ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 395 ความคืบหน้าอีกด้านหนึ่ง
- Home
- All Mangas
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 395 ความคืบหน้าอีกด้านหนึ่ง
ตอนที่ 395 ความคืบหน้าอีกด้านหนึ่ง
อ็องโตนี·รีด ‘นักจิตบำบัด’ เจ้าของรูปลักษณ์ชายวัยกลางคน มองรอยยิ้มของลูเมี่ยน แล้วพูดด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“พฤติกรรมของคุณบ่งบอกว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคุณพอสมควร”
เชี่ย…บอกได้ทันทีเลยหรือ? ลูเมี่ยนมั่นใจว่ารอยยิ้ม สีหน้า และท่าทางของตนเองดูปกติดี คำตอบก็ไม่โดดเด่น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรได้
อ็องโตนี·รีดพูดต่อไป
“รอยยิ้มกับท่าทางของคุณเมื่อครู่ มีความภาคภูมิใจปะปนอยู่”
“และท่าทีของคุณในตอนนี้ บ่งบอกว่าเรื่องดังกล่าว เกี่ยวพันกับคุณค่อนข้างลึกซึ้ง”
ยังไม่ทัน ‘อ่านใจ’ ก็มองออกแล้วหรือ? ลูเมี่ยนเพิ่งรู้ตัวว่า สีหน้าหรือท่าทางที่ตนเชื่อว่าไร้ปัญหา อาจซ่อนข้อมูลบางอย่างในสายตาของ ‘นักจิตบำบัด’
อ็องโตนี·รีดพูดอย่างสงบ
“ที่ผมบอกผลการแปลความหมายให้ฟัง ก็เพื่อเตือนคุณว่า ในอนาคต หากเจอ ‘นักจิตบำบัด’ แล้วอยากจะโกหก ก็ควรจะเตรียมใจให้ดีก่อน ลองซ้อมสิ่งที่จะพูดในใจสักรอบ หลอกตัวเองว่าอยู่ในสถานการณ์จริง”
“เรื่องบรรยากาศประหลาดบนถนนเสื้อนอกขาว ถ้าคุณไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า ผมเองก็ไม่เหลือแรงจะไปเก็บข้อมูลเรื่องนี้มาขายเช่นกัน”
ลูเมี่ยนไตร่ตรองคำพูดของอ็องโตนี แล้วพยักหน้ารับ ก่อนจะถามว่า
“คุณสืบเรื่องของนายพลฟิลิปถึงไหนแล้ว ให้พวกเราช่วยอะไรไหม?”
อ็องโตนี·รีดกวาดตามองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่ายามนี้ไม่ค่อยมีผู้เช่าเดินไปมาในล็อบบี้ และนางเฟลส์ก็อยู่ค่อนข้างไกล เขาจึงพูดเสียงเบา
“ตอนนี้ภรรยาหม้าย ลูกๆ รวมถึงเพื่อนสนิทสมัยที่นายพลฟิลิปยังมีชีวิตอยู่ ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ ใช้ชีวิตไม่ต่างจากคนทั่วไป”
