ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 210 แสดง
- Home
- All Mangas
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 210 แสดง
ตอนที่ 210 แสดง
เมื่อพบว่าแสงเงาด้านนอกมีสองคนยืนรออยู่ ‘เอฟฟ์ปลอม’ ตกใจในทีแรก ก่อนจะรีบยกมือขวาชี้ไปหาลูเมี่ยน ถามเสียงดัง
“แกเป็นใคร ปลอมตัวเป็นฉันทำไม?”
เขาพูดจาตำหนิไปพลาง เร่งความเร็วดึงตัวเองออกมาจากอุโมงค์ที่ขุด กระโดดลงบนพื้น
หากเป็นยามปกติ เมื่อเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ ลูเมี่ยนคงจะปรี่เข้าไปคลุกวงใน หรือชักลูกโม่ยิงศัตรูไปสองสามนัด โดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้พูด แต่ครั้งนี้ไม่รู้ทำไม เขากลับอยากแสดงฝีมือ อยากเห็นว่าอีกฝ่ายทำอะไรได้บ้าง แล้วฉวยโอกาสพลิกสถานการณ์ในจังหวะอันเหมาะเจาะ
การแสดงน่ะ ต้องมีคนมาช่วยเข้าบท มันถึงจะสมบูรณ์แบบ!
ฟรังก้าก็เช่นเดียวกัน กระสับกระส่ายอยากเข้าบทกับ ‘ของปลอม’ แทนลูเมี่ยน จึงไม่รีบจู่โจมในทันที
ด้านหลังเอฟฟ์ปลอมคือชาร์ลีในชุดเด็กเสิร์ฟ โดยเพิ่งคลานผ่านกองหินมาได้ส่วนหนึ่ง ก็เห็นเงาคนอยู่ท่ามกลางแสงโคมไฟคาร์ไบด์และตะเกียง
เขาตกใจกับฉากที่ชาร์ลสองคนเผชิญหน้ากัน จนถึงกับนิ่งอึ้งไป ชั่วขณะหนึ่งรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน แยกไม่ออกว่าใครจริงใครปลอม ใครต้องการทำร้าย และใครพยายามช่วย
สิ่งเดียวที่เขามั่นใจคือ ตนกำลังตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง!
เอฟฟ์ปลอมจ้องมองลูเมี่ยนสองครั้ง ก่อนพูดกับฟรังก้าด้วยน้ำเสียงร้อนรนปนโกรธเคือง
“ได้สติสักที คุณโดนตัวปลอมหลอกเข้าแล้ว!”
“ผมเคยใส่เสื้อผ้าแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไร?”
หลังจากปลอมตัวไปเตือนชาร์ลี ลูเมี่ยนแค่ล้างเครื่องสำอางออก ไม่ได้เปลี่ยนชุด ยังคงแต่งกายพิสดารด้วยแจ็กเกตเรียบง่ายกับกางเกงแคนวาส เทียบกับเอฟฟ์ปลอมที่สวมเสื้อเชิ้ตขาว เสื้อกั๊กดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาล และบูตหนังไร้สายรัด อีกฝ่ายดูจะใกล้เคียงกับภาพจำในยามปกติมากกว่า
ฟรังก้าอดไม่ได้ที่จะเริ่มแสดง
“จริงหรือ?”
เอฟฟ์ปลอมถามกลับด้วยอารมณ์โมโหระคนขำ
“มาดาม ‘บูตแดง’ คุณลืมฉายาของตัวเองไปแล้วหรือ?”
ฟรังก้าอดขำไม่ได้ หัวเราะออกมาเสียงดัง
พร้อมกับถอยหลังไปสองก้าว หายเข้าไปในเงาตรงขอบแสงของโคมไฟคาร์ไบด์
ใต้ดินที่ถูกความมืดครอบงำนี้ เหมาะกับการต่อสู้ของ ‘นางมาร’ ยิ่งนัก!
