ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 207 ไล่เรียง
- Home
- All Mangas
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 207 ไล่เรียง
ตอนที่ 207 ไล่เรียง
ลูเมี่ยนมิได้สนใจการเย้าแหย่ตามประสาของมาดามเมจิกเชี่ยน เพียงจดจ่อกับคำบรรยายเกี่ยวกับการแทรกซึมของเทพมาร
จุดนี้สอดคล้องกับข้อมูลที่ ‘ค้อนเหล็ก’ แอตเปิดเผยก่อนตายเป็นส่วนใหญ่
สำหรับเทพมารจากต่างมิติที่ไม่ได้รับการยอมรับ พรแฝงบารมีเทพถือว่าค่อนข้างยุ่งยาก เต็มไปด้วยอุปสรรค จำเป็นต้องให้เหล่าสาวกที่แอบบ่มเพาะขึ้นมา ช่วยจัดพิธีกรรมขนาดใหญ่ที่ง่ายต่อการสังเกตเห็น ง่ายต่อการถูกทำลาย จึงจะสามารถแทรกซึมเข้ามาได้
มาดามเมจิกเชี่ยนยกตัวอย่างในเชิงตัวเลข เพื่ออธิบายว่าพลังระดับเทวทูต ลำบากยากเข็ญเพียงใดในการเสด็จเยือนโลกปัจจุบัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมารวมกันมีเพียงห้าครั้ง ซึ่งสี่ครั้งล้มเหลว และอีกหนึ่งอยู่ในสถานะกึ่งล้มเหลว ถ้าเป็นพรแฝงบารมีเทพที่ยังไม่ถึงระดับเทวทูต ก็จะง่ายกว่าเล็กน้อย แต่จำนวนก็ยังน้อยเช่นกัน และส่วนใหญ่ล้มเหลว
เธอไม่ได้เขียนถึง แต่สิ่งที่ ‘ค้อนเหล็ก’ แอตเคยกล่าวไว้คือ ในบรรดาเทพมารเหล่านั้น ‘องค์มารดาผู้ยิ่งใหญ่’ ‘มารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย’ และ ‘หมอกประหลาด’ นั้นพิเศษกว่าพวก มีอำนาจในการแทรกซึมเหนือกว่าองค์ซ่อนเร้นอื่น ลูเมี่ยนสงสัยว่า ในกรณีของพรที่แฝงบารมีเทพ ส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จน่าจะเป็นของสามเทพองค์นี้
มาดามเมจิกเชี่ยนไม่ทราบ หรือคิดว่าเรายังไม่จำเป็นต้องรู้? ลูเมี่ยนลองไตร่ตรอง และได้ข้อสรุปว่าคงเป็นอย่างหลังมากกว่า
เด็กหนุ่มอ่านจดหมายตอบกลับของมาดามเมจิกเชี่ยนต่อ
“นี่ถือเป็นข่าวดีนะ การต้องรับมือเทวทูตผู้รับใช้องค์ซ่อนเร้น ง่ายกว่ารับมือกับ ‘พลังระดับเทวทูต’ ที่องค์ซ่อนเร้นแบ่งออกจากตัวเองมาก และมีความเสี่ยงน้อยกว่ามากเช่นกัน”
“เมื่อเธอกลายเป็นเทวทูตและดึงพลังระดับเดียวกันออกจากไอ้เจ้าชื่อยาวนั่น จนมันอ่อนแอลงชั่วคราว เธอก็สามารถวิงวอนถึงพระองค์ของฉัน ให้ท่านช่วยปลดผนึก ปล่อยมันออกมา แล้วก็อัดมันซักยก เปลี่ยนให้มันกลายเป็นสมบัติปิดผนึก หรือเปลี่ยนกลับเป็นตะกอนพลัง”