“แต่ผมพบว่า ภรรยาม่ายของนายพลฟิลิป บริจาคเงินจำนวนมากให้กับองค์กรการกุศลชื่อ ‘นักล่าฝัน’ ทุกไตรมาส รวมแล้วเกือบเท่ากับครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินที่พวกเขาเปิดเผยต่อสาธารณะ”
“ใจกว้างจังเลยนะ” ลูเมี่ยนครุ่นคิดแล้วถาม “แล้ว ‘นักล่าฝัน’ เป็นองค์กรการกุศลแบบไหน”
อ็องโตนี·รีดตอบ
“ผมกำลังตามสืบอยู่ ตอนนี้รู้แค่ว่า จุดมุ่งหมายของพวกเขาคือ คอยให้ความช่วยเหลือระดับหนึ่งแก่คนหนุ่มสาวที่มีความสามารถ ซึ่งมายังกรุงทรีอาร์เพื่อไล่ล่าความฝัน แต่ประสบปัญหาชั่วคราว…ตัวองค์กรมิได้สังกัดสองศาสนจักรใหญ่ ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ แต่เป็นองค์กรการกุศลเอกชน เงินบริจาคนำมาจากชนชั้นสูงเป็นหลัก”
ลูเมี่ยนแค่นหัวเราะ แล้วกำชับด้วยน้ำเสียงเสียดสี
“ตอนที่คุณสืบเรื่อง ‘นักล่าฝัน’ ระวังตัวไว้หน่อยก็ดี แต่ถึงไม่ระวังก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยผมก็รู้แล้วว่า หากคุณหายตัวไปกะทันหัน หรือเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ปัญหาหลักๆ ก็คงมาจากองค์กรการกุศลนั่น”
อ็องโตนี·รีดลูบผมสีเหลืองอ่อนของตน
“สบายใจได้ ผมเป็นคนขี้ขลาด กลัวตาย ได้ยินเสียงปืนยังต้องหลบเลย ถ้าได้กลิ่นอันตรายจริง ผมก็ไม่อายที่จะมาขอความช่วยเหลือจากคุณ แล้วอีกอย่าง นี่ก็เป็นเรื่องที่คุณเคยรับปากผมไว้”
เขาพูดต่อโดยไม่รอการตอบสนอง
“ภรรยาของกิโยม·เบเนต์ อาศัยอยู่ที่ถนนระเบียง บ้านเลขที่ 20 ในเขตห้องสมุดมาตลอด ไม่พยายามย้ายออกไป”
“ผมติดสินบนชาวบ้านแถวนั้นไว้บ้าง พวกเขาเพิ่งรายงานว่า มีชายลึกลับมาหาคุณนายตอนกลางดึกเป็นครั้งคราว สงสัยว่าจะแอบมีชู้”
‘โฉมงามชูรส’ ปอลีนาคนนั้น…เธอหนีมาที่ถนนระเบียงแล้วไม่ย้ายออกไป แสดงว่ากลับมารู้สึกปลอดภัยอีกครั้งแล้ว กอปรกับข่าวลือจากเพื่อนบ้าน เธอน่าจะกลับมาติดต่อกับบูวาร์·ปงแปโรจากองค์กร ‘คนบาป’ ด้วยเช่นกัน…ลูเมี่ยนคลี่ยิ้ม
“บอกสายของคุณ ให้สรุปรูปแบบการมาเยือนของชายลึกลับให้หน่อย ทางเราจะได้วางแผนจับคาหนังคาเขา”
ยังไงก็ต้องจับตัวบูวาร์·ปงแปโร ผู้ประสานงานขององค์กรคนบาปให้ได้!
มีเพียงวิธีนี้ ลูเมี่ยนจึงจะมีโอกาสตามรอยองค์กรคนบาป เพื่อค้นหาครอบครัวของโรช·หลุยส์·ซ็องซง
