รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1061 หลี่จิ่วเต้า ‘ใช่ว่าปรมาจารย์ทุกผู้คือปรมาจารย์แสนดี!’
- Home
- All Mangas
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1061 หลี่จิ่วเต้า ‘ใช่ว่าปรมาจารย์ทุกผู้คือปรมาจารย์แสนดี!’
บทที่ 1061 หลี่จิ่วเต้า ‘ใช่ว่าปรมาจารย์ทุกผู้คือปรมาจารย์แสนดี!’
บทที่ 1061 หลี่จิ่วเต้า ‘ใช่ว่าปรมาจารย์ทุกผู้คือปรมาจารย์แสนดี!’
ตู้มมม!
อวกาศนอกอาณาจักรสั่นไหว กระบี่ฉุนจวินปะทะดุเดือดกับจ้าวแห่งแสง ทั่วทั้งจักรวาลแทบพังครืน ดวงดารานับไม่ถ้วนแหลกสลายกลายเป็นเศษผงร่วงหล่นลงมา!
จ้าวแห่งแสงคำราม หนอนกู่สารพันพุ่งออกมา รูปร่างพวกมันไม่ได้จำกัดในสภาพหนอนเท่านั้น มีลักษณะอย่างอื่นปนอยู่ด้วย
วิถีกู่ที่เขาบำเพ็ญพิศวงเหลือแสน ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต ทว่ากับศัสตราวุธก็ด้วย!
อย่างเช่นกู่อาวุธ กู่เครื่องภัณฑ์ที่สามารถแทรกซึมผ่านอาวุธศาสตราต่าง ๆ ดูดกลืนพลังของศาสตราอาวุธเหล่านั้นและเจริญเติบโต
ทว่าเมื่ออยู่เบื้องหน้ากระบี่ฉุนจวิน หนอนกู่เหล่านี้ล้วนสิ้นฤทธิ์เดช!
แสงกระบี่เจิดจ้าพวยพุ่ง กวาดล้างหนอนกู่ทั้งหมดจนสิ้น!
หลี่จิ่วเต้าออกคำสั่งประหาร กระบี่ฉุนจวินในยามนี้น่าพรั่นพรึงถึงขีดสุดอย่างไม่ต้องสงสัย พลังที่มีนั้นเกินหยั่ง!
จ้าวแห่งแสงตกตะลึงเหลือแสน บัดซบ นี่เขาผจญกับตัวตนระดับใดกัน?!
หลี่จิ่วเต้าไม่ได้ต่อสู้กับเขาด้วยตนเองด้วยซ้ำ นี่เป็นเพียงกระบี่เล่มหนึ่งเท่านั้น และเขายังรู้สึกมีอันตรายถึงชีวิต!
ใช่แล้ว เป็นอันตรายถึงชีวิตที่รุนแรงแจ่มชัด!
เมื่ออยู่ในระดับเขาซึ่งเหนือขอบเขตคลุมฟ้าจนอยู่ในขอบเขตแสวงวิถีแล้ว ต่อให้พลังของเขายังไม่ฟื้นคืนกลับมาเต็มที่ กระนั้นเขาก็เคยเป็นถึงสิ่งมีชีวิตขอบเขตแสวงวิถี ซ้ำยังถือกำเนิดขึ้นใหม่อย่างสมบูรณ์ เปลี่ยนแปลงถึงแก่นในทุก ๆ ด้าน!
ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาแทบไม่มีทางสิ้นชีพได้เลย!
ขอบเขตแสวงวิถีคือขอบเขตซึ่งอยู่เหนือขอบเขตคลุมฟ้า หลังพ้นจากวรรณะทั้งเก้าในขอบเขตคลุมฟ้า บรรดาปรมาจารย์ดินแดนใหม่ล้วนเป็นตัวตนระดับแสวงวิถีกันถ้วนหน้า
ทว่าในสถานการณ์ที่แทบเป็นไปไม่ได้เช่นนี้ เขายังสัมผัสถึงอันตรายถึงชีวิตอย่างชัดเจน!
เขากลัว คราวนี้มาเจอกับคนโหดทรงพลังอย่างแท้จริงเข้าแล้ว!
