ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 36
“ประธานทางเราเพิ่งทราบข่าวว่าตระกูลหวังกำลังจะจำนองบริษัท ซือเทียน และ ซือหยุน!” จางเหมี่ยวเดินมาหาเจียงเป่ยเฉินพร้อมกับรายงาน วันนี้จางเหมี่ยวสวมชุดสูทสีขาวที่ดูประณีตและมัดผมมวยสูงอยู่หัวของเธอ ทำให้เธอดูเซ็กซี่และมีเสน่ห์มาก
เมื่อเจียงเป่ยเฉินทราบข่าวเขาก็วางไวน์แดงลงและขมวดคิ้ว“มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับหวังเฉิน!”
เมื่อเขารู้ว่าหวังเฉินเสนอโครงการลงทุน 300 ล้านหยวนเจียงเป่ยเฉินก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขามีเส้นสายอยู่เยอะจึงทำการตรวจสอบดูและเขาก็ได้รู้ว่าที่หวังเฉินพูดมามันไม่จริง
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้สนใจหวังเฉิน ยังไงเรื่องของตระกูลหวังก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหญิงชรานั้นชื่นชอบหลานชวยมากกว่าหลานสาว หวังเสี่ยวหวู่ไม่มีทางเลยที่จะเป็นทายาท ไม่ว่าตระกูลหวังจะรุ่งเรืองหรือล้มจมก็ไม่มีผลอะไรกับหวังเสี่ยวหวู่
เพียงแค่ว่า ซือหยุน เป็นแบรนด์ที่ลุงหวัง สร้างขึ้นและภรรยาของเขาให้ความสำคัญกับแบรนด์นี้มากดังนั้นแบรนด์ยังคงต้องรักษาเอาไว้ เมื่อคิดถึงสิ่งนี้เจียงเป่ยเฉินจึงบอกกับจางเหมี่ยวว่า “เอาล่ะจัดการซื้อบริษัททั้งหมดของตระกูลหวัง ทั้งหมดเลย!”
“ รับทราบค่ะ ท่านประธาน!”
กรี๊งง!
ทันทีที่จางเหมี่ยวออกไปโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานเขาก็ดังขึ้น
“เจียงเป่ยเฉิน นายยังอยู่ที่สถานีตำรวจหรือเปล่า” หวังเสี่ยวหวู่ถามอย่างร้อนรน
เจียงเป่ยเฉินยิ้ม “คุณเป็นห่วงผมหรอ!”
“บ้านเจ้าสิ! เวลาแบบนี้ยังจะมาทำเป็นเล่นอีก นายทำให้พวกนั้นพิการแบบนั้นรู้ไหมว่ามันเป็นอาชญากรรมนายอยากติดคุกหรือไงห๊ะ?” หวังเสี่ยวหวู่ตะโกนเสียงดัง
“ไม่ต้องห่วงหรอกผมไม่ตายแล้วปล่อยคุณเป็นม่ายหรอก!” เจียงเป่ยเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นะ นายยังสบายดีอยู่สินะ! นายยังไม่เป็นไรจริงๆใช่มั้ย?”หวังเสี่ยวหวู่สงสัย เธอได้ข่าวจากโรงพยาบาลว่าหลิวเฟิงกับเฉินจื่อเฉ่ายังมีชีวิตอยู่ เธอคิดว่าตำรวจคงไม่ปล่อยเจียงเป่ยเฉินไปหลังจากที่เขาทำร้ายคนไปขนาดนั้น
“เรื่องจริงคือเมื่อคืนพวกนั้นมันดื่มมากไปหน่อยและพวกนั้นมันก็เล่นอะไรแปลกๆตามนิสัยพวกคนรวยแหละน๊า!” เจียงเป่ยเฉินพูดติดตลก
