ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 419 นักบวชใหม่
- Home
- All Mangas
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 419 นักบวชใหม่
ตอนที่ 419 นักบวชใหม่
……….
ไมป์·ไมเออร์กลับมาที่เขตตลาดเพื่ออะไร?
คำถามนี้ผุดขึ้นในใจลูเมี่ยนกับฟรังก้าแทบจะพร้อมกัน ต่างก็ได้กลิ่นอันตรายที่แฝงมา
หรือว่าไมป์·ไมเออร์รักซูซานน่า·มาติสมาก จึงต้องการแก้แค้นแทนเธอ?
แต่ต่อให้เป็นแบบนั้น วิธีแก้แค้นที่ดีที่สุดก็ควรจะเป็น การเล่าความจริงเกี่ยวกับ ‘คนร้าย’ และความลับอื่นๆ ให้สมาชิกแกนหลักของสมาคมเสียวซ่านฟัง!
การไม่ระดมพลังทั้งหมดขององค์กร แต่อาศัยเพียงอำนาจส่วนตัว มันก็เป็นได้แค่การช่วยศัตรูอย่างลูเมี่ยนทางอ้อมเท่านั้น!
ลูเมี่ยนมองใบหน้าซีดขาว กับดวงตาอันว่างเปล่าของเบียทริซ พลางจินตนาการตัวเองเป็นไมป์·ไมเออร์ เพื่อคิดหาเหตุผลที่อีกฝ่ายทำแบบนี้
“ไมป์·ไมเออร์เป็นลำดับ 6 ‘ผู้ถือเกียรติ’ ย่อมมีแรงกระหายที่จะถูกสังคมยอมรับ รวมทั้งยังมีความทะเยอทะยานสูง…”
“เมื่อถูกสมาชิกแก่นหลักคนอื่นของ ‘สมาคมเสียวซ่าน’ กีดกันและหมางเมิน เขาย่อมเกิดแรงจูงใจที่จะทำผลงานสำคัญตามลำพัง เพื่อให้ถูกยอมรับอย่างแท้จริง…”
“แม้ว่าการเล่าเรื่องเกี่ยวกับ ‘พฤกษาเงา’ ให้เบียทริซกับคนที่เหลือฟัง จะถือเป็นการทำผลงานเช่นกัน แต่มันไม่อาจเทียบได้กับการแก้ไขความผิดพลาดในอดีตด้วยตัวคนเดียว ซึ่งแบบนั้นจะสร้างความพึงพอใจให้ ‘มารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย’ ได้มากกว่า ช่วยให้เขาได้รับการยอมรับมากกว่า…”
“สำหรับคนทั่วไป คงยากที่จะทำความเข้าใจกับทัศนคติ ‘อยากเด่น’ แบบสุดโต่งเช่นนี้ แต่มันถือว่าปกติมากกับ ‘ผู้ถือเกียรติ’…”
“ตอนนี้คำถามคือ ไมป์·ไมเออร์คิดจะทำสิ่งใดเพื่อให้ถูกยอมรับ?”
“หาทางแก้แค้นเรา? ต่อให้เขาเอาชนะเราซึ่งหน้าไม่ได้ แต่ถ้าซ่อนตัวในเงามืด รอลงมือในช่วงเวลาสำคัญ จู่โจมให้หนักหน่วงถึงแก่ชีวิต หมอนั่นก็ยังถือเป็นภัยคุกคามต่อเรา ต้องไม่ลืมว่า เราไม่มีพลังจำพวกกระจกตัวแทน ความทนทานของกายเนื้อก็ไม่ได้ถูกยกระดับจากคนธรรมดามากนัก ลูกโม่แค่กระบอกเดียวก็เอาชีวิตไปได้แล้ว”
“แต่ไมป์·ไมเออร์ต้องได้ยินเรื่องของเราจากซูซานน่า·มาติสมาบ้าง ย่อมทราบว่าในกายเรามีเทวทูตผนึกอยู่ ไม่กลัวหรือว่าถ้าเราตายไป มลทินจะระเบิดออกมา พร้อมกับลากเขาลงนรกไปด้วย?”
