ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 253 รากเหง้าของปัญหา
- Home
- All Mangas
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 253 รากเหง้าของปัญหา
ตอนที่ 253 รากเหง้าของปัญหา
เมื่อได้ยินคำพูดเสริมของชาร์ล็อตต์ ลูเมี่ยนถึงได้เข้าใจความเป็นไป
ทันทีที่มาถึงเขตตลาด เด็กหนุ่มก็ลองใช้ ‘ระบำเรียกสถิต’ และเรียกซูซานน่า·มาติส ซึ่งกำลังสนใจชาร์ลีมายังห้องของตน
ตอนนั้นซูซานน่าเห็นได้ชัดว่ากระตือรือร้นที่จะสิงร่าง แต่ไม่นานก็ตระหนักถึงอันตรายในผนึก จึงไม่กล้าลงมือ ซึ่งก็ไม่ต่างจากปฏิกิริยาของสัตว์วิญญาณอื่นๆ ที่ลูเมี่ยนเคยเรียกมา ประหนึ่งว่าพวกมันจะกล้าสิงร่างก็ต่อเมื่อเด็กหนุ่มออกคำสั่งบังคับ
ส่งผลให้ลูเมี่ยนไม่เอะใจถึงปัญหา แม้กระทั่งตอนที่ได้เผชิญหน้ากับซูซานน่า·มาติสในภายหลัง หรือตอนที่ได้รู้จักสมาคมเสียวซ่านมากขึ้นแล้ว เขาก็ไม่เคยเชื่อมโยงทั้งสองเรื่องเข้าด้วยกัน
มาตอนนี้ เด็กหนุ่มเข้าใจแล้วว่าตนมองข้ามสิ่งใดไป:
ซูซานน่า·มาติสแตกต่างจากสัตว์วิญญาณตัวอื่นๆ ที่เขาเคยเรียกมาโดยสิ้นเชิง!
จุดแตกต่างมิใช่ความเป็น ‘วิญญาณมาร’ ลำดับ 5 ที่ล้มเหลวในการรับบารมีเทพ แต่เป็นเพราะเธอมีสติปัญญา สามารถคิดได้ ถึงแม้จะหัวรุนแรงและยึดมั่นถือมั่น แต่ก็ยังสามารถนำพาองค์กรลับให้เติบโตได้ในทิศทางปกติ!
วิญญาณมารเช่นนี้ เมื่อตระหนักถึงพลังอันน่าพรั่นพรึงที่ถูกผนึกในตัวลูเมี่ยน ถึงแม้จะยังแยกแยะไม่ออกในทันทีว่านั่นคือมลทินของเทวทูต แต่ก็จะจากไปพร้อมความสงสัย แล้วแสวงหาคำชี้นำจากเทพมารที่ตัวเองศรัทธา!
เมื่อเธอเข้าใจสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว สำหรับสาวกเทพมารที่ชื่นชอบและถนัดพิธีสังเวย ลูเมี่ยนที่ ‘พกพา’ เทวทูตไว้กับตัวแต่ดันอยู่แค่ลำดับต่ำ ถือเป็นเหยื่อที่ชวนให้น้ำลายสออย่างยิ่ง ไม่แพ้กับตอนที่ ‘คนตระหนี่’ เจอเงินหนึ่งร้อยล้านเฟลคินถูกทิ้งไว้ข้างถนน
หากมิใช่ว่าเมื่อครั้งซูซานน่า·มาติสปรากฏตัวหนสอง ลูเมี่ยนผู้มีไหวพริบเฉียบแหลมใช้ ‘ปรอทเสื่อมทราม’ ข่มขู่จนเธอตกใจไปชั่วขณะ จนกระทั่งผู้วิเศษทางการมาถึง ชีวิตของเขาอาจจบลงตั้งแต่ตรงนั้น
ตอนนี้เด็กหนุ่มเข้าใจแล้วว่า การที่ชาร์ลีซึ่งเป็นเพียงคนธรรมดา สามารถลงมาจากชั้นห้าได้อย่างราบรื่น จนมาถึงหน้าห้องลูเมี่ยนและขอความช่วยเหลือ ทั้งที่มีลำดับ 5 อย่างซูซานน่า·คอยตามราวี ทั้งหมดมิได้เกิดขึ้นเพราะโชคช่วย
จงอย่าได้เชื่อคำพูดและสีหน้าของ ‘นักแสดง’ เป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวก ‘นักแสดง’ ที่หน้าตาดีเป็นพิเศษ!
