รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1067 ตามหาซีกับเต่าชรา นับว่ามีความสำคัญยิ่งในตอนนี้!
- Home
- All Mangas
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1067 ตามหาซีกับเต่าชรา นับว่ามีความสำคัญยิ่งในตอนนี้!
บทที่ 1067 ตามหาซีกับเต่าชรา นับว่ามีความสำคัญยิ่งในตอนนี้!
บทที่ 1067 ตามหาซีกับเต่าชรา นับว่ามีความสำคัญยิ่งในตอนนี้!
การมาเสียใจในภายหลังย่อมไร้ประโยชน์ ทุกสิ่งไม่อาจย้อนกลับไปได้ พวกเขาทำได้เพียงเดินหน้าต่อไปเท่านั้น
“เมื่อเรื่องราวเหล่านี้ได้รับการแก้ไขแล้ว พวกเขาก็จะก้าวเข้าสู่วันคืนอันสดใสไม่ใช่หรือ?”
หย่งโจ้วเอ่ยเสียงแผ่ว “เสียงที่ดังขึ้นมาในใจของพวกเราคือสิ่งใด พวกเรามีคำตอบแล้วหรือ? ไม่มีเลย…”
เขาไม่ได้มองอนาคตในแง่ดี แม้พวกเขาจะแก้ไขปัญหาความเกี่ยวข้องกับคนผู้นั้นได้ ถัดจากนั้นยังมีพลังด่างพร้อย และปัญหาที่ร้ายแรงยิ่งกว่ารออยู่
ยามนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้นในใจมอมเมาปลุกปั่นพวกเขา ทำให้พวกเขาทำผิดพลาดครั้งใหญ่ลงมือสังหารคนผู้นั้น
หลังจากนั้นพวกเขาก็ลองทุกหนทางเพื่อเสาะหาที่มาของเสียงนั่น ทว่ากลับไม่พบสิ่งใดเลย
นี่คือสิ่งที่น่ากลัวสุด!
ไม่ว่าจะปัญหาเกี่ยวกับคนผู้นั้น หรือพลังด่างพร้อย อย่างน้อยพวกเขาก็รู้ว่าควรทำเช่นไร ฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร
ทว่ากับเสียงนั่นแล้ว พวกเขานับได้ว่าจนปัญหา ไม่มีความเข้าใจใด ๆ แม้แต้น้อย หลังจากเสียงนั่นดังขึ้นในยามนั้นก็ไม่เคยปรากฏขึ้นอีก
แต่พวกเขามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเสียงนั้นไม่ได้เลือนหายไป ทว่าคอยเฝ้ามองดูพวกเขาในเงามืด และไม่มีทางรู้ว่าวันใดมันจะปรากฏตัวออกมาเอาชีวิตของพวกเขา!
ใช่แล้ว เอาชีวิตของพวกเขา พวกเขาต่างเห็นพ้องต้องกัน เสียงนั่นไม่มีเจตนาดีแต่อย่างใด ทั้งยังมีความมุ่งร้ายต่อพวกเขา
ระหว่างกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา พวกเขาไม่เพียงกลัวคนผู้นั้นฟื้นคืนชีพ แต่ยังกลัวเสียงนั่นปรากฏตัวด้วย กล่าวตามตรงแล้ว ชีวิตพวกเขาผ่านไปอย่างยากเย็น ทุกวันล้วนคอยกังวลใจ ไม่กล้าผ่อนคลายการฝึกฝน ระมัดระวังตัวอยู่ทุกเวลา
“ข้าอยู่ถึงขั้นใด กลับถูกเสียงนั่นมอมเมาปลุกปั่นได้อย่างง่ายดาย ไม่เช่นนั้น พวกเราไฉนจะกล้าลงมือกับคนผู้นั้น?”
นายเหนือหัวหว่างเซิงถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “เสียงนั่นน่ากลัวที่สุด เห็นได้ชัดว่าเล่นเล่ห์กับคนผู้นั้นได้ ยามนั้นที่พวกเราลงมือสำเร็จ อาจเป็นเกราะคนผู้นั้นกำลังต่อกรกับเสียงนั่น!”