“นายนี่มัน! เอาเถอะ อ้อนี่รถของฉันซ่อมเสร็จแล้วถ้านายว่างไปที่ร้าน 4S แล้วรับรถคืนมาให้ฉันหน่อย!” หวังเสี่ยวหวู่อย่างมีอารมณ์เล็กน้อย
เจียงเป่ยเฉินยิ้มและส่ายหัว เขารู้สึกได้ว่าภรรยาของเขาเริ่มใส่ใจตัวเขาบ้างแล้ว
หลังจากจัดการธุรกิจของ บริษัท เจียงเป่ยเฉินก็ตรงไปที่ร้าน 4S แต่เพราะเขาต้องขับ BMW กลับเขาจึงไม่ได้ขับรถโรลส์รอยซ์ของตัวเองไปเขาเพียงนั่งรถแท็กซี่ไปเท่านั้น
ร้าน 4S อยู่ในย่านชานเมืองทางตอนเหนือของ ซีเฉิง ใช้เวลานั่งแท็กซี่มาประมาณครึ่งชั่วโมง
เมื่อเจียงเป่ยเฉินลงรถแท็กซี่ในบริเวณใกล้ๆกันก็มีรถอีกคันมาจอดเหมือนกัน ทันทีที่ประตูเปิดหญิงสาวสวยก็ลงมาจากรถคันนั้นเธอสวมกางเกงยีนส์รัดรูปเสื้อยืดคอต่ำสีชมพูไม่ต้องพูดถึงหุ่นเซ็กซี่ของเธอขับเน้นให้เธอนั้นทรงเสน่ห์อ่ยางมาก
ทั้งสองคนหันมามองหน้ากัน
โอ้ว! นั้นมัน ชูเย่
ชูเย่เองก็ชะงักไปครู่นึงเธอไม่ได้คาดว่าจะมาเจอเจียงเป่ยเฉินที่นี่
“โชคไม่ดีจริงๆ ฉันออกจากบ้านผิดเวลาหรือไงเนี้ย ทำไมถึงมาเจอขยะแบบนี้!”ชูเย่ บีบจมูกของเธอท่าทีของเธอเหมือนจะเป็นลมล้มลงด้วยความรังเกียจ “นายมาทำอะไรที่นี่?”
“มันเกี่ยวอะไรกับเธอ?” เจียงเป่ยเฉินตอบ เขาไม่ต้องการพูดคุยกับเธอ เขาจึงเดินไปยังร้าน 4S ทันที
“ เจียงเป่ยเฉิน นายกล้าพูดแบบนี้กับฉันได้ไงนายมันเป็นแค่ขยะในตระกูลหวัง ฉันแนะนำให้นายรีบหย่าแล้วออกจากตระกูลหวังเถอะอย่างให้เสื่อมเสียไปมากกว่านี้เลย! “ชูเย่พูดกับเจียงเป่ยเฉิน ตั้งแต่แรกที่เธอเจอกับเขาเธออดไม่ได้เลยที่จะพยายามทำให้เจียงเป่ยเฉินอับอาย เธอต้องการให้เขาเลิกยุ่งกับเพื่อนของเธอ
“ ฉันว่าครั้งก่อนเธอคงยังได้รับบทเรียนไปไม่พอสินะ?” เจียงเป่ยเฉินขมวดคิ้วหันกลับมา
“ หมายความว่าไง” ชูเย่คิดอยู่ครู่นึกทันใดนั้นเธอก็นึกถึงเรื่องที่ร้านยานั้น หรือว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องนั้น?
ไม่เป็นไม่ได้! เขาเป็นแค่ขยะ เรื่องพวกนั้นไม่มีทางที่จะเกี่ยวข้องกับเขา
ยิ่งไปกว่านั้นจ้าวจุนก็บอกกับเธอว่าตอนนี้เขากำลังขยายธุรกิจ เขาจะช่วยเธอเรื่องสัญญาในอาทิตย์หน้าให้เธอรอก่อน
จ้าวจุนเขาไม่น่าจะหลอกเธอ เขาจะหลอกเธอได้อย่างไร?
จนถึงตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าจ้าวจุนถูกไล่ออกจากร้านยาตระกูลเหอแล้ว
จ้าวจุนมันก็แค่อยากนอนกับเธอสักสองสามครั้งเท่านั้นเอง!
