ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 413 สมาคมถ้ำ
- Home
- All Mangas
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 413 สมาคมถ้ำ
ตอนที่ 413 สมาคมถ้ำ
……….
เมื่อได้ยินชื่อ ‘สมาคมถ้ำทรีอาร์’ รวมถึงคำเชิญที่อีกฝ่ายส่งให้ ‘มุสิก’ คริสโต ความคิดแวบแรกในใจลูเมี่ยนมิใช่ความสงสัย แต่เป็นแผนที่ลับใต้ดินของกรุงทรีอาร์ ซึ่งตนเคยเห็นจากการ์ดเนอร์·มาร์ติน
ส่วนบนของแผนที่ดังกล่าว ละเอียดลออราวกับมีคนแอบย่องเข้าไปในหน่วยงานของเทศบาล แล้วคัดลอกจากต้นฉบับ
มาตอนนี้ ลูเมี่ยนเริ่มสงสัยเล็กๆ ว่าแผนที่ดังกล่าว อาจรั่วไหลมาจาก ‘สมาคมถ้ำทรีอาร์’ นี้เอง
องค์กรพลเรือนที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยนักวิจัยถ้ำนี้ สมาชิกบางส่วนก็เป็นพนักงานของเทศบาล หรือที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ย่อมมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลการสำรวจและการก่อสร้างในระดับสูง บางคนอาจเคยมีส่วนร่วมในการปรับปรุงเมืองเมื่อหลายสิบปีก่อน หรือเป็นผู้ร่วมเจาะอุโมงค์ หรือเสริมความแข็งแรงให้กับช่องว่างในเหมืองหิน
ส่วนใหญ่จะต้องมีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับทรีอาร์ใต้ดิน
ลูเมี่ยนมองหน้า ‘มุสิก’ คริสโตด้วยสายตาครุ่นคิด แล้วถามกลับ
“คุณไม่รู้จริงหรือ ว่าพวกนั้นมาเชิญคุณเข้าสมาคมทำไม”
‘มุสิก’ คริสโตหัวเราะแห้งๆ
“ผมพอจะมีข้อสันนิษฐานอยู่บ้าง แต่ไม่แน่ใจ”
“ชาร์ล…คุณคิดว่า พวกเขารู้ไหมว่าผมคือหัวหน้าหน่วยที่คุมการลักลอบขนสินค้า?”
ในฐานะ ‘พ่อค้า’ ผู้แสวงหาประโยชน์จากความซับซ้อนของทรีอาร์ใต้ดินมานาน เพื่อลักลอบนำเข้าเหล้ากับอาวุธ ความรู้ของคริสโตในขอบเขตเกี่ยวกับอุโมงค์ โพรงเหมืองห่างไกล สุสานใต้ดิน หรือห้องหับลับซ่อนต่างๆ ย่อมมิได้ด้อยไปกว่าสมาชิกส่วนใหญ่ของ ‘สมาคมถ้ำ’ เขายังรู้จักเส้นทางลับบางเส้น ที่คนอื่นไม่รู้ด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ ฉายาของเขาคือ ‘หนู’ อีกทั้งยังเป็น ‘นักฝึกสัตว์’ ตัวจริงเสียงจริง อาศัยความช่วยเหลือจากเพื่อนสัตว์มีหนวด คริสโตสามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ที่มนุษย์เอื้อมไม่ถึง
คริสโตสงสัยว่า สมาคมถ้ำชื่นชอบตนด้วยจุดแข็งเหล่านี้
ดังนั้น เขาจึงรู้สึกไม่สบายใจ ไม่ว่าจะเป็นสถานะ ‘นักฝึกสัตว์’ ในแง่ผู้วิเศษ หรือแก่นแท้ของการเป็นนักลักลอบขนของเถื่อนรายใหญ่ ก็เพียงพอให้ถูกส่งตัวขึ้นศาลได้ทั้งนั้น ชะตากรรมมีเพียงถูกแขวนคอ ยิงเป้า เผาทั้งเป็น ตัดหัว หรือกลายเป็นผู้ถูกทดลองปลายแถว
“ผมไม่เชื่อหรอก ว่าบรรดานักผจญภัยที่เข้าร่วมสมาคมถ้ำ จะไม่มีผู้วิเศษเลยสักคนเดียว หรือไม่เคยมีเอี่ยวกับการลักลอบขนสินค้า”
“ก็จริง” ‘มุสิก’ คริสโตถอนหายใจ “หรือว่า…สมาคมถ้ำต้องการแบ่งส่วนแบ่งจากธุรกิจของผม?”
