ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 49
“พูดแบบนี้แสดงว่านายลืมเรื่องวันนั้นไปแล้วงั้นหรอ” เจียงเป่ยเฉินกล่าว
รอยยิ้มบนในหน้าของหวังซูกลายเป็นบิดเบี้ยวไปในทันที เขาไม่มีทางลืมเรื่องที่เกิดขึ้นที่ภัตตาคารวันนั้นแน่นอน แค่คิดถึงเรื่องนั้นก็ทำให้เขารู้สึกขยะแขยงมาแล้ว
“นาย ถ้านายพูดถึงเรื่องนั้นฉันจะไม่มีวันยกโทษให้นายแน่!” หวังซูรีบเดินเข้ามาใกล้ๆและกล่าว เรื่องนั้นมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้และไม่มีใครกล้าพูดออกไปแน่นอน แต่เจียงเป่ยเฉินนั้นต่างออกไป
“ไม่ต้องห่วง ตราบใดที่นายไม่พูดมาก ฉันก็จะไม่พูดถึงมัน!” เจียงเป่ยเฉินหัวเราะและกล่าว
หวังซูพยักหน้าและเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร
“นายมาทำอะไรที่นี่?” หวังเสี่ยวหวู่เดินเข้ามาและกล่าว “นี่มันเป็นการประชุมภายในตระกูลหวังนายอย่ามายุ่ง!” เจียงเป่ยเฉินกล่าว
หวังเสี่ยวหวู่งุนงงเธอไม่เข้าใจว่าที่เจียงเป่ยเฉินกล่าวมันหมายความว่ายังไง
“ เป่ยเฉินเธอหมายความว่ายังไง?” หญิงชราขมวดคิ้วและกล่าวออกมา “นี่เป็นช่วงสำคัญในการพัฒนาตระกูลหวังของเรา ฉันหวังว่านายจะเงียบและไม่สร้างปัญหาให้เรา”
“ผมจะไม่ยุ่งเรื่องการพัฒนาตระกูลหวัง แต่เรื่องที่จะเอาบ้านภรรยาผมไปจำนองนั้นผมไม่เห็นด้วย!” เจียงเป่ยเฉินกล่าว
“ ไม่เห็นด้วย?” หญิงชรากล่าวเย้ย “นายเป็นแค่ลูกเขยนายมีคุณสัมบัติอะไรมาออกความเห็น อีกอย่างนายก็ไม่ใช่เจ้าของบ้านหลังนั้นด้วยใช่ไหม”
“ไม่สำคัญว่าผมจะเกี่ยวข้องยังไงกับตระกูลหวัง! แต่ภรรยาของผมทำงานอย่างหนักเพื่อตระกูลหวังมาหลายปีแต่แล้วคุณก็ยังเอาซือหยุนไปจำนองต่อจากนั้นคุณยังจะเอาบ้านไปจำนองอีกงั้นหรอ นี่มันไม่มากเกินไปหน่อยหรอ”
เจียงเป่ยเฉินขมวดคิ้วและเดินไปข้างหน้าพร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันออกมา เขากล่าวอย่างเสียงดังและหนักแน่น “คุณจะจำนองบ้านใครก็ได้ แต่ไม่ใช่บ้านของภรรยาผม!!”
ภายใต้แรงกดดันที่มองไม่เห็นนี้ใบหน้าของหญิงชราพลันเปลี่ยนเป็นซีดขาวร่างกายของเธอสั่นสะทานเป็นอย่างมาก
“มันไม่ได้เกี่ยวข้องไรกับนาย ที่นายจะมายุ่งเรื่องของตระกูลหวังของเรา ยิ่งไปกว่านั้นเสี่ยวหวู่ในฐานะหลานสาสวของครอบครัวเธอควรจะเสียสละเพื่ออนาคตของตระกูลหวัง เรื่องนี้ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วเราจะเอาบ้านของเธอมาจำนอง ไม่งั้นในอนาคตเธอจะไม่ได้รับมรดกอะไรอีกเลย!”
หญิงชรากล่าวกดดัน
“เจียงเป่ยเฉินนายพูดแบบนั้นกับคุณย่าได้ยังไง ถึงยังไงเธอก็เป็นคนของตระกูลหวังนะ”เตวหยูหลานกล่าว ยังไงก็ตามสำหรับเธอคุณย่าก็ยังเป็นคนในตระกูลหวัง ตอนแรกเธอกังวลอย่างมากจนโทรตามให้เขามาช่วยแต่ใครจะคาดคิดว่าเขากลับมายั่วโมโหหญิงชราแทน
หวังเสี่ยวหวู่ขมวดคิ้วด้วยความโกรธและกล่าวออกไป “นี่ไม่ใช่เรื่องของนาย นายกลับไปได้แล้ว!”
