รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1060 ฉีกกระชากหน้ากากเสแสร้ง ที่แท้ก็เป็นผู้ฝึกตนแสนชั่วร้าย!
- Home
- All Mangas
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1060 ฉีกกระชากหน้ากากเสแสร้ง ที่แท้ก็เป็นผู้ฝึกตนแสนชั่วร้าย!
บทที่ 1060 ฉีกกระชากหน้ากากเสแสร้ง ที่แท้ก็เป็นผู้ฝึกตนแสนชั่วร้าย!
บทที่ 1060 ฉีกกระชากหน้ากากเสแสร้ง ที่แท้ก็เป็นผู้ฝึกตนแสนชั่วร้าย!
จั่วเหยียนรู้สึกทุกข์ตรม ไฉนเขาจึงน่าเวทนาเพียงนี้ กลายเป็น ‘สนามรบ’ ให้สองฝ่ายต่อสู้กัน
ปัญหาคือการต่อสู้เช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายล้วนไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้น มีเพียงแค่ ‘สนามรบ’ อย่างเขาเท่านั้นที่เกิดเรื่อง ทั้งยังเป็นเรื่องใหญ่ยิ่ง สามารถถึงขั้นตายได้ทันที!
ราชากู่ที่พุ่งเข้ามามีจำนวนหกตัว ทั้งหมดต่างดุร้ายอย่างถึงที่สุด พลังสะท้านฟ้าสะเทือนดิน จั่วเหยียนสวดภาวนาในใจอย่างต่อเนื่อง หวังให้หลี่จิ่วเต้ารับมือกับราชากู่ทั้งหกได้!
สำหรับเรื่องการพึ่งตนเอง อย่าได้คิดเลย กระทั่งเขายามอยู่จุดสูงสุดยังไม่อาจรับมือได้แม้สักตัว นับประสาอันใดกับราชากู่หกตัว!
ครั้งนี้มารกู่หงายไพ่ทั้งหมดออกมาแล้วจริง ๆ!
ราชากู่ทั้งหกพุ่งตรงเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดเกาะอยู่บนผิวหนัง เขาสัมผัสได้ถึงราชากู่ทั้งหกกำลังพยายามเจาะเข้าไปในร่างของเขาได้อย่างชัดเจน!
‘ถึงตายได้อย่างแท้จริง!’
เขาหลับตาลงอย่างอับจนหนทาง ต่อหน้าราชากู่ เขาไม่อาจทำสิ่งใดได้ทั้งนั้น ปราศจากความสามารถในการต่อต้านโดยสิ้นเชิง
ทว่าในไม่ช้าเขาก็ลืมตาขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ!
ในร่างของเขามีพลังพิเศษไหลเวียนอยู่ ยับยั้งราชากู่ทั้งหกเอาไว้นอกร่างอย่างสิ้นเชิง!
ไม่ว่าราชากู่ทั้งหกจะพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อชอนไชเข้าไปในร่างของเขา ล้วนแล้วแต่ประสบความล้มเหลว ถูกต้านทานได้อย่างสมบูรณ์!
‘หลี่จิ่วเต้าช่างสุดยอดยิ่งนัก!’
เขาร้องตะโกนขึ้นมาในใจอย่างอดไม่ได้
นี่เรียกว่าสุดยอดอย่างแท้จริง เขาร้องออกมาจากใจจริง!
พลังที่ไหลเวียนอยู่ร่างของเขาเป็นสิ่งที่หลี่จิ่วเต้าทิ้งเอาไว้เพื่อช่วยเหลือเขาเมื่อครู่ เดิมทีคิดว่าเมื่อหลี่จิ่วเต้าต้องเผชิญหน้ากับราชากู่อันน่าสะพรึงกลัวจะต้องรับมือด้วยความยากเย็นยิ่ง
ผู้ใดจะคิด เขาประเมินความน่ากลัวของหลี่จิ่วเต้าต่ำเกินไปมาก!
คนผู้นี้น่าครั่นคร้ามไร้เทียมทานอย่างแท้จริง สามารถจัดการราชากู่เหล่านี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องพูดหรือใช้พลังใหม่ เพียงแค่พลังที่หลงเหลือในร่างกายของเขาก็สามารถยับยั้งการรุกรานของราชากู่ได้แล้ว!
