ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 30
หวังเสี่ยวหวู่คิดว่าเฉินจื่อเฉ่าจะพาเธอไปกินอะไรง่ายๆสักอย่าง แต่ใครจะคาดว่าเขากลับพาเธอมาที่หมิงเยว่คลับเพื่อพบกับใครบางคน
“เสี่ยวหวู่ผมจะแนะนำให้คุณรู้จักคุณหลิวประธานของเรา คุณหลิวเป็นคนที่ชื่นชอบการลงทุน คุณต้องการที่จะร่วมงานด้วยไหมละ? คุณลองคุยกับเขาดูสิบางที่เขาอาจจะร่วมมือกับคุณแล้วสนับสนุนเงินสัก 30-50 ล้าน!”
เฉินจื่อเฉ่าชักชวน
แต่เดิมแล้วหวังเสี่ยวหวู่ต้องการที่จะปฏิเสธ แต่เมื่อเธอได้ยินว่าเป็นประธานหลิวเธอก็ค่อนข้างสนใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้พี่รองของเธอกลับมาแล้วตำแหน่งทายาทไม่แน่ว่าเธออาจจะไม่ได้รับ การที่เธอจะรู้จักกับประธานหลิวอาจจะสงผลดีในอนาคต
ดังนั้นเธอจึงไปที่หมิงเยว่คลับกับเฉินจื่อเฉ่า
หมิงเยว่คลับเป็นสถานบันเทิงที่อยู่ภายใต้ฉี่เทียน เมื่อเฉินจื่อเฉ่าเปิดประตูเข้าไปในห้องส่วนตัวกลับพบกับชายอ้วนพุงโตในวัย 40 ปีกำลังเต้นอยู่อย่างเมามัน
“คุณหลิว! ดูซิผมพาใครมา?”
เฉินจื่อเฉ่าพาหวังเสี่ยวหวู่เข้าไปในห้อง
หลิวเฟิงโบกมือให้สัญญาณเสียงดนตรีก็หยุดลงทันทีและกลุ่มหญิงสาวที่เต้นอยู่กับเขาก็เดินจากไปทันที
หลิวเฟิงจ้องมองไปที่หวังเสี่ยวหวู่
ผู้หญิงคนนี้สุดยอดมากไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือหน้าตา เขาแทบจะอดไม่ได้ที่ต้องการให้เธอมาปรนนิบัติให้เขาในตอนกลางคืน เมื่อก่อนเขาเคยพบกับเธอมาก่อนในการประชุม แม้ว่ามันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่เขาก็ไม่มีวันลืมความสวยงามของเธอได้เลย หลังจากนั้นเขาก็แทบจะไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย เขาต้องการเพียงเธอเท่านั้นและความต้องการของเขาก็มากขึ้นเรื่อยๆด้วย
“คุณหวัง ยินดีที่ได้พบผมชื่นชมคุณมานานแล้วได้โปรดนั่งลงก่อนเถอะ!”
หลิวเฟิงพูดเขารีบขยับที่ให้หวังเสี่ยวหวู่เธอได้นั่งลงข้างๆเขา
“สวัสดีคะ คุณหลิวรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบคุณในวันนี้!”
หวังเสี่ยวหวู่ยิ้มอย่างสุภาพ
เฉินจื่อเฉ่าเห็นแบบนั้นก็นั่งลงเช่นกับและเขาก็ลอบสบตากับหลิวเฟิง
“คุณหลิว เสี่ยวหวู่กำลังจะเริ่มตั้งบริษัทใหม่ ผมมาเพราะหวังว่าคุณหลิวจะร่วมลงทุนสนับสนุนเธอ ผมทราบว่าคุณน่าจะรู้ความสามารถของเธอดี!”
เฉินจื่อเฉ่าหัวเราะแลรินเครื่องดื่มให้หลิวเฟิง
หวังเสี่ยวหวู่รู้สึกแปลกใจที่เฉินจื่อเฉ่ากังวลเรื่องของเธอจนถึงกับออกปากบอกหลิวเฟิงเรื่องการลงทุนให้เธอในทันที
หลิวเฟิงยิ้ม“เอาจริงๆฉันก็รู้ถึงความสามารถของคุณเสี่ยวหวู่มาแล้ว และในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาซื่อหยุนก็เติบโตเป็นอย่างมาก เอาอย่างงี้แล้วกันวันนี้เรามาสนุกกันก่อนและพรุ่งนี้เราจะไปคุยเรื่องการลงทุนกันที่ บริษัท”
“คุณหลิวพูดจริงหรอ”
หวังเสี่ยวหวู่แปลกใจ
“เสี่ยวหวู่คุณกำลังพูดอะไรเนี้ย!”
เฉินจื่อเฉ่าแสร้งทำหน้าบึ้งตึงและพูดว่า: “ประธานหลิวของเรารักษาสัญญาอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเขาบอกจะร่วมลงทุนยังไงก็ต้องทำอยู่แล้วคุณไม่ต้องกังวลไปหรอก มาๆ มาดื่มกันก่อน”
“เอาล่ะคุณหลิวฉันจะเชื่อคุณ ขอขอบคุณสำหรับความร่วมมือ!”
