ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 304 “มีหน้ามีตา”
- Home
- All Mangas
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 304 “มีหน้ามีตา”
ตอนที่ 304 “มีหน้ามีตา”
เขตถนนหลวง ถนนเฌอร์ ชั้นใต้ดินบ้านเลขที่ 19
แม้ใบหน้าของมิสเตอร์ K จะถูกบังอย่างมิดชิดด้วยฮู้ดใหญ่ แต่ลูเมี่ยนยังสัมผัสถึงความชื่นชมและการยอมรับจากสายตาอีกฝ่าย
มิสเตอร์ K ยืนอยู่หลังเก้าอี้พนักสีแดง ชี้ไปทางโต๊ะไม้แคบๆ ชิดผนังแล้วกล่าว
“เลือกเอาตามใจชอบได้เลย อิงจากมาตรฐานของศาสนจักร พวกมันถือเป็นสมบัติปิดผนึกระดับ ‘2’ … ทุกอันมีจุดเด่นชัดเจน แต่ก็มีผลข้างเคียงเชิงลบที่ค่อนข้างอันตราย แต่ก็ล้วนมีวิธีรับมือ ซ้ำยังอาจนำมาใช้ประโยชน์ได้ในระดับหนึ่ง”
มองตามมือขวาของมิสเตอร์ K ไป ลูเมี่ยนเห็นภาชนะสามชิ้นวางอยู่บนโต๊ะไม้แคบ:
อันหนึ่งเป็นกล่องไม้วิจิตรประดับทับทิม มรกต โมรา และอัญมณีอีกหลายชนิด อีกอันดูเหมือนกระบอกฉีดยาทำจากยาง และอีกอันเป็นขวดปากกว้าง บรรจุของเหลวสีเขียวชวนฝันจนเกือบเต็ม ก้นขวดมีวัตถุสีทองจมอยู่
มิสเตอร์ K เดินไปยังโต๊ะไม้แคบ หยิบกล่องไม้ที่ตกแต่งด้วยอัญมณีหลากชนิดขึ้นมา แล้วเปิดฝาออก
ด้านในมีหน้ากากหนังบางและนุ่ม เมื่อมิสเตอร์ K หยิบขึ้นมาแสดง บนหน้ากากปรากฏใบหน้าเล่นใหญ่ เขียนด้วยสีฝุ่นแดงเหลืองขาว
ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใด เมื่อเห็นใบหน้าดังกล่าว อารมณ์ของลูเมี่ยนก็พลันหดหู่ รู้สึกโศกเศร้าขึ้นมาเล็กน้อย
“ชื่อของมันคือ ‘หน้ากากตัวตลก’” มิสเตอร์ K แนะนำด้วยเสียงแหบพร่า “เมื่อสวมมัน คุณจะสามารถสร้าง ‘ตัวแทน’ ด้วยกระดาษที่ตัดเป็นรูปคน สามารถจุดไฟเผาวัตถุไวไฟในรัศมีห้าสิบเมตร สามารถกระโดดไปมาท่ามกลางเปลวเพลิง สามารถเปลี่ยนตำแหน่งบาดแผลบนร่างกาย บรรเทาจากแผลฉกรรจ์ให้เหลือเพียงแผลเล็ก แต่หนึ่งแผลจะย้ายตำแหน่งได้แค่ครั้งเดียว”
“มันจะผสานเข้ากับใบหน้าของคุณ เปลี่ยนรูปลักษณ์ของคุณ ซึ่งคุณไม่อาจควบคุมได้ โดยจะมอบพลังในการแสดงอารมณ์อันแรงกล้า รวมถึงมอบญาณหยั่งรู้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ”
“จำเป็นต้องเก็บไว้ในภาชนะที่มีมูลค่าสูงมาก มิฉะนั้นจะสร้างอารมณ์ท้อแท้ เจ็บปวด เศร้าโศกให้แก่ผู้คนโดยรอบอย่างต่อเนื่อง ทำให้จิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบบิดเบี้ยวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพังทลาย สำหรับผู้วิเศษแล้ว มักหมายถึงการคลุ้มคลั่ง”