คนผู้นั้นเหนือชั้นกว่าพวกเขามากจนไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย ยามนั้นย่อมต้องถูกตรึงเอาไว้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่อาจประสบความสำเร็จ
“มารดามันเถิด น่าโมโหยิ่งนัก! พวกเราฝึกฝนกันมายาวนานนับไม่ถ้วน บรรลุถึงขั้นสูงสุดอย่างขอบเขตแสวงวิถี สุดท้ายกลับกลายเป็นเบี้ยหุ่นเชิดของผู้อื่น ที่สำคัญคือยังไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดที่ควบคุมพวกเราอยู่!”
จ้าวเทียนไม่อาจควบคุมอารมณ์ตนเองได้ สบถด่าออกมาเสียงดัง
พวกเขาเหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ ผู้ใดกันไม่ใช่ตัวตนสูงสุด ยกเว้นคนผู้นั้น ไม่มีผู้ใดอีกที่สามารถสยบพวกเขาได้ ล้วนไม่มีค่าอันใดให้พูดถึงเลย
แต่พวกเขากลับกลายเป็นตัวหมากหุ่นเชิด ถูกผู้อื่นชักจูง พวกเขาต่างก็อัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก
“ปัญหาวุ่นวายเละเทะ มารดามันเถิด ไม่คิดจะรามือกันเลยหรือ!”
หย่งโจ้วเองก็เริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ สบถสาปแช่งตาม
ตอนนี้ปัญหาวุ่นวายเละเทะแล้วไม่ใช่หรือ?
ปัญหาดินแดนเก่า ปัญหาพวกสิ่งมีชีวิตที่รู้การดำรงอยู่ของคนผู้นั้น ปัญหาพลังด่างพร้อมที่กำลังปะทุขึ้นมาในโลกใหม่ อีกทั้งยังมีเสียงที่น่าสะพรึงกลัวนั่น!
ทั้งหมดล้วนไม่มีปัญหาใดแก้ได้อย่างง่ายดาย ภายในใจของพวกเขาใกล้พังทลายลงเต็มที
“เหตุใดจึงต้องมาหาพวกเราด้วย?! สมควรตายนัก!”
นายเหนือหัวหว่างเซิงตะโกนออกมา พวกเขาไปทำกรรมแบบใดมากันจึงถูกเสียงนั่นเพ่งเล็ง หลังจากทำให้พวกเขาลงมือทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ ก็นำพาปัญหาเละเทะมามากมาย!
หากปัญหาเละเทะเหล่านี้ไม่ได้รับการแก้ไข พวกเขาทั้งหมดจะต้องตาย!
ไม่ต้องกล่าวถึงสภาพจิตใจหย่งโจ้วที่พังทลายลงเลย พวกเขาเองก็ไม่ต่างกัน!
“มารดามันเถิด พวกเราช่างน่าเวทนานัก!”
พวกเขาทั้งสามสบถสาปแช่งอยู่นาน สุดท้ายก็หยุดลง แต่ละคนต่างฟื้นคืนอารมณ์ตนเองกลับมา
คับข้องใจจนทนไม่ไหวแล้วอย่างไร ปัญหาเละเทะเหล่านั้นก็ยังคงอยู่ จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ไม่อาจปล่อยไปได้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไร้หนทางมีชีวิตเสียยิ่งกว่าเดิม
“พวกเจ้าฟังคำสั่ง อย่าไปแยกกลุ่ม รอนัดพบให้เสร็จสิ้น ค่อยเข้าดินแดนเก่าพร้อมกัน ฝั่งด้านนอกทางออกมีผู้ดักรอพวกเจ้าอยู่!”
