ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 32
สิบนาทีต่อมาเจียงเป่ยเฉินก็ขับรถไปถึงโรงงานไข่ทางตอนเหนือของเมือง
เมื่อเขาขับรถไปถึงเขาก็สังเกตุเห็นกลุ่มคนที่รวมตัวกันอยู่
“ เจียงเป่ยเฉิน?”
เมื่อเจียงเป่ยเฉินลงจากรถเฉินจื่อเฉ่าก็ตกใจเป็นอย่างมากและใบหน้าของเขาก็แสดงออกถึงความโกรธและตะโกนออกมา: “ฉันไม่คิดเลยว่าจะเป็นขยะแบบแก ก็ดีดูเหมือนแกไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วสินะ! “
“ไอ้หนูฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกเป็นใครมาจากไหน แต่ถ้าแกยอมคุกเข่าขอโทษพร้อมทั้งตัดนิ้วของตัวเองบางทีฉันอาจจะไว้ชีวิตแกก็ได้!”
หลิวเฟิงกล่าว
“ให้ฉันตัดนิ้วหรอ”
เจียงเป่ยเฉินยกมุมปากยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “นายเป็นคนแรกที่กล้าพูดกับฉันแบบนี้!”
“ไอ้หนูแก็ควรทำตามที่คูรหลิวบอกดีกว่านะ ไม่งั้นวันนี้ฉันจะสับแกออกเป็นหมื่นๆชิ้น!”
ชายหัวโล้นกล่าวอย่างโหดเหี้ยม
“แล้วแกเป็นใคร”
เจียงเป่ยเฉินขมวดคิ้ว
“เหลาซื่อเป็นใคร?”
“ฮ่า ๆ ฉันอยากหัวเราะให้ฟันร่วง! ไม่มีใครใน ซีเฉิง ไม่รู้จักพี่ชายของฉัน! “
ชายหัวโล้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“พี่ชายฉันคือพี่ไก่!” (Engแปลมางี้จริงๆนะ)
เจียงเป่ยเฉินพยักหน้าและหยิบโทรศัพท์ออกมาทันที
“อ้าวอะไร จะโทรไปหาใคร”
พี่จีตะโกนเหยียดหยาม: “เอาล่ะก็ลองดูไอ้หนู ดูสินว่าวันนี้นายจะหาใครมาช่ายนายได้ ยังไงวันนี้นายก็ต้องตายอยู่ดี!”
พี่จีมั่นใจสุด ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับปรมาจารย์ที่สี่ จ้าวซือเฟิง นั้นไม่ธรรมดา เขาเติบโตและทำงานให้ปรมาจารย์สี่มานาน ทำให้เขาไม่กลัวใคร
เจียงเป่ยเฉินไม่รู้เบอร์โทรของจ้าวซือเขาจึงโทรหาเหอฟู่เฉิงเอา
อีกด้านเหอฟู่เฉิงกำลังนอนหลับอยู่ ทันทีที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์เขากำลังจะตะโกนใส่ แต่เมื่อเห็นชื่อและเขาก็รีสงบสติแล้วกดรับสายทันที
“นายน้อยมีอะไรให้ช่วยหรอถึงโทรมาเวลานี้”
“เรื่องเล็กน้อย ฉันแค่อยากรู้พี่จีเป็นคนของคุณหรือเปล่า ฉันกลัวว่าฉันจะฆ่ามันไปโดยไม่ได้ตั้งใจ!”
เหอฟู่เฉิงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินแบบนี้
“ฆ่า! ฆ่าไปเลย! ไม่ว่ามันจะเป็นใครถ้ามันทำให้นายน้อยขุ่นเคือง มันจะต้องตาย!”
เหอฟู่เฉิงถามด้วยความเคารพ “นายน้อยตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน ผมจะไปหาคุณตอนนี้เลย”
“โรงงานไข่ เฉิงเป่ย !”
หลังจากที่เจียงเป่ยเฉินพูดจบเขาก็วางสาย
เหอฟู่เฉิงรีบโทรหาเล่ยหง
“ อาเล่ยใครคือพี่จีรู้มั้ย? มันจะดีมากเลยถ้าไม่ใช่คนของนายไม่งั้นนายแย่แน่! ไอ้บ้านั้นไปกวนใจนายน้อยเข้า! “
เมื่อเล่ยหงได้ยินเช่นนี้เขาก็เอ่ยปากออกมา“ไม่ต้องหาหรอกผมไม่รู้จักคนนี้ แต่เดียวผมจะถ้าให้!
“เอาล่ะลองถามดู เสร็จแล้วรีบไปที่โรงงานไข่ เฉิงเป่ย!”
