ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 43
หลี่หมิงหยวนงง แต่เขาก็พยักหน้าตอบรับ” ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับผม เศียรพระพุทธรูปน่าจะถูกนำมาจากสถานที่ใกล้ๆกับภูเขาหยุนซาน ผมจะให้คนไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้เลย! “
เจียงเป่ยเฉินพยักหน้า ทั้งสองคนพูดคุยกันสักพักก็เดินออกจาก ชุยหยุน ไปพร้อมกัน
พอถึงบ้านเจียงเป่ยเฉินก็ไปที่ห้องของเขาทันทีและเริ่มนั่งสมาธิ เขาเริ่มทำการตรวจสอบเศษชิ้นส่วนที่เขาได้มา เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย ถึงแม้ว่ามันจะอ่อนลงไปบ้าง แต่ด้วยความสามารถของเขาก็พอจะจับความรู้สึกถึงมันได้ เมื่อผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ฝึกฝนมามายพอสถานที่ที่เขาฝึกฝนก็จะค่อยๆปรับสภาพเพราะการดูดซับพลังจากพวกเขา เหตุผลที่เจียงเป่ยเฉินให้หลี่หมิงหยวนช่วยตรวจสอบเพราะเขาสัมผัสได้ถึงพลังเหล่านั้น
ซวนซิงจือถูกสร้างขึ้นโดยปรมาจารย์ และมันไม่เคยถูกถ่ายทอดให้กับใคร เขาเป็นคนเดียวที่ฝึกวิชานี้ เพราะอย่างนั้นสถานที่ที่เขาให้ไปสืบต้องมีเบาะแสอะไรสักอย่างเกี่ยวกับซวนซิงจือ
เมื่อเจียงเป่ยเฉินกำลังทำสมาธิปรับบลมหายใจอยู่นั้น ที่บ้านของตระกูลหวังก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาหา นั้นคือชูเย่เธอมาเคาะประตูบ้านด้วยความโกรธอย่างมาก
“โอ้ว เย่เย่ เธอมาหาเสี่ยวหวู่หรอเข้ามาก่อนสิเธออยู่ข้างบนฉันจะให้คนไปตามมาให้!” เตวหยูหลานเห็นชูเย่ที่กำลังโกรธก็ประหลาดใจ แต่ก็ยังเชฺยเธอเข้ามา
“ป้า เจียงเป่ยเฉินอยู่บ้านหรือเปล่า” ชูเย่เข้ามาแล้วถามทันที
“อ่อ ขยะนั้นมันเพิ่งจะกลับมา เธอถามหามันทำไมหรอ”
“ แม่ต่อคนอื่นทำไมถึงพูดว่าเขาเป็นขยะละ!” หวังเสี่ยวหวู่ขมวดคิ้วขณะลงบันได้มา
“หึ! เขาก็ไม่ได้แย่ไปหมดหรอก ยังไงเขาก็มีงานทำ เขาทำงานที่ หรงติ่ง เป็นคนขับรถให้เจ้านายเขางั้นสินะ? ใช่ไหมละ” เตวหยูหลานกล่าวทับถม
“คุณป้าคุณว่าไงนะ เจียงเป่ยเฉินเป็นคนขับรถให้ประธานของหรงติ่งงั้นหรอ” ชูเย่ตกใจเป็นอย่างมาก
ดี! ดี แกเจียงเป่ยเฉิน ฉันเกือบโดนแกหลอกสินะ
แกไม่ได้ซื้อร้าน 4S!
แกมาเซ็นสัญญาแทนเจ้านายแก?
“ชูเย่ อย่าไปฟังแม่ฉันพูดเลย เป่ยเฉิน มีงานทำจริงๆประธานของหรงติ่งเป็นเพื่อนของเขา พวกเขาสนิทกันมากเพื่อนเขาเลยช่วยเหลือเขาน่ะ!” หวังเสี่ยวหวู่กล่าว จากใบหน้าและน้ำเสียงบอกได้เลยว่าเธอโอเคกับงานของเขา
ตอนนี้ชูเย่เข้าใจทุกอย่างแล้ว!