จ้าวเทียนพูดกับยอดฝีมือโลกใหม่ในเส้นทาง บอกให้พวกเขารวมตัวกันก่อนค่อยเข้าสู่ดินแดนเก่า
“แม้การโจมตีทีละกลุ่มเองจะสามารถจัดการพวกเขาได้ แต่อย่างไรรอรวมตัวให้เสร็จสิ้นก่อนจะได้ยิ่งมั่นใจมากขึ้น!”
เขาไม่ต้องการเห็นเรื่องนอกเหนือความคาดหมายอีกต่อไป ทุกอย่างจะต้องมั่นคง เมื่อยอดฝีมือโลกใหม่รวมตัวกัน ก็ย่อมสามารถกวาดล้างพวกจักรพรรดินีได้อย่างแน่นอน ผู้ที่อยู่เบื้องหลังพวกจักรพรรดินีจะต้องถูกบังคับให้เผยตัวออกมา
คนผู้นี้ควรเป็นคนที่ส่งซีกับเต่าชราเข้าไปยังโลกใหม่!
“ก่อนหน้านี้คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเป็นผู้รู้ความจริงที่หลบซ่อนตัวอยู่ในดินแดนเก่า แต่เมื่อคิดให้ดีแล้ว อาจไม่เป็นเช่นนั้น”
จ้าวเทียนกล่าว “หากเป็นพวกนั้นจริง แค่หลบซ่อนยังแทบไม่ทันกาล เช่นนั้นจะกล้าส่งคนมายังโลกใหม่ได้อย่างไร?”
“ใช่ ข้าเองก็ไม่คิดว่าเป็นพวกนั้น”
หย่งโจ้วพยักหน้า “ข้าคิดว่าน่าจะเป็น ‘คนท้องถิ่น’ ดินแดนเก่าที่มีความเกี่ยวข้องกับคนผู้นั้น หลบซ่อนตัวจากพวกเรา เติบโตขึ้นอย่างเงียบ ๆ โดยที่พวกเราไม่รู้ตัว!”
เขากล่าวต่อ “‘คนท้องถิ่น’ ผู้นี้น่าจะเติบโตขึ้นจนอยู่ในขอบเขตที่สูงยิ่ง บางทีอาจเข้าสู่ขอบเขตแสวงวิถีแล้ว หลังจากนั้นก็ตระหนักรู้ได้ถึงการดำรงอยู่ของโลกใหม่ ด้วยเหตุนี้จึงต้องการหยั่งเชิงโลกใหม่ ส่งสิ่งมีชีวิตทั้งสองเข้ามา”
“เช่นนี้ย่อมดีกว่า กลัวเพียงแต่จะเป็นผู้รู้ความจริงที่ยังเหลือรอด หากพวกเขาเข้าไปวุ่นวายในดินแดนเก่า โอกาสที่จะเกิดปัญหาก็มีสูงยิ่ง!” จ้าวเทียนกล่าว
อย่างไรเสียดินแดนเก่าก็คือบ้านเกิดของคนผู้นั้น หากผู้เหลือรอดเข้าไปก่อความวุ่นวายเข้า มีความเป็นไปได้จริง ๆ ที่จะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น
“ต้องการให้เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่ตายไปแล้วช่วยเหลือหรือไม่?”
