ราชาซากศพ - บทที่ 363 การประลอง (11)
บทที่ 363
การประลอง (11)
ทั้งกัวหลี่และ ไท่ซ่าน ต่างก็เป็นปรมาจารย์จิตวิญญาณ ทางด้านของกัวหลี่นั้น มีคุณสมบัติเป็นธาตุน้ำแข็ง และในขณะที่ ไท่ซ่านมีคุณสมบัติธาตุไฟ รวมทั้งการฝึกฝนของทั้งสองคนนั้น แทบไม่ได้แตกต่างกันมากนัก พวกเขาทั้งสองต่างมีความแข็งแกร่งในขั้นจักรพรรดิ ระดับสี่
”ตูม” มังกรผลึกน้ำแข็งของกัวหลี่ และลูกไฟที่สร้างขึ้นจากไท่ซานเข้าปะทะกันในไม่ช้า ด้วยแรงปะทะของลูกไฟ ไม่เพียงแต่ทำให้มังกรผลึกน้ำแข็งค่อย ๆ ชะลอความรุนแรง และยังระเหยกลายเป็นไอ ขึ้นไปในอากาศอีกด้วย น้ำแข็งจากร่างของมังกรผลึกน้ำแข็งระเหยเป็นไออย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ในทางตรงกันข้าม ลูกไฟสีส้มก็กำลังหดตัวลง และอุณหภูมิที่ร้อนแรงของมันก็ค่อย ๆ ลดลงอย่างรวดเร็ว
การโจมตีของชายสองคน ราวกับไม่มีฝ่ายใด ที่มีทีท่าว่าจะเสียเปรียบ เนื่องจากระดับการฝึกฝนของทั้งสองคนอยู่ในระดับเดียวกัน ในไม่ช้ามังกรผลึกน้ำแข็งก็พลันระเบิดออกทันที
และกลายเป็นเศษซากน้ำแข็งปลิวว่อนกระจายไปทุกสารทิศ แม้ว่าส่วนใหญ่จะระเหยไปในอากาศ หลังจากถูกเผาผลาญด้วยลูกไฟสีส้มของไท่ซาน แต่ยังมีเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ของพวกมัน ที่สามารถหลุดรอดและตกลงบนร่างของไท่ซานโดยตรง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ลูกไฟอ่อนแอลง พลังของเสี้ยวน้ำแข็งเหล่านี้ ก็ลดลงจนเหลือเพียงน้อยนิด เมื่อกระทบไปยังร่างของไท่ซาน และไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ จากนั้นก็สลายไปในพริบตา
ส่วนของลูกไฟ ซึ่งถูกเจาะด้วยเศษน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วน กลายเป็นรูพรุนและสลายหายไปโดยตรง ในการโจมตีของพวกเขาทั้งสอง สามารถหักล้างกันได้อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามทั้งกัวหลี่และไท่ซ่าน ต่างไม่รู้สึกแปลกใจ ใด ๆ ดูเหมือนว่าสถานการณ์นี้ จะเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้หลายครั้ง และพวกเขาคุ้นชินกับมันมานาน
“ ฮึบ! กัวหลี่เปล่งเสียงอีกครั้ง ร่างกายของเขาค่อย ๆยืดตัวสูง ระดับเดียวกับไท่ซานและทรงตัวเพื่อปลดปล่อยพลังความผันผวนอย่างรุนแรงจากพลังวิญญาณ
ในเบื้องหน้าของกัวหลี่ ปรากฏมังกรผนึกน้ำแข็งเช่นเดิม เหมือนก่อนหน้านี้ จากการถ่ายเทพลังปราณขนาดใหญ่ของ กัวหลี่ เพื่อสร้างมันขึ้นมาอีกรอบ กลายเป็นมังกรผลึกน้ำแข็งทั้งเก้าตัวควบแน่นเป็นรูปร่างอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้ามันก็รวมตัวกันเป็นมังกรผลึกน้ำแข็งขนาดเท่ากับก่อนหน้านี้
ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเจ้า…. จะไม่ได้มีความพัฒนา ๆ ใดเพิ่มเติมขึ้นเลยหรือ? ไท่ซานเลิกคิ้ว และพูดด้วยความประหลาดใจ
