ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 396 เลวบริสุทธิ์
- Home
- All Mangas
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 396 เลวบริสุทธิ์
ตอนที่ 396 เลวบริสุทธิ์
ลูเมี่ยนขอบคุณ รับกองกระดาษมา จุดโคมไฟคาร์ไบด์ อ่าน ‘คำให้การ’ อย่างรวดเร็ว
เฮล่าอ่านจบแล้ว ทำเครื่องหมายข้อมูลสำคัญ ช่วยประหยัดเวลาให้ลูเมี่ยน อีกทั้ง เด็กหนุ่มยังไม่ค่อยรู้เรื่องราวในอดีตของสมาคมวิจัยลิงบาบูนขนหยิก ถ้าให้เลือกเอง อาจไม่สามารถเข้าใจประเด็นสำคัญได้แม่นยำ
หลังอ่านเกือบชั่วโมง ลูเมี่ยนเข้าใจภาพรวมคร่าวๆ แล้ว
“สมาชิกกลุ่มวันเอพริลฟูลมีไม่มาก ความถี่ในการชุมนุมส่วนตัวไม่มาก แกล้งกันส่วนตัวไม่มาก กิจกรรมหลักๆ จัดอยู่ในสามสถานที่ คือกรุงทรีอาร์ กายา—แคว้นชายฝั่งของอาณาจักรเฟเนพ็อต และไบลัมตะวันตกบนทวีปใต้”
“สมาชิกหลักที่เข้าร่วมชุมนุมในทรีอาร์มี ‘โลกิ’ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ และ ‘นังบ้า’”
“คนที่เคยเล่นพิเรนทร์ในพิธีบูชาทะเล ณ ท่าเรือซานตาในแคว้นกายา มี ‘กวีเร่ร่อน’ ‘อุลตร้าแมน’ ‘นังบ้า’ รวมถึงสมาชิกในกลุ่มอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกหลอกใช้…คนที่เคยปลุกปั่นนักศึกษาประท้วงในโตเลย์ เมืองหลวงแคว้นกายา มี ‘กวีเร่ร่อน’ กับ ‘อุลตร้าแมน’ …”
“สมาชิกหลักที่เข้าร่วมกิจกรรมเล่นพิเรนทร์ที่ไบลัมตะวันตก ทวีปใต้ มี ‘ฮิโซกะ’ กับ ‘นังบ้า’”
“ในชุมนุมส่วนตัวครั้งหนึ่งในทรีอาร์ โลกิเคยพูดติดตลกว่า เขาได้รับมรดกเป็นปราสาทเก่าแก่หลังหนึ่ง”
“ในการชุมนุมอีกครั้งในทรีอาร์ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ เกิดไอเดียใหม่ อยากสะกดจิตพวกจิตแพทย์ ให้อีกฝ่าย ‘คิดได้เอง’ ว่า การทำลายกลีบสมองส่วนหน้า จะช่วยรักษาอาการทางจิตบางชนิด…”
แผนการรักษาที่เต็มไปด้วยเจตนาร้าย ทำให้ผู้ป่วย ‘สงบนิ่ง’ ไปตลอดกาล ซึ่งมาดามซูซี่ประณามอย่างแข็งกร้าว แท้จริงแล้วเป็นการเล่นพิเรนทร์ของ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ นี่เอง…ก็จริง มีเพียงคนจากอีกโลกเท่านั้น จึงจะข้ามขั้นตอนวิจัยทางการแพทย์ แล้วเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นมาเลย…
เป้าหมายของมันคือ ดูว่าจิตแพทย์ในโลกนี้โง่เขลา หัวรั้น และต่ำช้าถึงเพียงนั้นหรือไม่ อยากสร้างโศกนาฏกรรมที่น่าขบขันและสะเทือนใจในระดับหนึ่ง เพื่อให้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การแพทย์…ผู้ป่วยหลายสิบหลายร้อยคนที่ ‘วิญญาณ’ สงบนิ่งไปตลอดกาล คงไม่มีวันได้ทราบว่า ประสบการณ์อันน่าสังเวชของพวกตน เกิดจากการเล่นพิเรนทร์อันโหดร้ายปราศจากมนุษยธรรม…
