ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 405 ไม่มีกั๊ก
- Home
- All Mangas
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 405 ไม่มีกั๊ก
ตอนที่ 405 ไม่มีกั๊ก
……….
เปลวไฟงูยักษ์ที่ลุกโชน สะท้อนอยู่บนกระจกตาแพทย์เวร พยาบาลกะกลางคืนสามคน รวมถึงคนไข้ที่ตื่นตระหนก ทุกคนต่างมีสีหน้าตกใจกลัว หันหลังวิ่งหนีไปในทิศตรงข้ามกับที่เปลวไฟพุ่งเข้ามา พลางแหกปากตะโกนเสียงดัง
“ไฟไหม้! ไฟไหม้!”
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”
เสียงของพวกเขาดังก้องกังวานทั่ว ระหว่างนั้น งูไฟยักษ์เผาไหม้ใยแมงมุมล่องหน พร้อมกับสร้างลมร้อน อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลัน ไล่ตามหลังพวกเขาไป ขวางทางออกจากห้อง บีบให้ทุกคนจนตรอกอยู่ตรงมุมห้อง
ทั้งห้าคนแสดงออกอย่างปกติ บ้างก็หลบหลีกไปมา เพื่อหาทางหนี บ้างก็ห่อตัวด้วยผ้าห่ม พยายามฝ่าด่านกำแพงไฟ บ้างก็วิ่งไปทางหน้าต่างอีกฟาก ตั้งใจจะกระโดดลงไป
ดูเหมือนว่าคราวนี้ลูเมี่ยนจะตัดสินใจผิด การที่ห้าคนนี้เคลื่อนไหวแตกต่างจากคนอื่น ไม่ได้เท่ากับว่าต้องเป็น ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ เสมอไป หากยังไม่รีบแก้ไข เขาอาจได้เผามนุษย์ห้าชีวิตที่ไร้ความผิด
แต่งูไฟสีแดงฉานทั้งสาม ยังคงปราศจากความลังเล เอาแต่ไล่ล่าแพทย์เวร พยาบาลกะกลางคืน และคนไข้จิตเวชต่อไป สะท้อนถึงความเย็นชา โหดร้าย และความบ้าคลั่งที่ไม่สนใจชีวิตผู้อื่น
ขณะงูไฟเตรียมจะเขมือบเป้าหมายทั้งห้า จนทุกคนมีสีหน้าสิ้นหวัง คนไข้ที่อยู่ในห้องชั้นสาม หยุดฝีเท้ากะทันหัน แล้วหมุนตัวกลับ
บนใบหน้าแสนจะธรรมดาของเขา งอกเกล็ดสีเทาขาวคล้ายหินทีละแผ่นสองแผ่น เช่นเดียวกันกับผิวหนังนอกชุดคนไข้ลายขาวฟ้า
เพียงพริบตา เขาเปลี่ยนเป็นมนุษย์ที่น่ากลัวคล้ายกิ้งก่า โดยที่เกล็ดสีเทาขาวเหล่านั้น สามารถต้านเปลวไฟอันลุกโชนร้อนแรง ช่วยให้เขาทะลุผ่านด่านกีดขวางของงูยักษ์สีแดงฉาน
ลูเมี่ยนที่รับรู้การเปลี่ยนแปลงนี้ผ่านเปลวไฟ ยกมุมปากขึ้นอย่างยินดีปรีดา ทั่วร่างแผ่ซ่านด้วยความปีติที่ไม่อาจบรรยาย
ตามข้อมูลจากจดหมายของมาดามเมจิกเชี่ยน ผู้วิเศษเส้นทาง ‘ผู้ชม’ เมื่อถึงลำดับ 6 ‘นักสะกดจิต’ จะมีพลังที่เรียกว่า ‘เกล็ดมังกร’ ซึ่งสามารถสร้างเกล็ดสีเทาขาวบนผิวหนัง เพื่อต้านทาน หรือลดความเสียหายได้มาก
พลังนี้เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด กับรูปลักษณ์สัตว์ในตำนานของเส้นทาง ‘ผู้ชม’ เนื่องจาก ‘ผู้ชม’ ลำดับสูงทุกคน จะต้องกลายเป็นมังกรในท้ายที่สุด — มังกรจิต!
