รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1047 ขอถามหน่อย สิ่งมีชีวิตมายาน่าพรั่นพรึงถึงเพียงนี้เลยหรือ
- Home
- All Mangas
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1047 ขอถามหน่อย สิ่งมีชีวิตมายาน่าพรั่นพรึงถึงเพียงนี้เลยหรือ
บทที่ 1047 ขอถามหน่อย สิ่งมีชีวิตมายาน่าพรั่นพรึงถึงเพียงนี้เลยหรือ?
บทที่ 1047 ขอถามหน่อย สิ่งมีชีวิตมายาน่าพรั่นพรึงถึงเพียงนี้เลยหรือ?
สิ่งมีชีวิตมายาถูกสร้างโดยบรรดาปรมาจารย์ดินแดนใหม่ บัดนี้กลับคิดต่อต้าน หมายจะทลายความเป็นมายาสู่ความเที่ยงแท้ ใช่แค่น่าขันที่ไหน เรียกได้ว่าตลกโปกฮาอย่างแท้จริง!
“เจ้ายังมีโอกาส อย่าก้าวเดินพลาดนำพาตนเองสู่ความดับสูญ!”
เด็กหนุ่มผู้หนึ่งปริปาก ขณะจ้องมองจักรพรรดินี “เจ้าปล่อยเราไป พวกเราจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซ้ำเจ้าอาจได้รับความช่วยเหลือจากเราด้วย”
เขาเอ่ย “เจ้าต้องเข้าใจเรื่องหนึ่ง พวกเจ้าล้วนเป็นผลผลิตจากการอุปโลกน์ ต่อให้พวกเจ้าไม่เชื่อ ความจริงก็เป็นเช่นนี้! เจ้ามาดักรอพวกเราที่นี่ คิดแล้วเจ้าคงทราบเรื่องราวของดินแดนใหม่แล้ว เจ้าคิดว่าพวกเจ้าต้านทานดินแดนใหม่ได้จริง ๆ หรือ”
จักรพรรดินีมาดักพวกเขาที่นี่ เห็นได้ชัดว่ารู้เรื่องพวกเขาแล้ว
มีโอกาสสูงว่ามีบุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่มาถึงดินแดนเก่าก่อนพวกเขา และต่อมาถูกจักรพรรดินีกำราบ
“ข้าไม่ต้องการหลอกเจ้า และไม่ต้องการปิดบังเจ้า การจะพาเจ้าทลายความอุปโลกน์สู่ความเที่ยงแท้ไม่มีทางเป็นจริง พวกเราทำไม่ได้”
เด็กหนุ่มเยือกเย็นสุด ๆ กล่าวกับจักรพรรดินีต่ออีกว่า “แต่หากเจ้าปล่อยเราไปตอนนี้ จะได้รับมิตรภาพของเรา พวกเราสามารถช่วยเจ้าให้ไร้เทียมทานในใต้หล้า เกรียงไกรตลอดชีวิตในดินแดนเก่านี้ อยากทำอะไรก็ได้!”
เขาเจรจากับจักรพรรดินี อยากให้นางปล่อยพวกเขาไป
สีหน้าจักรพรรดินีเย็นชา แสดงจุดยืนของนางด้วยการกระทำ
ยกทวนยาวขึ้นชี้ไปที่เด็กหนุ่มผู้นี้ “ออกมาสู้กับข้า ข่มขอบเขตลงที่ล้ำขีดขั้นแปด!”
“เจ้าตั้งใจดึงดันให้ถึงที่สุดหรือ เช่นนี้แล้วท้ายที่สุดเจ้าจะตายโดยไร้ที่ฝังกลบ!”
เด็กหนุ่มมีโทสะ
“ข้าให้ทางเลือกเจ้าสองทาง! หนึ่ง หุบปากแล้วออกมาสู้กัน สอง ให้ข้าฆ่าเจ้าเสียเดี๋ยวนี้!”