จั่วเหยียนตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง เขารู้สึกสะท้านใจมาก!
ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหลี่จิ่วเต้ามีมากเพียงใด?!
เขาไม่กล้าจินตนาการถึงเลย!
“!!!”
อีกด้านหนึ่ง ใบหน้าของมารกู่แปรเปลี่ยนไปอย่างมาก ทั้งมืดมนและไร้สีเลือด
คาดไม่ถึงแม้แต่น้อย กระทั่งหลงคิดว่าหลังจากถูกราชากู่โจมตีแล้ว อีกฝ่ายจะต้องประสบความพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช!
ยามนี้เขาตระหนักได้อย่างชัดเจน ตัวเขาเตะแผ่นเหล็กจนทำร้ายตนเองอย่างร้ายแรงเสียแล้ว!
ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกหลี่จิ่วเต้ากล้านั่งลงบนเบาะอย่างไร้ความกลัวเรง ทั้งยังสนทนากับเขาอย่างสบายใจ!
‘มารดามันเถิด ข้าต้องรีบหนีแล้ว!’
เขาเอ่ยสบถแช่งในใจ ไม่ต้องการต่อสู้กับหลี่จิ่วเต้าอีกต่อไป
คนผู้นี้น่าสะพรึงกลัวเกินไป จนกระทั่งตอนนี้เขายังไม่อาจหยั่งถึง ทำให้เขาเกิดความคิดต้องการหนีออกไปทันที!
ทว่าหลี่จิ่วเต้าจะปล่อยเขาจากไปอย่างง่ายดายหรือ?
จะเป็นไปได้อย่างไร!
เขาปฏิเสธความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดว่าพวกหลี่จิ่วเต้ามุ่งตรงมาหาเขา เช่นนั้นจะยอมปล่อยเขาไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร!
หากไม่ใช่เช่นนั้น พวกหลี่จิ่วเต้าคงไม่มาหาเขาที่นี่ ทั้งยังไม่ปะทะกับเขาด้วย!
‘เขาน่าจะพุ่งเป้ามาที่ข้าตั้งแต่แรกแล้ว ครั้งนี้มาก็เพื่อจัดการข้า!’
มารกู่หัวเราะอย่างเย็นชาในใจ คิดว่าหลี่จิ่วเต้ารู้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับโลกใหม่ตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นจึงมาเพื่อพบเขา!
ครั้งนี้เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว!
‘เช่นนั้นก็เข้ามาเถิด!’
เขาตะโกนในใจด้วยเสียงเย็นเยียบ เนื่องจากหลี่จิ่วเต้าได้พุ่งเป้ามาที่เขาแล้ว ย่อมไม่มีทางปล่อยเขาไปโดยง่าย เช่นนั้นก็สู้สุดชีวิตกับหลี่จิ่วเต้าเสียเลย!
“ตาย!”
เขาตะโกนเสียงดังออกมากะทันหัน แสงอันน่าสะพรึงกลัวไร้ที่สิ้นสุดระเบิดออกมาจากร่าง พุ่งโจมตีไปทางหลี่จิ่วเต้าโดยตรง!
‘เกิดอันใดขึ้น!’
ขณะเดียวกัน สีหน้าของหลี่จิ่วเต้าแปรเปลี่ยนไป ร้องอุทานอยู่ในใจ
จ้าวแห่งแสงเป็นอันใดไป?
เห็นได้ชัดว่ากำลังอธิบายเต๋าให้จั่วเหยียนอยู่ดี ๆ แต่กลับลงมือหมายสังหารเขาอย่างกะทันหันเนี่ยนะ?!
นี่มันน่าฉงนเกินไปแล้ว!
หรือเพราะว่าจั่วเหยียนโง่งมเกินไปจนทำให้จ้าวแห่งแสงทนอธิบายไม่ไหว เกิดความคิดอยากสังหารขึ้นมา?
ทว่าหากต้องการฆ่า เช่นนั้นก็สมควรฆ่าจั่วเหยียนก่อน จะพุ่งตรงมาที่เขาด้วยเหตุใด?