“ด้วยเหตุนี้ ทุกครั้งที่สวมใส่มัน จะต้องไม่เกินสิบนาที และคุณยังต้องพามันไป ‘ดู’ การแสดงตลกสัปดาห์ละครั้ง ไม่อย่างนั้นมันจะพยายามแทนที่คุณในตอนที่คุณสวมมัน กลายเป็น ‘ใบหน้า’ ที่แท้จริงของคุณ”
ย้ายบาดแผล… สมบัติปิดผนึกชิ้นนี้มาจากเส้นทางนักทำนาย… ตรงกับลำดับของมิสลีอาจากหน่วยแปด หรืออาจสูงกว่านั้นเล็กน้อย? ลูเมี่ยนพิจารณาอย่างรวดเร็วโดยผนวกเข้ากับประสบการณ์ตรง
เขารู้สึกว่า ‘หน้ากากตัวตลก’ ค่อนข้างเหมาะกับตน หากนักวางเพลิงได้จับคู่กับ ‘กระโจนไฟ’ ก็ย่อมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากโข
การเปลี่ยนรูปลักษณ์ก็สอดคล้องกับสิ่งที่เขาต้องการ แต่ปัญหาคือ สวมใส่ได้แค่สิบนาที ซึ่งไม่ต่างจากแว่นส่องความลับสักเท่าไร แค่สะดวกกว่าเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากนี้ กระดาษคนตัวแทนและการย้ายบาดแผล ช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของลูเมี่ยนได้อย่างมีนัยสำคัญก็จริง แต่หากเป็นในแง่การรับมือกับซอมบี้ วิญญาณอาฆาต ปีศาจ หรืออัครสาวกแห่งตัณหา พลังเหล่านี้กลับยังขาดหมัดฮุก
ส่วนผลกระทบทางอารมณ์นั้น ลูเมี่ยนในตอนนี้พยายามหลีกเลี่ยงไว้ก่อน ถึงแม้อาการทางจิตของเขาจะถูกบำบัดเบื้องต้นแล้ว แต่เปลวไฟแห่งความเจ็บปวดไม่มีทางดับมอดอย่างแท้จริง มันยังคงซ่อนเร้นอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ หากถูกจุดระเบิดจากการล่มสลายทางอารมณ์ เทอร์มีโพลอสคงได้หัวเราะจนหุบปากไม่ลงแน่
ขณะลูเมี่ยนครุ่นคิด มิสเตอร์ K วางหน้ากากตัวตลกกลับลงไปในกล่องไม้อันวิจิตร และหยิบกระบอกฉีดยาที่ประกอบด้วยสายยางยืดหยุ่น กระบอกแก้ว และเข็มฉีดยาเรียวแหลมขึ้นมา
ของเหลวสีแดงสดนอนนิ่งอยู่ในกระบอกฉีดยา ดูราวกับเพิ่งถูกดูดออกจากร่างกายมนุษย์
มิสเตอร์ K เขย่ากระบอกฉีดยาแผ่วเบาพร้อมกับกล่าว
“ชื่อของมันคือ ‘โลหิตต้นกำเนิด’ เพียงแค่ฉีดเข้าสู่ร่างกาย คุณก็จะสามารถควบคุมเนื้อหนังตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยไม่จำเป็นต้องรักษารูปลักษณ์มนุษย์ ในสภาพดังกล่าว คุณจะปราศจากจุดอ่อน แถมยังสามารถห่อหุ้มเป้าหมายเพื่อกัดกร่อนร่างกาย แทรกซึมเข้าไปในเนื้อหนัง และปลิดชีพศัตรูจากภายใน”
“ขณะเดียวกัน คุณยังสามารถกลายเป็นเงาตัวเอง ผสานกับเงามืดโดยรอบ เพื่อสะกดรอยศัตรูอย่างเงียบเชียบ หรือหลบเลี่ยงการถูกสะกดรอย”