เห็นท่าไม่ดี เอฟฟ์ปลอมรู้สึกถึงลางร้าย เข้าใจว่าความพยายามในการปลอมตัวของตนคงล้มเหลว ไม่อาจทู่ซี้แสดงต่อไปได้ จึงเปลี่ยนกลยุทธ์ทันที
เขาทิ้งตะเกียงลง เงยหน้ามองไปทางลูเมี่ยน แววตาเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างยิ่ง
เอฟฟ์ปลอมยกมุมปากขึ้น หัวเราะในลำคอ
“ไม่รู้ว่าควรสงสารพวกแกดี หรือแสดงความยินดีที่มองการปลอมตัวของฉันออก… แต่สำหรับพวกแกแล้ว นี่ไม่ใช่ข่าวดีหรอกนะ”
เอฟฟ์ปลอมที่ถือตะเกียงอยู่ บรรยากาศรอบตัวแปรผันในพริบตา กลายเป็นภูเขาไฟอันน่าพรั่นพรึงที่พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ
ลูเมี่ยนที่ยืนเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย รู้สึกคล้ายกำลังเผชิญกับยักษ์สามเศียรหกกรที่หมู่บ้านกอร์ตู ยกเว้นเรื่องการกระทบกระเทือนทางจิต ปฏิกิริยาอื่นๆ แทบไม่ต่างกันเลย
เด็กหนุ่มก้มหน้าลงตัวสั่นเทา ไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย แต่ความปรารถนาที่จะแสดงออก และจิตใจอันแน่วแน่ ทำให้เขาฝืนเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง บรรจงมองหน้าเอฟฟ์ปลอมอย่างยากลำบาก
ขณะเดียวกัน ความมืดนอกวงแสงเหมือนถูกคลุมด้วยประกายเขียวจาง เถาวัลย์และกิ่งไม้นับไม่ถ้วน แผ่ขยายมาจากที่ใดไม่ทราบ ปกคลุมเพดานถ้ำและผนังหิน
ฟรังก้าที่แอบอยู่ในเงามืด ถูกอำนาจของเอฟฟ์ปลอมข่มขวัญ มิอาจรักษาผลของพลังไว้ได้อีก ร่างปรากฏชัดอยู่ห่างจากเอฟฟ์ปลอมไม่ถึงสองเมตร
ชาร์ลีที่ยังคุกเข่าตัวสั่นอยู่ในอุโมงค์ ซุกหน้าลงกับกองดินหิน ความคิดในหัวว่างเปล่า
เอฟฟ์ปลอมมองลูเมี่ยนกับฟรังก้าด้วยสายตาดูแคลน
“พวกแกไม่รู้อะไรเลย แล้วยังกล้าสะกดรอยตามฉันอีก?”
“โชคดีอย่างเดียวของพวกแกคือ หน้าตาพอใช้ได้ ทำเอาฆ่าไม่ลงเลยล่ะ”
คำพูดเหล่านี้ไหลเข้าหูลูเมี่ยนและฟรังก้า ทำให้ทั้งสองเปี่ยมล้นด้วยความหวาดกลัว อยากจะหันหลังวิ่งหนีไปให้พ้น
ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ลูเมี่ยนพลันกระจ่าง
ครึ่งเทพ!
เอฟฟ์ปลอมคนนั้นเป็นครึ่งเทพ มีบารมีเทพ!
ลูเมี่ยนกัดฟันแน่น เก็บกลั้นความกล้า ยื่นสอดมือเข้าไปในกระเป๋า หวังว่านิ้วของมิสเตอร์ K จะช่วยต้านทานไว้ได้สักพัก ช่วยให้ตนและฟรังก้าหนีออกจากใต้ดินทรีอาร์ไปได้อย่างราบรื่น
ครึ่งเทพแล้วไง? ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยเจอครึ่งเทพสักหน่อย ไม่มีทางกลัวจนสิ้นสติ ไม่มีทางเอาแต่คุกเข่ายอมจำนนอยู่แล้ว!