“แน่นอน มีเงื่อนไขว่ามันต้องเป็นเทวทูตแท้ มิใช่เพียงหุ่นเชิดที่ได้รับพร… ถ้าเป็นหุ่นเชิดจะจัดการได้ง่ายกว่า แค่เธอดึงพลังของมันออกมาถึงขีดจำกัดหนึ่ง ตัวมันก็จะพังทลายไปเอง จนเหลือเพียงพลังที่แฝง ‘ตราประทับวิญญาณ’ ขององค์ซ่อนเร้นนั่น ซึ่งตรงนี้จะค่อนข้างยุ่งยาก เธอต้องคอยรักษาผนึกไว้ ค่อยๆ ดูดซับไป จนกว่าจะถึงระดับที่เทวทูตสามารถรับมือไหว”
“อาจฟังดูเหมือนง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ขั้นตอนที่ยากและยุ่งยากที่สุดก็คือ การไต่เต้าไปให้ถึงระดับเทวทูต”
“ด้วยคุณสมบัติในทุกด้านของเธอ ฉันยังไม่มั่นใจสักเท่าไร หากมิใช่เพราะยุคสมัยปัจจุบันค่อนข้างพิเศษ ผู้วิเศษเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า จะไม่มีวันได้สัมผัสกับบารมีเทพ”
“สำหรับวิธีหลีกเลี่ยงอิทธิพลเชิงลบจากเทอร์มีโพลอส ฉันคิดว่านักจิตบำบัดน่าจะบอกเธอไปแล้ว คงไม่จำเป็นต้องอธิบายซ้ำซาก”
“ฉันแค่อยากเตือนเธอไว้สักนิดว่า ในอนาคต หากคิดจะทำการใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูง อย่าลืมเขียนจดหมายบอกฉันล่วงหน้า…”
“ถ้าฉันเตือนเธอไปตรงๆ ว่า ‘ก่อนจะหาวิธีใช้ประโยชน์จากเจ้าชื่อยาวนั่น อย่าลืมเขียนจดหมายขอคำแนะนำจากฉัน’ เมื่อถึงตอนนั้น เธอคงได้รับอิทธิพลเงียบจากมัน จนลืมการเขียนจดหมายถึงฉันและละเลยอันตรายที่อาจเกิดขึ้น แต่พอเปลี่ยนเป็นการเตือนว่า ‘หากคิดจะทำการใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูง อย่าลืมเขียนจดหมายบอกฉันล่วงหน้า’ เทอร์มีโพลอสไม่มีทางทำให้เธอลืมแน่ เพราะนั่นจะทำให้ตัวเธอเสี่ยงเผชิญอันตรายและมีโอกาสตายสูง ซึ่งเจ้านั่นไม่อยากให้เกิดมากที่สุด ซ้ำยังขัดแย้งกับเป้าประสงค์ของมัน”
“ถ้าเธอตาย ผนึกอาจกระทบกระเทือน แต่พระองค์ท่านก็จะรับรู้ได้เช่นกัน และฉันก็จะรวบรวมกำลังคน ร่วมมือกับผนึก เพื่อกำจัดมันทิ้ง”
“การมีเทวทูตในขอบเขตโชคชะตาถูกผนึกอยู่ในตัว ชีวิตถัดจากนี้ของเธอจะเต็มไปด้วยความ ‘ตื่นเต้น’ … พระองค์ท่านจงเจริญ… ตอนนี้เธอคงไม่ต่างอะไรกับเหยื่อล่อ ‘สาวกเทพมาร’ เหยื่อล่อ ‘นักล่าและนางมาร’ ชีวิตจะได้พานพบประสบการณ์หลากหลายรสชาติ วันไหนถ้าเธอว่างและอารมณ์ดี จะเขียนจดหมายฉบับยาวมาเล่าให้ฉันฟังก็ไม่ว่า”
“สุดท้ายนี้ ด้วยความช่วยเหลือของนักจิตบำบัดสองคน ในการชุมนุมลับครั้งถัดไป เธอสามารถแจ้งกับมิสเตอร์ K ได้แล้วว่าพร้อมเปลี่ยนความศรัทธา แต่อย่าลืม ก่อนออกเดินทางไปร่วมชุมนุม จงขอพรคุ้มครองจากเทวทูตกับพระองค์ท่านของฉัน”
ลูเมี่ยนอาศัยน้ำอดน้ำทนเพื่ออ่านจดหมายให้จบ รู้สึกเหมือนมาดามเมจิกเชี่ยนเขียนมากมาย แต่ก็เหมือนไม่ได้เขียนอะไรเลย
สิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดคือ การสอนวิธี ‘เลี่ยง’ อิทธิพลลับจากเทอร์มีโพลอส เพื่อไม่ให้ลืมถามความเห็นจากเธอก่อนที่จะหาทางใช้ประโยชน์จากเทวทูตรายนี้ นอกจากนั้นก็เป็นการ ‘ขายฝัน’ ในสิ่งที่แทบจะยากเกินเอื้อม ว่าหากไต่ไปถึงระดับเทวทูตได้ ก็ยังพอมีความหวังที่จะกำจัดมลพิษในร่างกาย
หลังจากถูพลังวิญญาณ เผากระดาษทิ้ง ลูเมี่ยนคลำธนบัตรและเหรียญที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าตามตัว เดินออกจากห้อง 207 มาถึงหน้าห้อง 305
อ็องโตนี·รีดกลับถึงห้องแล้ว นั่งอยู่ข้างเตียง ยังคงแต่งกายเป็นพนักงานตำแหน่งเล็กๆ เช่นเดิม
มองลูเมี่ยนที่ผลักประตูที่เปิดแง้มเข้ามา เขาอธิบายเรียบง่าย
“ผมรอเป้าหมายอยู่ที่ประตูหลังของบ้าน 126 ถนนใหญ่ตลาด แต่ก่อนหน้านี้ไม่นาน ผมตรวจพบว่าเขาออกจากประตูหน้าไปแล้ว โดยมีคุณไล่ตามไป”
ลูเมี่ยนนับธนบัตรมูลค่าสี่ร้อยเฟลคินถ้วน ส่งให้อ็องโตนี·รีด
พร้อมกันนั้น เด็กหนุ่มพูดพลางพยักหน้าเล็กน้อย
“งานจ้างจบแล้ว”
“คุณคงได้คุยกับเป้าหมายแล้วสินะ” อ็องโตนี·รีดยิ้มเบาๆ
ก่อนจะเลือกคำพูดเพื่อถาม
“ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมาย ผมนำไปส่งให้ทางการได้ไหม?”
“รออีกสักสัปดาห์ก็แล้วกัน” ลูเมี่ยนตั้งใจไว้แต่แรก ว่าจะจ่ายเงินเพิ่มให้อ็องโตนี·รีดเพื่อเลื่อนเวลาแจ้งเบาะแสกับทางการออกไปสักพัก แต่นักค้าข่าวกลับเป็นฝ่ายถามความเห็นก่อน เด็กหนุ่มจึงฉวยโอกาสกำหนดขอบเขตเวลาไป
เขากังวลว่าการสืบสวนและจับกุมลูอิส·ลุนด์ จะไปรบกวนคุณนายปัวริส จนส่งผลต่อการนัดพบกันระหว่างตนกับอีกฝ่าย
อ็องโตนี·รีดไม่คัดค้าน เพียงกล่าวด้วยสีหน้าซับซ้อน
“คุณเหมาะกับเขตตลาดมากกว่าที่ผมคิดเสียอีก”
เขาไม่เคยเห็นอาชญากรบนหมายจับคนไหน กลายเป็นหัวหน้าหน่วยแก๊งใหญ่ได้เร็วถึงเพียงนี้ ซ้ำยังไม่ถูกทางการจับได้
“คนมีความสามารถ จะอยู่ที่ไหนก็เหมาะสม เหมือนกับคุณนั่นแหละ” ลูเมี่ยนชื่นชมอ็องโตนี·รีด พลางเหลือบมองรอบห้อง 305 ตามความเคยชิน
เขาเห็นกระดาษถูกพับหลายแผ่น วางอยู่บนโต๊ะไม้ริมหน้าต่าง แผ่นกระดาษค่อนข้างหนาและเรียบ ดูแล้วน่าจะใหญ่กว่าภาพสีน้ำมันขนาดปกติ
กระดาษอะไร? ลูเมี่ยนจ้องอยู่ชั่วขณะ พบว่าบนผิวกระดาษที่ถูกพับไว้ ด้านในมีสีน้ำเงิน มอบความรู้สึกคล้ายสิ่งพิมพ์
นี่ทำให้เด็กหนุ่มนึกขึ้นได้ทันที
โปสเตอร์สำหรับติดกำแพง!