“ถ้าเขาตาย แรงกระหายในการ ‘ถูกยอมรับ’ จะถูกเติมเต็มได้อย่างไร?”
“หรือบางที เขาอาจคิดว่า การพาตัวเองไปตายพร้อมกับศัตรูที่แข็งแกร่งแบบเรา จะทำให้สมาชิกคนอื่นของ ‘สมาคมเสียวซ่าน’ ทั้งตกตะลึงและชื่นชม รู้สึกโศกเศร้าจากก้นบึ้งหัวใจ จนถึงกับร้องไห้ด้วยอารมณ์ท่วมท้น? นั่นคือแรงผลักดันในการยอมพลีชีพ?”
“หรือไม่ก็ เขาคิดจะทำพิธีสังเวยแบบที่ซูซานน่า·มาติสเคยทำ? อา…การถูกยอมรับโดย ‘มารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย’ ย่อมถือเป็นเกียรติที่สูงส่งกว่า คู่ควรที่จะไขว่คว้าเอาไว้”
“แต่ ‘พฤกษาเงา’ ได้รับความเสียหายหนัก คงอีกนานกว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้ เขาคิดจะทำพิธีสังเวยยังไง?”
ลูเมี่ยนคิดไปมา แต่ก็วิเคราะห์ไม่ออกว่า ไมป์·ไมเออร์วางแผนอะไรไว้ มีจุดประสงค์อันใด ทำได้แค่เข้าใจแรงจูงใจของอีกฝ่ายอย่างคลุมเครือ
แต่ไม่ว่าอย่างไร เมื่อลูเมี่ยนลองจินตนาการว่า คนเดินถนน ผู้เช่าห้องใกล้เคียง ลูกค้าในคาบาเร่ต์ หรือพวกแม่ค้าที่เห็นหน้ากันประจำ อาจกำลังมองตนด้วยสายตาเย็นชา หรือเมื่อลองจินตนาการว่า คนคุ้นเคยใกล้ตัวอาจถูกไมป์·ไมเออร์ ‘สวมรอย’ ไปแล้ว เด็กหนุ่มก็พลันหงุดหงิดฉุนเฉียว อยากจะกระชากตัว ‘นักแสดง’ นั่นออกมาให้ได้
ผลกระทบเชิงลบจากพันธสัญญา สมบัติวิเศษ และรอยประทับบนตัวเด็กหนุ่มที่ผสมปนเปกันอยู่ ล้วนส่งอิทธิพลจนอารมณ์ไม่มั่นคงเหมือนช่วงก่อนหน้านี้
ฟรังก้ามิได้คิดมากเท่า แม้การ ‘สื่อวิญญาณด้วยกระจกวิเศษ’ จะออกฤทธิ์นานกว่า ‘สื่อวิญญาณ’ ตามปกติพอสมควร แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเวลาจำกัดเลย อายุขัยยังคงเป็นหลักนาที เธอไม่อยากเสียเวลาไปกับการวิเคราะห์ที่สามารถทำได้ทุกเมื่อในภายหลัง
หญิงสาวถามเบียทริซ·อังกูร์ต่อ
“ในบรรดาสมาชิกทั้งหมดของ ‘สมาคมเสียวซ่าน’ ไมป์·ไมเออร์สนิทกับใครมากที่สุด”
เสียงของเบียทริซยิ่งเลือนราง
“เขาสนิทกับสมาชิกในเขตตลาดเป็นพิเศษ แต่คนพวกนั้น หากไม่ถูกจับกุมก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว”
ถูกกีดกันอย่างหนักจริงๆ … ฟรังก้าถามต่อโดยไม่คาดหวังมากนัก