ลูเมี่ยนชายตามองเขาแล้วพูด
“ดังนั้น คุณควรไปขอคำสั่งจากบอส ไม่ใช่มาปรึกษาผม”
“ผมกลัวว่าบอสจะฉวยโอกาสนี้ มอบหมายภารกิจอันตรายให้ผมอีก” คริสโตพูดเสียงเบาพร้อมกับยิ้มเอาใจ
คำนึงจากภารกิจที่การ์ดเนอร์·มาร์ตินเคยมอบหมายให้ ผนวกกับแผนที่ลับฉบับสมบูรณ์ ‘หนู’ ตัวนี้สังเกตเห็นอย่างเฉียบแหลมว่า บอสให้ความสนใจกับทรีอาร์ใต้ดินเป็นพิเศษ หรืออาจมากจนเกินพอดี
เขาเชื่อว่า หากตนเข้าร่วมสมาคมถ้ำทรีอาร์ การ์ดเนอร์·มาร์ตินคงสั่งให้ไปติดต่อกับใครสักคนในสมาคม เพื่อหาโอกาสขโมยเอกสารลับ หรือเข้าร่วมในการวิจัย หรือการผจญภัย
ซึ่งนั่นมักหมายถึงอันตราย
ที่เขามาปรึกษาลูเมี่ยน แง่หนึ่งก็เพราะมองว่าเพื่อนร่วมงานคนนี้ ฝีมือไม้ลายมือไม่ธรรมดา มีประสบการณ์เพียงพอ แถมยังฉลาดเป็นกรด สามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ได้จริง แต่อีกแง่หนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุผลหลัก คือการมองหา ‘คนรับผิดชอบ’ ไว้ล่วงหน้า
คริสโตตัดสินใจเป็นมั่นเหมาะแล้วว่า ตนจะเข้าร่วมสมาคมถ้ำทรีอาร์ โดยปิดเป็นความลับจากการ์ดเนอร์·มาร์ติน บอสใหญ่แห่งพรรคซาฟาห์
ที่เขาสามารถไต่เต้าจากสมาชิกแก๊งธรรมดาไปเป็นผู้วิเศษ จนได้คุมธุรกิจการลักลอบนำเข้าของพรรคซาฟาห์ ก็เพราะยึดถือกฎเหล็กสองข้ออย่างเคร่งครัดมาตลอด: หนึ่ง ถ้าเป็นไปได้ ห้ามไปยุ่มย่ามกับคนที่แข็งแกร่งกว่า รังแกแต่คนอ่อนแอ หากไม่มีทางเลือก ก็ขอความช่วยเหลือจากพวกพ้องแล้วร่วมมือกัน สอง อย่าเดิมพันทุกสิ่งไว้กับคนคนเดียว
ก่อนหน้านี้ คริสโตคอยเอาอกเอาใจลูเมี่ยน วางตัวภักดี ปากก็เต็มไปด้วยคำชม เนื่องจากเห็นว่าพวกพ้องคนนี้เพิ่มลำดับได้เร็ว แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสมองก็ไม่เลว การผูกมิตรเอาไว้ อาจช่วยให้ตนรอดชีวิตจากภารกิจแสนอันตราย ที่การ์ดเนอร์·มาร์ตินมอบหมายให้ในช่วงเวลาสำคัญ