“ฆ่า!”
เขาคำรามกราดเกรี้ยว ขับไล่ความผวาในใจ
หลี่จิ่วเต้าออกคำสั่งประหารเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าจะไม่เก็บเขาไว้ เขาจำต้องต่อสู้สุดชีวิตเท่านั้น!
แม้เขารู้ว่าต่อให้เขาสู้สุดชีวิตก็แทบไม่มีความหวังจะรอด แต่เขาก็ยังอยากลองดูสักตั้ง ไม่อยากตายลงทั้งอย่างนี้!
จากนั้นเขากับกระบี่ฉุนจวินก็ต่อสู้ดุเดือดอีกครั้ง!
พลังที่ปะทุออกจากกระบี่ฉุนจวินกล้าแกร่งกว่ามารกู่มากอย่างเห็นได้ชัด ต่อให้มารกู่ระเบิดพลังอย่างไรก็ไม่ไหว ท้ายที่สุดก็ถูกกระบี่ฉุนจวินบั่นศีรษะ ตายลงอย่างสิ้นเชิง!
“ถูกฆ่า…ง่าย ๆ เช่นนี้เลยหรือ?!”
ภายในอาณาจักรข้างใต้ จั่วเหยียนกลัวจนหัวหด วิญญาณแทบกระเจิง!
บั่นศีรษะในกระบี่เดียว สังหารอย่างสิ้นซาก!
อย่าล้อเล่นหน่อยเลย เห็นนี่เป็นการดวนฝีมือระหว่างผู้ฝึกตนชั้นต่ำจริง ๆ หรือไร นึกจะฆ่าก็ฆ่า นึกจะบั่นก็บั่น
ตัวตนระดับพวกเขาจบการต่อสู้ได้เด็ดขาดฉะฉานเช่นนี้ได้ที่ไหน ซ้ำยังเป็นการต่อสู้ขั้นเอาชีวิต!
อย่าว่าแต่พวกเขาเลย ต่อให้เป็นการต่อสู้ระหว่างขอบเขตคลุมฟ้าก็ไม่มีทางจบลงง่าย ๆ เช่นนี้ ไม่มีทางถูกฆ่าในกระบี่เดียว!
ครานั้นยามพวกเขาตายได้สู้กับฝ่ายด่างพร้อยมากว่าร้อยปีแล้ว สุดท้ายถึงค่อย ๆ สึกหรอลงไปทีละน้อยจนตายในที่สุด!
บัดนี้เขากลับเห็นมารกู่ถูกสังหารในกระบี่เดียว ซ้ำยังจบลงอย่างง่ายดาย จะไม่ให้เขาตกใจได้อย่างไร!
ความน่าพรั่นพรึงของหลี่จิ่วเต้าเหนือกว่าที่เขาจะจินตนาการออกจริง ๆ!
“นั่นคือ…กระบี่ฉุนจวิน!”
“ท่านคือหลี่จิ่วเต้า คุณชายหลี่ใช่หรือไม่”
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้ต่างจำหลี่จิ่วเต้าได้จากกระบี่ฉุนจวิน พากันโขกศีรษะให้หลี่จิ่วเต้าไม่หยุด ขอบคุณหลี่จิ่วเต้าที่ช่วยชีวิตไว้!
หากไม่มีชายหนุ่ม พวกเขาย่อมต้องกลายเป็น ‘อาหาร’ ของหนอนกู่เหล่านั้น เสียสละเลือดเนื้อพลังวิชาเป็นสารอาหาร
“ไม่ต้องทำเช่นนี้”
หลี่จิ่วเต้ารีบขอให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นลุกขึ้น เขาเอ่ย “หวังว่าทุกท่านจะตาสว่างขึ้นจากเหตุการณ์นี้ อย่าได้ถูกผู้ใดหลอกอีก! ปรมาจารย์บางท่านนั้นคือตัวจริง บางท่านนั้นไม่ใช่!”