ความคิดเหล่านี้แวบเข้ามาในหัวของหลี่จิ่วเต้า แต่เขาไม่มีเวลาให้คิดอันใดมาก ก่อนฝ่ามือของจ้าวแห่งแสงจะพุ่งเข้ามาถึง เขาก็รีบเรียกกระบี่ฉุนจวินออกมาอย่างรวดเร็ว!
ชิ้ง!
แสงดาบนับล้านส่องสะท้อนในท้องนภา เจตจำนงกระบี่สูงสุดระเบิดออก สกัดกั้นฝ่ามือของจ้าวแห่งแสงที่พรวดเข้ามา!
“ตาย!”
สีหน้าจ้าวแห่งแสงเย็นเยียบ ไม่ยอมรามือ ยังคงมุ่งต่อไปด้านหน้า!
โพละ โพละ!
ด้านล่าง ร่างกายของสิ่งมีชีวิตจำนวนไม่ถ้วนระเบิดออก กู่จำนวนมหาศาลพุ่งออกมาจากร่างของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นทะยานตรงเข้าไปในร่างจ้าวแห่งแสงอย่างรวดเร็ว เพิ่มพูนพลังของจ้าวแห่งแสงจนมากขึ้น!
จ้าวแห่งแสงเริ่มบ้าคลั่งแล้ว เรียกกู่ทั้งหมดกลับมา เพราะต้องการต่อสู้เป็นตายกับหลี่จิ่วเต้า!
“อันใดกัน!”
สีหน้าของชายหนุ่มแปรเปลี่ยน ตระหนักได้ทันทีว่าจ้าวแห่งแสงที่อยู่เบื้องหน้าหาใช่ผู้ทรงพลังอันเปี่ยมด้วยจิตใจดีมีเมตตา แต่เป็นเพียงผู้ฝึกตนชั่วร้ายที่กระหายเลือด!
‘ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นดั่งบรรพจารย์ฝู!’
นัยน์ตาของเขาเย็นเยียบ ภายในใจปรากฏจิตสังหาร
อันใดคือมีกู่พุ่งออกมาจากร่างของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านล่าง เขาไม่รู้แน่ชัด แต่มั่นใจว่าหนอนแมลงเหล่านั้นต้องไม่ใช่สิ่งที่ดีอย่างแน่นอน!
หนอนแมลงสูบเลือดสูบชีวิตหรือ?
ตอนนั้นเองเขาพลันเข้าใจอย่างสมบูรณ์
ผู้ทรงพลังสูงส่งมีเมตตาจิตใจดีอันใดกัน จ้าวแห่งแสงเพียงเสแสร้งเท่านั้น แท้จริงแล้ว เขาชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด สิ่งที่เรียกว่าการสั่งสอนอย่างไม่แบ่งแยก ล้วนเป็นการลงมือเพื่อทำร้ายผู้อื่น!
จุดประสงค์เพื่อนำหนอนแมลงเหล่านี้เข้าไปในร่างสิ่งมีชีวิตทั้งหมด!
‘นี่คือสุดแผนที่ปรากฏมีดสั้น*[1]!’
เขาเอ่ยในใจอย่างเย็นเยียบ
ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ เขามองออกทั้งหมดแล้ว
ตอนแรกยามพวกเขามาถึงที่นี่ พวกเขาไม่ได้คุกเข่าลงเบื้องหน้าจ้าวแห่งแสง นี่คงทำให้เจ้าแห่งแสงรู้ได้ว่าพวกเขาพึ่งมาใหม่ จึงไม่มีหนอนแมลงอยู่ในร่าง
สิ่งมีชีวิตที่ถูกหนอนแมลงเข้าร่าง สมควรจะเป็นเช่นสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแห่งนี้ที่เคารพบูชาจ้าวแห่งแสงอย่างถึงที่สุด ถือว่าจ้าวแห่งแสงเป็นความศรัทธา!
ดังนั้น ตัวตนของพวกเขาจึงดึงดูดความสนใจของจ้าวแห่งแสง!
จ้าวแห่งแสงให้พวกเขาออกมาด้านหน้าเพื่อสนทนาเต๋าเป็นการส่วนตัว คิดดูแล้วน่าจะเป็นเพราะต้องการใส่หนอนแมลงเหล่านี้ลงไปในร่างของพวกเขา!
