รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1043 เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายไม่หยุด อย่าทำให้ตัวเองเสียขวัญ!
- Home
- All Mangas
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1043 เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายไม่หยุด อย่าทำให้ตัวเองเสียขวัญ!
บทที่ 1043 เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายไม่หยุด อย่าทำให้ตัวเองเสียขวัญ!
บทที่ 1043 เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายไม่หยุด อย่าทำให้ตัวเองเสียขวัญ!
ซีและเต่าชราฝึกฝนอยู่ในอาณาจักรนี้อย่างสบายใจ
สสารฝึกตนสูงส่งในอาณาจักรนี้เข้มข้นเหลือแสน ต่อให้ซีดูดกลืนได้อย่างรวดเร็วก็ไม่เคยเป็นที่สงสัยของสิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่ตนอื่น
เพราะในดินแดนใหม่แห่งนี้เต็มไปด้วยบุตรแห่งสวรรค์ ยอดฝีมือเยอะแยะประหนึ่งสุนัข ไม่ว่าสถานการณ์น่าทึ่งเพียงใดก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น ไม่เคยเป็นที่เอิกเกริก
หลังซีได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็ยิ่งสบายใจ ดูดกลืนพลังปฐพีเต็มที่อย่างรวดเร็ว
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ อีกไม่นานนางจะทลายขีดจำกัดขอบเขตล้ำขีด ก้าวสู่ขอบเขตคลุมฟ้า
…
ดินแดนใหม่ ภายในจักรวาลพิเศษผืนหนึ่ง
ที่นี่น่าทึ่งเหลือคณา ไร้ซึ่งการไหลเวียนของเวลา ปราศจากการโคจรของกฎวิถี ไม่มีสิ่งใดดำรงอยู่ในปฐพีเลย ราวกับเป็นดินแดนสาปสูญ
ภาพร่างสยดสยองมากมายก้าวเดินอยู่ในจักรวาลพิเศษแห่งนี้ กระจัดกระจายไปตามบริเวณต่าง ๆ คล้ายว่ากำลังสืบค้นบางอย่าง
แปลกมาก พวกเขาต่างมีพลังปราณน่าพรั่นพรึงไหลเวียนในตัว ลำพังพลังปราณเสี้ยวเดียวก็สามารถบดขยี้ผืนฟ้าให้แหลกลาญ ทว่าพวกเขากลับตรวจค้นไปทั่วเฉกเช่นปุถุชน ไม่เคยใช้พลังยิ่งใหญ่ที่มี
ในสถานการณ์ปกติ บุคคลน่าประหวั่นพรั่นพรึงระดับนี้ไฉนเลยต้องตรวจค้นด้วยวิธีนี้ พริบตาที่คลี่แผ่พลังจิตก็ปกคลุมจักรวาลได้นับไม่ถ้วน ตั้งจิตคราเดียวก็ล่วงรู้เรื่องที่พวกเขาอยากรู้
ทว่าเมื่ออยู่ที่นี่ ดูเหมือนพวกเขาสูญเสียความสามารถยิ่งใหญ่นี้ไป ต้องตรวจค้นไปทีละน้อยอย่างเชื่องช้า
อันที่จริง พวกเขาไม่ได้สูญเสียพลังยิ่งใหญ่นี้ไป เพียงแต่จักรวาลผืนนี้มีความพิเศษอย่างยิ่ง แม้แต่พลังยิ่งใหญ่ของพวกเขายังได้รับผลกระทบไปด้วย ไม่อาจควบคุมจักรวาลทั้งผืนได้ในการตั้งจิตครั้งเดียว
แม้แต่ญาณสัมผัสของพวกเขาก็ถูกรบกวนทันทีที่ปลดปล่อยออกไป ไม่อาจแผ่ขยายไปได้ไกลนัก!
ที่นี่ไม่ธรรมดาถึงขีดสุด ไม่ใช่สถานที่ดาษดื่นเลย
ฟึ่บ!