บัดนี้ โอกาสเข้าร่วมสมาคมถ้ำทรีอาร์อยู่ตรงหน้าแล้ว เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ใกล้ชิดกับอำนาจและบุคคลสำคัญ คริสโตย่อมไม่มีทางปล่อยผ่าน เนื่องจากมองว่า เครือข่ายความสัมพันธ์ของตน ไม่ควรจำกัดอยู่เพียงในพรรคซาฟาห์กับเขตตลาด หากวันใดการ์ดเนอร์·มาร์ตินเสื่อมอำนาจ หรือมอบหมายภารกิจที่ต้องตายสถานเดียวให้ทำ เขาจะได้มีเรือลำใหม่สำหรับกระโดดไปเกาะ รักษาชีวิตตัวเองไว้
เรื่องนี้ต้องไม่ให้การ์ดเนอร์·มาร์ตินรู้เด็ดขาด แต่ถ้าบังเอิญถูกค้นพบ การนัดพบกันในวันนี้ก็จะกลายเป็นหลักประกันชั้นดี ช่วยให้คริสโตสามารถผลักปัญหาให้ ‘ราชสีห์’ ชาร์ลรับไว้แทน
หนูอย่างผมน่ะ เป็นคนหยาบคายไร้การศึกษา วันๆ เจอแต่สัตว์ คนงาน กับโลกมืดใต้ดิน มีประสบการณ์น้อย เต็มไปด้วยข้อจำกัด สมองก็ไม่ค่อยดี เวลาเจออะไรชอบไปปรึกษาชาร์ล แล้วเขาก็บอกผมว่า ให้เข้าร่วมสมาคมถ้ำได้เลย ใครๆ เขาก็ทำกัน เป็นเรื่องส่วนตัวขี้ปะติ๋วมาก
ด้วยรอยยิ้มคลุมเครือ ลูเมี่ยนจ้องคริสโต เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม ผมสีเทาดำ โดยมิไม่ได้ให้คำตอบ เพียงถามกลับไปว่า
“คุณเป็น ‘นักฝึกสัตว์’ มานานแล้วใช่ไหม รู้หรือเปล่าว่าลำดับถัดไปคืออะไร”
คำนึงจากความใส่ใจ รวมถึงความรักที่ ‘มุสิก’ มอบให้เพื่อนสัตว์แสนรักของตน ต่อให้ไม่เข้าใจการสวมบทบาทเลย แต่โอสถ ‘นักฝึกสัตว์’ ก็คงย่อยไปเกือบหมดแล้ว
“ไม่รู้สิ บอสไม่เคยบอกผมเลย” คริสโตออกอาการหลบตา
ลูเมี่ยนหัวเราะในคอ
“ตามความเข้าใจของผม ลำดับถัดไปของ ‘นักฝึกสัตว์’ จะมีการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ มันจะช่วยยกระดับคุณในทุกด้าน อีกทั้งยังมอบชีวิตที่ยืนยาวกว่าเดิม ร่างกายฟื้นตัวไวกว่าเดิมหลายเท่า”
โดยไม่รอให้คริสโตถามต่อ ลูเมี่ยนเปลี่ยนประเด็น
“ดังนั้น คุณตั้งใจทำภารกิจที่บอสมอบหมายให้เสร็จเถอะ พยายามไขว่คว้ารางวัลมาให้ได้โดยเร็ว”
“ด…ด…ได้ครับ” คริสโตรีบตอบตกลง
ลูเมี่ยนจึงวกกลับไปยังประเด็นเก่า แล้วถามยิ้มๆ
“คุณอยากเข้าร่วมสมาคมถ้ำทรีอาร์ไหม”
‘มุสิก’ คริสโตตอบอึกอักทันที
“ผ…ผมเคลือบแคลงในจุดประสงค์ของพวกเขา คนที่มาติดต่อกับผมดูสุภาพเรียบร้อยก็จริง ยิ้มแย้มตลอดเวลาก็จริง แต่ผมสัมผัสได้ว่า เขาวางท่าคุกคามผม ใช่แล้ว เป็นการคุกคาม!”