หลังจากพูดแบบนั้น ปรากฏพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งในร่างกายของไท่ซาน และปรากฏกลุ่มเปลวไฟร้อนแรงเก้ากลุ่ม รวมตัวกันเหนือศีรษะของเขา อย่างรวดเร็ว
ในตอนแรกเปลวไฟสีเหลืองสด เปลี่ยนแปลงเป็นสีแดงอมส้ม และอุณหภูมิของมันก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ
”ย่าห์!” บังเกิดเสียงคำรามด้วยความโกรธแค้น ในปากของกัวหลี่ จากนั้นมังกรผลึกน้ำแข็งทั้งเก้าตัว ปรากฏก็อยู่ภายใต้การควบคุมของกัวหลี่ และรีบพุ่งเข้าโจมตีไท่ซาน
”สลายไปซะ!” ในตอนนี้ลูกไฟทั้งเก้าลูกที่อยู่เหนือศีรษะของไท่ซาน ก็สามารถควบแน่นพลังสำเร็จเช่นกัน เมื่อเห็นเช่นนี้ไท่ซานเอื้อมมือไปหามังกรผลึกน้ำแข็งทั้งเก้าตัว และพูดด้วยเสียงที่กังวาน
ทันทีที่พูดจบ ลูกไฟทั้งเก้า ก็พุ่งเข้าโจมตีมังกรผลึกน้ำแข็ง และถูกกระแทกปลิวออกไปไกลกว่าระยะครึ่งหนึ่ง
กัวหลี่พยายามควบคุมมังกรผลึกน้ำแข็งทั้งเก้าตัว พยายามที่จะฝ่าทะลวงลูกไฟเบื้องหน้า แต่ไท่ซ่านนั้นไม่ได้โง่เขลา เขาย่อมมองออกทันที และตัดสินใจขัดขวางมัน โดยไม่ลังเลใจ เมื่อใดก็ตามที่เขามีโอกาส เขาจะควบคุมลูกไฟเพื่อโจมตีไปยังมังกรผลึกน้ำแข็ง
หากไร้ซึ่งอุบัติเหตุใด ๆ ทุกคนต่างคิด การโจมตีนี้จะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย และทั้งสองฝ่ายไม่สามารถทำอะไรกับฝ่ายตรงข้ามได้แม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เวลาปกติ ในเวลานี้มีลูกไฟสามลูก อยู่เหนือศีรษะของไท่ซาน ซึ่งรวมตัวกันอีกครั้ง ซึ่งแตกต่างจากลูกไฟทั้งเก้าลูกที่อยู่ตรงหน้าเขา
เนื่องจากลูกไฟทั้งสามลูก มีขนาดเพียงหนึ่งในสิบของมัน
อย่างไรก็ตามแม้จะมีขนาดที่เล็กกว่า แต่พลังกลับควบแน่นเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แม้ว่าพื้นผิวจะยังคงเป็นสีส้ม แต่ภายในมีร่องรอยเปลวไฟสีฟ้าอ่อน
และลูกไฟทั้งสามลูกนี้ไม่เหมือนลูกไฟอื่น ๆ มันเปล่งลมปราณร้อนแรง แต่กลับสงบนิ่ง ราวกับเป็นลูกไฟพื้นๆ เหมือนกับทั้งเก้าลูกก่อนหน้านี้
เห็นได้ชัดว่าเปลวไฟสีฟ้าอ่อนนี้ร้อนแรงมากกว่า และมีพลังเหนือเปลวไฟสีแดงส้มเหล่านั้น
”เป็นไปได้อย่างไร เจ้ายังคงมีพลังงานหลงเหลือมากมาย?” เมื่อเห็นลูกไฟที่ทรงพลังอีกสามลูก พุ่งออกมาจาก ไท่ซาน ใบหน้าของกัวหลี่ก็แสดงท่าทางหวาดกลัว และร้องอุทาน
โดยไม่ยินยอม แต่ในสายตาของเขากลับมีท่าทางของความตื่นตระหนก
“ ฮ่าฮ่า! เจ้าคิดว่า…ข้าเองจะไม่ก้าวหน้าเลยหรือ?” เมื่อได้ยินคำพูดของกัวหลี่ มุมปากของไท่ซานก็ยกยิ้ม แม้ว่าใบหน้าของเขาจะซีดเซียว เนื่องจากากรสูญเสียพลังไปเป็นจำนวนมาก
แต่ดวงตาของเขาพลันสดใสมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นเขาก็เอ่ยคำพูดประชดประชัน
”เจ้า…” เมื่อได้ยินคำพูดของไท่ซาน กัวหลี่ก็พูดไม่ออก และไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับการยั่วยุของอีกฝ่ายอย่างไรดี?