กับเรื่องนี้ เขาเคยผ่านมาแล้วอย่างลึกซึ้ง
จ้าวแห่งแสงเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตทั้งอาณาจักรเป็นสาวกได้ย่อมไม่ใช่ผู้ฝึกตนธรรมดา เก่งกาจเหลือแสน เรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์อย่างแท้จริง
ทว่าเขาคือผู้ฝึกตนชั่วร้าย วิชาของเขาโหดเหี้ยมอำมหิต
ส่วนปรมาจารย์อีกท่านที่เขาเคยพบ บรรพจารย์ฝูตรงกันข้ามกับจ้าวแห่งแสงอย่างสิ้นเชิง!
บรรพจารย์ฝูต่างหากคือปรมาจารย์อย่างแท้จริง!
เขาเป็นคนเปี่ยมเมตตา ไม่เคยลวงหลอก เอ่ยว่าจะแลกเปลี่ยนยอดศาสตรากับเขาก็แลกเปลี่ยนตามคำ ปรมาจารย์เช่นนี้ต่างหากจึงจะน่านับถือ!
“ไปกันเถิด…”
พูดจบ เขากับพวกลั่วสุ่ยก็ก้าวขึ้นรถลาก ไปจากอาณาจักรนี้!
…
อาณาจักรหั่วซาง
ที่นี่คือทางออกของเส้นทางจากดินแดนใหม่
เป็นที่ตั้งฐานทัพใหญ่ที่จักรพรรดินีและพวกเมิ่งจีตั้งขึ้น
และหลังบุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่กลุ่มแรกอย่างพวกอู่เลี่ยจุติ อาณาจักรนี้ก็แดงฉานกว่าเดิม บุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่อย่างพวกอู่เลี่ยฆ่าล้างสิ่งมีชีวิตทุกตนในอาณาจักรนี้ โลหิตไหลนองไปทั่วทุกหย่อมหญ้าในอาณาจักรนี้
บัดนี้นอกจากจักรพรรดินีและพวกเมิ่งจี รวมถึงบรรดาบุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่ผู้ถูกคุมตัวก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตตนอื่นอีก
ระยะนี้ บุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่มาเยือนที่นี่อีกจำนวนมาก และถูกกำราบลงทันทีที่ปรากฏตัวทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น
จักรพรรดินีและพวกเมิ่งจีแข็งแกร่งเกินไป พูดให้ถูกก็คือ ศาสตราวิเศษที่คุณชายประทานแก่พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป ต่อให้ในหมู่บุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่มีตัวตนสุดสยองระดับล้ำขีดขั้นสิบห้ายังถูกปราบปรามลงหมด ไม่อาจตอบโต้ได้แม้แต่น้อย
กลิ่นหอมจากปิ้งย่างโชยชาย นักพรตอู๋เหลียงกำลังทำการย่างเนื้อ
เนื้อที่ย่างก็มาจากสิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่ อสูรดินแดนใหม่ตัวหนึ่งถูกเขาตัดขาออกไปหนึ่งข้าง และนำมาย่างบนเตา
เขาพำนักในลานเล็กคุณชายมาระยะใหญ่เช่นกัน คุณชายเคยชี้แนะเขาด้านการปิ้งย่าง ทำให้เนื้อที่เขาย่างออกมาแม้จะไม่หอมเท่าคุณชาย แต่ก็ยังยั่วน้ำลายมาก!
จักรพรรดินี เมิ่งจี สุนัขดำ ตงฟางเวิ่น สือเฟิง ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนต่างถูกดึงดูดเข้ามา
“เจ้านักพรตไร้คุณธรรม บังอาจแอบมาย่างเนื้อกินคนเดียวหรือ!”
สุนัขดำเข้าตะครุบ ฉีกเนื้อย่างมันเยิ้มลงมาชิ้นหนึ่งสวาปาม
มันกินไปพลางด่าไปพลาง “ข้าก็ว่าไยจึงไม่เห็นเจ้า ที่แท้เจ้าแอบพวกเรามากินเนื้อย่างอยู่ที่นี่เอง!”
