตในอดีตของมู่อวี่ เขารู้ชัดเป็นอย่างยิ่ง นางอยู่ขอบเขตแสวงวิถีวรรณะห้า ทั้งยังเป็นวรรณะห้าที่เพิ่งบรรลุก้าวเข้าไป
เขารู้อยู่แล้วว่าหลังจากมู่อวี่ดื่มชาเข้าไป จะต้องได้รับความก้าวหน้ามหาศาล แต่ไม่คาดคิดว่าจะมากถึงเพียงนี้!
ต้นแสวงวิถีวรรณะห้า หลังดื่มชาที่เหลือแล้ว พลันพุ่งทะยานถึงแสวงวิถีวรรณะหกทันที!
สวรรค์ นี่มันน่าตื่นตะลึงเกินไปแล้ว!
‘ก้าวหน้าขึ้นหนึ่งวรรณะ!’
ดวงตาของจั่วเหยียนกลายเป็นสีแดง อยากดื่มชาสักถ้วยจริง ๆ
ชาเพียงหนึ่งถ้วยนำพาความก้าวหน้าหนึ่งขั้นขอบเขต มารดาเจ้าเถิด นี่มันยั่วยวนเกินไปแล้ว!
พึงรู้ไว้ว่าหากอยู่ภายใต้สถานการณ์ปกติ พวกเขาคิดพัฒนาขึ้นหนึ่งขั้นยากเย็นจนแทบไม่อาจจินตนาการถึง
แม้เวลาผ่านไปนับล้าน ๆ ปี พวกเขาก็ยังไม่เห็นหนทางสู่ขั้นถัดไป
การก้าวหน้าในขอบเขตแสวงวิถีไม่ใช่สิ่งที่พูดก็จะเป็นจริงได้ หากต้องการพัฒนาขึ้นไป นั่นแทบจะเป็นความเพ้อฝัน
‘เป็นผู้สูงส่งเหมือนพี่ใหญ่จริง ๆ!’
ขณะเดียวกัน มู่อวี่ก็เอ่ยออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
น้ำชาหนึ่งถ้วย ไม่เพียงแต่ทำให้นางฟื้นฟูกลับสู่จุดสูงสุด ทว่ายังช่วยนางทะลวงขึ้นไปยังวรรณะถัดไปอีกด้วย ผลลัพธ์ช่างสะท้านฟ้าเสียจริง หลี่จิ่วเต้าในใจนางพลันมีน้ำหนักขึ้นอีกระดับ
“ขอบคุณ!”
นางเอ่ยขอบคุณหลี่จิ่วเต้าอย่างสุดซึ้ง
ก่อนหน้านี้นางไม่มีความเกี่ยวพันหรือรู้จักหลี่จิ่วเต้าแม้แต่น้อย ความช่วยเหลือของเขาในครั้งนี้สมควรได้รับการขอบคุณจากนางอย่างแท้จริง!
“อย่าได้เกรงใจไปเลย”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบาง ตระหนักได้อย่างชัดเจนว่าเหตุใดมู่อวี่จึงขอบคุณเขา นางจะต้องได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากการดื่มชาแน่ ด้วยเหตุนี้จึงขอบคุณเขา
‘เพียงแค่ถูกคอกัน…ไม่อาจนับเป็นสิ่งใดได้’
เขาคิดในใจ
ดังเช่นเขากับบรรพจารย์ฝูในยามนั้น เพราะความถูกคอกัน เขาจึงได้รับสมบัตินานาชนิดจากบรรพจารย์ฝู ยามนี้เขารู้สึกถูกคอกับมู่อวี่เป็นอย่างมาก จึงเต็มใจที่จะสานต่อความถูกคอนี้
มู่อวี่ยืนขึ้น นางตระหนักรู้ดียิ่ง กล่าวอำลาหลี่จิ่วเต้า ไม่กล้ารั้งอยู่อีกต่อไป
ความคิดเป็นกลางของเขาชัดเจนมาก นางได้รับผลประโยชน์มหาศาลเช่นนี้นับว่าดีมากแล้ว เพราะรู้ตัวดี นางสมควรจากไป ไม่ควรล้ำเส้น ทั้งยังต้องรู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี
“สหาย หากมีวาสนาวันข้างหน้าคงได้พบพานกันอีกครั้ง!”