“เธอไล่ฉันหรอ?”
เจียงเป่ยเฉินไม่ได้สนใจสองแม่ลูกเขามองไปที่หญิงชราแล้วกล่าวออกไป “นี่คุณย่า คุณคิดว่าเมื่อไรที่จะได้เงินปันผลงั้นหรอ?”
เจียงเป่ยเฉินมองไปรอบๆและกล่าวต่อไป “ตระกูลหวังของพวกนายนับเป็นอะไร ตอนนี้แม้แต่เสี้ยวของเงินปันผลยังไม่เห็นเลย แล้วตอนนี้ตระกูลเหลือทรัพย์สมบัติเท่าไรกันละ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ดังออกมาภายในห้องพลันเกิดความโกลาหลทันที
หญิงชราเกือบล้มลงไปจากที่นั่ง แต่ยังดีที่เธอจับไม้ค้ำอยู่และแสร้งทำเป็นสงบลงทันที แต่ถึงยังงั้นแล้วร่างของเธอยังคงสั่นเทา
“เจียงเป่ยเฉิน นายพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง!?” หวังซูกล่าวด้วยความโกรธ
“เจียงเป่ยเฉินนายกำลังพูดบ้าอะไรอยู่ ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!” หวังเสี่ยวหวู่ชี้ไปที่ประตูและกล่าวเสียงดัง นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างมากในการลงทุนของตระกูลหวังด้วยคำพูดของเจียงเป่ยเฉินทำให้ขวัญกำลังใจของตระกูลตกลงอย่างเห็นได้ชัด
“บริษัท การค้าของปักกิ่ง ท่านรองประธานหลี่ มาแล้ว!”
ทันใดนั้นชายร่างสูงในชุดสูทสีดำเดินเข้ามาในห้อง
หลี่ลี่เว่ยมาถึงแล้ว!
“หญิงชรา ผมชื่อหลี่ลี่เว่ยรองประธานสาขาหยุนไห ของบริษัท จิงเหมา จากฮ่องกงวันนี้ผมมาในนามของประธานหวังหมิงเจ่อ ผมมาที่นี่เพื่อที่จะหารือเรื่องหนี้ของคุณ!” หลี่ลี่เว่ยกล่าวออกมา
ทันทีที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นคนอื่นๆในตระกูลหวังต่างพากันงุนงงทันที
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ตระกูลหวังเป็นหนี้บริษัทจิงเหมาตอนไหน?
ทันทีที่หญิงชราได้ยินคำว่า “บริษัท จิงเหมา” ใบหน้าของเธอก็พลันเปลี่ยนเป็นซีดขาวทันที เธอรีบลุกขึ้นมาทันทีและกล่าวว่า “รองประธานหลี่เรื่องนี้เราควรคุยมาคุยกันเป็นการส่วนตัวดีกว่า … “
“อย่าได้ลำบากเลยเพราะยังไงทุกคนในตระกูลหวังก็อยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้วน่าจะพอรวมเงินกันได้ หลานชายของคุณหวังเฉินเล่นพนันที่ฮ่องกงก่อนนี้เขาเสียงเงินไป 30 ล้านและตอนนี้เป็นหนี้เราอยู่ 20 ล้าน ท่านประธานบอกว่าหากไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ได้หวังเฉินต้องทำงานเพื่อที่จะชดใช้หนี้ และอีกอย่างถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เก่งอะไรเลยแต่หน้าตาเขาก็ดีใช้ได้เลย!”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นคนอื่นๆในตระกูลต่างพากับเดือดดาลเป็นอย่างมาก!
หวังเฉินไปเล่นพนันทีฮ่องกงและสูญเงินไปหลายล้าน?
30 ล้านนั้นได้มาจากไหนละ?
แน่นอนว่าเป็นการเอาบริษัททั้งสองไปจำนอง!
ทุกคนต่างคาดหวังกันไว้สูงในการลงทุนของเขา แต่เขาดันไปเล่นพนันที่ฮ่องกง??
แล้วเงินสามร้อยล้านก่อนหน้านี้ล่ะ?