“ส่วนอีกคนที่มาด้วยกัน สีหน้าแววตาแทบจะไร้อารมณ์ มองผมราวกับกำลังมองคนตาย หรือนักโทษที่รอการพิพากษา!”
เคลือบแคลงงั้นหรือ…ลูเมี่ยนจิกกัดเงียบงัน เข้าใจความคิด รวมถึงสภาพจิตใจของ ‘มุสิก’ ได้อย่างถ่องแท้
เด็กหนุ่มกล่าวอย่าง ‘มีน้ำโห’
“กล้าดียังไงมาข่มขู่หัวหน้าหน่วยของพรรคซาฟาห์เรา ผมต้องนำเรื่องนี้ไปแจ้งให้บอสทราบ!”
“ม…ไม่ต้อง!” คริสโตตื่นตระหนกทันที “สมาคมถ้ำเป็นองค์กรกึ่งทางการ เราเป็นแค่แก๊ง ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกับพวกเขา มันไม่เป็นผลดีกับคุณ ผม หรือคนของพรรคซาฟาห์ในเขตตลาดอย่าง ‘บูตแดง’ เลย”
ลูเมี่ยนส่งเสียง ‘ฮึ่ม’ ในใจ เตรียมสุมไฟต่อ เพื่อบีบให้ ‘หนู’ ตรงหน้าคายเจตนาที่แท้จริงออกมา
พอดีกับที่ซาโกตา ผู้คอยเฝ้าบันไดชั้นล่าง เดินขึ้นมาพูดกับลูเมี่ยน
“ลูกพี่ครับ ชายสองคน อ้างว่าเป็นผู้ประสานงานจากสมาคมถ้ำทรีอาร์ ต้องการมาพบคุณ”
พบเรา? คนจากสมาคมถ้ำทรีอาร์มาพบเรา? ลูเมี่ยนจ้องหน้า ‘มุสิก’ คริสโต ซึ่งกำลังเท้าสองมือกับโต๊ะ ทั้งประหลาดใจ ทั้งงงงวย แล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ บอกซาโกตาว่า
“เชิญพวกเขาขึ้นมา”
ผู้ประสานงานทั้งสองจากสมาคมถ้ำทรีอาร์ อายุยังไม่มาก สวมสูทสีดำ ผูกเนกไทสีน้ำเงิน คนหนึ่งผมน้ำตาล ตาสีน้ำตาลอ่อน หน้าตกกระ รอยยิ้มเคร่งขรึม อีกคนผมดำตาสีน้ำตาล ไร้อารมณ์ สายตาเย็นชา
ผู้ประสานงานที่ท่าทางเป็นมิตร กวาดตาไปหา ‘มุสิก’ คริสโต ก่อนจะหยุดอยู่ที่ใบหน้าลูเมี่ยน
เขายิ้มแล้วถาม
“ทิวาสวัสดิ์ครับ คุณคือมิสเตอร์ชาร์ล·ดูบัวส์ใช่ไหม”
“ใช่” ลูเมี่ยนเองก็อยากเห็นว่า สมาคมถ้ำทรีอาร์มีเป้าหมายอะไร
ผู้ประสานงานที่ถามเมื่อครู่ ยิ้มด้วยท่าทางที่ดูถือตัว
“พวกเราเป็นคนของสมาคมถ้ำทรีอาร์ ผมชื่อโยเซฟ ส่วนทางนี้คือเพื่อนร่วมงานของผม ราญอง”
“ที่พวกเรามาหาคุณ ก็เพราะอยากเชิญคุณเข้าร่วมสมาคม เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ทางเราเพิ่งเชิญคุณคริสโตที่ยืนข้างๆ คุณไป”
ลูเมี่ยนไม่เก็บซ่อนอารมณ์ ถามกลับไปอย่างขบขัน
“ในสายตาสมาคมถ้ำ ตัวผมมีอะไรน่าสนใจงั้นหรือ”
ฉันไม่ใช่นักลักลอบขนของเถื่อน ที่มักโผล่ไปมาในทรีอาร์ใต้ดินสักหน่อย!