ทีแรก เด็กหนุ่มคิดว่าจะเริ่มสืบจากนามสกุลซ็องซง โดยเล็งฌัก·ซ็องซง อดีตผู้สมัครสส. เขตตลาดเป็นเป้าหมายหลัก แต่ภายหลังพบว่า ซ็องซงถือเป็นนามสกุลใหญ่ของอินทิส มีคนใช้นามสกุลนี้นับไม่ถ้วน ส่วนครอบครัวของฌัก·ซ็องซงค่อนข้างเรียบง่าย ไม่มีความผิดปกติออกนอกหน้า ไม่ปรากฏเหตุการณ์ญาติพี่น้องหรือลูกสาวหายตัวไป
จนแล้วจนรอด ลูเมี่ยนต้องสืบสวนองค์กร ‘คนบาป’ ที่ศรัทธาในชะตากรรมไปก่อน เพื่อตามหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าของร่างเดิมของโอลัวร์
เขารู้สึกว่า เรื่องที่พวกโลกิจ้องเล่นงานโอลัวร์ ยังมีเงื่อนงำอยู่ไม่น้อย ระดับราชันสวรรค์ฟ้าดินประทานโชคไม่น่าจะมอบคำสั่งลงมาโดยตรง ให้โลกินำทางมักเกิ้ล ใช้มนตร์เรียกวิญญาณกับตัวเอง
นี่ไม่เพียงไม่สอดคล้องกับ ‘ศักดิ์’ หรือบุคลิกของเทพ ราชันสวรรค์ฟ้าดินประทานโชคกำลังต่อสู้กับมิสเตอร์ฟูลอย่างดุเดือด สถานการณ์ไม่น่าจะดีถึงขนาดนั้น
นอกจากนี้ โอลัวร์ไม่เคยเข้าร่วมการชุมนุมในชีวิตจริงกับกลุ่มวันเอพริลฟูลเลยสักครั้ง เช่นนั้นแล้ว ภายในพระราชวังโบราณ ‘อาณาจักรราตรี’ ซึ่งต้องอาศัยพลัง ‘ปกปิด’ จึงจะเข้าไปได้ เหตุใดโลกิถึงดูออกว่า เจ้าของร่างเดิมของเธอเป็นสาวกเทพมาร?
ลูเมี่ยนคิดว่า อาจเป็นไปได้ว่าโอลัวร์ถูกจิตสำนึกที่ยังหลงเหลือของโรช·หลุยส์·ซ็องซง ตามรังควานมานานแล้ว เคยไปหา ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ เพื่อให้ช่วยบำบัด จนเผลอเปิดเผยความลับ จึงถูกจับตามอง หรือไม่ก็ มีใครสักคนในสมาชิกหลักๆ ของกลุ่มวันเอพริลฟูล มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับองค์กร ‘คนบาป’ จึงบังเอิญรู้เรื่องของโรช·หลุยส์·ซ็องซง
อ็องโตนี·รีดเห็นลูเมี่ยนสามารถระงับความร้อนใจ สามารถรอคอยอย่างอดทน ให้ชายลึกลับที่มาเยี่ยมภรรยาของกิโยม·เบเนต์ทิ้งร่องรอยเพิ่มเติมเสียก่อน จึงพยักหน้าชมเชยเบาๆ
…………
ถนนใหญ่ตลาด คาบาเร่ต์ลมเอื่อย
พอลูเมี่ยนมาถึงหน้าบันได ก็เห็นซาโกตารออยู่ตรงนั้น
“บอสอยู่ข้างบน” ซาโกตาพูดเสียงเบา
เขาตามบารอนบรินิแยร์มานาน โดยไม่เคยรู้ว่าใครคือบอสใหญ่ของพรรคซาฟาห์ แต่พอเปลี่ยนเป็นให้ชาร์ลคุมคาบาเร่ต์ลมเอื่อยแทน บอสกลับมาที่นี่ด้วยตัวเองถึงสองครั้งแล้ว!