เมื่อครู่จ้าวแห่งแสงจะต้องลอบลงมือใส่หนอนแมลงลงในร่างของพวกเขาอย่างแน่นอน
ทว่าสำหรับเขาแล้ว นี่น่าจะประสบความล้มเหลว!
ดังนั้นจ้าวแห่งแสงจึงเลิกเสแสร้ง ไม่ปิดบังอีกต่อไป โจมตีเข้าใส่เขาโดยตรง!
‘บนร่างข้ามีสมบัติที่ได้รับมาจากบรรพจารย์ฝูอยู่ เขาจะทำสำเร็จได้อย่างไร!’
สีหน้าหลี่จิ่วเต้าไม่แยแส ดีที่บนร่างของเขามีสมบัติจากบรรพจารย์ฝูอยู่ ไม่เช่นนั้นจ้าวแห่งแสงย่อมลงมือสำเร็จแน่นอน!
เขาเรียกก้านหลิวชะล้างออกมา ปรากฏลำแสงจำนวนมากเปล่งประกายเจิดจ้า โปรยปรายลงมาประหนึ่งหยาดพิรุณ ไม่เพียงแต่ปกคลุมร่างของพวกลั่วสุ่ยเอาไว้ ทว่ายังรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่เบื้องล่างด้วย
เห็นเช่นนั้นแล้วเขาก็วางใจลงอย่างสมบูรณ์
ก้านหลิวชะล้างมีพลังชำระล้างอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าเป็นสิ่งสกปรกใดก็สามารถชำระล้างสิ้น พวกลั่วสุ่ยอยู่ในแสงชำระล้างแล้ว ย่อมไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้น
ต่อให้พวกลั่วสุ่ยถูกหนอนแมลงของจ้าวแห่งแสงจู่โจม หนอนแมลงเหล่านั้นย่อมถูกชำระล้างสิ้นในพริบตาแน่นอน!
นอกจากความสามารในการชำระล้างแล้ว ก้านหลิวชะล้างยังมีความสามารถในการรักษาอย่างน่าอัศจรรย์ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดด้านล่างที่ถูกแสงพิรุณย่อมพ้นจากความตายแน่นอน!
ผลลัพธ์ออกมาดังคาด เพียงพริบตาต่อมา อาการบาดเจ็บของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่ได้อาบแสงพิรุณต่างถูกรักษาโดยไม่มีข้อยกเว้น!
กระทั่งสิ่งมีชีวิตที่ถูกกู่ดูดกลืนแก่นกำเนิดชีวิตก็ฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว!
หลี่จิ่วเต้าเห็นสถานการณ์ของสิ่งมีชีวิตด้านล่างพลันชื่นชมออกมาจากใจจริง
สิ่งมีชีวิตด้านล่างเมื่อครู่เพิ่งถูกระเบิดร่าง ต่างบาดเจ็บสาหัส ทว่าหลังอาบแสงพิรุณชำระล้าง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็ฟื้นตัวกลับมา เต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา!
พลังการรักษาของก้านหลิวชะล้างแข็งแกร่งมากจริง ๆ!
…
ในอาณาจักรแห่งหนึ่ง
บรรพจารย์ฝูเพิ่งทำลายดินแดนอันตรายลงไปแห่งหนึ่ง กำจัดภัยร้ายในอาณาจักรแห่งนี้ทิ้งไป พลันแหงนหน้าขึ้นบนฟ้าสูง เพราะได้ยินเสียงท้องฟ้าคำราม!
ครืน!
ผลกรรมปรากฏขึ้นอีกครั้ง สายฟ้าผลกรรมเส้นแล้วเส้นเล่าก่อตัวราวกับเป็นม่านน้ำตกเตรียมพุ่งตกใส่เขา!
“สวรรค์!”
สีหน้าของบรรพจารย์ฝูแปรเปลี่ยนทันที เห็นได้ชัดยิ่งว่าเขาถูกผู้ยิ่งใหญ่ท่านนั้นพูดถึงอีกแล้ว ทั้งยังมีเจตนากล่าวถึงอย่างชัดเจน นำพาให้ผลกรรมขยายใหญ่ขึ้นถึงเพียงนี้!