“การฉีดยาแต่ละครั้งจะทำให้คุณใกล้ชิดกับพระองค์ท่านมากขึ้น ใกล้เคียงกับรูปแบบดั้งเดิมและโบราณที่สุดของมนุษย์ คนธรรมดาไม่อาจทนรับสิ่งนี้ได้ ร่างกายจะค่อยๆ พังทลายตามจำนวนครั้งของการฉีด มิอาจหวนกลับสู่รูปลักษณ์เดิมได้อีก จิตใจถูกความมืดครอบงำ กลายเป็นคนกระหายเลือด ตกต่ำดำดิ่งลงสู่ความมืดมิด จนกระทั่งกลายเป็นสัตว์ประหลาดไร้เหตุผล… แต่กับพวกเราแล้วไม่มีอะไรน่ากังวล ตราบใดที่มีศรัทธาพระองค์ท่านอย่างเคร่งครัด คอยสวดวิงวอนถึงพระองค์อยู่เสมอ ก็จะไม่เกิดปัญหาใหญ่หลวงกับร่างกายและจิตใจ”
“ผมเคยฉีดมาหลายครั้งแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังปกติดีมิใช่หรือ”
ฉันไม่เคยมองว่านายปกติเลย… จากเท่าที่ฟัง พลังในการกัดกร่อนเนื้อหนัง อาจใช้รับมือกับซอมบี้ได้… ลูเมี่ยนไม่ถูกโน้มน้าวแม้แต่น้อย
เหนือสิ่งอื่นใด เด็กหนุ่มมิได้ศรัทธาพระผู้สร้างแท้จริง ทุกทีจะอาศัย ‘การชักนำทางจิต’ เพื่อปิดผนึกความทรงจำเกี่ยวกับพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และไม่เคยสวดวิงวอนเลย
“ถ้าไม่ได้ฉีดเข้าร่าง เพียงแค่พกพาติดตัว นอกจากทำให้คุณกระหายเลือดแล้ว ก็ไม่มีผลข้างเคียงอื่นอีก” มิสเตอร์ K วางกระบอกฉีดยา ‘โลหิตต้นกำเนิด’ ลง พลางยื่นมือไปวางบนขวดปากกว้างที่บรรจุของเหลวสีเขียวจนเต็ม
จากนั้น เขาสอดฝ่ามือขวาที่ขาวซีดจนดูค่อนข้างอ่อนแอลงไปในขวด ช้อนเข็มกลัดสีทองรูปดอกสก็อตบรูม ขึ้นมาจากของเหลวสีเขียวที่ส่งกลิ่นหอมของเหล้า
“ชื่อของมันคือ ‘มีหน้ามีตา’”
“เมื่อติดเข้าไป คุณจะพบจุดอ่อนของเป้าหมายได้อย่างเฉียบแหลม สามารถทำการ ‘ติดสินบน’ ด้วยการมอบสิ่งของให้อีกฝ่าย เพื่อลดทอนพลังโจมตี ป้องกัน หรืออำนาจควบคุมที่กระทำกับคุณในช่วงเวลาหนึ่ง”
“นอกจากนี้ คุณยังสามารถ ‘บิดเบือน’ วาจา การกระทำ และเจตนาของเป้าหมาย สามารถบิดเบือน ‘เจตนาของการกระทำ’ ของตัวเองหรือผู้อื่น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองในระดับหนึ่ง”
การลดทอนพลังโจมตี ป้องกัน หรืออำนาจควบคุมผ่านการ ‘ติดสินบน’ … ถือเป็นพลังที่รอบด้านทีเดียว ไม่ว่าจะรับมือกับซอมบี้ ปีศาจ หรือผู้วิเศษทั่วไปก็ล้วนประยุกต์ใช้ได้ทั้งสิ้น… ส่วนการ ‘บิดเบือน’ ในประโยคหลัง หากใช้เป็น ก็อาจสร้างความแปลกใหม่ได้… ลูเมี่ยนหูผึ่งขึ้นมาทันที พบว่านี่คือสิ่งที่ตรงกับความต้องการของตน
ต่อไปก็ต้องรอฟังว่า ผลข้างเคียงเชิงลบจะร้ายแรงเกินไปหรือไม่