พอดีกับที่มือขวาของลูเมี่ยนเตรียมสัมผัสนิ้วของมิสเตอร์ K และฟรังก้าใกล้จะควบคุมตัวเองไม่อยู่ เตรียมหันหลังวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง เพดานถ้ำก็ส่งเสียงกรอบแกรบ
ก้อนหินขนาดเท่ากำปั้น หล่นลงมาเหมือนพวกก่อนหน้า ตกลงมาตรงเอฟฟ์ปลอม ผู้กำลังสังเกตท่าทีของลูเมี่ยนและฟรังก้า ด้วยมาดหยิ่งผยองเสียเต็มประดา
เอฟฟ์ปลอมหลบไม่ทัน เบี่ยงหลบได้เพียงศีรษะ ถูกก้อนหินทุบไหล่ซ้ายอย่างจังจนกระดูกแตกร้าว เนื้อยุบลงไป
เขาร้องโหยหวนเสียงสั้น ร่างกายเกือบล้มคว่ำ
พร้อมกันกับเหตุการณ์ดังกล่าว บรรยากาศอันน่าพรั่นพรึงและความรู้สึกคล้ายบารมีเทพ พลันหายวับไปกับตา เหลือเพียงเถาวัลย์สีเขียวอมฟ้าและกิ่งไม้สีน้ำตาลเขียวไม่มากนัก เป็นหลักฐานยืนยันว่าเมื่อสักครู่ไม่ใช่ภาพหลอน
ลูเมี่ยนหลุดพ้นจากสภาวะงงงันทันใด จึงรีบใช้พลัง ‘ยั่วยุ’ — แง่หนึ่งก็เพราะอยากแสดงต่อ อีกแง่หนึ่งก็เพราะโอกาสมันประจวบเหมาะ
เด็กหนุ่มโยนโคมไฟคาร์ไบด์ทิ้ง กอดท้องหัวเราะเสียงดัง
“ของปลอม?”
“ปลอมไปทั้งตัวเลยหรือไง หรือว่าไอ้แท่งข้างล่างนั่นก็ทำจากกิ่งไม้?”
เอฟฟ์ปลอมที่เพิ่งฟื้นจากความเจ็บปวด พลันระเบิดอารมณ์ ถลึงตาจ้องลูเมี่ยน ดวงตาฉาบไปด้วยประกายสีเขียว
ในสภาพดังกล่าว เอฟฟ์ปลอมไม่ทันสังเกตเห็นว่าฟรังก้าได้โปรยผงฝุ่นเรืองแสง พลางพึมพำบางสิ่ง ก่อนจะหายตัวไปจากตำแหน่ง
ทันใดนั้น ลูเมี่ยนพลันหื่นกระหายอย่างแรงกล้า อยากสมสู่เพศตรงข้าม อยากมีความสุขสุดขีด
หากฟรังก้ายังไม่ ‘ล่องหน’ ไป เด็กหนุ่มคงห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ตอนนี้จึงยังพอมีสติอยู่บ้าง เพียงแต่จะทำอะไรก็ยากลำบาก ทั้งร่างกายและจิตใจ
ด้วยความอยากแสดงต่อ ลูเมี่ยนดึงลูกโม่ออกมาจากซองใต้รักแร้อย่างลำบากยากเข็ญ เล็งไปทางเอฟฟ์ปลอม
พอได้เห็นใบหน้าตัวเองอยู่บนร่างคนอื่น เด็กหนุ่มกลับรู้สึกหลงใหลอย่างน่าประหลาด
ปัง!
ลูเมี่ยนลั่นไก แต่ยิงไม่โดนเอฟฟ์ปลอม
ดวงตาของเอฟฟ์ปลอมเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ร่างกายเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว เข้าประชิดตัวเป้าหมาย พลางยกมือตบหน้าตัวเองแผ่วเบา
โฉมหน้าเขาเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก ราวกับมิอาจปั้นหน้าตาได้ตามใจนึก เพียงทำให้โครงหน้าอ่อนโยนกว่าเดิม เติมความหวานให้กับใบหน้าอันหล่อเหลาของลูเมี่ยน
เด็กหนุ่มหายใจสั่นกระเส่า ลั่นไกปืนอีกครั้ง
เขาสัมผัสได้ว่า กำหนัดของตนใกล้ปะทุเต็มที อยากจะกอดเอฟฟ์ปลอมที่ตอนนี้คล้ายผู้หญิงแล้วทำโน่นทำนี่
ความปั่นป่วนทางอารมณ์นี้ ช่วยให้ลูเมี่ยนนึกถึงคำพูดของ ‘นักจิตบำบัด’ มาดามซูซี่โดยสัญชาตญาณ จึงรีบหายใจเข้าออกยาวๆ
ปัง!