จักรพรรดินีเอ่ยเสียงเย็น
นางกลัวตายหรือ
หากนางกลัวตายจริง คงไม่อยู่มาถึงป่านนี้
จิตสังหารพลุ่งพล่านทั่วร่าง วาจาที่เอ่ยออกมานั้นไม่ได้ล้อเล่น เด็กหนุ่มรู้สึกถึงจิตสังหารรุนแรงจากตัวจักรพรรดินี เขากลัวจนไม่กล้าเอ่ยวาจาอีก
บุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่ที่เหลือก็เป็นเช่นนี้กันหมด
แม้ว่าพวกเขาเจ็บใจและอัปยศ แต่พวกเขาก็จำต้องยอมรับว่า บัดนี้ชีวิตของพวกเขาอยู่ในกำมือจักรพรรดินี
หากจักรพรรดินีอยากฆ่าพวกเขา คงทำได้ง่ายดาย
เด็กหนุ่มจนใจ ได้แต่ข่มขอบเขตลงแล้วออกไปสู้กับอีกฝ่าย
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น เขาก็ตะลึงกับความโหดเหี้ยมของจักรพรรดินี นางต่อสู้อย่างบ้าคลั่งราวกับไม่คิดชีวิต เขาไม่เคยพบผู้ที่โหดเหี้ยมเช่นนี้มาก่อน!
ซ้ำยังเป็นสตรีที่โหดเหี้ยมเช่นนี้!
ยามนี้เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว มิน่าจักรพรรดินีถึงสามารถต่อสู้ข้ามขั้น เอาชนะพวกเขาแม้ว่าขอบเขตต่ำกว่าได้
เมื่อเทียบกับจักรพรรดินีผู้โหดเหี้ยมแล้ว พวกเขาประหนึ่งเด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ต่อให้พวกเขามีขอบเขตสูงกว่าแล้วอย่างไร ความโหดเหี้ยมไม่คิดชีวิตนี้เกินกว่าที่พวกเขาจะเทียบไหว!
เสมือนเด็กน้อยผู้มีสุดยอดอาวุธพิฆาตในมือก็ไม่อาจต่อกรกับผู้ใหญ่มือเปล่า พวกเขาแพ้ตั้งแต่เกิดแล้ว!
สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้อย่างอนาถ เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล กลายเป็นมนุษย์โชกเลือดอย่างแท้จริง
ทว่าเทียบกับบาดแผลบนตัว จิตใจของเขาได้รับความกระทบกระเทือนมากกว่า
ต่อให้เขาข่มขอบเขตลงแล้วก็ยังสูงกว่าจักรพรรดินีขั้นหนึ่ง ทว่าก็ยังถูกนางเล่นงานจนโงหัวไม่ขึ้น!
ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาเจ็บใจมาก นึกอยากพลิกสถานการณ์ใจแทบขาด เขาสู้สุดชีวิต กระตุ้นศักยภาพออกมาไม่หยุด
ทว่าความโหดเหี้ยมและความไม่คิดชีวิตของเขาก็ยังไม่อาจเทียบเทียมจักรพรรดินี ซ้ำยังห่างกันหลายขุม!
เป็นผลให้เขาสะเทือนใจอย่างหนัก!
เขารู้ดีว่าต่อให้ตัวเองใกล้ตายหรือแม้กระทั่งตายไปแล้ว ก็ไม่มีทางโหดเหี้ยมได้เพียงนี้ จึงผิดหวังกับตัวเองมาก เขาผู้ได้รับคำชื่นชมมากมายเมื่อคราวอยู่ที่ดินแดนใหม่สุดท้ายกลับเทียบแม้แต่สิ่งมีชีวิตมายายังไม่ได้ ความพ่ายแพ้นี้แทบทำให้เขาสติแตก!
หลังจบไปศึกหนึ่ง จักพรรดินีไม่มีทีท่าเหนื่อยอ่อน ยังคงกระปรี้กระเปร่า พร้อมต่อสู้เต็มร้อย
ขณะที่นางยกทวนยาวในมือขึ้นเตรียมต่อสู้ หยวนอีก็มาถึง
หยวนอีในเวลานี้แม้มีขอบเขตต่ำกว่าจักรพรรดินี แต่ก็อยู่ในขอบเขตลอยชาย เดินทางข้ามอวกาศได้สบาย เพียงไม่นานก็มาถึง
“พี่หญิง!”