หรือพวกนายรู้ไปถึงขั้นว่า ฉันเคยลงไปยังสุสานชั้นสี่ แล้วตักน้ำจากบ่อสตรีซามาเรียกลับมา?
หรือพวกนายยังรู้ด้วยว่า ฉันเป็นคนของชุมนุมกางเขนเลือดเหล็ก ซึ่งรู้จักถ้ำลับอย่างโพรงเหมืองอัลแบร์?
โยเซฟตอบด้วยรอยยิ้ม
“ทางเรามีเหตุผลของตัวเอง ถ้าคุณยินดีเข้าร่วมสมาคม คุณจะได้ทราบเหตุผลที่แน่ชัดในภายหลัง”
ราญอง ซึ่งสูงกว่าโยเซฟเล็กน้อย เสริมเสียงเย็นชาว่า
“นี่เป็นเรื่องดีสำหรับคุณ”
ลูเมี่ยนจ้องมองสองบุรุษสักพัก ก่อนจะหัวเราะ
“ผมไม่สนใจสมาคมของพวกคุณ”
ราญองเจ้าของสีหน้าเรียบเฉย พลันหรี่ตาลง
“หวังว่าคุณจะไม่เสียใจภายหลัง”
โยเซฟยิ้มอย่างมีเลศนัยเช่นกัน
“คุณอาจไม่รู้ว่า สมาคมถ้ำของเรา มีความหมายอย่างไรในทรีอาร์”
“น่าเสียดาย คุณพลาดโอกาสนั้นไปแล้ว”
พูดจบ ทั้งสองคนก็หันหลังกลับ เตรียมเดินไปทางบันไดสำหรับลงชั้นล่าง
มองแผ่นหลังพวกเขา ลูเมี่ยนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ในใจกำลังครุ่นคิด
“สมาคมถ้ำทรีอาร์คิดจะทำอะไร? ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่…”
“นี่อาจเป็นโอกาส…ถ้าเรางัดกับสมาคมถ้ำ การ์ดเนอร์·มาร์ตินคงไม่ปล่อยให้เราอยู่เขตตลาดต่อ…”
“ตอนนี้ ภารกิจของเราในชุมนุมกางเขนเลือดเหล็กคือ สืบหาความลับการถดถอยของตระกูลเซารอน รวมถึงการสำรวจใต้ดิน เพื่อหาทางเข้าสู่ทรีอาร์ยุคที่สี่ ซึ่งจะอยู่หรือไม่อยู่ในเขตตลาดก็ได้…”
“แค่ออกจากเขตตลาด ก็หลุดพ้นจากสายตาของโลกิได้แล้ว สามารถซ่อนตัว แล้วรอคอยอย่างใจเย็น…”
“ถ้าเป็นแบบนั้น จะยังได้ส่วนแบ่งกำไรจากคาบาเร่ต์ลมเอื่อยอยู่ไหมนะ…”
“ถ้าเห็นท่าไม่ดี ก็แค่ ‘เทเลพอร์ต’ หนีไป…”
ท่ามกลางความคิดที่วาบผ่าน ลูเมี่ยนเคาะโต๊ะกาแฟตรงหน้าทันที
เมื่อเสียง ‘ก๊อกๆๆ’ ดังกังวาน เด็กหนุ่มจ้องโยเซฟกับราญอง ยิ้มมุมปากแล้วถามอย่างสงบ
“ใครอนุญาตให้พวกคุณกลับ”
……………………………………………………..