มิสเตอร์ K พูดต่อ
“จำเป็นต้องแช่มันไว้ในเหล้าแรงเกินสี่สิบห้าดีกรีอย่างสม่ำเสมอ ไม่อย่างนั้นมันอาจนำพา ‘การจับกุม’ มาให้คุณเป็นครั้งคราว ทั้งจากผู้วิเศษทางการหรือกลุ่มอำนาจอื่น”
“ห้ามสวมใส่มันเกินสิบห้านาที และในชั่วโมงถัดมา คุณจะกลายเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจในสายตาผู้อื่น ผมขอแนะนำว่าอย่าออกจากบ้าน ให้อดทนรอจนกว่าผลข้างเคียงเชิงลบจะหายไป”
ในฐานะนักล่า มีหรือจะไม่เป็นที่น่ารังเกียจ? การที่ลูกค้าประจำของร้านเหล้าคร่ำครึจะพกเหล้าแรงสองสามขวดติดตัว ย่อมถือเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่ง… ในบางครั้ง เรายังสามารถใช้ประโยชน์จากการล่อให้กลุ่มอำนาจมาจับกุม ถือเป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับกับดักบางชนิด… ลูเมี่ยนตัดสินใจได้รวดเร็ว พร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ผมเลือก ‘มีหน้ามีตา’”
สำหรับตอนนี้ ปัญหาเดียวที่เหลือคือ สมบัติปิดผนึกที่เป็นชิ้นเป็นอันแล้ว จะจับคู่กับกิ่งพฤกษาเงาเพื่อสร้างสมบัติวิเศษที่ผสานจุดเด่นของทั้งสองอย่างได้หรือไม่
มิสเตอร์ K ไม่พยายามโน้มน้าวแต่อย่างใด ให้ความเคารพต่อการตัดสินใจส่วนบุคคลอย่างเต็มที่
เขาโยนเข็มกลัด ‘มีหน้ามีตา’ กลับใส่ขวดเหล้าปากกว้าง ปิดฝา แล้วโยนให้ลูเมี่ยน
เด็กหนุ่มรับไว้ได้อย่างคล่องแคล่วชำนาญ พลางแอบรำพันในใจ:
“ถ้าเราไม่ชำนาญพอ รับไว้ไม่ทัน จนขวดตกมาแตกจะทำยังไง?”
“นายก็จะมอง ฉันก็มอง จากนั้นต่างคนต่างเผ่นหนี ก่อนที่ผู้วิเศษทางการจะมาไล่ล่า?”
ลูเมี่ยนกำขวดเหล้าแรงที่คาดว่าน่าจะเป็นอัปแซ็งต์ พลางพูดหยั่งเชิง
“ผมมีเรื่องมารายงานครับ”
เด็กหนุ่มเล่าเหตุการณ์เกี่ยวกับมนุษย์หมาป่าอย่างรวบรัด แล้วปิดท้ายว่า
“โรงเรียนกุหลาบเสียท่ามาหลายครั้งหลายคราแล้วมิใช่หรือ? ทำไมถึงยังหยิ่งผยองพองขนขนาดนี้? ผมได้ยินว่าพวกมันยังศรัทธาในเทพมาร ‘มารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย’ อยู่เลย”
สายตาของมิสเตอร์ K ที่มองลูเมี่ยนพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก น้ำเสียงของเขาฟังดูคล้ายโลหะเสียดสีกัน
“ผู้ศรัทธาเทพมารช่างเหิมเกริมขึ้นทุกวัน…”
“ในเมื่อเหล่าเทพมิอาจแบกรับภาระหน้าที่อันหนักหนาได้ครอบคลุม เห็นทีพวกเราต้องช่วยเหล่าพระองค์แบ่งเบาภาระบ้างแล้ว”
ลูเมี่ยนสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าเปลวโทสะของมิสเตอร์ K ถูกตนจุดประกายขึ้นมา เนื่องจากโอสถนักวางเพลิงส่งสัญญาณการย่อยเล็กน้อย