บอสมาทำอะไร? ลูเมี่ยนรีบทบทวนเหตุการณ์ตลอดสองวันมานี้ ไม่นานก็เริ่มเข้าใจ
เขาเดินขึ้นชั้นสอง เห็นการ์ดเนอร์·มาร์ตินสวมสูทเต็มยศ แต่ไม่ผูกหูกระต่าย กำลังละเมียดกาแฟอย่างไม่รีบร้อน
“คุณไปไหนมา” การ์ดเนอร์·มาร์ตินวางถ้วย แล้วถามพร้อมรอยยิ้ม
ลูเมี่ยนตอบไปตามจริง
“ไปคุยกับนักค้าข่าวอ็องโตนี·รีดมาครับ ผมเคยฝากให้เขาคอยจับตาดูภรรยาหม้ายของกิโยม·เบเนต์ ศัตรูที่ผมเพิ่งกำจัดไป ดูว่าเธอแอบติดต่อกับใครบ้าง”
“ผมเชื่อว่า มีองค์กรลับที่ศรัทธาเทพมารคอยหนุนหลังกิโยม·เบเนต์อยู่”
การ์ดเนอร์·มาร์ตินหัวเราะเบาๆ
“ไม่คิดจะปล่อยแม้แต่องค์กรเดียวเลยสินะ? คุณโหดเหี้ยมกว่าที่ผมจินตนาการไว้อีก อา…หากคิดจะรับมือกับองค์กรลับ ซึ่งศรัทธาในเทพมาร เราสามารถพึ่งพาอำนาจของทางการได้บ้าง”
โดยไม่รอให้ลูเมี่ยนตอบ เขาถามอีกครั้ง
“เมื่อคืนคุณสัมผัสถึงกลิ่นอายอันป่าเถื่อนและน่าพรั่นพรึงบ้างไหม”
ลูเมี่ยนพยักหน้าอย่างซื่อสัตย์
“รู้สึกครับ”
ก็อยู่ตรงนั้นเลยนี่นา…
เด็กหนุ่มระลึกถึงสภาพขณะที่ร่างกายตน กำลังสั่นพ้องเป็นหนึ่งเดียวกับออร่าของจักรพรรดิโลหิต แล้วเสริมอีกสองประโยค
“ตอนนั้น เลือดในตัวผมเดือดพล่านเหมือนจะลุกเป็นไฟ”
“ผมกะจะตามไปดูต้นตอของกลิ่นอาย แต่ผู้วิเศษทางการเคลื่อนไหวรวดเร็วกว่า ปิดล้อมถนนเสื้อนอกขาวไว้เสียก่อน”
การ์ดเนอร์·มาร์ตินพอใจกับความซื่อสัตย์ของลูเมี่ยนมาก
“รอจนผู้วิเศษทางการผ่อนปรนความเข้มงวดลง คุณลองไปที่ถนนเสื้อนอกขาว บ้านเลขที่ 6 ดู บางทีอาจจะเจออะไรก็ได้”
“ได้ครับ” ลูเมี่ยนตอบตกลงอย่างเต็มใจ
การได้ย้อนกลับไปยังจุดเกิดเหตุ ก็ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจอยู่
…………
ดึกสงัด ถนนเสื้อนอกขาว เลขที่ 3 ห้อง 601 ในห้องของฟรังก้า
‘นางมารสุขสม’ นั่งข้างเครื่องพิมพ์ดีดและเครื่องรับโทรเลข อ่านข้อความที่ได้รับไปพลาง พูดกับจินนาที่นั่งอยู่ข้างเตียงไปพลาง
“เรื่องมีอยู่ว่า ชาร์ลเจอศัตรูคนใหม่อีกแล้ว ไอ้หมอนั่นเป็น ‘นักเชิดหุ่น’ ลำดับ 5 ของเส้นทาง ‘นักทำนาย’ เป็นสมาชิกของหน่วยแปด ทั้งเจ้าเล่ห์และอันตรายสุดกู่ ไม่เพียงจับได้ว่าทางเราพยายามแกะรอย มันยังย้อนเกล็ดกลับมาโจมตีเราด้วย…”
ฟรังก้าข้ามส่วนของสมาคมวิจัยลิงบาบูนขนหยิกไป แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดรอบหนึ่ง
ในเรื่องราวนี้ ตัวตนของเฮล่าคือผู้วิเศษฝีมือดีที่ถูกจ้างมา ผ่านชุมนุมศาสตร์ลึกลับสักแห่ง
พอพูดถึงตอนจบ ฟรังก้ากางมือออก
“ตอนนั้นฉันหมดสติไป ไม่รู้เรื่องกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวอะไรนั่นเลย พอตื่นขึ้นมา พวกเราก็ย้ายไปอยู่ใต้ดินกันหมดแล้ว ‘นักเชิดหุ่น’ เจ้าของโค้ดเนมโลกิก็ตายแล้ว ชาร์ลกำลังเผาศพมันอยู่ ส่วนมาดามคนนั้นยืนมองอยู่ข้างๆ”
จินนาทึ่งกับความสามารถ ทึ่งกับฤทธิ์เดชของ ‘นักเชิดหุ่น’ จนถึงกับต้องขดตัวเข้าหากัน รู้สึกเหมือนคืนฤดูร้อนเย็นลงไปอีกหลายองศา
เมื่อเห็นท่าทางดังกล่าว ฟรังก้าจึงฉวยโอกาสพูด
“ยังมีเรื่องน่ากลัวกว่านี้อีก!”