เหอฟู่เฉิงสั่ง
เล่ยหงวางสายโทรศัพท์แล้วโทรหาหวังเต็ง “รู้จักคนที่เรียกว่าพี่ไก่ไหม?”
“ พี่ไก่เหรอ? เขาเป็นคนของพี่สี่ ทำไมถึงถามหาเขาหรอ? “
หวังเต็งตอบ
จากนั้นหวังเต็งก็ได้ยินเสียงจากอีกฝั่งบอก“นี่มันแย่แล้ว! ไอบ้านั้นจะทำให้เราเดือดร้อนกันหมด มันดันไปหาเรื่องนายน้อยเราต้องรีบจัดการเรื่องนี้ นายรีบโทรหาเสี่ยวซือตอนนี้เลยและให้เขาไปที่โรงงานไข่แล้วไปขอโทษนายน้อยซ่ะ!”
หวังเต็งวางสายและรีบโทรหาจ้าวซือเฟิง จ้าวซือเฟิงกำลังอยู่ในคลับแห่งหนึ่งเขาหน้าซีดทันทีที่รู้ข่าว! ก่อนหน้านี้ที่งานเลี้ยงของตระกลูหวังเขาก็ได้รู้สถานะของ นายน้อย จากเล่ยหง เขารู้ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นคนสำคัญอย่างมากไม่ควรจะไปล่วงเกิน! “ไอ้พวกเวร ถ้าพวกแกอยากตายก็อย่ามาลากฉันลงไปด้วยสิว่ะ”
จ้าวซือเฟิงหวดกลัวเป็นอย่างมาก เขาไม่รอช้ารีบรุดไปตามสถานที่ที่เขาได้รับมาทันที
ในคืนนั้นเองพายุลูกใหญ่กำลังก่อนตัวขึ้นอย่างเงียบๆ รถยนต์หลายร้อยคันพากันขับออกไปทางด้านเหนือของเมืองเรียงตัวกับเป็นแนวยาวบนสะพาน
เหตุการณ์นี้ดึงดูความสนใจของตำรวจเป็นอย่างมาก ทางสำนักงานได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ทันทีเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น หากว่าเป็นการปะทะกันระหว่างแก๊งค์มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด! และจุดหมายที่ทุกคนไปนั้นคือโรงงานไข่!
“ ฮ่า ๆ ไอ้หนูแกโทรหาคนมาช่วยเสร็จแล้วหรอ?”
พี่จีหัวเราะหนักมาก ใน ซีเฉิง จะมีใครกล้าทำอะไรเข้ายกเว้นจ้าวซือ?
“พี่จีไอ้เด็กน้อยนี่ก็ปากดีไปงั้นแหละ ด้วยความสัมพันธ์ของพี่กับปรมาจาย์สี่คงไม่สั่นคลอนเพราะมันหรอก พี่ว่าจริงมั้ย?”
เฉินจื่อเฉ่าหัวเราะ
“ อย่าบอกนะว่ามันก็รู้จักคนใหญ่คนโตด้วย!”
พี่จีเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี
“อย่าไปสนใจเลยน่ะ ไอ้หมอนี่มันก็แค่พลัฟเท่านั้นแหละรีบจัดการมันเถอะ!”
หลิวเปิงรีบกล่าว เขาไม่เชื่อว่าเจียงเป่ยเฉินจะรู้จักใครที่ไหน แม้ว่าเขาจะมีเส้นสายอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาที่เป็นถึงประธานของฉี่เทียน
“ได้คุณหลิว ไอ้เด็กนี่วันนี้มันไม่รอดแน่!”
พี่จีและหลิวเฟิงความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นแบบพึ่งพาอาศัยกัน อิทธิพลของเขาค่อนข้างมาก เมื่อหลิวเฟิงกล่าวเขาก็ต้องทำตาม ทว่าในตอนที่พี่จีกำลังจะลงมือนั้นที่ด้านนอกโรงงานก็ปรากฏแสงสว่างส่องเข้ามา เมื่อมองไปเห็นเป็นรถตู้สายหนึ่งขับเข้ามา
“เหอะ! เวรเอ้ย ให้ฉันดูหน่อยเหอะว่าใครที่กล้ามีเรื่องกับนายน้อย!”
หวังเต็งรีบวิ่งเข้าไปในโรงงานพร้อมกับพี่น้องหลายสิบคน โรงงานเฉิงเป่ยอยู่ใกล้กับซินเจี๋ยมากหวังเต็งจึงมาถึงเป็นคนแรก
“นายน้อยผมมาสาย!”