โลกิกับ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ชั่วร้ายกว่าที่เราคิดไว้มาก…ลูเมี่ยนอ่านหน้าสุดท้ายของ ‘คำให้การ’ แล้วส่ายศีรษะโดยไม่รู้ตัว
เด็กหนุ่มเคยคิดว่าตอนเร่ร่อน ตนได้เห็นด้านชั่วร้ายที่สุดของมนุษย์หมดแล้ว — เพียงเพื่ออาหารเล็กน้อย เพียงเพื่อหนีจากปัญหา เพียงเพื่อระบายอารมณ์ บางคนถึงกับฆ่าคนเร่ร่อนอื่น บางคนฉวยโอกาสขณะเพื่อนหลับ ขายเพื่อนให้เหมือง บางคนล่อลวงเด็กข้างถนน บางคนรังแกคนอ่อนแอรอบตัว ทำให้อับอายด้วยวิธีต่างๆ นานา บางคนรวมกลุ่ม ขับไล่คนเร่ร่อนอื่นทุกวัน ไม่สนว่าพวกเขาจะเป็นตายร้ายดี
แต่ตอนนี้ ลูเมี่ยนพบว่า ความชั่วร้ายข้างต้น เมื่อเทียบกับความต่ำทรามของโลกิ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ และสมาชิกหลักคนอื่นของวันเอพริลฟูล ชัดเจนว่าระดับต่างกัน ยังเลวไม่บริสุทธิ์พอ
“ปีศาจแห่งนรกเห็นพวกมัน ต้องเรียกพ่อทูนหัวสักที หลวงพ่อเทียบกับพวกมันแล้ว ถือเป็นนักบุญได้เลย” ลูเมี่ยนรำพัน จินตนาการถึงการเผาไหม้คนพวกนี้ในหัวซ้ำไปซ้ำมา
เด็กหนุ่มถอนหายใจ ดึงข้อมูลที่มีประโยชน์จาก ‘คำให้การ’ เหล่านี้ รวมถึงสิ่งที่มาดามเฮล่าทำเครื่องหมายไว้
“สมาชิกสมาคมวิจัยลิงบาบูนขนหยิกอย่างน้อยแปดคน ต้องสงสัยว่า เสียชีวิตจากการแกล้งโดยตรงหรือโดยอ้อมของกลุ่มวันเอพริลฟูล…”
“‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ก็เหมือนโลกิ เข้าร่วมทุกชุมนุมส่วนตัวในทรีอาร์ แต่ไม่เคยไปแคว้นกายาของอาณาจักรเฟเนพ็อต ไม่เคยไปไบลัมตะวันตก แสดงว่ามันก็น่าจะอยู่ในทรีอาร์…”
“ในทำนองเดียวกัน ‘กวีเร่ร่อน’ กับ ‘อุลตร้าแมน’ น่าจะอยู่ในแคว้นกายาของเฟเนพ็อต ส่วน ‘ฮิโซกะ’ อยู่ทางตะวันตกของทวีปใต้…”
“‘นังบ้า’ เข้าร่วมการชุมนุมในทุกสถานที่ ซึ่งการชุมนุมส่วนตัวในแต่ละครั้ง จะมีการนัดหมายล่วงหน้าหนึ่งเดือน แสดงว่า ‘นังบ้า’ มีพลังหรือของวิเศษประเภท ‘เทเลพอร์ต’ …”
“มุกตลกของโลกิ ที่บอกว่าสืบทอดปราสาทเก่ามา สอดคล้องกับความฝันของมันเอง บางที เราอาจเริ่มจากรูปร่างของปราสาท เพื่อตามหาแหล่งกบดานของโลกิ…”
“‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ แสดงความรู้ทางการแพทย์ในชุมนุมอย่างกว้างขวาง ไม่จำกัดเฉพาะด้านจิตวิทยา…มันอาจเป็นแพทย์ทั่วไปที่เก่งมากก่อนข้ามมิติ หรือครอบครองร่างของแพทย์อาวุโส…คนแบบนี้พอจะปลอมตัวเป็นหมอในชีวิตประจำวันได้ไหม? เงื่อนไขกับฝีมือของมัน เพียงพอที่จะปลอมตัวได้แนบเนียน อีกทั้งยังเป็นโอกาสทำเงิน…”
“‘กวีเร่ร่อน’ ชอบสะสมไดอารีของจักรพรรดิโรซายล์เป็นพิเศษ อีกทั้งเย้ยหยันด้วยสารพัดวิธี…หรือว่าหนังสือ ‘บันทึกลับของโรซายล์มหาราช’ จะเป็นผลงานของมัน?”