อสนีบาตโหมกระหน่ำลงมา ภายนอกของเขาไหม้เกรียมเต็มไปด้วยควันดำลอยโขมง ดูน่าเวทนายิ่งนัก!
“ท่านผู้ยิ่งใหญ่ที่ใดกัน เหตุใดจึงสนใจข้าเพียงนี้!”
เขาร้องไห้ออกมา คิดไม่ออกเลยว่าผู้ยิ่งใหญ่ท่านใดที่คิดถึงเขาตลอดเวลาเช่นนี้ ทั้งยังพูดถึงเขาอยู่บ่อย ๆ!
คิดไม่ออกจริง ๆ
อย่างไรเสีย ต่อหน้าผู้ยิ่งใหญ่เพียงนี้ ตัวตนเล็กจ้อยอย่างเขาไม่อาจเป็นได้กระทั่งฝุ่นธุลี เช่นนั้นจะควรค่าแก่การพูดถึงได้อย่างไร?
“ขยับเข้าใกล้ความตายอีกหนึ่งก้าว!”
บรรพจารย์ฝูร้องไห้หนักขึ้น
พลังผลกรรมบนร่างของเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขามีเพียงแต่ต้องตายไร้หนทางเลือกอื่น
พลังผลกรรมที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ เขาไม่อาจแก้ไขได้โดยสิ้นเชิง!
“เช่นนั้นก็ทำความดีก่อนตายให้มากขึ้นอีกเถิด การเดินทางท่องโลกครั้งนี้ของข้าจะได้ไม่สูญเปล่า!”
บรรพจารย์ฝูลุกขึ้น เก็บอารมณ์ทั้งหมดกลับไป เดินทางต่อไปเพื่อสยบหายนะ
พูดในอีกแง่หนึ่งแล้ว ยิ่งพลังผลกรรมบนร่างเขาน่ากลัวมากเท่าใด เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรเสียเขาก็จำเป็นต้องพึ่งพาผลกรรมเหล่านี้ ก่อนที่ผลกรรมจะทำงานกับเขา ย่อมไม่มีสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งใดแตะต้องตัวเขาได้!
…
ตู้ม!
ในเวลาเดียวกัน กระบี่ฉุนจวินเข้าปะทะกับจ้าวแห่งแสงอย่างดุเดือด บังเกิดเป็นการต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัว!
พวกเขาพุ่งขึ้นฟ้าสูง ทะลวงไปยังจักรวาลดวงดาราด้านนอก ดวงดาวนับไม่ถ้วนถูกพวกเขาระเบิดออก พังทลายลงในพริบตา!
“ประหาร!”
เสียงของหลี่จิ่วเต้าเย็นเยียบ เขาไม่อาจปล่อยผู้ฝึกตนชั่วร้ายเช่นจ้าวแห่งแสงไปได้ ดังนั้นจึงหมายประหารอีกฝ่ายให้สิ้น!
วูบ!
กระบี่ฉุนจวินเปล่งประกายอย่างถึงที่สุดทันที ส่องสว่างไปทั่วจักรวาลดวงดารา ขณะเดียวกันจิตสังหารอันหาที่เปรียบไม่ได้ก็แผ่ออกอย่างรวดเร็ว ตอบสนองต่อคำประหารของหลี่จิ่วเต้า!
จ้าวแห่งแสง…จะต้องตายอย่างไร้ทางอื่น!
“ตาย!”
จ้าวแห่งแสงกู่ร้อง พุ่งเข้าต่อกรอย่างสุดชีวิต
ต่อหน้าระดับเช่นพวกเขาแล้ว การหลบหนีไม่มีทางเป็นไปได้
แน่นอน ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการหนี แต่เป็นเพราะเขาหนีไม่พ้น
การต่อสู้ในครั้งนี้ หากไม่สามารถตัดสินแพ้ชนะ เขาก็ไม่อาจจากไปได้!
[1] สุดแผนที่ปรากฏมีดสั้น (图穷匕见) เป็นสำนวน มีที่มาจากสามก๊ก หมายถึง เมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุด ความจริงก็ปรากฏออกมา