หยวนอีร้องเรียกพี่หญิงเสียงหวาน นางอยู่กับจักรพรรดินีมานานที่สุด หลังจักรพรรดินีช่วยอาจารย์กลับมาก็อยู่กับนางมาตลอด
จักรพรรดินีจ้องมองหยวนอี เอ่ยเสียงสะท้อนใจว่า “เจ้าไม่เหมือนข้า ยังอ่อนเยาว์เกินไป มีประสบการณ์ไม่มาก ให้เจ้าเคี่ยวกรำตนเองด้วยความเป็นความตายนับว่าลำบากเจ้าแล้ว!”
ที่นางว่ามาคือความจริง
หยวนอีอ่อนเยาว์เกินไป ก่อนหน้านี้ไม่เคยผ่านประสบการณ์คาวเลือดมา ส่วนนางนั้นไม่เหมือนกัน
เมื่อครั้งนางได้เป็นเซียนก็ผ่านความลำเค็ญมาตั้งไม่รู้เท่าใด ต่อมาเข้าไปยังภพเซียน ซ้ำยังกลายเป็น ‘นักสู้’ ห้ำหั่นโชกเลือดในภพเซียนทุกวี่วัน ต่อสู้แก่งแย่งทรัพยากรอย่างเอาเป็นเอาตาย
ให้หยวนอีผ่านการเคี่ยวกรำด้วยความเป็นความตายอันแสนยากเย็นเช่นนางนับว่าลำบากหยวนอีแล้ว
“ไม่ต้องกดดัน ทำให้เต็มที่ก็พอ!”
นางตบบ่าหยวนอี “หากทำเกินกำลัง กลับจะเกิดเรื่องง่ายกว่า”
“ข้าเชื่อพี่หญิง!”
“ดี เจ้าไปเถิด”
จักรพรรดินีเอ่ย
นางหันไปมองเหล่าบุตรแห่งสวรรค์ เรียกผู้หนึ่งออกมา “ข่มขอบเขตเจ้าลง เป็นคู่ซ้อมให้นางดี ๆ!”
หลังบุตรแห่งสวรรค์เหล่านี้ได้ยินคำกล่าวของจักรพรรดินีก็โมโหจนแทบกระอักเลือด
บัดซบ พวกเขาต้องเป็นคู่ซ้อมจักรพรรดินียังไม่พอ บัดนี้ต้องเป็นคู่ซ้อมหยวนอีอีกหรือ
ในดินแดนใหม่ พวกเขาล้วนเป็นบุตรแห่งสวรรค์ที่มีชื่อก้องไปทั่วทิศ บัดนี้กลับตกต่ำมาเป็นคู่ซ้อม ซ้ำยังเป็นคู่ซ้อมของสิ่งมีชีวิตมายา อย่าให้เอ่ยเลยว่าพวกเขาทรมานใจเพียงใด!
ตอนนี้พวกเขาอยากตายเสียให้จบ ๆ น่าอัปยศสิ้นดี!
ทว่าความคิดอยากตายนี้เพียงแต่ผุดขึ้นชั่ววูบแล้วหายไป
ตายอย่างสงบไม่สู้อยู่อย่างลำบาก ต่อให้พวกเขารู้ว่าจุดจบพวกเขาคงไม่ดีเท่าใดก็ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ไม่อยากตายไปทั้งอย่างนี้
บุตรแห่งสวรรค์ผู้ที่ถูกขานออกมาจำใจข่มขอบเขตลง แล้วเป็นคู่ซ้อมให้หยวนอี
“เคี่ยวกรำด้วยความเป็นความตาย ไม่ตายไม่เลิกรา เจ้าเข้าใจหรือไม่?!”
หยวนอีจ้องมองบุตรแห่งสวรรค์ผู้นั้นแล้วตะโกนเสียงดัง
เข้าใจกับผีน่ะสิ!