เด็กหนุ่มสงบลงได้หลายส่วน จึงยิงกระสุนออกจากรังเพลิงอีกครั้ง
เอฟฟ์ปลอมไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะแน่วแน่ถึงเพียงนี้ ยังไม่ยอมสิ้นสติเสียที จนเขาเกือบจะหลบกระสุนนัดนั้นไม่พ้น หัวกระสุนพุ่งถากแขนไป ทำให้เสื้อผ้าขาดเป็นรู ผิวหนังถูกแผดเผา
เอฟฟ์ปลอมส่งเสียงร้องโอดโอยอย่างมิอาจหักห้าม และในตอนนี้เอง ลูเมี่ยนที่เตรียมรับมือกับพลังนี้มาตลอด ล้มเลิกการแสดง ฉวยโอกาสชักกริชเงินพิธีกรรม แทงใส่ซี่โครงตัวเองโดยปักคาไว้
ความเจ็บปวดปลุกสติเขาให้ตื่น จนกำหนัดจางหายไปเกือบหมด
เอฟฟ์ปลอมเองก็เริ่มหลุดพ้นจากผลของพลัง ‘ยั่วยุ’ เพราะความเจ็บปวด ความคิดกลับมาชัดเจนระดับหนึ่ง
เขาเข้าใจทันที สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมาะจะสู้ยืดเยื้อ จึงหยิบเหรียญทองออกมาหนึ่งเหรียญ โยนเข้าไปในอุโมงค์ว่างๆ ซึ่งถูกปิดกั้นด้วยกองหินกองเล็ก
ลูเมี่ยนพลันถูกความโลภที่ห้ามไม่อยู่ ควบคุมอย่างท่วมท้น ในสภาพกริชเงินพิธีกรรมยังปักคาตัว เด็กหนุ่มกระโจนเข้าหาเหรียญทองนั่น หมายเก็บมันขึ้นมาให้จงได้
เอฟฟ์ปลอมถือโอกาสนี้วิ่งเต็มฝีเท้า หนีไปยังส่วนลึกของเขตใต้ดิน เร็วยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วไปมาก
ทันใดนั้น ฝ่าเท้าของเขาเริ่มลื่นไถล ตามมาด้วยเสียงกุกกัก
โดยไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร เส้นทางนี้ก็ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง!