หวังเต็งรีบวิ่งไปหาเจียงเป่ยเฉินและกล่าวด้วยความเคารพ
“ หวังเต็ง? คุณมาได้ยังไง? “
พี่จีตัวแข็งไปชั่วครู่ แม้ว่าหวังเต็งจะเป็นลูกน้องของเล่ยหง แต่ในหยุนไห่ในเรื่องของความอาวุโสแล้วเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหวังเต็งเท่าไรนัก ยังไงเขาก็เป็นคนของปรมาจารย์สี่ หากเขาจะลงมือยังไงหวังเต็งก็ต้องเกรงใจปรมาจารย์สี่อยู่บ้าง
“ ไอ้แก่ ไอ้หมาตาบอดนี่… ” ก่อนที่หวังเต็งจะพูดจบเจียงเป่ยเฉินโบกมือสั่งให้เขาหยุด หวังเต็งจึงหยุดและพาคนของเขามายืนที่ด้านหลังของเจียงเป่ยเฉิน
พี่ไก่งุนงง เขาไม่คาดว่าเด็กน้อยคนนี้จะเรียกหวังเต็งมาได้ แม้ว่าเขาจะไม่กลัวหวังเต็ง แต่ว่าหวังเต็งก็เป็นคนของเล่ยหงการที่จะทำอะไรก็คงไม่สามารถทำได้ง่ายๆแน่
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้พี่จีก็หัวเราะแล้วกล่าว
“ฮ่าฮ่า เด็กน้อย เอาละเรื่องวันนี้พอแค่นี้ไว้คราวหน้า… ”
“ไม่มีคราวหน้า เรื่องวันนี้ต้องจบลงที่นี่วันนี้!”
เจียงเป่ยเฉินพูดขัด
“เวรเอ้ยนี่ ฉันอุส่าไว้หน้าแกแล้วแก… ”
“ไอเวร! แกคิดว่าแกกำลังมีเรื่องกับใครว่ะ”
เสียงตะโกนดังขึ้นมาในทันที เป็นเสียงของจ้าวซือเฟิง
“นายน้อยผมขออภัยผมมาช้าไป! มันเป็นความผิดของผมที่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในเขตของผม!”
ซือเย่วิ่งตรงไปและก้มหัวด้วยความเคารพ
“ พี่สี่? ทำไมคุณถึงมาที่นี่? “
พี่จีตะลึงทันที จ้าวซือเฟิงหันกลับมาและตบไปที่ใบหน้าของเขา “ถ้าฉันไม่มานายคงจะทำทุกอย่างพัง ใครใช้ให้แกไปกวนใจคุณชายกัน?”
“ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษอีกหรอ! “
พี่จีมองอย่างตะลึง: “พี่สี่คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า?
เท่าที่ผมรู้มา ไอ้หมอนี่มันเป็นแค่ลูกเขยขยะของตระกูลหวังเอง! “
“เวร! แกว่าใครเป็นขยะกัน ถ้าแกยังกล้าพูดแบบนั้นอีกฉันจะฆ่าแก… ”
จ้าวซือเฟิงตกใจกลัวเป็นอย่างมาก
เล่ยหงมาแล้ว!
“เจ้าสี่! ฉันเคยบอกแล้วให้นายดูแลลูกน้องของนายให้ดูๆ ทำไมนายไม่ฟัง! นายต้องการเป็นศัตรูกับฉันหรอ?”
เล่ยหงตะโกนใส่จ้าวซือเฟิง จากนั้นเขาก็รีบเดินไปหาเจียงเป่ยเฉินและกล่าวด้วยความเคารพ
“นายน้อย คนของผมไม่รู้ถูกผิดไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ของให้นายน้อยโปรดลงโทษด้วย!”
เจียงเป่ยเฉินโบกมือของเขาอย่างไม่แยแส เขาทำเพียงแค่มองไปที่กลุ่มของพี่จีอย่างเย็นชา
ในตอนนี้พี่จีตัวสั่นและรู้สึกว่าตัวเองนั้นโง่งมเป็นอย่างมากที่ไปหาเรื่องเจียงเป่ยเฉิน
หลิวเฟิงและเฉินจื่อเฉ่าสับสนเป็นอย่างมาก เขางงไปหมดแล้วไอ้หมอนี่ไม่ใช่ลูกเขยขยะของตระกูลหวังหรอกหรอ? ทำไมทันถึงไปรู้จักกับคนอย่างท่านเล่ยได้ และทำไมท่านเล่ยยังมีท่าทีที่เคารพเขาขนาดนั้น?