“ฟิวฟิว!” ลูกไฟสามลูกเหนือศีรษะของไท่ซานก็ลอยไปในทิศทางของกัวหลี่
เมื่อเห็นลูกไฟสามลูก ทางด้านกัวหลี่ก็กังวลใจมาก เขาต้องการควบคุมมังกรผลึกน้ำแข็ง แต่เขาไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมังกรผลึกน้ำแข็งทั้งเก้าตัว ยังคงพัวพันกับลูกไฟทั้งเก้าอยู่เบื้องหน้าไท่ซาน และไม่สามารถดึงกลับมาได้ทันเวลา
เมื่อเห็นเช่นนี้กัวหลี่ก็รีบที่จะสร้างมังกรผลึกน้ำแข็งตัวใหม่ แต่สามารถสร้างมังกรผลึกน้ำแข็งได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น ในขณะที่เขาควบแน่นมังกรผลึกน้ำแข็งเบื้องหน้าเพิ่มขึ้น
มังกรผลึกน้ำแข็งจำนวนเก้าตัวที่อยู่ตรงหน้าไท่ซานกลับเริ่มไม่เสถียรเล็กน้อย ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา กัวหลี่สามารถรวบรวมมังกรผลึกน้ำแข็งได้มากที่สุดสิบตัว
หากเขาควบแน่นมังกรผลึกน้ำแข็งมากขึ้น มีโอกาสมากที่จะสูญเสียการควบคุมนั่น คือสิ่งที่เขาไม่ต้องการเห็น ดังนั้นมังกรผลึกน้ำแข็งซึ่งเพิ่งกลั่นตัวออกมา ได้เผชิญหน้ากับลูกไฟทั้งสาม ภายใต้การควบคุมของไท่ซ่าน
“ ตูม … !” บนท้องฟ้า ปรากฏเสียงคำรามสามครั้งต่อเนื่องกัน จากนั้นกัวหลี่ก็เห็นว่ามังกรผลึกน้ำแข็งที่เขาเพิ่งสร้างขึ้นมา ได้สลายตัวในอากาศโดยตรงหลัง จากสัมผัสกับลูกไฟทั้งสามลูก อย่างไรก็ตาม ลูกไฟทั้งสาม ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้รับผลกระทบยังคงพุ่งเข้าหากัวหลี่อย่างต่อเนื่อง ในเรื่องนี้กัวหลี่ไม่มีทางเลือก เขากัดฟัน ละตัดสินใจอย่างแน่วแน่
“ ตูม … !” ลูกไฟและมังกรผลึกน้ำแข็งที่อยู่ข้างหน้าหายไป แต่ลูกไฟอีกสามลูกที่เหลือ ยังคงทรงพลังแม้จะมีผลกระทบจากการระเบิดบ้างก็ตามที
”ฮ่าฮ่ามันไม่น่าแปลกใจ ยังคงเหมือนเดิมเช่นเคย” ไท่ซ่านกำลังคิดว่าตนเองนั้นได้เปรียบกัวหลี่ หลังจากนั้น เขาหัวเราะเบา ๆ สองครั้งเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
”ฮึ่ม! ถ้าเช่นนั้น ข้ามีอะไรใหม่ ๆให้เจ้าดู ” กัวหลี่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา และจากนั้นพลังวิญญาณในร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะเดือดพล่าน จากนั้นรอบตัวของเขาก็เริ่มเย็นจัด ไอน้ำในอากาศค่อยๆกลั่นตัวเป็นน้ำแข็ง จำนวนนับไม่ถ้วน
“ พายุน้ำแข็งวิญญาณ ช่วงปลาย” หลังจากที่น้ำแข็งได้รวมตัวกัน มีลักษณะคล้ายกับเข็มเย็บผ้าชิ้นเล็กๆ และพวกมันก็เผชิญหน้ากับลูกไฟทั้งสามโดยตรง เมื่อถูกทำให้ระเหยออกไป มันกลับสร้างขึ้นมาใหม่ทันที
พรึ่บ … !” เข็มน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วน ปะทะกับลูกไฟ แต่พวกมันสามารถทะลวงผ่านลูกไฟได้อย่างง่ายดาย ด้วยอุณหภูมิของลูกไฟ ทำให้เข็มน้ำแข็งเหล่านั้นเริ่มละลายไปบางส่วน แต่เมื่อขนาดของมันเล็กลงกลับทำให้ไม่สามารถระเหยเป็นไอได้หมดสิ้น ในแววตาของไท่ซาน สถานการณ์เริ่มกลับตาลปัตร กัวหลี่ยังคงควบแน่น เข็มน้ำแข็ง แต่ลูกไฟทั้งสามของ ไท่ซาน กลับกลายเป็นรูพรุนและโครงสร้างภายในก็เปลี่ยนไป