ซึ่งการมีอยู่ของ ‘เกล็ดมังกร’ ช่วยยืนยันว่า คนไข้ในห้องปีกตะวันตกชั้นสาม อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้วิเศษลำดับ 6 เส้นทาง ‘ผู้ชม’ เมื่อนำไปรวมกับกับดักเมื่อครู่ และความผิดปกติของเขาเอง ตัวจริงของ ‘คนไข้’ รายนี้ก็ชัดเจนแล้ว
‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง!’
ลูเมี่ยนเปิดใช้รอยประทับสีดำบนไหล่ขวาทันที พึ่งพาพลัง ‘ข้ามโลกวิญญาณ’ ย้ายตำแหน่งฉับพลันมาในห้องคนไข้ดังกล่าว
ในการล่าครั้งนี้ เด็กหนุ่มมิได้สวมตุ้มหู ‘คำลวง’ และไม่ได้พกถุงมือสนับ ‘ทุบตี’ ติดตัว เนื่องจากศัตรูคือ ‘นักจิตบำบัด’ ฝีมือดี จุดบกพร่องทางอารมณ์หรือแรงกระหาย สามารถถูกเอารัดเอาเปรียบได้ง่ายกว่าปกติ
เมื่อร่างของลูเมี่ยนหายไปบนสนามหญ้า งูไฟสีแดงที่ขยายตัวใหญ่โตจากการเขมือบวัตถุไวไฟในห้องแพทย์เวร รวมถึงเคาน์เตอร์พยาบาล ล้วนอันตรธานหายไป กลายเป็นประกายระยิบระยับ ซาลงต่อหน้าใบหน้าอันแสนสิ้นหวังระคนหวาดกลัว
ในสองจุดดังกล่าว นอกจากวัตถุบางอย่างที่มีรอยไหม้ดำ ก็ไม่หลงเหลือร่องรอยใดบ่งบอกว่าเคยเกิดเพลิงไหม้
ในห้องปีกตะวันตกของตึกที่ติดกัน บนชั้นสามของโรงพยาบาลจิตเวชเดลตา เมื่อลูเมี่ยนปรากฏกาย ดวงตาก็จับจ้องคนไข้ที่มีเกล็ดสีเทาขาวเต็มร่าง นัยน์ตาฉายประกายสีทองอ่อน
เด็กหนุ่มมิได้ทักทาย ไม่ได้เอ่ยถาม เพียงเปิดปากออกเสียง
“ฮ่า!”
แสงสีเหลืองอ่อนเกือบมองไม่เห็น พ่นออกจากปากลูเมี่ยน ตรงเข้าหาผู้วิเศษที่สงสัยว่าเป็น ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’
อย่างไรก็ตาม ในระยะห่างเพียงสองสามเมตร ลำแสงสีเหลืองอ่อนที่เกิดจาก ‘วิชาฮึ่มฮ่า’ กลับพุ่งผ่านผู้วิเศษคนนั้นไป พุ่งชนหน้าต่างกระจกติดลูกกรงเหล็กด้านหลังแทน
สะกดจิตต่อสู้!