“‘อุลตร้าแมน’ กับ ‘ฮิโซกะ’ ค่อนข้างเงียบในชุมนุม ไม่ได้ทิ้งรายละเอียดที่น่าขบคิดไว้…”
อาศัยข้อมูลดังกล่าว ลูเมี่ยนเริ่มกำหนดทิศทางการสืบเบื้องต้น
หนึ่ง ค้นหาปราสาทเก่าในความฝันของโลกิ สอง เริ่มจากวงการแพทย์ ดูว่าจะพบเบาะแสของ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ได้หรือไม่ สาม รอจนกว่าจะยืนยันในการชุมนุมครั้งต่อไป ว่าไม่มีผู้เขียน ‘บันทึกลับของโรซายล์มหาราช’ ในหมู่สมาชิกปัจจุบันของสมาคมฯ แล้ว จึงค่อยเริ่มสืบหาต้นฉบับ
สำหรับคนอื่น รอจนกว่าจะจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จ มีความคืบหน้ามากขึ้น ค่อยมาพิจารณากันอีกที
ถัดมา ลูเมี่ยนอัญเชิญ ‘กระต่ายพิทยา’ ให้มันคัดลอกเอกสาร แล้วส่งให้มาดามเมจิกเชี่ยน
…………
“นี่คือ?” จินนามองกะโหลกเงินบริสุทธิ์ที่โผล่ออกจากความมืด ไม่ค่อยกล้าสบตาเปลวไฟสีขาวซีดในโพรงตาของอีกฝ่าย
ฟรังก้ายิ้มแห้งๆ ระคนกระอักกระอ่วน
“นี่คือผู้ส่งสารของมาดามผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น เธอช่วยเรียบเรียง ‘คำให้การ’ ของพวกลิ่วล้อให้เรา”
ฟรังก้ารีบคว้าปีกกระดาษหนาๆ ที่กะโหลกคาบอยู่ในปาก ไม่ปล่อยให้จินนาได้อ่านก่อนตัวเอง
เพราะนั่นจะเปิดเผยสมาคมวิจัยลิงบาบูนขนหยิก!
จินนามองกะโหลกเงินบริสุทธิ์หายลับไปในความมืด ถามด้วยความงุนงงปนสงสัย
“ผู้ส่งสารคืออะไร”
“ก็เหมือนบุรุษไปรษณีย์ในโลกของศาสตร์เร้นลับ เป็นบุรุษไปรษณีย์ประจำตัว” ฟรังก้าอธิบายง่ายๆ
จินนาหันไปมองฟรังก้า
“เธอมีไหม”
ฟรังก้าเงียบไปครู่
“ต้องถึงลำดับที่แน่นอน แล้วต้องเป็นเส้นทางเฉพาะ หรือไม่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากที่กล่าวมา จึงจะมีได้”
“อ้อ…เธอไม่มีสินะ…” จินนาแปลความนัยแฝงในคำพูดของฟรังก้าออก
หญิงสาวถามด้วยความปรารถนา
“เส้นทาง ‘นางมาร’ ต้องถึงลำดับใด ถึงจะมีผู้ส่งสารได้”
ฟรังก้าเงียบอีกครั้ง
“ลำดับ 4 ตามที่ฉันรู้ก็ยังไม่มี”
ตอบเสร็จ เธอพึมพำเบาๆ
“ฝีมือการยั่วยุของเธอ ย้ายไปเส้นทาง ‘นักล่า’ ได้เลยนะเนี่ย”
จินนาหัวเราะในคอ ก่อนจะพูดไปพลางนึก
“ตอนช่วยชาร์ลดูข้อมูลสัตว์โลกวิญญาณครั้งก่อน ฉันเหมือนจะเห็นคำอธิบายว่า ‘เหมาะเป็นผู้ส่งสาร’ ในบางตัว พวกเรามีวิธีเรียกพวกมันออกมา แล้วทำสัญญาผู้ส่งสารไหม?”