ร่างของนางลอยอยู่กลางอากาศ งดงามพร่างพราว เจิดจ้าเสียยิ่งกว่าดวงดาราที่แท้จริง
“หากมีวาสนาวันข้างหน้าคงได้พบพานกันอีกครั้ง”
หลี่จิ่วเต้ายืนขึ้น โบกมืออำลามู่อวี่ ไม่ได้รั้งให้นางอยู่ต่อแต่อย่างใด
ผู้ฝึกตนล้วนยุ่งเป็นทุนเดิม ไม่ได้ว่างเหมือนกับเขา มู่อวี่รีบกล่าวอำลาเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่ามีเรื่องจำต้องทำ เขาเองก็ไม่คิดบังคับคนให้ยุ่งยาก
นอกจากนี้ในมุมมองของเขา ตัวเขาและมู่อวี่มีวาสนาต่อกันยิ่ง อนาคตจะต้องได้พบกันอย่างแน่นอน
กล่าวตามตรง เขามีความรู้สึกผูกพันอย่างมากยามมู่อวี่ปรากฏขึ้นมา กระทั่งเขาเองยังตกใจ ไม่รู้ว่าความรู้สึกผูกพันของตนมาจากที่ใด
‘เพราะเป็นคนงามหรือ?’
ชายหนุ่มคิดในใจด้วยรู้สึกฉงน คิดว่าอาจเป็นเพราะมู่อวี่งดงามมากหรือเปล่า ทำให้รู้สึกผูกพันกับมู่อวี่เป็นอย่างมาก อนาคตหลังจากนี้จะได้พบกันอีก?
‘คงไม่น่าใช่ ข้าไม่ได้เป็นคนเช่นนั้น’
ทว่าเขาก็รีบปฏิเสธในใจอย่างรวดเร็ว มู่อวี่งดงามอย่างแท้จริง แต่นั่นยังไม่ส่งผลกระทบใดต่อเขา
‘วาสนาน่าอัศจรรย์เกินบรรยาย บางทีนี่อาจเป็นเหตุผล’
หลี่จิ่วเต้าไม่คิดมากอีกต่อไป อย่างไรเสียวาสนาก็น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง ความไม่มีเหตุผลนับเป็นเรื่องปกติยิ่ง
ขณะเดียวกัน มู่อวี่ก็มาถึงที่แห่งหนึ่งในจักรวาลดวงดารา
เส้นผมสีดำของนางราวม่านน้ำตก ร่างสูงเพรียวยืนอยู่บนจักรวาลดวงดาราสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ เปล่งประกายแวววาวประหนึ่งอัญมณี
“ลมหายใจของสิ่งมีชีวิตโลกใหม่…”
นางเลิกคิ้วเล็กน้อย หลังจากฟื้นคืนและทะลวงผ่านขอบเขตแสวงวิถีไปอีกวรรณะแล้ว ทั่วทั้งดินแดนเก่าพลันถูกญาณสัมผัสของนางห่อหุ้มทันที ทำให้รับรู้ถึงสถานการณ์ทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้นางกำลังยืนอยู่บนจักรวาลดวงดาราเหนืออาณาจักรหั่วซาง
อาณาจักรหั่วซางเป็นสถานที่ของปากทางเข้าออกเส้นทางโลกใหม่ นางสัมผัสได้ว่าภายในอาณาจักรหั่วซางมีลมหายใจจำนวนมากของสิ่งมีชีวิตโลกใหม่ดำรงอยู่
“ทั้งหมดถูกขังอยู่หรือ?”