นี่คือหนึ่งในพลังวิเศษของ ‘นักสะกดจิต’ สามารถสะกดจิตศัตรูได้ระหว่างการต่อสู้ มีฤทธิ์ทำให้เป้าหมายแสดงพฤติกรรมแปลกประหลาด หรือตัดสินใจผิดพลาด แต่จะไม่สร้างอันตรายแก่ผู้ถูกสะกดจิตโดยตรง ซ้ำยังคงอยู่ไม่นาน เป้าหมายสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็ว
เมื่อสักครู่ พอลูเมี่ยนเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย สบตากัน เด็กหนุ่มก็ถูกสะกดจิตทีเผลอ จนเข้าใจไปว่า ภาพสะท้อนบนหน้าต่างด้านข้างคือเป้าหมาย ทำให้ ‘วิชาฮึ่มฮ่า’ ยิงพลาดร่างจริงไป
ฉวยโอกาสนี้ นัยน์ตาสีทองอ่อนของ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ เงยขึ้น สะท้อนภาพของลูเมี่ยนที่คล้ายกับโอลัวร์ในเพศชาย
หัวของลูเมี่ยนกระเด้งหงายหลังทันใด ราวกับถูกโยนเข้าไปในวังวนวงใหญ่
ความยินดี รวมถึงความเกลียดชังของเด็กหนุ่ม ถูกจุดชนวนอย่างเต็มพิกัด เปลวไฟสีแดงฉานพวยพุ่งจากใต้ผิวหนัง ดวงตาท่วมท้นไปด้วยความบ้าคลั่งเลื่อนลอย
ก่อโรคประสาท!
พลังวิเศษนี้ของนักจิตบำบัด สามารถใช้เพื่อกระตุ้นอารมณ์ รวมถึงสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงของเป้าหมาย ทำให้อีกฝ่ายตกอยู่ในสภาวะ ‘เป็นบ้า’ จิตใจได้รับความเสียหายรุนแรง หากเป้าหมายมีปัญหาทางใจรุนแรงเป็นทุนเดิม หรือเป็นพวกอารมณ์รุนแรง เมื่อเผชิญกับ ‘ก่อโรคประสาท’ พวกเขาอาจคลุ้มคลั่งในทันที
เคราะห์ดีที่ลูเมี่ยนผ่านการบำบัดจากมาดามซูซี่กับมาดามจัสติสมาแล้ว หากเด็กหนุ่มพบกับ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ก่อนหน้านั้น เพียง ‘ก่อโรคประสาท’ หนเดียว เขาได้กลายเป็นบ้าแน่นอน กลายเป็นสัตว์ประหลาดคลุ้มคลั่ง
ขณะนี้ มีเลือดคล้ายลาวาไหลออกจากจมูกเด็กหนุ่ม สมองสับสนว้าวุ่นไปหมด สัญชาตญาณสั่งให้หายใจลึก สูญเสียความสามารถในการเชื่อมโยงการกระทำต่อไปชั่วขณะ
‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ มิได้ฉวยโอกาสนี้โจมตีลูเมี่ยนซ้ำ ประการแรก หากเด็กหนุ่มคลุ้มคลั่งหรือตายไป สิ่งมีชีวิตระดับสูงที่ถูกผนึกไว้ในกาย จะหลุดพ้นจากพันธนาการทันที และสิ่งมีชีวิตเช่นนั้น ผู้วิเศษต่ำกว่าครึ่งเทพเพียงเห็นด้วยหางตา ก็อาจพังทลายทั้งกายและใจ ประการที่สอง ในเมื่อน้องชาย ‘มักเกิ้ล’ อยู่ที่นี่แล้ว ‘ดาบซ่อนแขน’ ก็คงไม่ห่างกันมาก ใยแมงมุมล่องหนที่เพิ่งถูกไฟเผาไป ก็น่าจะเป็นฝีมือของเธอ
ในสถานการณ์เช่นนี้ ตัวเลือกแรกของ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ คือรีบออกจากสนามรบ หนีออกจากโรงพยาบาลจิตเวชเดลตาแล้วซ่อนตัวใหม่
ในชั่วพริบตา เขาหยิบ ‘ลูกธนูหัก’ ออกจากกระเป๋าเสื้อชุดคนไข้ลายขาวฟ้า
ลูกธนูดังกล่าวดูเหมือนของโบราณ หัวธนูทำจากหินดำ บนลำธนูมีลวดลายโบราณลึกลับหลายชั้น
ด้วยเสียง ‘ฉึก’ ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึงแทงลูกธนูหินดำชำรุดใส่อกตัวเอง
วัตถุดังกล่าวมีชีวิตขึ้นมาทันที ดูดซึมเลือดสดสีแดงฉาน
‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ลากเงาตามหลัง วิ่งไปทางประตูห้องที่ปิดสนิท
แม้ใบหน้าของเขาจะปกคลุมด้วย ‘เกล็ดมังกร’ สีเทาขาว แต่ขณะนี้กลับแผ่เสน่ห์แปลกประหลาด ประหนึ่งกลายเป็นหนุ่มหล่อในร่างมังกร
นี่คือ ‘ลูกศรผู้กระหายเลือด’ เมื่อแทงใส่หน้าอกตัวเอง พร้อมกับให้มันดื่มเลือด ลูกศรจะทำให้ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ กลายเป็นแวมไพร์ชั่วคราว ได้รับความเร็วในการวิ่งอันน่าเหลือเชื่อ การฟื้นฟูตามธรรมชาติที่เกินจริง และพลังคล้ายเวทมนตร์บางอย่าง
ปัง!