นายเหนือหัวหว่างเซิงถาม
ผู้ยิ่งใหญ่ที่ตายไปแล้วที่เขากล่าวถึงคือร่างศพทั้งหลายที่ถูกส่งไปดินแดนเก่า
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่ตายแล้วเหล่านี้ หลังผ่านการหล่อเลี้ยงในดินแดนเก่ามาเป็นเวลานาน ก็แสดงสัญญาณการฟื้นคืนชีพให้เห็น ยามนี้สมควรฟื้นคืนมาเกือบหมดแล้ว
หากให้เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่ฟื้นคืนชีพลงมือ ประสานกันทั้งด้านในและด้านนอก ความแน่นอนในการประสบความสำเร็จยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
“อย่า ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นรู้เรื่องผู้ยิ่งใหญ่ที่ตายไปแล้วเรียบร้อย ก่อนหน้านี้ยังทำลายผู้ยิ่งใหญ่ที่กำลังฟื้นคืนชีพไปแล้ว”
จ้าวเทียนกล่าว “เพระเหตุนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบข้าจึงไม่ได้ติดต่อผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้น และก็ไม่ได้ตรวจสอบสถานการณ์ของพวกเขาเช่นกัน อีกทั้งยังตัดการเชื่อมต่อกับฝั่งพวกเราด้วย”
ผู้ยิ่งใหญ่ที่ตายไปแล้วถูกฝังลงในสุสานโบราณก่อนส่งไปยังดินแดนเก่า ด้านในสุสานโบราณยังมีศาสตราโบราณเก็บเอาไว้อีกด้วย นี่เพื่อให้ทางโลกใหม่สามารถตรวจสอบสถานการณ์ของผู้ยิ่งใหญ่ที่ตายไปแล้วได้อย่างสะดวก
แต่หลังจากรู้ว่า ‘คนท้องถิ่น’ ผู้ใดจัดการผู้ยิ่งใหญ่ที่กำลังฟื้นคืนชีพ เขาก็ตัดการติดต่อทั้งหมดกับศาสตราโบราณในสุสานทันที
“ข้ากลัวว่า ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นจะสัมผัสได้ถึงการเชื่อมต่อ!”
จ้าวเทียนเอ่ย “หากเป็นเช่นนั้นคงเลวร้ายเกินไป ผู้ยิ่งใหญ่ที่ตายแล้วทั้งหมดอาจถูกกวาดล้าง อย่างไรเสียพลังของผู้ยิ่งใหญ่ที่เพิ่งฟื้นคืนชีพก็ไม่ได้อยู่บนจุดสูงสุด”
นายเหนือหัวหว่างเซิงพยักหน้า เมื่อครู่เขายังสงสัยว่าเหตุใดจ้าวเทียนจึงไม่บอกให้ผู้ยิ่งใหญ่ในดินแดนเก่าไปสมทบที่ทางเข้า ที่แท้จ้าวเทียนก็กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่ตายแล้วเหล่านั้น
“เอาล่ะ พวกเรารอให้คนผู้นั้นปรากฏตัวก่อน! ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเริ่มการต่อสู้ที่แท้จริง พวกเราเพียงแค่ต้องการล่วงรู้สถานการณ์ของเขาก่อน” จ้าวเทียนกล่าว
พวกเขาไม่อาจลงมืออย่างหุนหันพลันแล่นได้ คราวนี้พวกเขาส่งยอดฝีมือโลกใหม่ไปก็เพื่อดูว่า ‘คนท้องถิ่น’ ดินแดนเก่าผู้นี้เป็นเช่นไร
หลังจากนั้นพวกเขาค่อยวางแผนรับมือ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นี้
“ใช่แล้ว ทางด้านสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองที่เข้ามายังโลกใหม่ มีข่าวคราวแล้วหรือยัง?”
จ้าวเทียนถามหย่งโจ้วซึ่งรับผิดชอบเรื่องสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสอง
“ตามหาไม่ง่ายเลย!”
หย่งโจ้วขมวดคิ้ว “สิ่งมีชีวิตโลกใหม่นับไม่ถ้วนกำลังเคลื่อนไหว ทว่าสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองมีพลังบางอย่างคุ้มครอง กระทั่งข้ายังถูกอำพราง คิดตามหายังเป็นเรื่องยากยิ่ง!”
“หาไม่ง่ายเลยจริง ๆ”
จ้าวเทียนเข้าใจชัดว่าเรื่องนี้ยากเย็นเพียงใด
อย่างไรเสีย บนร่างของสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองก็มีพลังพิเศษบางอย่างคุ้มครองอยู่ กระทั่งพวกเขายังถูกอำพรางได้ ต่อให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกใหม่เคลื่อนไหวยังนับเป็นเรื่องยากเย็นที่จะตามหาพบ
“‘คนท้องถิ่น’ นั่นจะส่งสิ่งมีชีวิตทั้งสองมาโดยเปล่าหรือ? คิดเช่นไรก็ไม่มีทาง! มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าสิ่งมีชีวิตทั้งสองจะได้รับมอบหมายงานบางอย่างมา!”
