ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 35
ตอนนี้เกากัวเฟิงรีบให้เจียงเป่ยเฉินรับสาย” คุณเจียง คุณหลินต้องการคุยกับคุณ! “
เจียงเป่ยเฉินรับสายและเดินออกมาข้างนอก”เหล่าหลิน! ลูกสาวคุณนี่สุดยอดจริงๆเลยนะ… “
ทั้งสองคนคุยกันทางโทรศัพท์ดูมีความสุขอย่างมากเขาหัวเราะบางเป็นครั้งคราว ในตอนนี้หลินเสี่ยวหรานเธอรู้สึกคาดไม่ถึงที่พ่อของเธอจะรู้จักกับเจียงเป่ยเฉินแถมคุยกับไปพลางหัวเราะพลาง นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
พ่อเธอเป็นข้าราชการระดับสูง แต่ว่าทำไมถึงรู้จักกันได้คนๆนี้มีที่มายังไงกัน?
เกากัวเฟิงตกใจเช่นกัน เขารู้เพียงว่าชายหนุ่มคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับทหาร แต่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะรู้จักกับคนของทางการมากมายขนาดนี้
หลังจากนั้นไม่นานเจียงเป่ยเฉินก็เข้ามาและมอบโทรศัพท์ให้หลินเสี่ยวหราน “เอานี่ พ่อของเธอบอกให้เอาให้เธอ!”
หลินเสี่ยวหรานตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบรับโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะพ่อ”
“เสี่ยวหราน! คุณเจียงเป็นหัวหน้าเก่าของพ่อตอนอยู่ในกองทัพ! เขาเป็นคนที่มีผลงานดีมากในสนามรบแล้วเขาก็ยังช่วยชีวิตพ่อไว้ด้วย เขาจะเป็นคนไม่ดีได้ยังไงกัน?”
“ พ่อ พ่อว่าไงนะเขาเป็นหัวหน้าเก่าของพ่อหรอ?” หลินเสี่ยวหรานสับสน เธอมองไปที่เจียงเป่ยเฉินพ่อของเธอเคยเป็นครูฝึกทหารในกองทัพมาก่อน! แต่เขามีต่ำแหน่งมากกว่าพ่อของเธอนี่มัน…
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้หลินเสี่ยวหรานก็พลันทำอะไรไม่ถูกหัวใจของเธอตอนนี้เต้นรัวเลยทีเดียว!
“เธอต้องขอโทษคุณเจียงทันทีและห้ามทำอะไรเขา เธอได้ยินที่พ่อพูดชัดนะ” หลินเจิ้งกั๋วกล่าวอย่างเข้มงวด
“หนูทราบแล้วค่ะ … ” หลินเสี่ยวหรานวางสายและหันกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าชายหนุ่มในวัยยี่สิบต้นๆ เขาจะประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ หากไม่ใช่พ่อเธอเป็นคนพูดเธอก็จะไม่เชื่อเหมือนกัน
มันยากที่จะจินตนาการเกินไป!
ยังไงก็ตามเธอก็จะไม่ขอโทษเขาแน่นอน เพราะเจียงเป่ยเฉินนั้นเป็นผู้ต้องหาในสายตาของเธอ จะให้เธอขอโทษเขาได้ยังไงกัน!
“ คุณหลินผมไปได้ยัง” เจียงเป่ยเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอนคุณเจียง คุณสามารถไปได้ทุกเมื่อ!” เกากัวเฟิงเปิดปากบอกอย่างรวดเร็ว
เมื่อเจียงเป่ยเฉินเดินผ่านเธอเขาหัวเราะและพูด “มีอาชญากรรมมากมายในโลกนี้และสิ่งที่เธอเห็นอาจไม่ใช่ความจริงมีสถานที่ที่ดวงอาทิตย์ไม่ส่องแสงไปถึงได้ กฎหมายเองก็เช่นกัน”
หลินเสี่ยวหรานยืนอยู่ที่เดิมด้วยความตกตะลึงเมื่อนึกถึงคำพูดของเจียงเป่ยเฉิน และคิ้วของเธอก็ขมวดเขาหากันอย่างช้าๆ“ อาชญากรรมคืออาชญากรรมอยู่ดี ไม่อย่างนั้นจะมีตำรวจอย่างเราไว้ทำไมละ? ถ้าฉันสามารหาหลักฐานในการทำความผิดของนายได้ฉันจะเอานายมาจัดการให้ได้เลยคอยดู! “
หลินเสี่ยวหรานกำหมัดด้วยความโกรธ การเป็นตำรวจคือความฝันของเธอ เธอจะไม่มีวันยอมให้อาชีพนี้ถูกลบหลู่แน่นอน!