หลังจาก ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ เปิดประตูห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลจิตเวช ซึ่งหนักมากแข็งแรงมากได้สำเร็จ เขากลับพบอุปสรรคระหว่างการพุ่งตัวออกไปยังทางเดิน โดยกระแทกเข้ากับกำแพงน้ำแข็งสีใส ที่ไม่รู้ว่ามันมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร
ท่ามกลางเสียงแตกกระจัดกระจาย กำแพงน้ำแข็งพังทลายลง แต่ก็ทำให้ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ เสียการทรงตัว ล้มลงบนพื้น
น้ำแข็งแตกส่วนใหญ่มิอาจทะลุทะลวง ‘เกล็ดมังกร’ เข้าไปได้ มีเพียงไม่กี่ชิ้นที่อาศัยการปะทะด้วยความเร็วสูง แทงผ่านช่องว่างเข้าไปในร่างกาย จนมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย
อาศัยพลังการฟื้นฟูที่เกินจริงของ ‘แวมไพร์’ บาดแผลเล็กน้อยเหล่านั้น เพียงพริบตาเดียวก็เริ่มสมาน
‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ไม่มัวเสียเวลายืน ขณะที่ดวงตาสีทองอ่อนของเขาวูบไหว คลื่นล่องหนก็แผ่ซ่านออกจากร่างกาย ขยายไปรอบทิศ กวาดล้างพื้นที่ละแวกใกล้เคียง
ฟรังก้าที่กำลังล่องหนอยู่ พลันสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ราวกับได้เห็นสิ่งมีชีวิตในฝันร้ายจากก้นบึ้งหัวใจ เห็นฉากที่เคยหวาดกลัวที่สุด ส่งผลให้เธอหลุดออกจากการคุ้มครองของพลัง จนต้องเผยตัวบนทางเดินของโรงพยาบาลจิตเวช
ข่มขวัญ!
นี่คือ ‘ข่มขวัญ’ ของนักจิตบำบัด หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ‘มังกรข่มขวัญ’ และ ‘โกลาหลหมู่’ มีฤทธิ์ทำให้เป้าหมายเดี่ยว หรือสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในพื้นที่ เกิดความตื่นตระหนกและสับสนทันที
‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ที่ควบคุมสถานการณ์ด้วย ‘มังกรข่มขวัญ’ รีบกระโดดดีดตัวยืนอย่างคล่องแคล่ว เตรียมเลือกทิศทางที่ห่างจากฟรังก้า แล้ววิ่งด้วยความเร็วสูง ตรงไปยังสุดปลายทางเดิน
ที่เขาไม่ฉวยโอกาสโจมตีอีกฝ่าย ก็เพราะทราบดีว่า นางมารมี ‘กระจกตัวแทน’ กับ ‘ไม้กายสิทธิ์ตัวแทน’ เป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารอีกฝ่าย หรือทำให้หมดทางสู้ได้ในการโจมตีเดียว รังแต่จะบั่นทอนเวลาหนีของตนเสียเปล่าๆ
ระหว่างที่ดีดตัวขึ้นจากเศษน้ำแข็งแตก ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ใช้หางตามองชำเลือง พบว่าภายในห้องผู้ป่วยที่ตนเพิ่งออกมา บัดนี้ว่างเปล่าแล้ว ไม่มีเงาของใครสักคน
ดูเหมือนว่าลูเมี่ยน·ลีจะฟื้นตัวจากสภาวะ ‘โรคประสาท’ แล้วใช้ ‘เทเลพอร์ต’ หลบหลีกผลกระทบของ ‘ข่มขวัญ’ ได้ทันเวลา!