ตอนแรกเธอก็ว่ามันแปลกๆ เจียงเป่ยเฉินเป็นแค่ลูกเขยของตระกูลหวังเขาจะกลายเป็นคนที่มีทรัพย์สินมากกว่าพันล้านได้ยังไงกัน?
ยังไงขยะก็ยังเป็นขยะ เรื่องทั้งหมดเป็นเพียบเรื่องโกหกเท่านั้น!
ทีแรกเธอกลัวเจียงเป่ยเฉินอย่างมาก เธอคิดว่าเขาเป็นประธานบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่าพันล้าน แม้ว่าเธอจะมีเพื่อนๆคอยสนันสนุกมาก แต่มันก็ยากที่จะต่อกรกับเขา แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว
“เสี่ยวหวู่ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ สามีของเธอเขาทำให้ร้าน 4S มีปัญหากับฉันแถมยังให้ฉันจ่ายค่าซ่อมรถราคาเป็นล้านหยวนอีกด้วย!” ชูเย่โกรธมาก เธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้หวังเสี่ยวหวู่ฟัง ทันทีที่เธอฟังจบเธอก็ลุกขึ้นทันที
“เจียงเป่ยเฉินนายมานี่เดี๋ยวนี้เลย!”
เจียงเป่ยเฉินที่กำลังทำสมาธิอยู่นั้นขมวดคิ้วทันทีหลังจากได้ยินเสียงเรียก แต่ถึงเขาจะไม่พอใจยังไงเขาก็ยังเดินลงมาอยู่ดี เมื่อเข้าเห็นชูเย่เข้าก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดทันที
“เจียงเป่ยเฉิน ชูเย่เป็นเพื่อนสนิทของฉัน นายทำเกินไปนะที่ร้าน 4S ขนาดตอนนี้นายเป็นแค่คนขับรถ ถ้านายเป็นประธานเมื่อไรนายจะทำอะไรไปมากกว่านี้หรือเปล่าละ!” หวังเสี่ยวหวู่โกรธและผิดหวังเป็นอย่างมาก
“หึ อย่างเขานะหรอเป็นประธาน ยังไงก็เป็นได้แค่คนขับรถนั้นแหละ!” เตวหยูหลานเยาะเย้ยท่าทีของเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ
แม้ว่าเจียงเป่ยเฉินจะเป็นเพื่อนกับประธานของหรงติ่ง แต่เพื่อนแล้วยังไงละ? คนที่มีเงินเป็นเพื่อนเขา ไม่ใช่เป็นเขาที่มีเงินเขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเพื่อนเขาด้วยซ้ำ
ขยะ!
“เจียงเป่ยเฉิน นายพาชูเย่ไปที่ร้าน 4S และแก้ไขเรื่องนี้ด้วยอย่าได้มาแกล้งเพื่อนสนิทฉันไม่งั้นฉันจะ…… “
หวังเสี่ยวหวู่กำลังจะเอ่ยคำว่า หย่า ออกไปแต่ทว่าเธอก็นึกถึงคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับเขาเธอจึงกลืนคำพูดนั้นลงไปทันที
“เอาล่ะ ภรรยาของผม อย่าเพิ่งโกรธไปเลยผมจะพาเธอไปเดี๋ยวนี้เลย!” เจียงเป่ยเฉินพยักหน้าจากนั้นหันไปกล่าวกับชูเย่ “คุณชู มากับผม!” จากนั้นก็เดินออกไป ชูเย่ตอนนี้เธอแสดงท่าทีออกมาราวกับว่าเธอได้รับชัยชนะ
“หึ ขยะอย่างนายยังไงก็ต้องเชื่อฟังเสี่ยวหวู่อยู่ดี ถ้าเธอบอกให้นายทำอะไรนายก็ต้องทำนายไม่กล้าที่จะขัดขืนเธอเลยสินะ!” ทันทีที่ออกมาชูเย่ก็กล่าวเย้ยหยันเขาทันทีราวกับราชินีที่มีอำนาจเหนือกว่าเขา
เจียงเป่ยเฉินไม่ได้แสดงออกอะไรไปเพียงแค่กล่าว “ขึ้นรถ!”