บุตรแห่งสวรรค์ผู้นั้นคิดอย่างไม่สบอารมณ์
สิ่งมีชีวิตขอบเขตลอยชายอย่างหยวนอีเขาเป่าลมใส่ก็ตายบังอาจเอ่ยวาจาเช่นนี้กับเขา ยามพยัคฆ์ตกอับ แม้นสุนัขยังรังแก ยามวิหคเพลิงตกอับ แม้นไก่ไม่อาจสู้!
พลันเขาเข้าต่อสู้อย่างดุเดือดกับหยวนอี
ระหว่างการต่อสู้กับหยวนอี เขาเผยให้เห็นบารมีของบุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่ออกมาทันที หยวนอีไม่เหมือนจักรพรรดินีจริง ๆ เทียบไม่ได้เลย นางไม่ได้เหี้ยมโหดอย่างจักรพรรดินี ประสบการณ์ต่อสู้ก็ไม่ได้มากมาย
เพียงครู่เดียว หยวนอีก็ถูกเขากำราบ ถูกเล่นงานจนย่อยยับ!
เท่านี้เองหรือ?!
เขาดูแคลนในใจไม่หยุด คิดว่าหยวนอีมีฝีมืออยู่บ้าง สุดท้ายกลับไร้น้ำยาสิ้นดี ไม่ใช่คู่มือของเขาเลย
ฟึ่บ!
ทว่าเวลานั้นเอง จู่ ๆ ก็มีประกายกระบี่สยดสยองพวยพุ่งออกจากตัวหยวนอี สี่กระบี่ประหารเซียนทะยานออกมาพร้อมค่ายกลกระบี่สูงส่ง บุกสังหารไปหาบุตรแห่งสวรรค์ผู้นั้น!
“บ้าเอ๊ย! เจ้า…ไร้จรรยาบรรณในการต่อสู้สิ้นดี!”
สีหน้าบุตรแห่งสวรรค์เปลี่ยนไปทันที รู้สึกถึงภยันตรายถึงชีวิตจากสี่กระบี่ประหารเซียน
ชั่วพริบตานั้น เขาลืมคำเตือนจากจักรพรรดินี ทลายผนึก ระเบิดพลังปราณล้ำขีดขั้นแปดออกมาเต็มเปี่ยม เข้ารับศึกสี่กระบี่ประหารเซียนที่ฟาดฟันลงมา!
ผลสุดท้าย ทันทีที่เขาปะทะกับสี่กระบี่ประหารเซียน ร่างของเขาก็ถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ กลายเป็นหมอกเลือด!
ยังดีที่นาทีวิกฤต หยวนอีดึงสี่กระบี่ประหารเซียนกลับไปเขาจึงไม่ถูกสังหาร!
หากหยวนอีไม่ดึงสี่กระบี่ประหารเซียนกลับไป เขาต้องถูกปลิดชีพทันทีแน่นอน!
เขากลัวจนปัสสาวะแทบราด!
เพราะก่อนหน้านี้ยังนึกในใจว่าหยวนอีผู้อยู่ขอบเขตลอยชายคนนี้ เขาเพียงเป่าลมไปเรื่อยเปื่อยก็ฆ่านางได้อย่างง่ายดาย
สุดท้าย อย่าว่าแต่เป่าลมฆ่าหยวนอีเลย ต่อให้เขาเป่าจนปากระเบิด จนลมในร่างหมด ก็ไม่มีทางฆ่าหยวนอีได้!
สี่กระบี่ประหารเซียนฆ่าเขาในยามเปี่ยมพลังที่สุดได้ง่ายดาย!
อะไรกัน!
เขาสะเทือนใจอีกครั้ง หรือว่าสิ่งมีชีวิตมายาจะน่าพรั่นพรึงผิดมนุษย์เช่นนี้กันหมด?
แม้แต่สิ่งมีชีวิตมายาขอบเขตลอยชายยังมียอดศาสตราในมือ ฆ่าเขาได้ง่าย ๆ!
อีกด้าน บุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่อื่น ๆ ก็นิ่งอึ้งเช่นกัน
พวกเขาคิดว่าในหมู่สิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่มีคนอย่างจักรพรรดินีนับว่าสะท้านโลกันตร์มากพอแล้ว หารู้ไม่ หยวนอีน่าสะพรึงไม่แพ้กัน ฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย!