เวลานั้นเอง ภาพร่างมากมายกลับมารวมตัวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเหลือแสน
“ล้ม ล้มเหลวแล้ว!”
ร่างวัยกลางคนผู้หนึ่งแบกดาบใหญ่ปลายกว้างเล่มหนึ่งบนหลัง หน้าตาห้าวหาญ ร่างกายล่ำสันเต็มไปด้วยกล้าม เสียงของเขาประหนึ่งอสนีบาต
เขาคือจ้าวหมาน ปรมาจารย์ตนหนึ่งในดินแดนใหม่ ฝีมือเทียบนภา พลังลึกล้ำเกินหยั่ง
เงาร่างที่เข้ามาพบปะกับเขาล้วนมีสถานะเฉกเช่นเขา เป็นปรมาจารย์ดินแดนใหม่กันทั้งหมด ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าในดินแดนใหม่อย่างแท้จริง
อันที่จริง ไม่ใช่แค่ภาพร่างเหล่านี้ ผู้ที่สัญจรอยู่ในอาณาจักรนี้ล้วนเป็นปรมาจารย์ดินแดนใหม่ มีอำนาจในการควบคุมดินแดนใหม่
“เหตุใดถึงล้มเหลว พลังเช่นใดที่ปิดกั้นการเล็งเป้าของพวกเรา”
อีกด้าน ภาพร่างผู้หนึ่งเอ่ยเสียงเบา เขาคือจ้าวเทียน
พวกเขากำลังหารือเรื่องซีอยู่!
เมื่อมาถึงระดับพวกเขาเรียกได้ว่าดำรงตนอยู่ทุกที่ เต๋าสวรรค์คือดวงตาของพวกเขา ทันทีที่ซีและเต่าชรามาถึงดินแดนใหม่ พวกเขาก็รับรู้กันหมด
เวลานั้นพวกเขาตะลึง ความหวาดหวั่นมหาศาลคืบคลานอยู่ในใจ
เพราะในดินแดนเก่ามีความลับใหญ่หลวงซ่อนอยู่ เป็นความลับใหญ่หลวงสะเทือนฟ้าอย่างแท้จริง และเป็นความลับที่พวกเขาหวาดกลัวเหลือแสน
พวกเขารู้ความจริงในดินแดนเก่าดีกว่าผู้ใด
ดินแดนอุปโลกน์ที่ว่าเป็นเพียงข้อแก้ต่างของพวกเขา ข้อแก้ต่างที่ใช้กับสิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่ ความจริงไม่ใช่เช่นนั้นเลย ดินแดนเก่าไม่ใช่ภาพมายาแต่แรก หากแต่เป็นดินแดนที่มีอยู่จริง!
กล่าวตามตรง ต่อให้พวกเขาเป็นถึงปรมาจารย์ดินแดนใหม่ พลังในตัวลึกล้ำเกินหยั่ง พวกเขาก็ไม่มีทางสร้างดินแดนเก่าขึ้นมาได้ และไม่กล้าสร้างดินแดนเก่าขึ้นมาด้วย
พวกเขาอยากให้ดินแดนเก่าหายไปใจแทบขาด!
เพียงแต่น่าเสียดาย ด้วยพลังของพวกเขานั้นทำไม่ได้เลย!
ในแง่มุมหนึ่ง ดินแดนเก่าคือ ‘ราก’ คือจุดเริ่มต้นของสรรพสิ่ง ดินแดนใหม่เจริญขึ้นจาก ‘ราก’ ของดินแดนเก่า
แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าหลังดินแดนเก่าถูกทำลาย ดินแดนใหม่ซึ่งหยั่งรากบนนั้นจะถูกทำลายไปด้วย
หากเป็นยุคแรกเริ่ม สถานการณ์เช่นนี้ยังมีโอกาสเกิดขึ้น
ทว่าบัดนี้ ดินแดนใหม่สุกงอมเต็มที่แล้วในทุก ๆ ด้าน ต่อให้ดินแดนเก่าถูกทำลายก็ไม่มีทางส่งผลกระทบต่อดินแดนใหม่แม้แต่น้อย
เหตุผลที่พวกเขาทำลายดินแดนเก่าไม่ได้ยังมีปัจจัยอื่นอยู่ หาใช่เรื่องนี้
ดินแดนเก่า…คือแดนกำเนิดของท่านผู้นั้น!