เอฟฟ์ปลอมฝืนเหยียดเอวและหลัง พยายามรักษาท่วงท่าให้มั่นคง
แต่ทันใดนั้นเอง เค้าโครงสูงโปร่งในชุดคลุมดำสวมฮู้ด ก็เผยตัวที่ด้านหลังเอฟฟ์ปลอม
ดาบซ่อนแขนพุ่งออกจากมือขวาของฟรังก้า รอบดาบมีเปลวไฟสีดำพันเป็นเกลียว แทงใส่หัวใจเอฟฟ์ปลอมจากด้านหลัง
เธอจัดเต็มสุดฝีมือ ‘นักลอบสังหาร’ ด้วยการรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ในดาบซ่อนแขน
เกิดเสียงดังซวกตามมา เอฟฟ์ปลอมแม้จะพยายามหลบสุดชีวิต รวมถึงอาศัยพลังสักชนิดหนึ่ง ทำให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อของตนแข็งดั่งหิน แต่ก็ยังถูกดาบซ่อนแขนเล่มนั้นทะลวงเข้าไปในร่าง
ม่านตาของเขาขยายวูบหนึ่ง พร้อมกับบิดร่างกายสุดแรงเกิด หวังให้ดวงตาสีเขียวจางๆ สะท้อนภาพฟรังก้า
ฟรังก้าที่จู่โจมสำเร็จ ตั้งใจจะถอยหลังหนึ่งก้าว อาศัยเงามืดเพื่อทิ้งระยะปลอดภัย แล้วจึงค่อยจุดระเบิดเปลวเพลิงสีดำที่แทรกซึมเข้าไปในร่างของเป้าหมาย
แต่ยังไม่ทันจะลงมือ กลับต้องรู้สึกอ่อนแรงฉับพลัน แผ่นหลังโค้งงอเล็กน้อย
ต้นขาทั้งสองข้างของหญิงสาวขยับชิดกัน ดวงตาสีทะเลสาบฉาบด้วยแววน้ำ
เธอรู้ล่วงหน้าว่าการไล่ตามเอฟฟ์ปลอมหนนี้ เกี่ยวข้องลึกซึ้งกับไอ้วิตถารเฮิดซ์ จึงมีการเตรียมตัวเพื่อรับมือกับพลังอีกฝ่ายอยู่บ้าง
หญิงสาวล้วงมือเข้ากระเป๋าลับโดยไม่ลังเล ตั้งใจจะหยิบ ‘เกลือดม’ ที่ซื้อเตรียมไว้ล่วงหน้า
ปัง ปัง ปัง!
ลูเมี่ยนที่หยิบเหรียญทองนั่นขึ้นมาแล้ว รัวยิงใส่เอฟฟ์ปลอมที่บาดเจ็บสาหัสรวดเดียวสามนัด
เอฟฟ์ปลอมรีบหลบหลีก แต่เมื่ออยู่บนพื้นน้ำแข็งลื่น ลำพังจะทรงตัวให้สมดุลก็ยังยาก จนในที่สุดก็ล้มลงกระแทกพื้นดังโครม เนื่องจากกระสุนหนึ่งในสามนัดได้เจาะเข้าไปในท้อง
ฟรังก้าได้จังหวะพักหายใจ รีบสูดเกลือดมจนสมองตื่นเพราะกลิ่นฉุน สามารถกดกำหนัดเอาไว้ได้ จากนั้นก็กำมือซ้ายแน่น
เปลวเพลิงสีดำพวยพุ่งจากภายในร่างกายเอฟฟ์ปลอมทันที แผดเผาดวงวิญญาณของเขา จนต้องส่งเสียงร้องโหยหวนสุดแสนทรมาน
ลูเมี่ยนเล็งอีกครั้ง กดไกปืน
กระสุนนัดสุดท้ายพุ่งออกไป ในพริบตาเดียวก็เจาะเข้าหน้าผากของเอฟฟ์ปลอม
โผละ! หัวของเอฟฟ์ปลอมระเบิด สีแดงและขาวกระจายออกมา
เห็นฟรังก้าโค้งหลังลงอีกครั้ง ลูเมี่ยนรีบวิ่งเข้าไปหา หลบเลี่ยงพื้นน้ำแข็ง จนมาถึงข้างกายหญิงสาว
ฟรังก้าเงยหน้าขึ้นวูบ แววตาเป็นประกาย ลมหายใจสั่นกระเส่า
หญิงสาวโผกอดลูเมี่ยนกะทันหัน แต่ก็ถูกขวดโลหะใบเล็กที่เปิดฝาอยู่ ชนเข้าที่จมูก
กลิ่นฉุนบัดซบที่ยากจะบรรยาย ทำให้เธอจามระรัวหลายหน กำหนัดที่หลงเหลือมลายหายไปเกือบหมด
“เชี่ย! ไอ้นี่เจ๋งกว่าเกลือดมเป็นไหนๆ!” ฟรังก้าพูดทันทีที่ได้สติคืนมา
ลูเมี่ยนรีบดมตามเข้าไป แล้วก็จามออกมาเช่นกัน
…………………………………………………….