ลูเมี่ยนคอยสังเกตสภาพแวดล้อมอยู่ตลอดระหว่างที่ชาร์ล็อตต์·คัลวิโนอธิบายประหนึ่งกำลังเล่นละครเวที พยายามอาศัยจุดแข็งของ ‘นักล่า’ เพื่อหาทางออกจากมิติแปลกประหลาด
แต่แถวนี้ไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจากรากไม้ที่ขดเกี่ยวกันเต็มพื้นดิน ต้นไม้ยักษ์สีน้ำตาลเขียวยังคงงอกเงย และผืนนภาสีครามกับเมฆขาวที่ดูราวกับภาพเขียนสีน้ำมัน
ด้วยสภาพแวดล้อมที่เห็น ลางสังหรณ์อันตรายของ ‘นักวางเพลิง’ ทำให้ลูเมี่ยนไม่ลังเลอีกต่อไป รีบดึงมือขวาที่คอยกำนิ้วของมิสเตอร์ K ออกมา แล้วโยนขึ้นไปในอากาศ
แทบจะในเวลาเดียวกัน อีกาสีแดงกึ่งมายาที่ลอยอยู่รอบเด็กหนุ่มก็เริ่มบินออกไป ต่างวาดเส้นโค้งอันงดงาม บินไปยังฉากเหนือจริงที่ชาร์ล็อตต์·คัลวิโนกำลังยืนอยู่ ซึ่งรายล้อมด้วยหมอกแห่งอดีตท่ามกลางกิ่งไม้
ชาร์ล็อตต์เดินออกจากฉากพระราชวังหลวง ซึ่งดูเหมือนจักรพรรดิโรซายล์กำลังเล่นชู้กับใครสักคน ก้าวเข้าไปในบรมมหาราชวังเมเปิลขาวสมัยราชวงศ์เซารอน ในนั้นมีผู้วิเศษที่กลายเป็นเพศชายเพราะโอสถ แต่ไม่ได้เปลี่ยนรสนิยมทางเพศ กำลังจ้องคู่สมรสของคุณนายชนชั้นสูงตาเป็นมัน
เสียงครืนๆ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาร์ล็อตต์หลบการโจมตีของอีกาแดงได้ไม่ยากเย็น ในขณะที่ ‘ฉากอดีต’ สองสามฉากซึ่งถูกหมอกปกคลุม กลับไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย ประหนึ่งไม่มีตัวตนอยู่จริง กลับเป็นกิ่งไม้สีน้ำตาลเขียวที่รองรับพวกมันเสียอีก ที่เกิดร่องรอยไหม้เกรียมเล็กน้อยเพราะถูกเผาไหม้
แก่นแท้ของ ‘พฤกษาเงา’ ยังคงเป็นต้นไม้อยู่ และต้นไม้สามารถติดไฟ!