เจียงเป่ยเฉินไม่ต้องการอธิบายอะไร ดังนั้นเขาจึงเดินตรงไปที่ร้าน 4S
ชูเย่ยกยิ้มขึ้นและรีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว วันนี้เธอมารับรถให้น้องของเธอเหมือนกัน รถ BMW ของเธอนั้นซื้อมาด้วราคาเพียง 200,000 หยวนเท่านั้น เพื่อนร่วมชั้นของเธอ จ้าวไค เป็นผู้จัดการที่นี่
ชูเย่กดโทรออก หลังจากนั้นไม่นานจ้าวไคก็มาหาเธอ
“เย่เย่ เธออยู่นี่เอง นี่คือแฟนของเธอหรอ”จ้าวไคมองไปที่เจียงเป่ยเฉินและสำรวจเขา เขาเห็นเจียงเป่ยเฉินและชูเย่เข้ามาพร้อมกันเขาจึงเข้าใจผิดไปว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน จ้าวไคไล่ตามจีบชูเย่มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วแม้ว่าเข้าจะไม่ได้คบกับเธอก็ตาม จากที่เขาสำรวจดูเขาก็รู้สึกผิดหวังเพราะชายหนุ่มตรงหน้าเขาแต่งตัวธรรมดามากเกินไป และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่คนรวย
“จ้าวไค อย่าเข้าใจผิดเขาไม่ใช่แฟนฉัน เขาเป็นสามีที่ไร้ประโยชน์ของเพื่อนสนิทของฉัน รถของเพื่อนสนิทฉันพังและถูกส่งมาซ่อมเมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันคิดว่าเขาคงมารับมัน!”ชูเย่รีบอธิบายเพราะกลัวว่าจ้าวไคจะเข้าใจอะไรผิดไป
“อ่อๆ ไปเถอะเดี๋ยวฉันพาไปรับรถ!” จ้าวไครู้สึกโล่งใจ จึงพาพวกเขาไปรับรถ
รถของชูเย่ ยังคงอยู่ระหว่างการซ่อมแซมในขั้นตอนสุดท้าย จ้าวไคบอกให้เธอรอไปก่อน แต่ BMW 5 series ของหวังเสี่ยวหวู่นั้นซ่อมเสร็จแล้ว เมื่อเจียงเป่ยเฉินทำเรื่องเพื่อรับรถ ชูเย่ก็ได้เรียกจ้าวไคมาเพื่อพูดคุย
“จ้าวไคฉันมีปัญหากับไอ้หมอนี่นิดหน่อยนายช่วยฉันหน่อยได้ไหม”ชูเย่มองไปที่เจียงเป่ยเฉินเธอรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงหาวิธีระบายความโกรธของเธอออกมา
“ได้สิ! เธออยากจะให้ทำอะไรในเมื่ออยู่ในร้านนี้แล้วเพียงแค่เธอบอกมาฉันจะทำให้!”จ้าวไคกล่าว
“เขาจะไปรับรถไม่ใช่เหรอ นายก็บวกราคาเพิ่มเข้าไปอีกสิ”
อีกด้านหนึ่งเจียงเป่ยเฉินเข้าไปเพื่อที่จะติดต่อรับรถ
“สวัสดีค่ะ ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษาทั้งหมด 1.35 ล้าน!” พนักงานสาวกล่าวด้วยร้อยยิ้ม
เจียงเป่ยเฉินตกใจ
BMW 5 ราคาเท่าไหร่กัน?
ทำไมค่าซ่อมรถถึงได้มากกว่าหนึ่งล้านได้?
ร้านนี้โกง?
“คุณแน่ใจหรอ?” เจียงเป่ยเฉินขมวดคิ้วถาม ถึงแม้เขาไม่ได้ขาดแคลนเงินในการใช้จ่าย แต่ทว่าเขาก็ดูออกว่าเรื่องนี้มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ
“คะฉันแน่ใจ นี่คือรายการของคะ คุณสามารถไปหาผู้จัดการได้หากคุณมีคำถามให้ติดต่อเพื่อสอบถามกับเขาได้เลย!” พนักงานคนนั้นยังคงยิ้มอยู่ แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในเมื่อผู้จัดการสั่งมาเธอก็ต้องทำตาม
เจียงเป่ยเฉินพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในร้านเพื่อตามหาคน ในเวลานั้นจ้าวไคและชูเย่กำลังนั่งดื่มกาแฟกันอยู่ที่โซฟาหนังขนาดใหญ่อย่างเพลิดเพลิน
เจียงเป่ยเฉินกระดาษรายการลงไปบนโต๊ะ”คุณจ้าวช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยว่าทำไมค่าบำรุงถึงสูงขนาดนี้?”