ชูเย่มองไปที่รถของเขาแล้วเธอก็ตะลึงและอุทาน “โรลส์รอยซ์ รถคันนี้ราคาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านแน่ๆ เป็นรถเจ้านายของนายสินะ”
เจียงเป่ยเฉินไม่สนใจที่เธอพูดเข้าเพียงแค่ยิ้มแล้วเดินขึ้นรถไป
ระหว่างทางชูเย่เอาแต่มองซ้ายทีขวาทีเธอมองสำรวจไปรอบรถอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้านายของนายนี่รวยจริงๆ เขาสมควรแล้วแหละที่เป็นประธานบริษัทมูลค่าหลายพันล้าน สักวันหนึ่งหวังว่านายจะมีโอกาศได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการหรืออะไรที่ดีกว่าคนขับรถนะ”
เจียงเป่ยเฉินเงียบ
ไม่นานรถก็มาถึงร้าน BMW 4S
ทันทีที่จ้าวไคสักเกตุเห็นโรลส์รอยซ์กำลังขับเข้ามาเขาก็รีบออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง คนที่ขับรถคันนี้มาจะต้องเป็นลูกค้ารายใหญ่แน่นอน!
เมื่อเห็นเจียงเป่ยเฉินละชูเย่ลงมาจากรถ จ้าวไคพลันตะลึงเป็นอย่างมาก
“ท่านประธาน… ”
“รถของชูเยอยู่ไหน”เจียงเป่ยเฉินถาม
“อยู่ด้านหลัง ผมจะพาคุณไปที่นั้นเอง!” จ้าวไคงุนงง ทำไมถึงดูเหมือนว่าประธานมารับรถให้ชูเย่ละ ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนมีเรื่องกับอยู่หรอ?
เมื่อมาถึงด้านหลังแล้วจ้าวไคคิดว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆแน่นอน
เจียงเป่ยเฉินชี้ไปที่ BNW และกล่าว “ทุบ!”
จ้าวไคตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแต่แล้วเขาก็ฟื้นคืนสติได้ทันที และรีบตะโกนบอกลูกน้อง”พวกแกยืนทำซากอะไรอยู่ ไม่ได้ยินที่ประธานสั่งหรอ ทุบ เดี๋ยวนี้!”
ทันทีที่ได้ยินคำสั่งของหัวเน้าพวกเขาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร ต่างคนต่างหยิบฉวยเครื่องไม้เครื่องมือลงมือหวดเขาไปที่รถทันที
“เวร เจียงเป่ยเฉินนายเป็นบ้าอะไร นายมาทุบรถฉันทำไมรีบบอกให้พวกเขาหยุดเลยนะ” ชูเย่รีบตะโกนห้ามเจียงเป่ยเฉิน
“เรียกฉันว่าพ่อสิ!” เจียงเป่ยเฉินโบกมือสั่งให้คนอื่นๆหยุดมือก่อน ทว่าตอนนี้เหนือรถของเธอมีลูกเหล็กหนักแขวนอยู่
“คุณพ่อ!” ชูเย่กัดฟันและพูดออกไป เธอรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากแต่ถ้าเธอไม่ทำเขาคงจะลงมือทำลายรถของเธออย่างแน่นอน
ตูม!
ได้ยินเสียงที่ดังสนั่นนั้นชูเย่แทบจะเป็นลมล้มทั้งยืนเมื่อเธอเห็นรถของเธอพังลงต่อหน้าของเธอ!
“ ที่แรกฉันตั้งใจจะสั่งสอนเธอ ด้วยการยึดรถเธอไว้แค่วันสองวัน แต่ใครจะไปคิดเธอกลับเอาภรรยาของฉันมาเป็นตัวช่วยเธอคิดว่ามันดีแล้วหรอ”เจียงเป่ยเฉินกล่าวอย่างเย็นชา
“นาย! อ๊ากกกก เวรเจียงเป่ยเฉินฉันจะไม่ปล่อยแกไปแน่ ฉันจะฆ่าแก!” ชูเย่ตอนนี้เธอเสียงสติไปแล้ว เธอหยิงโทรศัพท์ออกมาและกดโทรออกทันที
“นายรีบมาที่ร้าน BMW 4S ทันทีเลย!!!!!” ชูเย่ตะโกนใส่โทรศัพท์