“ไม่ได้ เอ่อ…ก็ใช่ว่าจะไม่ได้” ฟรังก้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ยังมีวิธียืมพลังจากมิสเตอร์ฟูล ขอให้ช่วยอัญเชิญสัตว์โลกวิญญาณออกมา แล้วรบกวนให้พระองค์เป็นสักขีพยานในสัญญา คล้ายกับการทำสัญญาของชาร์ล
เห็นฟรังก้าครุ่นคิด จินนาเงียบรอ ไม่ได้พูดอะไร
สักพักหนึ่ง ฟรังก้าพยักหน้าช้าๆ
“ฉันนึกวิธีหนึ่งออก ไว้เราค่อยมาลองดู ว่าพอจะเป็นไปได้ไหม”
เธอหันไปทางจินนา
“ฉันจะเรียบเรียงคำให้การพวกนี้ เธอไม่ต้องนอนดึกหรอก เช้าพรุ่งนี้ต้องไปกรงพิราบเก่าอีกนะ”
จินนาไม่ถามเซ้าซี้ เดินออกจากห้องนอนของฟรังก้าไป
ฟรังก้าถอนหายใจ ดึงโทรเลขฉบับหนึ่งที่เพิ่งถูกส่งมา
มาจาก 007 อีกเช่นกัน
“ดาบซ่อนแขน คุณจะย้ายออกจากเขตตลาดเมื่อไร?”
“ตั้งแต่คุณย้ายเข้ามา เรื่องแย่ๆ ก็ถาโถมเข้ามาไม่หยุด ผมแทบจะเป็น 007 ตัวจริงอยู่แล้ว คุณนี่มันหายนะเดินดินชัดๆ!”
“บ๊ะ!” ฟรังก้าถ่มน้ำลาย พูดกับตัวเอง “ใช่ความผิดของฉันหรือ? มันความผิดของชาร์ลต่างหาก!”