โปสเตอร์ผู้สมัครสส. ที่ติดอยู่ทั่วในช่วงเวลานี้!
“สนใจการเลือกตั้งสส. ด้วยสินะครับ” ลูเมี่ยนไม่ได้ปิดบังการคาดเดาของตน เพียงพูดยิ้มๆ กับอ็องโตนี·รีด “คุณมีงานสุจริตหรือ?”
นี่คือหนึ่งในเงื่อนไขพื้นฐาน ของการเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
อ็องโตนี·รีด ยิ้มตอบอย่างสงบ
“ไม่มี”
เขาไม่ได้อธิบายว่าตนเก็บโปสเตอร์ผู้สมัครสส. มาเพื่ออะไร
งานจ้างของคนอื่น? ลูเมี่ยนไม่ได้ถามมาก เพียงโบกมือลา หมุนตัวเดินออกจากห้อง 305
ท่ามกลางเสียงคร่ำครวญเป็นระยะของ ‘คนบ้า’ เด็กหนุ่มเดินลงบันไดตลอดทาง ออกจากโรงแรมระกาทอง กลับไปยังคาบาเร่ต์ลมเอื่อย นั่งลงที่เก้าอี้เคาน์เตอร์บาร์
“สายัณห์สวัสดิ์ครับ ลูกพี่” บาร์เทนเดอร์ยืดหลังตรง ทักทายอย่างให้เกียรติ
ลูเมี่ยนพยักหน้ารับ
“ขออัปแซ็งต์ให้ฉันแก้ว”
วันนี้ได้ระลึกถึงหมู่บ้านกอร์ตูหลายครั้งเกินไป เด็กหนุ่มต้องการรสขมที่มอบความรู้สึกฝันเพ้อ เพื่อทำให้ตัวเอง ‘สร่าง’
บนเวที จินนากำลังแสดงท่าทางนางพญา ร้องเพลงลามกยั่วยวน ลูเมี่ยนพิงเคาน์เตอร์บาร์ มองไปแบบไม่จดจ่อ ฟังอย่างเหม่อลอย
เขาจิบของเหลวสีเขียวชวนฝันเป็นระยะ ปล่อยให้รสขมกระตุ้นปลายประสาท
ผ่อนคลายทำนองนี้อยู่สักพัก เด็กหนุ่มเก็บงำอารมณ์ความรู้สึก ทบทวนเรื่องที่ต้องจัดการในระยะนี้
หนึ่ง งานของมิสเตอร์ K สอง อันตรายจากแก๊งหนามพิษ สาม การโจมตีซ้ำของซูซานน่า·มาติส สี่ การนัดพบคุณนายปัวริส
ส่วนเรื่องการเลือกตั้ง หลังจากฟรังก้าช่วยยืนยันว่า พรรคซาฟาห์ก็สนับสนุนฮิวจ์·อาร์ทัวส์เช่นกัน ลูเมี่ยนก็เลิกสนใจไปเลย เพราะถึงอีกฝ่ายจะชนะการเลือกตั้ง ก็ไม่ถึงกับกดขี่พรรคซาฟาห์จนกระทบต่อการทำภารกิจของเขา
การโจมตีครั้งใหม่ของซูซานน่า·มาติส เดิมทีเป็นปัญหาที่ลูเมี่ยนกังวลมากที่สุด แต่เมื่อการบำบัดจิตคืบหน้าไปมาก จนเขาสะดวกใจที่จะขอความช่วยเหลือจากฟรังก้ามากขึ้น มันจึงกลายเป็นปัญหาที่จัดการได้ง่ายกว่าเดิม
ผู้วิเศษทางการที่หันมาสนใจคดีนี้เพราะฟรังก้า คงไม่ด้อยไปกว่าลูเมี่ยนผู้มีลำดับ 8 แน่นอน หรือก็คือ ย่อมต้องตรวจพบปัญหาของมิสเตอร์เอฟฟ์กับโรงละครกรงพิราบเก่า แล้วตามหาวิญญาณมารของซูซานน่า·มาติส เพื่อชำระล้างให้หมดจด
คดีนี้จะถูกสะสางในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เขาแค่ต้องคอยระวังตัวไว้