เพียงแค่ความคิดเดียวนางก็เข้าใจสถานการณ์ที่นั่น เห็นว่าสิ่งมีชีวิตโลกใหม่ทั้งหมดถูกขังเอาไว้อย่างไร้ข้อยกเว้น
จากนั้นนางร่อนลงไปด้วยอาภรณ์พลิ้วสยาย
ต้องการจะดูว่าผู้ใดกันที่ขังสิ่งมีชีวิตโลกใหม่เอาไว้
“เจ้าเป็นใคร?!”
พริบตาแรกที่เห็นมู่อวี่ จักรพรรดินีกระชับหอกทันที มู่อวี่นำพาความรู้สึกน่าสะพรึงกลัวบางอย่างมาให้ นางรู้สึกว่ามู่อวี่มีโอกาสเกี่ยวข้องกับดินแดนใหม่เกินครึ่ง
อย่างไรเสีย ทางฝั่งดินแดนเก่า นอกจากคนที่ติดตามคุณชาย ก็ยากยิ่งนักที่จะมีตัวตนน่าสะพรึงกลัวเช่นมู่อวี่ปรากฏตัวออกมา
“เป็นท่านมู่อวี่!”
“ฮ่าฮ่า พวกเรารอดแล้ว!”
“ท่านมู่อวี่ไร้เทียนทาน มีชีวิตกลับมาจากความตายอย่างสมบูรณ์แล้ว!”
ก่อนที่มู่อวี่จะทันได้พูดอะไร สิ่งมีชีวิตโลกใหม่ที่ถูกขังไว้ก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมาอย่างตื่นเต้นสุดขีด
พวกเขาจดจำมู่อวี่ได้ทันที นี่คือผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ของพวกเขาที่สิ้นชีพลงในสมรภูมิ ก่อนถูกส่งมายังดินแดนเก่าเพื่อฟื้นคืนชีพ
ยามนี้มู่อวี่ปรากฏตัวขึ้นมา บนร่างไม่มีลมหายใจความตายแม้แต่น้อย เปี่ยมด้วยลมหายใจแห่งชีวิต พวกเขาตระหนักได้เป็นอย่างดี นางฟื้นคืนชีพได้สำเร็จอย่างสมบูรณ์ กลับมามีชีวิตอีกครั้งอย่างแท้จริง!
สิ่งนี้ทำให้พวกเขามองเห็นความหวังอย่างไม่ต้องสงสัย!
ผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ปรากฏตัวขึ้นมา พวกสิ่งมีชีวิตมายาอย่างจักรพรรดินีแข็งแกร่งเพียงใดก็ไร้ค่า พวกเขากำลังจะได้รับการช่วยเหลือ!
“ท่านผู้นี้คือผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ของพวกข้า สิ่งมีชีวิตมายาเช่นพวกเจ้ายังไม่รีบคุกเข่าทำความเคารพอีก!”
สิ่งมีชีวิตโลกใหม่บางตนตะโกนใส่พวกจักรพรรดินี
อีกทั้งเขายังคุกเข่าทำความเคารพมู่อวี่อย่างรวดเร็ว
สิ่งมีชีวิตโลกใหม่ทั้งหมดต่างทำเช่นเดียวกัน คุกเข่าให้มู่อวี่อย่างรวดเร็ว
“ผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ ฟื้นชีพกลับจากความตาย?”