บ้านตระกูลหวัง
“แม่! เจียงเป่ยเฉินอยู่ที่ไหน”
หลังจากที่หวังเสี่ยวหวู่ตื่นขึ้นมาเธอยังคงรู้สึกวิงเวียนอยู่นิดหน่อย เมื่อเธอลงมาที่ชั้นล่างและเห็นท่าทางโกรธของแม่ เธอก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“อย่าพูดถึงมันเลยไอ้สารเลวคนนั้น มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสเขาเพิ่งถูกตำรวจจับตัวไป!”เตวหยูหลาน นั่งกอดอกอยู่บนโซฟาด้วยความโกรธ “ไอ้ขยะนั้นมันดาวไม้กวาดจริงๆ! ฉันไม่ให้เธอใช้เงินในการช่วยประกันตัวเขา ปล่อยเขาอยู่ในนั้นไปนั่นแหละมันจะเป็นผลดีในการหย่าของเธอ” เตวหยูหลานรู้สึกยินดีกับโอกาสนี้
ในโลกนี้ไม่มีใดแน่นอน เมื่อนึกถึงผลลัพธ์นี้อารมณ์ของเธอก็ดีขึ้นทันที
แต่ทว่าหวังเสี่ยวหวู่กลับรู้สึกตกใจ“ แม่ว่ายังไงนะเขาโดนจับหรอ?”
“ฉันเป็นคนบอกเองแหละ ก็ฉันคิดว่ามันไปขโมยรถมานี่มันทำฉันกังวลแทบตาย!”
ในตอนนี้หวังเสี่ยวหวู่รู้สึกสับสน เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเธอถูกเฉินจื่อเฉ่ากับหลิวเฟิงวางยา แม้ว่าหลังจากนั้นเธอจะจำอะไรไม่ได้มาก แต่เธอค่อนข้างมั่นใจว่าเธอลืมตามาแล้วเห็นเจียงเป่ยเฉินและเป็นเขาที่เป็นคนช่วยเธอ
หากเป็นงั้นจริงก็น่าจะเป็นเจียงเป่ยเฉินที่บุกไปช่วยเธอและจัดการกับหลิวเฟิงและเฉินจื่อเฉ่า!
เมื่อคิดถึงทบทวนเรื่องทั้งหมดเสร็จเธอจึงหยิบโทรศัพท์กดโทรออกหายูเฉียน “สวัสดี นี่เธออยู่ที่นั้นเมื่อคืนสินะ เธอบอกได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
“พี่สาวเสี่ยวหวู่คุณฟื้นแล้ว?” อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยูเฉียนมีความสุขมาก “คุณไหมว่าไอ้ชั่วสองตัวนั้นอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้เขาหมดความเป็นชายไปแล้ว พวกมันสมควรโดนแล้ว!”
“เขาเป็นคนทำหรอ” หวังเสี่ยวหวู่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือดวงตาของเธอแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ยูเฉียนเงียบไปครู่หนึ่งและกล่าวว่า “พี่สาวเสี่ยวหวู่ จริงๆแล้วพี่เขยเป็นคนดีมากเลยนะ เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะช่วยคุณให้ได้เมื่อวานนี้” ทันทีที่เธอได้ยินแบบนั้นน้ำตาเธอก็พลันไหลออกมา
แม้ว่าเจียงเป่ยเฉินวันๆเขาแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ต้องการทำงานไม่ต้องการความสำเร็จ แต่เมื่อใดก็ตามที่เธอตกที่นั่งลำบากเขาจะเป็นคนที่จะคอยช่วยเธออยู่เสมอมันทำให้เธอรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก
เมื่อคิดว่าเจียงเป่ยเฉินยังถูกกุมตัวไว้อยู่เธอก็ร้อนใจทันทีและรีบสวมเสื้อผ้าของเธอและรีบออกจากบ้านไปทันที แต่ทว่าเวลานี้หญิงชราได้โทรหาคนในตระกูลหวังและบอกให้สมาชิกทั้งหมดไปรวมตัวกันที่บ้านของเธอ หวังเสี่ยวหวู่จริงต้องเดินทางไปที่บ้านตระกูลหวังก่อน
บ้านหลักตระกูลหวัง.