ภารกิจของมิสเตอร์ K ค่อนข้างซับซ้อน ขึ้นอยู่กับความคิดของการ์ดเนอร์·มาร์ตินเป็นหลัก ในเมื่อลูเมี่ยนมิใช่ผู้วิเศษเส้นทาง ‘ผู้ชม’ ก็ย่อมต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ เพื่อหาวิธีทำให้เป้าหมายยอมรับ ปัจจุบันยังไม่มีทางลัด ซึ่งก็หมายความว่าไม่จำเป็นต้องรีบ
ในทำนองเดียวกัน ทางคุณนายปัวริสก็ต้องรอคำตอบ ลูเมี่ยนอยากเร่งก็เร่งไม่ได้
หลังจากวิเคราะห์อยู่นาน เด็กหนุ่มได้ข้อสรุปว่า ตอนนี้ควรมุ่งเน้นขจัดภัยคุกคามจากแก๊งหนามพิษ
หลังชนะการเลือกตั้ง ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์จะได้รับพรเพิ่มเติมจาก ‘คุณนายจันทรา’ จนกลายเป็น ‘ผู้หว่านเมล็ด’ ส่วน ‘หัวล้าน’ ฮาร์มันกับ ‘เชิงเทียนขาสั้น’ คาสตินา ใครสักคนอาจได้เลื่อนลำดับเป็น ‘เจ้าวิชามาร’ เมื่อถึงตอนนั้น ลูเมี่ยนผู้เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง ก็คงหมดโอกาสต้านทานโดยสิ้นเชิง ต่อให้มีความช่วยเหลือจากฟรังก้า บารอนบรินิแยร์ และคนอื่น ชีวิตก็ยังแขวนไว้บนเส้นด้าย
“ก่อนที่เทศกาลเลือกตั้งจะจบลง เราต้องร่วมมือกับฟรังก้า เลือกมาสักคืน แอบเข้าไปใน 126 ถนนใหญ่ตลาดเพื่อจัดการพวกหัวหน้าหน่วยที่เหลือของแก๊งหนามพิษ? แม้ต่อมา ‘คุณนายจันทรา’ จะส่งคนมาทดแทน แต่กว่าพวกมันจะควบคุมสถานการณ์ได้ เราก็คงได้รับความไว้วางใจจากบอสไปมากแล้ว ถือโอกาสถอนตัวจากเขตตลาดได้พอดี…”
“ปัญหาคือ ในบ้านของ ‘เจ้าวิชามาร’ เรากับฟรังก้าผนึกกำลังกันก็ยังไม่แน่ว่าจะชนะมันได้ นี่ยังไม่นับว่าอีกฝ่ายมีผู้ช่วย…”
“หาจังหวะที่ ‘หัวล้าน’ ฮาร์มันกับ ‘เชิงเทียนขาสั้น’ คาสตินาออกนอกบ้าน แล้วจัดการพวกมันก่อน?” ขณะลูเมี่ยนครุ่นคิด ก็เห็นชาร์ลีในชุดเด็กเสิร์ฟ ถือถาดเดินมาที่เคาน์เตอร์บาร์
เด็กหนุ่มพยักหน้าทักทาย เพ่งสมาธิโดยสัญชาตญาณ อ่านดวงชะตาของชาร์ลี
อึดใจถัดมา นิ้วมือของลูเมี่ยนที่จับขาแก้วอัปแซ็งต์ แข็งเกร็งอย่างเฉียบพลัน รูม่านตาขยายในทันที
เขา ‘เห็น’ ดวงชะตาของชาร์ลีถูกย้อมด้วยสีเลือด แดงปนดำ ชวนให้ขนหัวลุก
สิ่งนี้หมายความว่า ในอีกสองสามวันข้างหน้า หรือแม้กระทั่งในยี่สิบสี่ชั่วโมงถัดไป ชาร์ลีจะประสบเคราะห์กรรมเลือดตกยางออกที่คุกคามชีวิต!
…………………………………………………….