หรือว่านั้นก็เป็นเรื่องโกหกเหมือนกัน! ทั้งการลงทุนที่ วอลล์สตรีท ก็เป็นเรื่องโกหกที่เขาสร้างขึ้นมางั้นสินะ! เห็นได้ชัดว่าเขาวางแผนไว้ตั้งแต่เขากลับมาตระกูลหวัง!
ในตอนนี้ภายในตระกูลหวังเต็มไปด้วยเสียงด่าทอและสาปแช่ง พวกเขาแทบจะไปลวกคอหวังเฉินที่ฮ่องกงมาทุบตีเดี๋ยวนี้เลย
“เวรเอ๋ย หวังเฉินมันโกหกงั้นหรอ!”
หญิงชราทรุดตัวลงบนเก้าอี้ตอนนี้เธอโกรธเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว ทุกคนต่างรู้ได้ทันที ว่าที่จริงแล้วหญิงชรานั้นรู้เรื่องนี้มานานแล้ว และเรื่องที่จะจำนองเพื่อลุงทุนเพิ่มเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!
หญิงชราทำไปเพื่อหลานชายของเธอเท่านั้น!
หวังเสี่ยวหวู่กัดริมฝีปากอย่างหนักดวงตาของเธอแดงก่ำ เธอไม่คิดเลยว่าคุณย่าของเธอจะทำกับเธอแบบนี้จำนองบ้านของเธอเพื่อช่วยหลานชาย!
ถ้าเจียงเป่ยเฉินมาไม่ทันเวลาและเธอตอบตกลงไป ถึงตอนนั้นเธอคงไม่มีที่ซุกหัวนอนอย่างที่เขาบอกแน่นอน!
“คุณคิดว่าไง?” หลี่ลี่เว่ยมองหญิงชราด้วยรอยยิ้ม
หญิงชราสูดหายใจเข้าและกล่าว “ไม่ต้องกังวลตระกูลหวังของเราจะเอาเงินไปให้อย่างแน่นอน!”
หญิงชรากล่าวพร้อมกับหันหน้าไปทางหวังเสี่ยวหวู่ “เสี่ยวหวู่… “
“คุณย่าเรื่องของพี่รองเขาก่อเรื่องเองก็ต้องช่วยตัวเอง หนูจะไม่ยอมเอาบ้านไปจำนองเพื่อช่วยเขาแน่นอน!”หวังเสี่ยวหวู่กล่าวอย่างเย็นชา
หญิงชราได้ยินดังนั้นเธอก็โกรธเป็นอย่างมาก แต่ทว่าเธอก็รีบทำใจให้เย็นลงและกล่าวออกไปว่า ” เสี่ยวหวู่เธอจะปล่อยให้พี่ของเธอถูกจับไว้ที่ฮ่องกงจริงๆหรอ ถ้าเธอยอมช่วยย่าสัญญาว่าจะยกมรดกของตระกูลหวังให้เธอ! “
หวังเสี่ยวหวู่และคนอื่นๆในตระกูลต่างตกตะลึงในทันที
“คุณย่านี่มันจะไม่เกินไปหน่อยหรอที่จะให้เธอแบบนี้… ”
“หุบปาก!” หญิงชราตะโกนใส่หวังซู
หวังซูจะไปรู้อะไร ตอนนี้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูลถูกจำนองไว้หมดแล้ว มันก็เหมือนเผือกร้อนสำหรับใครที่ต้องการรับมรดกของตระกูลไป ด้วยความสามารถของหวังเสี่ยวหวู่ เธอเป็นคนเดียวในตระกูลที่จะสามารถกู้สถานการณ์ของตระกูลตอนนี้ได้
หวังเสี่ยวหวู่ลังเลเป็นอย่างมาก ยังไงก็ตามสิ่งที่เธอต้องการที่สุดก็ยังคงเป็นการรักษาซือหนุยไว้!
“เสี่ยวหวู่คุณต้องคิดให้รอบครอบ!” เจียงเป่ยเฉินกล่าวเตือน
“ฉัน…”
“ช้าก่อน!” เมื่อหวังเสี่ยวหวู่กำลังจะกล่าวหลี่ลี่เว่ยก็พูดขัดขึ้นมาอีกครั้ง และมองไปที่หญิงชราด้วยรอยยิ้มและกล่าว “ขอโทษที ผมยังมีคำกล่าวของท่านประธานอีก!”
หลี่ลี่เว่ยมองไปรอบๆและกล่าว “ท่านบอกให้ใช้บ้านของคุณและบ้านของหวังซูมาเป็นหลักประกัน”