“ใครใน ‘สมาคมเสียวซ่าน’ ที่น่าจะรู้เบาะแส รวมถึงแผนการของไมป์·ไมเออร์มากที่สุด”
เบียทริซตอบด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์
“ไม่มีใคร แม้แต่นักบวชใหญ่คนใหม่ก็ไม่รู้”
ฟรังก้าจึงเปลี่ยนคำถาม
“ใครคือนักบวชใหญ่คนใหม่”
เบียทริซตอบด้วยดวงตาที่ว่างเปล่าจนน่าขนลุก
“ซีเบล”
“ตัวจริงของเธอเป็นใคร” ฟรังก้าถามต่อ
ใบหน้าของเบียทริซ ซึ่งปรากฏบนผิวกระจก ดูเลือนรางยิ่งกว่าเมื่อครู่
“ฉันไม่รู้ เธอเพิ่งเข้ามาทีหลัง ช่วงนั้นพวกเราก็มิได้เป็นเพียงองค์กรสตรีรักสตรีอีกต่อไปแล้ว เริ่มระมัดระวัง เริ่มซ่อนตัวจริงของกันและกัน”
“ตอนนี้ซีเบลอาจยังเป็นนักแสดงละครเวทีอยู่”
…………
บนผนังด้านนอกของอพาร์ตเมนต์อเดนา
บราวส์·เซารอนห้อยโหนอย่างเงียบเชียบ ดุจดังแมงมุมยักษ์สีนิล
เธอมองผ่านผ้าม่าน เห็นเพียงเงาดำสองเงาที่ห่างกันไม่มาก ส่วนเสียงที่ได้ยินข้างหู ยิ่งเบาและไกลกว่าเมื่อสักครู่ ฟังออกอย่างคลุมเครือเพียงว่าเป็นเสียงสตรีทั้งคู่
อเดนากับเทเรซาปลอมยังคุยกันอยู่? ไม่น่าใช่ ระยะห่างแค่นี้ ด้วยโสตประสาทของ ‘นักลอบสังหาร’ ต่อให้มีกระจกหน้าต่างปิดสนิท กับม่านผืนหนากั้นอยู่ เราก็ควรได้ยินชัดเจน…ข้างในเกิดอะไรขึ้นกันแน่? บราวส์·เซารอนเริ่มกระสับกระส่ายปนสงสัย จึงลองยื่น ‘เส้นใยแมงมุมล่องหน’ แทรกผ่านช่องว่างของหน้าต่างเข้าไป
…………
เมื่อ ‘สื่อวิญญาณด้วยกระจกวิเศษ’ มาถึงขีดจำกัด ฟรังก้าตัดสินใจยกเลิกการคงสภาพ ร่างของเบียทริซ·อังกูร์จึงจางหายไปจากผิวกระจก
เธอไม่ผิดหวังสักเท่าไร เพราะสืบจนรู้ข้อมูลจริงของสมาชิกแกนหลักหลายคนใน ‘สมาคมเสียวซ่าน’ รวมถึงเวลา สถานที่ และวิธีการรวมตัวในแต่ละสัปดาห์
แต่ก็ไม่จำเป็นต้องรีบไปกวาดล้าง เพราะพวกเธอแทบไม่รู้เรื่องของชาร์ล ต่อให้ ‘โรงเรียนกุหลาบ’ หาตัวพวกเธอพบ ก็คงไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ไป…ฟรังก้าเหลือบมองลูเมี่ยน เก็บกระจกแล้วยกเลิก ‘กำแพงวิญญาณ’
ท่ามกลางเสียงลมหวีด ทั้งสองสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวอันไม่ปกติจากหน้าต่าง มีเงาดำคล้ายมนุษย์