ความคิดดังกล่าวเพิ่งจะแล่นผ่านสมองของ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ เขาก็เห็นลูเมี่ยนที่เหมือนโอลัวร์เพศชาย ปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าตัวเอง
โดยไม่รีรอ ดวงตาสีทองอ่อนที่เงยขึ้น สะท้อนภาพของอีกฝ่ายทันที แล้วเตรียมส่ง ‘ข่มขวัญ’ ใส่เป้าหมายอีกครั้ง
วินาทีถัดมา ร่างของลูเมี่ยนก็หายไปอีกครั้ง
เด็กหนุ่มใช้ ‘ข้ามโลกวิญญาณ’ สองครั้งติดๆ!
แทบจะในเวลาเดียวกัน รูม่านตาของ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ที่ ‘ข่มขวัญ’ พลาดเป้าไป พลันขยายกว้างทันใด แผ่นหลังเกิดเย็นวาบ ขนท้ายทอยลุกชันทีละเส้นสองเส้น
คราวนี้ จุดหมายการ ‘เทเลพอร์ต’ ของลูเมี่ยนคือด้านหลังของเขา
นี่ยังกับการใช้ ‘แฟลช’! (Flash)
ร่างของลูเมี่ยนเผยโฉมอีกครั้งด้านหลัง ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ซึ่งบัดนี้คลุมไปด้วยหมอกสีดำหนาทึบ โดยพยายามพุ่งตัวไปด้านข้างของทางเดิน
ช้าไป! ลูเมี่ยน ‘ฮึ่ม’ เพื่อปล่อยลำแสงสีขาวสองลำจากจมูก ครอบคลุมทุกสิ่งตรงหน้าอย่างทั่วถึง
‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ หลบไม่พ้น ถูกลำแสงสีขาวยิงใส่กลางอากาศ ตกกระแทกพื้นดังโครม แถมด้วยกลิ้งหลุนๆ อีกสองรอบ
ลูเมี่ยนหายใจหอบ ร่างกายว่างเปล่า หัวปวดตุบๆ
การ ‘เทเลพอร์ต’ สามครั้ง ตามด้วย ‘วิชาฮึ่มฮ่า’ สองครั้ง ผนวกกับพลังอื่นที่ใช้ไปก่อนหน้า ทำเอาเรี่ยวแรงของเด็กหนุ่มแทบไม่เหลือหลอ
หากมิใช่เพราะย่อยโอสถไปมากแล้วเมื่อเทียบกับตอนที่ล่า ‘หลวงพ่อ’ ก็คงยากที่เขาจะมีพลังวิญญาณมากพอให้เผาผลาญทั้งหมดนี้ได้
ฟรังก้าที่ฟื้นตัวจาก ‘ข่มขวัญ’ เดินเข้ามา ส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย
“ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้เลย ทำยังกับไม่มีผู้ช่วยไปได้”
ทำไมต้องสู้แบบไม่มีกั๊ก จนทุกสิ่งแห้งเหือดแบบนี้?
ต่อให้ไม่มีไพ่อาร์คาน่าใหญ่ซุ่มรออยู่ ต่อให้ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ หนีออกจากโรงพยาบาลจิตเวชสำเร็จ แต่อีกฝ่ายก็ยังทิ้งเลือดไว้บ้าง สามารถนำมาสาปแช่งได้ไม่ใช่หรือ?
ลูเมี่ยนไม่ตอบ เดินด้วยฝีเท้าโงนเงนเข้าหา ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ที่หมดสติ
……………………………………………………..