จ้าวเทียนขมวดคิ้ว “ดังนั้นจำต้องตามหาสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองให้เร็วที่สุด ตอนนี้นับเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ผู้ใดจะรู้ว่า ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นต้องการให้สิ่งมีชีวิตโลกเก่าทั้งสองทำสิ่งใด!”
“อืม ข้าเองก็คิดเช่นนั้น”
หย่งโจ้วพยักหน้า เขาเองก็รู้ดีว่าการค้นหาสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองมีความสำคัญเพียงใด ขบคิดวิธีตามหาตัวทั้งสองออกมา
“ข้าคิดว่าหากหาไม่พบ เช่นนั้นเราสามารถคิดวิธีล่อพวกเขาให้ออกมาได้หรือไม่?”
เขากล่าว
“ย่อมล่อออกมาได้!”
นายเหนือหัวหว่างเซิงพยักหน้า “ให้หาคนเช่นนี้นับเป็นเรื่องยากมากจริง ๆ สู้วางแผนล่อพวกเขาออกมาดีกว่า!”
“ข้ามีแผนการ…”
หย่งโจ้วกล่าว “หากจะให้ล่อพวกเขาออกมา วิธีเรียบง่ายที่สุดคือเมื่อพวกเรารู้ว่าพวกเขาต้องการทำสิ่งใด หลังจากนั้นก็ใช้สิ่งนี้ล่อออกมา”
“แต่พวกเรารู้เกี่ยวกับพวกเขาน้อยเกินไป ไม่รู้โดยสิ้นเชิงว่าพวกเขาต้องการทำสิ่งใด ดังนั้นจึงไม่มีทางล่อให้พวกเขาออกมาได้”
เขาพูดต่อ “แต่ยังมีวิธีอื่นอีก อย่างเช่นหากมีสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าตนอื่นมาที่โลกใหม่เล่า?”
“เจ้าหมายถึง?”
ดวงตาของจ้าวเทียนกับนายเหนือหัวหว่างเซิงสว่างวาบขึ้น พวกเขาเข้าใจแผนการของหย่งโจ้วแล้ว
หย่งโจ้วต้องการให้คนปลอมตัวเป็นสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่า จากนั้นก็ล่อให้สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองปรากฏตัวออกมา
“ใช่แล้ว เป็นอย่างที่พวกเจ้าคิด”
เมื่อหย่งโจ้วเห็นประกายตาของจ้าวเทียนและนายเหนือหัวหว่างเซิง เขาก็รู้ว่าทั้งสองเข้าใจแผนการแล้ว
“สิ่งมีชีวิตที่มาจากดินแดนเก่าเหมือนกัน มีโอกาสที่พวกเขาจะเข้าใกล้ไม่ใช่หรือ?”
หย่งโจ้วกล่าว
“จุดเดียวที่ยากคือทำเช่นไรพวกเขาจึงจะเชื่อว่านั่นเป็นสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าเหมือนกันจริง ๆ!”
เขาเอ่ยพร้อมขมวดคิ้ว
สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองไม่ได้โง่งม และไม่อาจหลอกได้โดยง่าย เว้นแต่ทั้งสองจะแน่ใจแล้วว่าเป็นสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าเหมือนกันจึงอาจมีความเป็นไปได้ที่จะเริ่มเข้าใกล้
แต่การทำให้สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองเชื่อเช่นนั้นเป็นเรื่องยากมากอย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างไรเสีย สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองกำลังถูกสิ่งมีชีวิตทั้งโลกใหม่ไล่ล่า ท่ามกลางความวุ่นวายขีดสุด กลับปรากฏสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าเพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่เกิดความสงสัย
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงยังไม่ได้เริ่มเคลื่อนไหวใด ๆ