ดวงตาของพวกเขาก็หันขวับ
“โอ้ว เราเป็นร้านขายรถและอะไหล่ของ BMW ของพวกนี้ส่วนใหญ่ก็ผลิดที่เยอรมนีราคาของพวกมันก็ประมาณนี้แหละ หากนายมีปัญหานายก็ไปที่สำนักงานพาณิชย์ฟ้องพวกเราได้นะ”จ้าวไคกล่าว ร้าน 4S ของพวกเขานั้นเป็นร้านที่มีชื่อเสียง ยิ่งหว่านั้นหากไปร้อยเรียนด้วยชื่อเสียงของเจ้านายของพวกเขามันย่อมไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน
“ราคาเป็นล้านเลยหรอนั้นแต่เสี่ยวหวู่ก็คงจ่ายได้สบายอยู่แล้ว แต่ฉันกลัวว่าตอนนี้นายจะไม่มีเงินพอที่จะจ่ายสินะ!” ชูเย่ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดต่อ “แต่! บางทีถ้านายขอร้องเขา จ้าวไคอาจจะช่วยให้ราคาถูกกว่านี้อีกสักนิดก็ได้นะ ถ้านายยอมคุกเข่าลงกับพื้นแล้วเห่าสามครั้ง ฉันจะช่วยขอให้เขาลดราคาให้อีกแรงแล้วกันนายว่ายังไงละ?”
“ไอ้หนูถ้านายทำตามที่คุณชูเย่บอก ฉันจะให้ส่วนลดนาย 5 แสนหยวนเลยนายจะว่าไงละ?” จ้าวไคกล่าว
“มาๆ รีบคุกเข่าเร็วเข้านายจะได้ส่วนลด 5 แสนหยวนเลยนะ รออะไรอยู่มาเร็วเข้า”ชูเย่กล่าวเยาะเย้ยและเอาโทรศัพท์มาเปิดกล้องบันทึกภาพ เพื่อส่งไปให้หวังเสี่ยวหวู่ดูสภาพสามีของเธอที่คลานเหมือนสุนัขเธอจะได้รีบๆหย่ากับเขาโดยเร็ว
เจียงเป่ยเฉินไม่ได้แสดงออกอะไรเลยทางสีหน้าเขาเพียงแค่ส่ายหัวเบาๆ “คุณสองคนท่าจะป่วยแน่ๆ!”
“ ไอ้หนูแกหมายความว่าไง” รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวไคกลายเป็นแข็งค้าง เขาได้ฟังเรื่องจากชูเย่ว่าไอ้หมอนี่เป็นแค่ขยะคนหนึ่งเท่านั้น เขาจะยอมให้ไอ้หมอนี่มาลูบหัวเขาได้ยังไง?
“ฉันจะให้โอกาสนาย คิดเงินตามราคาปกติไม่งั้นฉันจะทุบร้านนี้ทิ้ง!” เจียงเป่ยเฉินกล่าว แล้วค่อยๆยกโทรศัพท์ขึ้นมา เขาไม่ได้ล้อเล่นก่อนหน้านี้มีโรงอาบน้ำแห่งหนึ่งเคยเรียกเก็บเงินจากเขาเกินราคา เขาสั่งให้คนไปจัดการระเบิดโรงอาบน้ำนั้นทิ้งทันที
“ฮ่าฮ่า แกจะหาใครมาทุบร้านฉัน ฉันจะรอดูว่าใครในเขตนี้จะกล้ามาแตะต้องร้าน 4S ของฉันกัน”
แต่ยังไงก็ตามเพื่อความปลอดภัยเขาจะโทรหาเพื่อนของเขาไว้ก่อน “สวัสดีครับพี่จี มีคนมาสร้างความเดือดร้อนให้ผม พี่ช่วยมาที่นี้ได้ไหม”
“ไอ้หนูมาดูกันว่านายจะหาใครมาช่วยนายได้ตอนนี้!” หลังจากวางสายโทรศัพท์จ้าวไคก็กล่าวด้วยท่าทางที่ยียวนกวนประสาททันที