ปัญหาเดียวคือ อีกาแดงของลูเมี่ยนสร้างความเสียหายได้น้อยนิดเหลือเกิน
คราวนี้นิ้วของมิสเตอร์ K ระเบิดดังตูมราวกับระเบิดของจริง กลายเป็นสายฝนที่ประกอบจากเลือดเนื้อ ตกพรำลงบนตัวลูเมี่ยน ประกอบกันเป็นเสื้อคลุมยาวสีเลือดที่มีฮู้ด
สิ่งที่ทำให้ลูเมี่ยนผิดหวังไปบ้างก็คือ มิสเตอร์ K มิได้ปรากฏกายในทันที ไม่รู้ว่าเป็นเพราะต้องใช้เวลาสักพักในการตรวจจับ หรือเพราะ ‘พฤกษาเงา’ ตัดขาดมิติแห่งนี้จากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์
ชาร์ล็อตต์ก้าวเข้าไปในฉากเหนือจริงที่ฝนกำลังตกหนัก โดยมีคนจำนวนหนึ่งกำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่งในสภาพเปลือยเปล่า ชุดกระโปรงยาวผ้าไหมสีขาวบนตัวเธอเปียกชุ่ม แนบชิดติดกับร่างกาย ตามเส้นสายที่งดงามเหนือพรรณนา
หญิงสาวยิ้มให้ลูเมี่ยน ในดวงตาสีทะเลสาบแฝงความอ่อนต่อโลกและความใสซื่อ ระคนไปกับความหวาดกลัว
หัวสมองลูเมี่ยนอื้ออึงทันใด รู้สึกเหมือนเปลวไฟลุกลามจากศีรษะลงไปยังท่อนล่างของร่างกาย
เด็กหนุ่มวิ่งอย่างบ้าคลั่งท่ามกลางรากไม้ที่ขดเกี่ยวกัน พุ่งเข้าหาต้นไม้ยักษ์สีน้ำตาลเขียว พุ่งเข้าหาชาร์ล็อตต์·คัลวิโนที่ยั่วยวนเสียเต็มประดา
ชาร์ล็อตต์เลิกเดินทางไปมาระหว่าง ‘ฉาก’ ทันที เท้าเหยียบกิ่งไม้ส่วนล่าง หลังพิงลำต้นสีน้ำตาลเขียว ตัวสั่นเล็กน้อย ท่าทางน่าสงสารเหมือนอยากหนีแต่ไม่มีที่ให้หนี
ดวงตาของลูเมี่ยนเริ่มแดงก่ำ สายตาจับจ้องดวงตาใสเป็นประกาย ริมฝีปากชุ่มชื้น คอเหมือนหงส์ และเรือนร่างที่มีเส้นโค้งเว้าชัดเจนของชาร์ล็อตต์ หัวสมองแทบจะว่างเปล่า
เด็กหนุ่มจึงไม่เห็นว่า ท้องและขาของชาร์ล็อตต์กำลังจมอยู่ในลำต้นสีน้ำตาลเขียว ไม่เห็นรอยแยกในตำแหน่งดังกล่าว ไม่เห็นดอกไม้ยักษ์เปียกๆ งอกออกมา
ดอกไม้ดังกล่าวมีสีแดงสด บานออกทีละนิด ราวกับกลายเป็นปากขนาดใหญ่ รอให้เหยื่อเข้ามาหาด้วยตัวเอง
ลูเมี่ยนวิ่งมาถึงตรงหน้าชาร์ล็อตต์ กระโจนเข้าใส่เธออย่างรวดเร็ว
มุมปากของชาร์ล็อตต์อดไม่ได้ที่จะหยักขึ้นมา
ทันใดนั้น เสียงระเบิดทึบๆ ดังมาจากกระเป๋าเสื้อด้านขวาของลูเมี่ยน
บึ้ม!