เธอสรุปทุกอย่างที่พูดได้อย่างรวบรัด จินนาฟังแล้วก็พลันเย็นยะเยือกไปถึงสันหลัง เขยิบเข้าหาฟรังก้าอีกสองสามจังหวะโดยไม่รู้ตัว
“บัดซบ! ยังมีวีรกรรมอะไรของพวกเธอที่ฉันไม่รู้อีกบ้าง?” จินนาใช้คำหยาบเสริมความกล้าให้ตัวเอง
“ไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นชาร์ลต่างหาก!” ฟรังก้าเตรียมจะเล่าเรื่องสยองขวัญเพิ่มอีกสักหน่อย แต่เครื่องรับโทรเลขส่งข้อความขัดจังหวะเสียก่อน
เครื่องวิเคราะห์อันซับซ้อน แปลข้อความโดยอัตโนมัติ แล้วส่งผ่านเครื่องพิมพ์ดีดที่เชื่อมต่อ ออกมาเป็นกระดาษแผ่นหนึ่ง
ฟรังก้าหยิบขึ้นมาอ่าน พบว่ามาจาก ‘007’
“ดาบซ่อนแขน คุณพอจะรู้ไหมว่า กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวเมื่อคืนในเขตตลาด เกิดจากอะไร?”
ฟรังก้าพิมพ์ตอบกลับโทรเลขอย่างรวดเร็ว
“ทางนี้ไม่ได้อยู่ในเขตตลาดสักหน่อย ทำไมถึงคิดว่าฉันจะรู้ล่ะ?”
007 ตอบกลับอย่างไวว่อง
“ข้อมูลที่คุณเคยให้ผม ความช่วยเหลือที่ผมเคยให้คุณ ส่วนใหญ่อยู่ในเขตตลาด หรือเกี่ยวพันกับเขตตลาดอย่างแนบแน่น ถ้าคุณไม่ได้อยู่เขตตลาดเกินครึ่งปีมานี้ คุณใช้หัวผมเป็นโถส้วมได้เลย!”
ฟรังก้าขำแห้งสองที แล้วตอบกลับภายใต้สายตาของจินนา
“เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันรู้สถานการณ์จริงๆ นั่นแหละ”
“แต่ตอนนี้ยังบอกคุณไม่ได้ รอไปเจอกันในการชุมนุมครั้งหน้า แล้วคุณจะรู้เอง”
…………
ตอนที่ฟรังก้าติดต่อกับ 007 ลูเมี่ยนกำลังพักอยู่ที่ห้อง 207 ในโรงแรมระกาทอง
ช่วงนี้เขาตัดสินใจยังไม่ออกไปหาโอกาสสวมบทบาท เพราะถึงแม้จะได้มาดามเฮล่าช่วยรักษา หลุดพ้นจากภาวะเกือบคลุ้มคลั่ง อีกทั้งร่างกายยังกลับเป็นปกติในตอนหกโมงเช้า แต่จิตใจยังมีปัญหาตกค้างอยู่ไม่เบา ต้องอาศัยเวลา อาศัยการพักผ่อนทำให้ซาลง เหนือสิ่งอื่นใด เด็กหนุ่มยังต้องรอให้มาดามเฮล่าส่ง ‘คำให้การ’ ของชาววันเอพริลฟูลมาให้
ใกล้รุ่งสาง กะโหลกศีรษะสีเงินแวววาว คาบกระดาษหนาๆ ปึกหนึ่งโผล่ออกจากความมืด
……………………………………………………..