“คุณย่าเราต้องเพิ่มเงินลงทุนอีก 30 ล้านหยวนมันจะช่วยลดระยะเวลาที่จะได้ผลตอบแทนของเราลงเหลือสองปีและรายได้ก็จะเพิ่มเป็นสองเท่า อาจารย์ของผมบอกมาว่านี่เป็นโอกาสที่ไม่ควรพลาด! ” หวังเฉินกล่าวอย่างตื่นเต้นต่อหน้าหญิงชรา
หญิงชราพยักหน้ามองไปรอบ ๆ แล้วกล่าวว่า “ทุกคนมาที่นี่วันนี้ พวกเธอคิดยังไงกับสิ่งที่เฉินเอ๋อพูด”
“คุณย่าเราลงทุนไปแล้ว 300 ล้านหยวนคุณย่าต้องให้เราการลงทุนเพิ่มอีกหรอ ถ้าเราลงทุนไปเพิ่มหากมันไม่เป็นอย่างที่คาดเราจะไม่จมหรอ” หวังซูอดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นและตะโกนออกมา คนอื่นๆก็สงสัยเช่นกัน
“พี่ชายนายกำลังกังวลอะไรกัน การลงทุนเพิ่มเพื่อให้ได้ผลที่รวดเร็วขึ้นมันเป็นกลยุทธ์การลงทุนทั่วไปในวอลล์สตรีทมันสามารถเปลี่ยนต้นทุนของนักลงทุนให้เป็นรายได้ได้อย่างรวดเร็วนายเข้าใจไหม?” หวังเฉินเปิดปากพูดด้วยความเหยียดหยาม
หญิงชราพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เธอชื่นชอบบุคลิกของหลานชายของเธอ เขามีความกล้าที่จำลงมือทำมันช่างเหมือนกับปู่ของเขาจริงๆ!
“ลงทุนเพิ่มอีก 30 ล้านเพื่อลดเวลา”ทันใดนั้นหญิงชราก็พูดกับหวังซู “คนที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ต้องสนใจอะไรเล็กๆน้อยๆ ยิ่งไปกว่านั้นนะเธอได้ฟังที่พี่ของเธอบอกหรือเปล่า ลงทุนเพิ่มลดระยะเวลาและเพิ่มรายได้เป็นสองเท่า โอกาสแบบนี้เราจะพลาดได้ยังไง!”
“แต่ย่านั้นมัน 30 ล้าน! เงินทั้งหมดของเราก็โอนไปให้น้องรองไปแล้วเราจะเอาเงินมาจากไหน?” หวังซูคิ้วขมวด
หลังจากคิดเรื่องนี้สักพักหญิงชราก็กล่าวว่า “มาจำนอง บริษัท และหา บริษัท มาลงทุนเพื่อกู้เงินด้วยแบรนด์ที่เรามีทั้งสองแบรนด์ทั้ง ซือหยุน และ ซือเทียน ทั้งสองแบรนด์เราน่าจะกู้ได้ 30 ล้านหยวย!”
คนอื่นๆต่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน หญิงชราต้องการจำนอง บริษัท เห็นได้ชัดว่าเป็นเดินพันที่โง่เง่าสิ้นดี!
หวังเสี่ยวหวู่มั่วแต่คิดถึงเรื่องเจียงเป่ยเฉิน ทำให้เธอเหม่อลอยเล็กน้อย แต่ทว่าเมื่อเธอได้ยินแบบนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นมองทันที ซือหยุน เป็นบริษัทที่สร้างโดยพ่อของเธอ เธอจะไม่ยอมเสียมันไปแน่นอน
“คุณย่าหนูไม่เห็นด้วยมันเสี่ยงมากเกินไป ถ้าเกิดมันล้มเหลวตระกูลหวังเราจะไม่มีเงินจ่ายหนี้ได้และเราจะไม่สามารถรักษาแบรนด์ของเราเอาไว้ได้เลย!”หวังเสี่ยวหวู่กล่าวอย่างร้อนรน
หวังเฉินก็กล่าวโดยไม่รอให้หญิงชราพูด หวังเฉินกล่าวว่า: “เสี่ยวหวู่ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่มีความสามารถนะ แต่ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนที่ไม่กล้าทำอะไรขนาดนี้ ทำไมเธอถึงกลัวขนาดนี้ละ?”
หวังเฉินหัวเราะเยาะและพูดกับหญิงชรา “ย่าไม่ต้องกังวลคุณสมิธ ได้ทำการวิเคราะห์แล้วมันมีอัตราความสำเร็จมากกว่า 90% เราจะไม่มีวันขาดทุน!”
ใบหน้าของหวังเฉินเต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับว่าเขาเชื่อมั่นอย่างมากที่มันจะเป็นไปได้!
หญิงชราไม่ลังเลอีกต่อไปเธอตบต้นขาของเธอทันที “เอาล่ะสรุปได้แล้ว! ให้จัดการหาบริษัทการเงินเพื่อจัดการกู้เงินทันที!”