อย่าให้เอ่ยเลยว่าพวกเขาชอกช้ำเพียงใด!
สิ่งมีชีวิตมายาที่พวกเขาไม่เห็นในสายตากลับน่าประหวั่นพรั่นพรึงกันถ้วนหน้า สวรรค์ พวกเขามาเคี่ยวกรำตนเองที่ดินแดนเก่าจริงหรือ ไม่ใช่ว่าถูกส่งมาให้สิ่งมีชีวิตมายาเชือดหรอกนะ?
“ขออภัย สี่กระบี่ประหารเซียนปกป้องเจ้าของอัตโนมัติ ขออภัยด้วย!”
หยวนอีเอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
“มานี่ ส่งสี่กระบี่ประหารเซียนมาให้ข้า เจ้าสู้ต่อได้เลย”
จักรพรรดินีเอ่ยอย่างเข้าใจสถานการณ์ดี
สี่กระบี่ประหารเซียนคือของวิเศษที่คุณชายประทานเช่นกัน แฝงไว้ด้วยอานุภาพเหลือล้น ปกป้องเจ้าของด้วยตนเอง ก่อนหน้านี้ที่หยวนอีถูกเล่นงานยับเยิน ก็กระตุ้นความต้องการปกป้องเจ้าของของสี่กระบี่ประหารเซียน
“ได้!”
หยวนอีส่งสี่กระบี่ประหารเซียนให้จักรพรรดินี ก่อนจะเข้าต่อสู้กับบุตรแห่งสวรรค์ผู้นั้นต่อ
“อย่าเลย! ขอถามหน่อย เปลี่ยนคนได้หรือไม่”
บุตรแห่งสวรรค์ผู้นั้นสร้างร่างใหม่ออกมา หันไปเอ่ยกับหยวนอีด้วยเสียงสะอื้นไห้
เขากลัวจากใจจริง กลัวว่าจะเกิดเรื่อง ‘ไร้จรรยาบรรณการต่อสู้’ เช่นนี้กับหยวนอีอีก ชีวิตของเขาไม่อาจผจญกับการทำร้ายระดับนี้ได้อีกแล้ว!
เขากลัวจากใจจริงว่าจะตายลงอย่างงง ๆ!
“พล่ามอยู่ได้ สั่งให้เจ้าสู้ต่อก็ต้องสู้ต่อ!”
จักรพรรดินีตวาดเสียงลั่น
บุตรแห่งสวรรค์ผู้นี้ได้แต่ข่มขอบเขตลงแล้วต่อสู้กับหยวนอีอีกครั้ง
ทว่าเขาไม่อาจสบายใจได้เลย พะวงถึงความ ‘ไร้จรรยาบรรณการต่อสู้’ อยู่ตลอด เพราะกลัวว่าความ ‘ไร้จรรยาบรรณการต่อสู้’ จะเกิดขึ้นอีก
ส่งผลให้กำลังรบของเขาตกฮวบ จากเดิมมีความสามารถพอให้กำราบหยวนอีง่ายดาย กลับค่อย ๆ ถูกหยวนอีกำราบเสียเอง
“หากแพ้ เจ้าจะถูกสังหารทันที!”
จักรพรรดินีจ้องมองบุตรแห่งสวรรค์ผู้นั้นพลางตะโกนเสียงเย็น
บุตรแห่งสวรรค์ผู้นั้นหวาดผวา รีบสงบใจแล้วตั้งสมาธิต่อสู้กับหยวนอี ไม่กล้าวอกแวกอีก
ชั่วขณะนั้น สถานการณ์การต่อสู้พลิกผัน หยวนอีถูกกำราบอีกครั้ง
ทว่าความมุ่งมั่นในใจหยวนอีถูกจุดประกาย ไม่เคยถอดใจแต่อย่างใด ระเบิดพลังสุดชีวิตไม่หยุดหย่อน หวังจะเค้นศักยภาพของนางออกมาให้ได้
ขณะเดียวกัน แสงลำหนึ่งพุ่งเข้ามาจากอวกาศอย่างรวดเร็ว จนจุติลงมาที่นี่
เมิ่งจีมาถึงแล้ว!