สุนัขดำหรี่ตาลง เข้าใจตัวตนของมู่อวี่ในพริบตา
ภายในกลุ่มสุสานโบราณเหล่านั้น ผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่เช่นมู่อวี่ถูกฝังศพเอาไว้ในดินแดนเก่า และต้องใช้พลังดินแดนเก่าเพื่อฟื้นคืนชีพขึ้นมา
ก่อนหน้านี้พวกเขาได้จัดการผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ที่เหมือนกันออกไปแล้ว คุณชายเขียนยันต์สำหรับจัดการศพโดยตรงส่งให้ต้นหลิว
ทันใดนั้นเองพวกเขาก็ตั้งท่าต่อสู้ เตรียมลงมือกับมู่อวี่
“ไม่จำเป็นต้องตึงเครียดไป”
มู่อวี่ร่อนลงมาจากฟ้าสูง เอ่ยออกมาอย่างสงบยิ่งว่า “ข้าไม่ได้มีเจตนาเป็นศัตรู เพียงแต่มาเพื่อดูว่าที่นี่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้น”
ใช่แล้ว นางเป็นผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่จริง แต่นางเองก็เป็นคนจากดินแดนเก่า เกิดและอาศัยใช้ชีวิตในดินแดนเก่ามาเป็นระยะเวลานาน
ย่อมไม่มีทางลงมือกับพวกจักรพรรดินีทันทีเพียงเพราะเห็นว่าสิ่งมีชีวิตโลกใหม่ถูกขังเอาไว้
เป็นเช่นที่กล่าวไว้ นางต้องการรู้สถานการณ์แล้วค่อยคิดว่าควรทำสิ่งใดต่อ
“ไม่มีอันใดให้ต้องเจรจา โลกใหม่กล่าวว่าฝั่งพวกข้าเป็นเพียงโลกมายา ถือว่าพวกข้าเป็นสิ่งมีชีวิตมายา กระทำเหมือนดินแดนของพวกข้าเป็นสถานที่เลี้ยงศพ เป็นที่ลับคมฝึกฝนให้สิ่งมีชีวิตโลกใหม่ พวกข้าย่อมไม่อาจยินยอมได้!”
สุนัขดำกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นเยียบ “ดินแดนของพวกข้าหาใช่โลกมายา พวกข้าเองก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตมายา พวกข้ายิ่งไม่ยอมให้พวกเจ้าฆ่าแกงตามใจชอบ!”
“โลกมายา? สิ่งมีชีวิตมายา?!”
รูม่านตามู่อวี่หดแคบลงอย่างรวดเร็ว ตระหนักได้ถึงบางสิ่ง
จากนั้นนางก็มองไปทางเหล่าสิ่งมีชีวิตโลกใหม่ ดวงตาทอแสงพิเศษ ความทรงจำภายในหัวของสิ่งมีชีวิตโลกใหม่เหล่านี้แล่นผ่าน นางพลันเข้าใจทุกเรื่องราว
“พวกเขาช่างหาญกล้ายิ่งนัก บ้าไปแล้วจริง ๆ! ถึงกลับกล้าเปลี่ยนดินแดนเก่าเป็นโลกมายา ลบล้างร่องรอยการดำรงอยู่!”
มู่อวี่ยิ้มเย็นชา จิตสังหารทะยานท่วมท้นฟ้า
หลังจากเข้าใจทุกเรื่องแล้ว นางรู้สึกโกรธขึ้นมาจริง ๆ สิ่งที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ถูกต้องแล้ว เหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
เปลี่ยนดินแดนเก่าให้เป็นโลกมายา ลบล้างร่องรอยการดำรงอยู่ เจตนาผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่เหล่านั้นไม่มีอันใดชัดเจนไปมากกว่านี้อีกแล้ว!
ผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่เหล่านั้นไม่ต้องการให้พี่ใหญ่ของนางฟื้นคืนชีพ!
“ทำผิดไม่ใช่เรื่องน่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือการทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า! ยามนั้นไม่อาจควบคุมตนเองได้อย่างแท้จริง ความผิดไม่ได้อยู่ที่พวกเขา แต่ตอนนี้พวกเขาไม่อาจกล่าวได้ว่าไร้ความคิด เรื่องนี้ต้องมีผู้ชดใช้!”
มู่อวี่เอ่ยด้วยสีหน้าและเสียงเย็นชาสะท้านไปถึงกระดูก
ปิดผนึกดินแดนเก่า ทำให้กลายเป็นเพียงโลกมายา ลบล้างร่องรอยการดำรงอยู่ เหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ทำให้นางมีน้ำโหแล้วจริง ๆ นางไม่มีทางยอมปล่อยไปเช่นนี้ เหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่จะต้องถูกสะสางบัญชี!
……….