และเพราะเกี่ยวข้องกับผู้นั้น พวกเขาถึงไม่อาจแผ้วพานดินแดนเก่า
ต่อให้ผู้นั้นอันตรธานไปนานแล้ว ไม่ได้ดำรงตนอยู่อีก แต่เพราะผู้นั้นเป็นคนจากดินแดนเก่า พวกเขาจึงไม่อาจแผ้วพานดินแดนเก่า
ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ไม่กล้าฝืนทำลายดินแดนเก่า เพราะกลัวจะกระตุ้นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับผู้นั้นขึ้นมาใหม่!
พวกเขาบอกสิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่ว่าดินแดนเก่ามีปัญหาใหญ่หลวง การฝึกตนนั้นออกนอกลู่นอกทาง ทันทีที่ได้แตะต้องข้องแวะจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ในภายหลัง วันหน้าจะตายลงท่ามกลางความเจ็บปวดอันไร้ที่สิ้นสุด
ความจริงหาใช่เช่นนั้นไม่
ดินแดนเก่าคือแดนกำเนิดของผู้นั้น เป็นมาตุภูมิของผู้นั้น การฝึกตนไฉนเลยจะออกนอกลู่นอกทาง ไม่มีทาง!
ที่พวกเขาสาธยายดินแดนเก่าให้สยดสยองปานนั้นก็เพราะกลัวสิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่จะไปข้องแวะกับดินแดนเก่า กลัวว่าหากสิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่ขุดค้นแล้วจะเกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย!
นอกจากนี้ พวกเขายังประกาศว่าดินแดนเก่าล่มสลายไม่มีอยู่อีกแล้ว ที่เหลืออยู่นี้เป็นเพียงดินแดนอุปโลกน์ที่พวกเขาสร้างขึ้น เพื่อลดความมีตัวตนของดินแดนเก่า
เมื่อดินแดนเก่าถูกลดตัวตนจนเกลี้ยง ถูกผู้คนหลงลืมอย่างสิ้นเชิง เช่นนั้นดินแดนเก่าก็จะค่อย ๆ เลือนหายไปไม่มีอยู่อีก
นี่คือแผนดั้งเดิมของพวกเขา
ลดความมีตัวตนของดินแดนเก่า ทำให้ดินแดนเก่าถูกผู้คนหลงลืมอย่างสิ้นเชิง
ขณะเดียวกัน พวกเขายังเคยฆ่าล้างบางดินแดนใหม่คราหนึ่ง ปลิดชีพสิ่งมีชีวิตที่ล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของดินแดนเก่า หมายจะให้ดินแดนเก่าถูกฝังกลบในกาลเวลา
ทว่าในบรรดาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีตัวตนแข็งแกร่งเหลือแสนอยู่ ไม่ได้ด้อยกว่าพวกเขาเท่าใด และไม่เคยถูกสังหาร พวกเขามาที่นี่ก็เพื่อมาตามหาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จำต้องถูกกำจัด เพราะมีแต่กำจัดสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ให้สิ้นซากเท่านั้น ดินแดนเก่าจึงจะถูกลดตัวตนลงจริง ๆ ถูกกลบฝังได้จริง
อนิจจา เรื่องนี้ไม่ง่ายสำหรับพวกเขาเลย
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้อำพรางตนได้แนบเนียน หลังกาลเวลาอันยาวนานผ่านไป พวกเขาก็ไม่เคยพบสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อีก
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นปรมาจารย์ดินแดนใหม่ ทว่ายังมีอีกหลายสถานที่ในดินแดนใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของพวกเขา ดินแดนใหม่ไม่ได้เกิดจากการสร้างของพวกเขา
สิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่ต่างเข้าใจว่าพวกเขาคือผู้สร้างดินแดนใหม่ ทว่าความจริงหาใช่เช่นนั้นไม่ พวกเขาไม่ได้เก่งกล้าสามารถปานนั้น ถึงกับสร้างดินแดนอันสมบูรณ์แบบเช่นนี้ขึ้นมาได้
ผู้ที่สร้างดินแดนใหม่ขึ้นมาคือคนอื่น!