ในสถานการณ์ปกติ สุนัขดำต่อว่าเขาเช่นนี้ อย่างไรนักพรตอู๋เหลียงก็ต้องตอกกลับสุนัขดำบ้าง ทว่าหนนี้ นักพรตอู๋เหลียงกลับไม่ได้เอื้อนเอ่ยสักประโยค
ตรงกันข้าม เขายังเอ่ยต่อสุนัขดำด้วยรอยยิ้มกว้าง “อร่อยหรือไม่”
“พอใช้ได้ ถือว่ากินได้!”
“ใช้ได้ก็ดี ไม่ต้องรีบ ค่อย ๆ กินไป ยังเหลือเนื้ออีกมาก!”
นักพรตอู๋เหลียงบอกกับสุนัขดำยิ้ม ๆ ซ้ำยังฉีกเนื้อย่างมาให้สุนัขดำอีกชิ้นใหญ่และยื่นไปให้อย่างรู้ใจ
“เดี๋ยวก่อน!”
สุนัขดำชะงัก สายตาทอประกายเคลือบแคลง รู้สึกเอะใจ
“เหตุใดวันนี้เจ้าถึงผิดปกติปานนี้” มันถาม
นักพรตอู๋เหลียงมีพิรุธมาก หากเป็นเมื่อก่อนนักพรตอู๋เหลียงไฉนเลยจะทำเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ไม่ด่ามันกลับซ้ำยังคอยปรนเปรอเนื้อย่างให้เขา?
พระอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันตกยังไม่มีทางเกิดเรื่องเช่นนี้!
“เปล่า ข้ารู้สึกว่าเราสองเอาแต่ทะเลาะกันดูไม่เป็นเรื่องที่ดีเท่าใด เพราะอย่างนั้นข้าจึงตั้งใจชนะใจเจ้าด้วยความรัก จากนี้ไปไม่ขอมีปากเสียงกับเจ้าอีกแล้ว”
นักพรตอู๋เหลียงกล่าว
“ไปไกล ๆ เลย! อย่ามาเอ่ยวาจาเลี่ยนปานนี้กับข้า! ชนะใจข้าด้วยความรักอะไร? แหวะ!”
หลังสุนัขดำได้ยินคำกล่าวของนักพรตอู๋เหลียง ขนหมาของมันลุกชันตัว รู้สึกพะอืดพะอม
“ไม่สิ! ว่ามา เจ้าซ่อนลูกไม้อันใดไว้!”
สุนัขดำเดือดดาล ยิ่งคิดยิ่งระแคะระคาย ใช้กรงเล็บกดนักพรตอู๋เหลียงไว้กับพื้น มันรู้สึกว่านักพรตอู๋เหลียงไม่ได้หวังดีแต่อย่างใด!
“เจ้าสุนัขเดนตาย! พูดจากันดี ๆ ไยชอบลงไม้ลงมืออยู่เรื่อย ถุย เจ้าสุนัขเดนตายไม่มีมือ มีแต่กรงเล็บ!”
หลังถูกสุนัขดำใช้กรงเล็บอัดติดพื้น นักพรตอู๋เหลียงสติแตกกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป ตะโกนต่อว่าสุนัขดำเสียยกใหญ่
สุนัขดำไม่คิดทะนุถนอมนักพรตอู๋เหลียง อัดนักพรตอู๋เหลียงเสียยกใหญ่จนเขาร่ำไห้เสียงสะอื้น!”
“ว่ามา เจ้าคิดการอันใดไว้!”
สุนัขดำแยกเขี้ยว คาดคั้นนักพรตอู๋เหลียง
“ฮ่า ๆ เปล่านี่ แค่อยากชวนเจ้ามากินเนื้อย่างเท่านั้น!”
นักพรตอู๋เหลียงหัวเราะร่วน ท่าทางลำพองใจ “อืม เพียงแต่เนื้อนี่มีเผ่าพันธุ์เดียวกับเจ้า ข้าตัดขาอสูรสุนัขสวรรค์ตัวหนึ่งจากดินแดนใหม่มา!”
ใช่แล้ว เขาจงใจแกล้งสุนัขดำ!