เด็กหนุ่มร่ำลามิสเตอร์ K หันหลังเดินออกจากห้องใต้ดิน หลับตาลงครู่หนึ่งตรงทางเดิน
ผ่านการทดลองเมื่อสักครู่ กอปรกับกองเพลิงภายในใจเมื่อครั้งเลื่อนลำดับเป็นนักวางเพลิง รวมถึงคำพูดของฟรังก้า รวมถึงการเฝ้าสังเกตเหตุการณ์ต่างๆ ในเขตตลาด รวมถึงท่าทีของชาวลาปุสแห่งทวีปใต้ เขาสรุปกฎการสวมบทบาทของนักวางเพลิงข้อแรกได้ว่า:
“นักวางเพลิงจุดไฟไม่ได้มีเพียงสสาร แต่ยังรวมถึงจิตวิญญาณและสังคมด้วย”
…………
เขตตลาด โรงแรมระกาทอง ห้อง 207
ลูเมี่ยนจ้องขวดเหล้าแรงสีเขียว พลางไตร่ตรองถึงการซื้อขวดน้ำทหารมาใช้แทนสักสองสามใบ เพื่อป้องกันมิให้ภาชนะแตกขณะต่อสู้ ระหว่างนั้นก็ตัดสินใจได้เด็ดขาด:
เขาจะใช้ตะกอนพลัง ‘ผู้โชคดี’ จับคู่กับกิ่งพฤกษาเงามาสร้างเป็นสมบัติวิเศษ
เด็กหนุ่มรู้สึกว่าจุดเด่นของ ‘มีหน้ามีตา’ ไม่ค่อยสอดคล้องกับกิ่งพฤกษาเงาสักเท่าไร และผลข้างเคียงเชิงลบก็ยังพอรับไหว ประสิทธิภาพโดยรวมของสมบัติปิดผนึกก็ถือว่าค่อนข้างดี เหมาะที่จะใช้งานแยกต่างหาก
โดยไม่ลังเลอีกต่อไป ลูเมี่ยนเริ่มเขียนจดหมายขอให้มาดามเมจิกเชี่ยนช่วยตามหา ‘ช่างฝีมือ’ ระดับครึ่งเทพ
ถัดมา เด็กหนุ่มย้ายไปอยู่บ้านลับบนถนนเสื้อนอกขาว อัญเชิญผู้ส่งสาร ส่งกิ่งพฤกษาเงา ตะกอนพลังผู้โชคดี พร้อมกับจดหมายไปให้ผู้ถือไพ่อาร์คาน่าใหญ่ของตน
ไม่นานนัก ลูเมี่ยนก็เห็นผู้ส่งสารตุ๊กตาปรากฏตัวเหนือโต๊ะอ่านหนังสือ โยนกองกระดาษหนาๆ ลงมา
ตึง!
โต๊ะไม้ส่งเสียงราวกับถูกของหนักทุบ
ลูเมี่ยนลุกขึ้นยืน แล้วพบจดหมายตอบกลับอยู่ด้านบนสุดของกองกระดาษ
“ไม่มีปัญหา ฉันจะช่วยติดต่อให้ อาจต้องใช้เวลาสักพัก เฉกเช่นการผลิตสิ่งของทั่วๆ ไป หากเธอไม่ว่าอะไร ฉันจะใส่เงื่อนไขระบุไปด้วยว่า ‘ชิ้นงานต้องพกพาได้สะดวก’”
“นอกจากนี้ ฉันอ่านชะตาจากท้องฟ้ายามราตรี และพบว่าโอสถนักวางเพลิงของเธอย่อยไปถึงระดับหนึ่งแล้ว พร้อมที่จะรับพรแห่งชะตากรรมขั้นถัดไป เอกสารเหล่านี้คือข้อมูลของสัตว์โลกวิญญาณบางส่วน เธอควรศึกษาเตรียมตัวเอาไว้ล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาจะได้เลือกทำพันธสัญญาถูก”
มาดามเมจิกเชี่ยนก็ดูดวงได้ด้วย? แถมยังแม่นยำมาก… ลูเมี่ยนมองกองกระดาษหนาๆ จนรู้สึกตาลาย
หลังจากสรุปกฎการสวมบทบาทของนักวางเพลิงข้อแรก เด็กหนุ่มก็เริ่มตระหนักว่าตนใกล้จะย่อยโอสถได้เบื้องต้นแล้ว
…………………………………………….
.