“ยุ่งยากจริง ๆ แล้ว!”
คิ้วเข้มของจ้าวหมานขมวดเป็นปม “คล้อยตามการล้างบางสิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่กลุ่มแรกของเรา สิ่งมีชีวิตที่รู้เรื่องดินแดนเก่าก็เหลืออยู่ไม่เท่าไหร่ มีเพียงสิ่งมีชีวิตที่หนีหัวซุกหัวซุนเหล่านี้เท่านั้น! สิ่งมีชีวิตตนอื่นในดินแดนใหม่ล้วนไม่ทราบความจริงของดินแดนเก่า และไม่รู้เรื่องในอดีต!”
เขากล่าวต่อ “แต่เดิมทุกอย่างดำเนินไปอย่างสวยงาม สิ่งมีชีวิตที่ถือกำเนิดในดินแดนใหม่ไม่รู้เรื่องของดินแดนเก่า ดินแดนเก่าอาจถูกกลบฝังในกาลเวลาทั้่งอย่างนี้ ผู้ใดจะรู้ว่าเกิดเรื่องไม่คาดคิดในภายหลัง!”
ความไม่สมบูรณ์ถือเป็นเรื่องปกติในใต้หล้านี้ ความสมบูรณ์แบบอันแท้จริงไม่ควรมีอยู่ จุดด่างพร้อยคือปัจจัยที่ขาดไม่ได้
อนิจจา พวกเขาในอดีตมองข้ามข้อนี้ มองว่าดินแดนใหม่คือดินแดนสมบูรณ์แบบเบ็ดเสร็จ ไม่มีจุดด่างพร้อยอันใดดำรงอยู่!
“มีความสมบูรณ์แบบอันแท้จริงที่ไหน เพียงแต่พวกเรามองไม่เห็นจุดด่างพร้อยที่ถูกข่มลงเท่านั้น!”
เขาถอนหายใจ จุดด่างพร้อยนี้คือสาเหตุการเกิดเรื่องไม่คาดคิด
พลังน่าสะพรึงกลัวปรากฏในดินแดนใหม่ สยดสยองเกินคาดหมาย ยามพวกเขาได้เผชิญกับพลังสยดสยองนี้ถึงได้กระจ่างว่าความสมบูรณ์แบบที่ว่าเป็นเพียงเปลือกนอกที่พวกเขามองเห็นเท่านั้น
จุดด่างพร้อยที่พวกเขามองไม่เห็นถูกข่มลงทั้งหมด ไม่เคยถูกเผยออกมา
เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายกับพวกเขาเพราะเหตุนี้ มีปรมาจารย์มากมายตายลงในการต่อสู้กับพลังน่าพรั่นพรึงนี้
ต่อมา พวกเขาจำต้องกล่าวถึงดินแดนเก่าที่ถูกปิดผนึกไปแล้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งบรรดาปรมาจารย์ที่ตายไปแล้วเข้าไปในดินแดนเก่า เพื่อชุบชีวิตปรมาจารย์เหล่านี้
ดินแดนเก่าคือ ‘ราก’ หากไม่เกิดเรื่องผิดคาด เหล่าปรมาจารย์ที่ตายไปแล้วสามารถคืนชีพด้วยพลังในดินแดนเก่า
“ไม่ชุบชีวิตพวกเขาไม่ได้! แม้ว่าสิ่งแวดล้อมในดินแดนใหม่นั้นจะมหัศจรรย์ สิ่งมีชีวิตสามารถบำเพ็ญได้อย่างรวดเร็ว ทว่าผู้ที่อยู่ในระดับเรา ๆ ยังคงน้อยจนน่าสงสาร!”