ใต้เสื้อคลุมสีเลือด เปลวไฟระเบิดออกมาหนึ่งระลอก ฉีกกระเป๋าเสื้อ จุดไฟเสื้อเชิ้ต ทำให้เอวของลูเมี่ยนถูกกระแทก เกิดความเจ็บปวดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในทันที
แววตาของเด็กหนุ่มเริ่มกลับมาได้สติ แต่ก็ยังไม่มาก จึงรีบยื่นสองมือออกไป คว้าข้อมือของชาร์ล็อตต์ไว้ แล้วรักษาระยะห่างที่พอเหมาะระหว่างตนกับดอกไม้เปียกชุ่มนั่น
เขาย่อมทราบดีว่าพรของ ‘มารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย’ สามารถปลุกกำหนัดได้หลายระดับ ย่อมต้องหาวิธีรับมือ ‘การยั่วยวน’ จากชาร์ล็อตต์ไว้ล่วงหน้า
เพียงแต่เพื่อมิให้อีกฝ่ายเอะใจเร็วนัก และแอบวางกับดักรอ เขาจึงไม่ได้ใช้ผ้าชุบเกลือดมวิเศษ ยัดเข้าจมูกของตัวเอง และมิได้วางมีดสั้นกลับด้านเพื่อหาจังหวะแทงตัวเองเหมือนที่เคยทำ
ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน วิธีดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงเกินไป เพราะชาร์ล็อตต์อาจไม่ปล่อยให้ตนกระโจนเข้าใส่
ดังนั้น ระหว่างที่คอยกำนิ้วของมิสเตอร์ K ไว้ตลอด ลูเมี่ยนตัดสินใจสร้างลูกไฟขนาดเล็กที่ระเบิดแบบ ‘หน่วงเวลา’ ไว้ในกระเป๋าเสื้อ!
สำหรับแผลไหม้ที่เกิดขึ้น ลูเมี่ยนไม่แยแสเลยสักนิด
‘นักวางเพลิง’ ไม่กลัวของพรรค์นี้หรอก!
เพียงพริบตา ลูเมี่ยนคว้าข้อมือของชาร์ล็อตต์ไว้แนบแน่น เห็นความหวาดกลัวผ่านใบหน้าของเธอ
วินาทีถัดมา เปลวไฟสีแดงสองสายดุจดังนาคาเพลิง พุ่งออกจากฝ่ามือลูเมี่ยน เผาไหม้ไปตามท่อนแขนของชาร์ล็อตต์ ไหม้ไปยังร่างกายของเธอ ไหม้ไปยังศีรษะของเธอ
ชาร์ล็อตต์สะดุ้งคอไปด้านหลังตามสัญชาตญาณ ส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ผิวหนังไหม้เกรียมในพริบตา
ลูเมี่ยนเตรียมจุดไฟเผาเธอให้สิ้นซาก แต่แล้วกลับได้รับลางสังหรณ์อันตรายอย่างแรงกล้า
จึงพยายามผลักชาร์ล็อตต์ให้ล้มลงด้านข้าง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับต้นไม้ยักษ์สีน้ำตาลเขียว ไม่ว่าลูเมี่ยนจะออกแรงแค่ไหน ก็ยากที่จะกระชากเธอออกมา
เด็กหนุ่มจำเป็นต้องถอดใจ รีบกระโจนไปทางขวามือของตน
ท่ามกลางเสียงทึบตูม ลำต้นสีน้ำตาลเขียวที่หนาเท่าแก้วเป๊ก พุ่งลงมาจากฟากฟ้า ปักใส่ดงรากไม้ที่ขดเกี่ยวดุจดังหอก ส่วนหางของมันกระเพื่อมรุนแรง
ลูเมี่ยนเงยหน้ามองด้านบน เห็นซูซานน่า·มาติสผู้ห่อหุ้มร่างกายด้วยผมยาวสีเขียวอมฟ้า ดวงตาสีมรกต ริมฝีปากแดงสด
ร่างของเธอดูค่อนข้างโปร่งแสง ยืนอยู่บนเรือนยอดที่หนาทึบและเหนือจริง หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับที่นั่น
และไม่ว่าจะเป็นลำต้นสีน้ำตาลเขียว หรือพื้นผิวของกิ่งไม้ที่ยื่นออกไป ก็ล้วนมีดอกไม้ยักษ์สีจางเปียกชุ่มงอกเงยขึ้นมา ในสภาพผลิบาน
…………
บนถนนใหญ่ตลาด ในอาคารสีดินเหลืองสี่ชั้น ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานสส.