เขารู้ว่าสุนัขดำไม่ติดกับง่าย ๆ หากย่างเนื้อให้สุนัขดำกินตรง ๆ ไม่แน่ว่ามันจะยอมกิน
เพราะอย่างนั้น เขาถึงปลีกตัวจากสุนัขดำ แอบมาย่างเนื้อเองให้สุนัขดำเข้าใจว่าเขาอยากเก็บไว้กินคนเดียว
แผนการสำเร็จยิ่ง สุนัขดำไม่ได้สงสัย มาถึงก็แย่งเนื้อไปกินเลย!
เขาดีใจแทบแย่!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแกล้งสุนัขดำสำเร็จ!
ปกติมีแต่สุนัขดำที่แกล้งเขา!
“อะไรนะ นี่คือ…เนื้อหมารึ?!”
สุนัขดำเดือดดาล ปั่นป่วนมวลท้องสำรอกเนื้อย่างเมื่อครู่ออกมาจนหมด!
“เจ้านักพรตไร้คุณธรรม ไร้คุณธรรม…ฉิบ!”
สุนัขดำด่ากราด เข้าไปกัดนักพรตอู๋เหลียง
อีกด้าน จักรพรรดินีและพวกเมิ่งจีอึ้งงัน
นักพรตอู๋เหลียงผู้นี้ไร้คุณธรรมอย่างแท้จริง!
ให้สุนัขดำกินเนื้อหมา!
นักพรตอู๋เหลียงนี่ก็เหลือเกิน!
“ฮ่า ๆ!”
นักพรตอู๋เหลียงโดนสุนัขดำกัดจนสะบักสะบอม เนื้อตัวโชกเลือด อนาถจนไม่อาจทนมอง กระนั้นเขาก็ยังมีความสุข หัวเราะร่วนไม่หยุด
ได้แกล้งสุนัขดำ ต่อให้ถูกกัดก็คุ้มแล้ว!
“ไป ๆ ๆ! ปล่อยให้พวกเขาตีกันไปเถิด!”
เมิ่งจียกมือเก็บเนื้อย่างไปกินกับพวกจักรพรรดินีที่อื่น
พวกเขาไม่กล้ากินเนื้อหมาต่อหน้าสุนัขดำ ขืนทำเช่นนั้นจริงสุนัขดำต้องกัดพวกเขาแน่!
ทว่าเวลานั้นเอง สุ้มเสียงสยดสยองก็ดังออกมาจากเส้นทางดินแดนใหม่!
พวกเมิ่งจีรู้สึกตัวทันที โยนเนื้อย่างทิ้งแล้วรุดหน้าไปที่นั่น!
สุนัขดำก็หยุดกัดนักพรตอู๋เหลียงแล้วมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว!
นักพรตอู๋เหลียงไม่ได้ลังเล ไม่สนว่าตนเองยังคงโชกเลือด รีบเดินทางไปที่นั่นด้วย!
มีสุ้มเสียงจากเส้นทางดินแดนใหม่บ่งบอกว่ามีสิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่มาอีกแล้ว!
ตามหลักแล้วไม่ควรเลย เพราะเท่าที่พวกเขารู้จากบุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่กลุ่มสุดท้ายที่จับได้ พวกเขาคือบุตรแห่งสวรรค์กลุ่มสุดท้ายที่ดินแดนใหม่ส่งมา ไม่มีอีกแล้ว
ทว่ายามนี้กลับมีสุ้มเสียงดังออกจากเส้นทางดินแดนใหม่ บ่งบอกว่าผู้มาอาจไม่ใช่บุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่ หากแต่เป็นยอดฝีมือดินแดนใหม่!
ตามคาด หลังพวกเขาไปถึงที่นั่นก็แน่ใจได้ทันที ผู้มาคือยอดฝีมือดินแดนใหม่แน่แท้!
ยอดฝีมือดินแดนใหม่เหล่านี้ไม่ทันออกจากเส้นทางก็มีคลื่นพลังสยดสยองส่งออกมาแล้ว เกินกว่าที่บุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่เหล่านั้นจะเทียบได้!
ชั่วขณะนั้น พวกเขาต่างรู้สึกหนักอึ้งกันหมด
พวกเขารู้ดีว่าศัตรูตัวฉกาจ…มาถึงแล้ว!