จ้าวหมานสั่นศีรษะ “นี่อย่างไร จวบจนบัดนี้ยังไม่มีปรมาจารย์ปรากฏขึ้นใหม่สักตน”
จากนั้น เขาก็ส่ายหัวอีกครา
“ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก พลังด่างพร้อยอันสยดสยองนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ยังมีสิ่งมีชีวิตที่หนีหัวซุกหัวซุนก็ยังไม่ถูกจัดการ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นพอให้พวกเรารำคาญใจแล้ว!”
“หารู้ไม่ เวลานี้ดันเกิดเรื่องกับดินแดนเก่าอีก มีสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่ามายังดินแดนใหม่!”
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองไม่เห็นความหวังในอนาคต
เรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นถี่กระชั้น จนเขามองไม่เห็นความหวังจริง ๆ
“พวกท่านว่า พลังเช่นนั้นเป็นพลังอะไร”
เขาวกกลับมาประเด็นแรก กล่าวถึงพลังที่ปิดกั้นพลังเล็งเป้าของพวกเขา
ขณะที่เอ่ยวาจา เสียงของเขาสั่นเครือเล็กน้อย
อันที่จริง เขามีคำตอบในใจแล้ว เพียงแต่ไม่กล้าเอื้อนเอ่ยคำตอบนี้
แค่คิดคำตอบนี้ก็ชวนให้วิญญาณของเขาสั่นสะท้าน รู้สึกหวาดกลัวเหลือคณา!
ภาพร่างอื่นเงียบเชียบกันหมด พวกเขาก็มีคำตอบในใจแล้วเหมือนกัน แต่ไม่กล้าเอื้อนเอ่ย วิญญาณสั่นสะท้านเช่นกัน ผวาในคำตอบนี้
“พลังนี้เกิดขึ้นเพราะช่วงนี้พวกเราลงมือกับดินแดนเก่าบ่อย ๆ หรือ”
จ้าวเทียนทลายความเงียบงัน ในเรื่องดินแดนเก่านั้น พวกเขาลงมือไม่หยุดจริง ๆ ส่งบุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่เข้าไปมากมาย
เป็นผลให้เขาสงสัยอย่างอดไม่ได้ว่าเพราะการกระทำของพวกเขาถึงเป็นผลให้พลังเช่นนั้นปรากฏ
“อย่าทำให้ตัวเองเสียขวัญ!”
ร่างหนึ่งต่อว่า เขาคือจ้าวตี้ ค่อนข้างน่าเกรงขามในหมู่ปรมาจารย์
“พลังนั้นใช่พลังที่พวกเราคิดหรือไม่ก็ยังไม่แน่ พวกเราเอาแต่ฟุ้งซ่านทำให้ตัวเองเสียขวัญอยู่เช่นนี้โง่เขลายิ่งนัก!”
เขากล่าวต่อ “จะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พวกเราทำในช่วงนี้ได้อย่างไร บุตรแห่งสวรรค์ดินแดนใหม่ที่พวกเราส่งไปล้วนไม่รู้ความจริง ต่อให้ถูกส่งเข้าไปในดินแดนเก่าก็ไม่มีทางมีผลกระทบแต่อย่างใด!”
เขาไม่ค่อยเชื่อคำตอบในใจนัก รู้สึกว่าพลังนี้มีที่มาแหล่งอื่น!
“ผู้นั้นสลายหายไปแล้ว ไม่มีอยู่อีกอย่างสิ้นเชิง หากยังอยู่คงปรากฏตัวออกมานานแล้ว!”
เขาเอ่ยเสียงดังก้อง “อย่าได้ข่มขวัญตนเอง!”