จินนาที่ยืนอยู่ตรงมุมห้อง เห็นฮิวจ์·อาร์ทัวส์พร้อมกับพวกเลขาโรแน ถือแก้วแชมเปญ แต่งตัวหรูหราเดินทอดน่องท่ามกลางแขกในงาน บ้างก็ปลอบโยนพวกเขา บ้างก็ให้คำสัญญา บ้างก็กล่าวสุนทรพจน์รวบรัดไม่กี่ประโยค ได้รับความซาบซึ้งตรึงใจ ได้รับการพึ่งพาอย่างไม่ปิดบัง และได้รับการพินอบพิเทาตามสัญชาตญาณ
สิ่งนี้ทำให้จินนาย้อนนึกถึงคำถามเก่าของลูเมี่ยน:
“คุณอยากนั่งดูพวกฆาตกรที่ฆ่าแม่คุณ พรากความสุขของคุณ คอยดื่มแชมเปญ เต้นรำ และทำให้ครอบครัวอื่นๆ แตกแยกต่อไปหรือ”
แต่หญิงสาวทราบดีว่าห้ามใจร้อน ต้องอดทนเอาไว้
เพราะถ้าจะฟ้องร้องตามขั้นตอนปกติ หากไม่มีหลักฐานเพียงพอก็คงเอาผิดสส. ไม่ได้ หรือถ้าคิดจะทวงคืนความยุติธรรมด้วยศาลเตี้ย ข้างกายอีกฝ่ายก็ยังมีผู้วิเศษหลายคนที่ได้รับพรจากเทพมาร ถัดออกไปยังมีผู้วิเศษจากทางการ และบอดี้การ์ดติดอาวุธคอยคุ้มกัน
มีทางเลือกเดียวคือ ต้องอดทนรอวันข้างหน้า!
…………
ภายในโรงแรมระกาทองที่ปกคลุมไปด้วยกิ่งไม้และเถาวัลย์ ทุกหนทุกแห่งเห็นได้เพียงสีน้ำตาลสลับสีเขียว
ฟรังก้ายืนอยู่ใกล้กับปากบันได ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาพร่ามัวราวกับสายวารี พลางฝืนข่มความปรารถนาอันแรงกล้าที่ปะทุขึ้นมาอย่างฉับพลัน
มือขวาของเธอสั่นเทิ้ม หยิบขวดเกลือดมวิเศษที่ได้มาจากลุนทาส หมุนฝาออก นำมาจ่อปลายจมูก
ฮัดชิ้ว! ฮัดชิ้ว! ฮัดชิ้ว!
ฟรังก้าจามรัวหลายครั้ง ในที่สุดก็เอาชนะแรงกำหนัดได้ เรียกสติกลับคืนมาหลายส่วน
เธอรีบมองไปรอบตัว พบว่าลูเมี่ยนที่ควรจะอยู่ห่างออกไปแค่ไม่กี่ก้าว กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อลองสำรวจโรงแรมและละแวกที่ถูกต้นไม้ยักษ์ปกคลุม ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ผิดวิสัย ฟรังก้าพบว่ายิ่งเรือนยอดสูงเพียงใด ก็ยิ่งเลือนรางมากเท่านั้น ราวกับจะยื่นเข้าไปในโลกอันเหนือจริงสักแห่ง
เธอก็ขบฟันตัดสินใจ
หยิบของสองสิ่งออกมา
ไพ่ทาโรต์สองใบ
ใบหนึ่งคือไพ่ ‘สองถ้วย’ เป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่ง ถือถ้วยยกขึ้นหันหน้าเข้าหากัน ตรงกลางเป็นไม้เท้าที่มีงูสองตัวพันเกี่ยว
สำหรับอีกใบหนึ่ง ด้านหน้าเป็นภาพเทวทูตเป่าแตรนำทางวิญญาณ
ไพ่จัดจ์เมนต์!
…………………………………………………..