— ‘กำแพงวิญญาณ’ จะคอยสกัดกั้นเสียง รวมถึงลดการรบกวน แต่ขณะเดียวกันก็บั่นทอน ‘การรับรู้’ และ ‘การเฝ้าระวังสภาพแวดล้อม’ ของพวกเขาด้วย
ร่างของฟรังก้าหายวับไปจากตำแหน่ง ส่วนลูเมี่ยนฉากหลบไปด้านข้างหลายก้าว รีบออกจากบริเวณริมหน้าต่าง
ที่พวกเขาไม่รีบโจมตีสวนกลับไป เพราะเดาได้คลุมเครือว่าใครอยู่ข้างนอก
ครืด! บราวส์ที่แอบงัดหน้าต่าง เห็นม่าน ‘ถูกรูด’ ออกไปซ้ายขวาต่อหน้าต่อตา จนเธอตกเป็นเป้าสายตาในทันที
ขณะเธอเตรียมจะตอบโต้ ก็เหลือบไปเห็นใบหน้าที่ฟรังก้า·โรลังด์ปลอมตัวมาในคืนนี้
ทั้งสองประสานสายตากัน เงียบอึ้งไปสิบกว่าวินาที
ในที่สุด บราวส์ก็ได้สติ ถามด้วยความกังวล
“อเดนาล่ะ”
“หลับอยู่” ฟรังก้าชี้ไปทางพรมใกล้หน้าต่าง
บราวส์เพ่งมองเพื่อนสาวสองสามครั้ง มองเทเรซาปลอมที่แน่นิ่งไม่ไหวติง แล้วถามต่อ
“จัดการเสร็จแล้ว?”
“เสร็จแล้ว” ฟรังก้าตอบอย่างใจเย็น
สื่อวิญญาณแล้วด้วย!
สายตาของบราวส์ กลอกไปมาระหว่างฟรังก้ากับลูเมี่ยนตรงมุมห้องสองสามครั้ง แล้วถามด้วยความประหลาดใจกึ่งสงสัย
“พวกคุณลงมือตั้งแต่ตอนไหน”
ตอนที่ผ้าม่านยังไม่ถูกรูดปิดสนิท…ฟรังก้าเตรียมจะตอบไปแบบนั้น แต่พบว่ามันอาจเผยไต๋ชาร์ลกับตนในบางเรื่อง จึงรีบเปลี่ยนคำพูด ยิ้มแล้วตอบว่า
“ลองเดาดูสิ”
บราวส์·เซารอนระลึกถึงเสียงอันแผ่วเบาที่ได้ฟังมาตลอด แต่กลับไม่พบร่องรอยการต่อสู้อย่างเด่นชัด
นี่ยิ่งทำให้เธอตกตะลึง
นางมารไร้สังกัด กับคนรักหนุ่มของเธอ เก่งกาจถึงเพียงนี้กันเชียว?
ประสบการณ์ที่มั่งคั่งกว่า ความรู้ที่กว้างขวางกว่า มันมีประโยชน์ถึงเพียงนั้นเลยหรือ?
เมื่อความทุกข์จากความอิจฉาเริ่มคุกรุ่น บราวส์กระโดดเข้ามาในห้องแล้วปิดหน้าต่าง
ไม่กลัวเลยว่าจะถูกเราโจมตี…เป็นเพราะเธออ่อนหัดเกินไป หรือมั่นใจในพลัง ‘ตัวแทน’ ต่างๆ ของนางมาร หรือยังมีไพ่เด็ดอื่นอยู่อีก? ลูเมี่ยนมองด้วยสายตาเย็นชา ไม่สนใจจะตอบสนอง
ฟรังก้ายิ้มแล้วพูด
“พวกเราสอบปากคำเสร็จแล้ว ได้ข้อมูลนักบวชใหญ่คนปัจจุบัน กับสมาชิกแกนหลักบางคนของ ‘สมาคมเสียวซ่าน’ ด้วย…”
เธอเล่าข้อมูลที่ได้จากเบียทริซอีกรอบหนึ่ง
บราวส์ยิ่งฟัง ก็ยิ่งตกใจ
ถามมาได้มากขนาดนี้เชียว?
มันควรจะใช้เวลานานกว่านี้สิ!