”ฮึ่ม!” ระเบิด ” เมื่อเสียงของไท่ซานสิ้นลง ลูกไฟขนาดเท่ากำปั้น ซึ่งกระแทกเข้ากับเข็มน้ำแข็งราวกับห่าฝนและระเบิดออกทันที
“ ตูม … !” เสียงคำรามดังขึ้นเป็นชุด ๆ แต่กลับพบว่า สาเหตุของการระเบิด เกิดจากลูกไฟขนาดเล็กที่ไท่ซานควบคุม
กัวหลี่เก็บเข็มน้ำแข็งกลับมาเพื่อหลีกเลี่ยงแรงระเบิดที่อาจจะทำให้ได้รับความเสียหาย จากนั้นไท่ซ่านซึ่งยังคงควบแน่นลูกไฟขนาดเท่ากำปั้นทันที
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง กัวหลี่ไม่สามารถควบแน่นเข็มน้ำแข็งได้อีกต่อไป เนื่องจากพลังวิญญาณของเขาหมดลงแล้ว เมื่อหันหน้าไปทางลูกไฟขนาดเล็ก ที่มุ่งมายังทิศทางของเขา
ทันใดนั้นกัวหลี่ก็หยิบดาบยาวออกมา และโบกสะบัดมันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสลายลูกไฟทิ้งไป
หลังจากนั้น ทางด้านไท่ซานเองก็เป็นเช่นกันพลังวิญญาณของเขาหมดลงอย่างรวดเร็ว เขาหยิบดาบยาวออกมา และลมปราณในร่างกายของเขาพลันเคลื่อนไหว เขาถือดาบและพุ่งไปที่กัวหลี่
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งคู่ ฝึกฝนทั้งพลังวิญญาณและศิลปะการต่อสู้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับการฝึกฝนของพวกเขา ทั้งสองคนสูญเสียพลังปราณมากเกินไป พลังวิญญาณของกัวหลี่เพิ่งถึงระดับราชันย์แห่งจิตวิญญาณ ระดับสาม ในขณะฝึกฝนของไท่ซ่าน มาถึงราชันย์แห่งจิตวิญญาณ ระดับสี่
การต่อสู้ครั้งต่อไปสิ้นสุดลงในไม่ช้า ด้วยความพ่ายแพ้ของกัวหลี่ แม้ว่าใบหน้าของ กัวหลี่จะไม่อยากยอมรับ แต่ความแงแกร่งของเขานั้นด้อยกว่าไท่ซ่านเล็กน้อย
หลังจาก กัวหลี่และ ไท่ซ่าน ได้ข้อสรุป คนที่เหลือต่างก็ตบเท้าเข้าแข่งขันตามลำดับ
บรรดาห้าคนที่พ่ายแพ้ในการประลอง มีการแข่งขันรอบคัดเลือกอีกครั้ง อย่างไรก็ตามกัวหลี่ได้ตำแหน่งนี้ไป เขามีสิทธิ์ในการท้าทายสามอันดับแรกอีกครั้ง กัวหลี่รู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ในการจับฉลากครั้งต่อไป มันทำให้เขาเกือบจะเป็นลม
เพราะคู่ต่อสู้ของเขาคือ หลินเว่ย ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้คนสุดท้ายที่เขาอยากจะต่อสู้ด้วย เขาเพิ่งจะรู้สึกดีใจไปไม่นานแต่กลับถูกกำจัดอีกครั้ง
เขารู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเว่ย ดังนั้นในช่วงเริ่มต้นของการแข่งขัน กัวหลี่จึงไม่ได้ไปที่สนามประลอง ดังนั้นเขาจึงถูกปรับให้พ่ายแพ้โดยตรง
เนื่องจาก กัวหลี่พบว่า หลินเว่ยดูเหมือนจะมีอคติต่ออาณาจักรมืดโบราณของพวกเขา หลังจากที่พวกเขาได้พบกับหลินเว่ย ต่างคนต่างก็มีความทรงจำที่ไม่ดีต่อกัน และเขาเองไม่อยากนอนอยู่บนเตียงนานหลายเดือนเหมือนซ่งลุ่ย
เขาจึงยอมแพ้อย่างง่ายดาย เร็ว ๆ นี้มีการกำหนดจำนวนสามอันดับแรก พวกเขาคือ หลินเว่ย, ไท่ซาน และหลงหลี่ พวกเขาจะแข่งขันเพื่อแย่งชิงสามอันดับแรก และหาผู้ที่สามารถคว้าอันดับหนึ่งได้