ตั้งแต่ลูเมี่ยนมาถึงเขตตลาด ชีวิตของเธอก็ไม่สบายเหมือนแต่ก่อนอีก
เรื่องโลกิเพิ่งสงบลง รอยแตกเล็กๆ บนผิวหนังยังไม่ฟื้นตัวดีนัก พรุ่งนี้บ่ายเธอต้องไปเมืองชาโยอีก ไปสืบหาผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงรื่นเริงสตรีในร้านกาแฟเรือนแดง รวมถึงไปพบหญิงสาวที่ต้องสงสัยว่า เป็นสมาชิกนิกายนางมาร
…………
เลยเก้าโมงเช้ามาเล็กน้อย หลังเสร็จการออกกำลังกาย เสร็จมื้ออาหารเช้า ลูเมี่ยนพบว่าตัวเองว่างเป็นพิเศษ
ทางฝั่งชุมนุมกางเขนเลือดเหล็ก ต้องรอคำเชิญครั้งต่อไปของปุยฟ์·เซารอน ส่วนองค์กร ‘คนบาป’ ก็ต้องปิดข่าวไว้ก่อน ไม่ทำให้ชายปริศนาที่แวะมาเยี่ยมเป็นครั้งคราวแตกตื่น ในเรื่องของฮิวจ์·อาร์ทัวส์ อ็องโตนี·รีดจะรับผิดชอบเอง ยังไม่ถึงขั้นต้องให้เขาช่วย สำหรับการตามหาสมาคมเสียวซ่าน เด็กหนุ่มยังไม่สะดวกจะแอบตามฟรังก้าไป เพราะเธอกำลังจะเข้าใกล้คนของนิกายนางมาร ส่วนเบาะแสปราสาทเก่าของโลกิ รวมถึงเบาะแสของ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ทิศทางการสืบหามีแล้ว แต่ยังขาดจุดเริ่มต้น
ลูเมี่ยนคิดไปคิดมา รู้สึกว่าสิ่งที่ทำได้ และควรทำที่สุดตอนนี้คือ การสวมบทบาท ‘นักวางเพลิง’ แต่เขตตลาดกำลังอยู่ในช่วงอ่อนไหว ไม่รู้ว่ามีผู้ใหญ่กี่คนกำลังจับตา เขาต้องหาโอกาสที่ปลอดภัยพอ
หรือจะใช้เวลาว่างตรงนี้ รายงานให้มิสเตอร์ K ทราบ แล้วถามอีกฝ่ายว่า มีงานที่เหมาะจะสวมบทบาทนักวางเพลิงให้ทำบ้างไหม…ขณะลูเมี่ยนคิดไปเรื่อยเปื่อย ก็เดินผ่านคาบาเร่ต์โรงโม่ที่อยู่อีกฝั่งของถนนอลเวง
นี่ถือเป็นกิจการของเขา ปัจจุบันให้นักล่าเงินรางวัลลูกาโน·ทอสคาโน กับลูอิสจากพรรคซาฟาห์ เป็นคนคุมแทน
ลูเมี่ยนครุ่นคิดสองสามวินาที เดินเข้าไปในคาบาเร่ต์โรงโม่
ตอนนี้คาบาเร่ต์ยังไม่เปิดให้บริการ พนักงานทุกคนทักทายลูเมี่ยนอย่างสุภาพนอบน้อม แต่ไม่กล้าเข้าใกล้
ลูเมี่ยนเห็นลูกาโน·ทอสคาโนได้ไม่ยาก นักล่าเงินรางวัลหน้าตาหล่อเหลา คิ้วหนา ตาโต รูปร่างกำยำผู้นี้ ยังคงสวมชุดสูทราคาถูก และหมวกทรงสูงสีดำเช่นเคย
เขาถือนิตยสารเล่มหนึ่ง ยิ้มต้อนรับลูเมี่ยน
“ลูกพี่ ลมอะไรหอบมาหรือ”
ลูเมี่ยนไม่ตอบ ตาจ้องแต่มือของลูกาโน
“นายกำลังอ่านนิตยสารอะไร”
“‘พื้นฐานการแพทย์’ ครับ” ลูกาโนอวดหนังสือในมืออย่างประจบ
พื้นฐานการแพทย์…ลูเมี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“อ่านทำไม?”
ถ้าเป็น ‘คู่มือปฐมพยาบาล’ ยังพอเข้าใจได้
“ลำดับต่อไปของผมคือ ‘แพทย์’ แม้โอสถจะมอบพลังวิเศษที่เกี่ยวข้องให้เลย แต่ถ้ามีความรู้ทางการแพทย์ ก็น่าจะช่วยให้ผมใช้ความสามารถได้ดีขึ้น นอกจากนั้น ผมยังอยากสวมรอยเป็นหมอตัวจริงเพื่อหาเงิน”
ได้สวมบทบาทแบบฟลุกๆ …แพทย์… ลูเมี่ยนฉุกคิดบางอย่างได้ จึงเอ่ยถาม
“นายเคยได้ยินเรื่องการผ่าตัดตัดกลีบสมองส่วนหน้าไหม”
……………………………………………………..