สรุปว่าพวกเขาลงมือตั้งแต่เมื่อไร จบการต่อสู้ได้ตอนไหน?
กำลังจะบอกว่า พอเทเรซาปลอมเข้ามาในห้อง พอเข้าใกล้หน้าต่างก็ถูกลอบจู่โจมทันที สิ้นสุดสถานการณ์ในทันที? เป็นไปได้ด้วยหรือ?
เท่าที่เธอสังเกตจากพฤติกรรม คนของสมาคมเสียวซ่านรายนี้น่าจะเป็นลำดับ 6 ‘ผู้ถือเกียรติ’ ซึ่งเทียบเท่ากับเธอและฟรังก้า·โรลังด์ สูงกว่าชาร์ล·ดูบัวส์ที่น่าจะเป็นแค่ลำดับ 7 นักวางเพลิง!
ฟรังก้าไม่แยแสกับท่าทีของบราวส์ เพียงเล่าให้จบแล้วเสริมต่อ
“ฉันมีความยินดีที่จะบอกคุณว่า ปัญหาของทางเราง่ายกว่าที่คิดไว้ ตอนนี้ถูกแก้ไขแล้ว ที่เหลือคือปัญหาของพวกคุณ หึๆ …พวกสมาชิกแกนหลักของสมาคมเสียวซ่านที่เพ่งเล็งร้านกาแฟเรือนแดง ไม่ได้มีแค่เบียทริซหรอกนะ”
ที่เธอพูดแบบนี้ เพราะหวังให้นิกายนางมาร ‘รับช่วงต่อ’ ในการเก็บกวาดสมาชิกที่เหลือของ ‘สมาคมเสียวซ่าน’
“คุณกำลังกระตุ้นฉันหรือ” บราวส์เฉลียวใจถามกลับ
ฟรังก้ายิ้มตอบ
“เปล่าเลย แค่เตือนเท่านั้น”
ระหว่างที่พวกเธอคุยกัน ลูเมี่ยนกลับไปยังศพของเบียทริซ นั่งยองลง แล้วเริ่มค้นหาให้ละเอียดกว่าตอนแรก
คราวนี้ เด็กหนุ่มพบธนบัตรกับเหรียญทองมูลค่า 1,500 เฟลคิน รวมถึงกระดาษโน้ตที่พับเรียบร้อยแผ่นหนึ่ง
ลูเมี่ยนคลี่กระดาษออก เห็นข้อความเขียนเป็นภาษาอินทิสว่า
“ภายในสามวัน ไปรับภาพนั้นที่หอพัก”
หอพัก…หอพักไหน? ภาพอะไร? นี่คือข้อตกลงการค้าภาพที่เทเรซาตัวจริงทำไว้ แต่ใบเสร็จดันตกอยู่กับตัวปลอม? แล้วตอนนี้เทเรซาตัวจริงอยู่ที่ไหน…ตอนสื่อวิญญาณลืมถามไปเลย…ลูเมี่ยนมองกระดาษโน้ตในมือ ความคิดมากมายแล่นผ่านสมอง
เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืน ตั้งใจจะถามบราวส์·เซารอนว่า รู้สถานการณ์ของเทเรซาตัวจริงหรือไม่ โดยระหว่างนี้ แม้บราวส์จะรู้ว่าฟรังก้ากำลังกระตุ้นตน แต่ก็ต้องยอมรับว่าอีกฝ่ายพูดมีเหตุผล
เธอก้มมองอเดนา พยายามปลุกเพื่อนสาวให้ตื่น
ในตอนนั้นเอง ทั้งสามหยุดเคลื่อนไหวพร้อมกัน เบนสายตาไปทางศพของเบียทริซ·อังกูร์
แสงในบริเวณดังกล่าวดูมืดลงเล็กน้อย ร่างของเธอคล้ายกับเกิดการเปลี่ยนแปลงอันไม่ชอบมาพากล
……………………………………………………..