หวังเสี่ยวหวู่ยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เธอทราบดีกว่าตัวเธอเองนั้นสามารถดื่มได้มากน้อยขนาดไหนการดื่มเพียงแก้วเดียวก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก
หลังจากดื่มไวน์เข้าไปเธอก็รู้สึกวินเวียน
แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะเธอค่อนข้างมั่นใจในความสามารถในการดื่มของเธอ แต่อย่างไรก็ตามเฉินจื่อเฉ่ากับหลิวเฟิงก็ผลัดกันมาชนแก้วกับเธออยู่สองสามครั้งเธอรู้สึกว่ามีบ้างอย่างผิดปกติ
“ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน!”
หวังเสี่ยวหวู่ลุกขึ้นเดินโซเซไปที่ห้องน้ำและหยิบโทรศัพท์โทรหายูเฉียน
“เฉียนเฉียน ฉันอยู่ที่หมิงเยว่คลับ ฉันเมามากไปแล้วเธอมารับฉันหน่อย! “
หลังจากวางสายแล้วหวังเสี่ยวหวู่ก็ล้างหน้าก่อนเดินออกจากห้องน้ำ
ในเวลานี้ หลิวเฟิงและเฉินจื่อเฉ่าก็มองมาที่เธอด้วยรอยยิ้ม
“คุณหลิวพวกคุณ … ” ก่อนพูดจบหวังเสี่ยวหวู่ก็พลันล้มลงตรงโซฟาที่อยู่ด้านข้างพร้อมกับสติที่เลือนราง
“คุณหลิวดูเหมือนว่ายาจะได้ผล!”
“ฮิฮิ ยอดเยี่ยมมาก นายเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์นายแน่ใจหรือไม่? “
“คุณหลิวผมค่อนข้างแน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เธอแทบจะไม่มีความรู้สึกอะไร กับสามีขอเธอเลยผมเชื่อว่าเขายังไม่ได้แตะต้องเธอด้วยซ้ำ!”
“ฮ่าฮ่าโอเคงั้นเดี๋ยวฉันจะออกไปหาสถานที่ที่มีวิวสวยๆสักที่ แล้วค่อยลงมือจัดการกับเธอ!”
“ประธานหลิวคุณยังชอบนอกสถานที่แบบนี้อยู่หรอ?”
“ใช่ ฉันชอบมัน! “
“ ฮ่าฮ่า!”
ในเวลานี้จิตสำนึกของหวังเสี่ยวหวู่เลือนรางแต่เธอก็ยังคงได้ยินที่พวกเขาพูด คำพูดของพวกเขาทำให้เธอรู้สึกเย็นไปทั้งตัว เธอจึงพยายามที่จะหยิบโทรศัพท์ออกมา แต่ทว่าก็ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเท่าไรนัก เธอจึงใช้ความรู้สึกเปิดบันทึกการโทรและสุ่มโทรออกไป…
ในเวลานี้เจียงเป่ยเฉินที่อยู่ในวิลล่ากำลังนั่งสมาธิรวบรวมปรานอยู่นั้นจู่ๆก็มีสายเรียกเข้าจากหวังเสี่ยวหวู่ทำให้เขาตกใจเล็กน้อยก่อนกดรับสายอย่างรวดเร็ว ในเวลานั้นเขาได้ยินเสียงจากในโทรศัพท์เบาๆ “ช่วยด้วยฉันอยู่ที่หมิงเยว่คลับ….”
สากนั้นก็มีเสียงตะโกนมาจากโทรศัพท์ “ยับบ้านี่ แกยังกล้าโทรศัพท์อีกหรอ!”
“รีบๆวางสายเร็ว!”
ตืด ตื๊ดด! โทรศัพท์ถูกตัดสายไป ทันใดนั้นแววตามของเจียงเป่ยเฉินพลันเปลี่ยนไปทันทีเขารีบลุกขึ้นยืน หวังเสี่ยวหวู่กำลังตกอยู่ในอันตราย เขารู้สึกร้อนรุมในใจอย่างบอกไม่ถูก ก่อหน้านี้แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับศัตรูกว่าร้อยคนในสนามรบเขายังไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ตูมมม! พลังงานมากมายพวยพุ่งออกจากร่างกายของเจียงเป่ยเฉินเขากระโดดออกจากหน้าต่างแล้วรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็วใช้เวลาไม่นานเขาก็มาถึงที่หน้าคลับที่เธอได้บอกไว้
“ ไม่ว่าแกจะเป็นใคร ถ้ากล้ามาแตะต้องผู้หญิงของฉันพวกแกจะต้องตาย!!”
เจียงเป่ยเฉินกำหมัดแน่นและเดินเข้าไปในคลับ
“ เจียงเป่ยเฉิน!”
เมื่อเขาเดินมาถึงห้องโถงเขาก็ถูกหญิงสาวผู้หนึ่งหยุดเขาไว้
เธอเป็นผู้ช่วยของหวังเสี่ยวหวู่ ยูเฉียน
“ เสี่ยวหวู่อยู่ที่ไหน?”
เจียงเป่ยเฉินถามเสียงดังแม้ว่าเขาจะไม่ได้เจตนา แต่ทว่าด้วยความโกรธทำให้เขาตะโกนออกไปอย่างนั้น ทำให้ยูเฉียนถึงกับผงะตกใจถอยหลังไปเล็กน้อย
“ นายจะตะโกนเสียงดังทำไม!”
ยูเฉียนตะโกนด้วยความโกรธ
“ เสี่ยวหวู่อยู่ที่ไหน?”
เจียงเป่ยเฉินถามอีกครั้งสีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นยา
“ยูเฉียนไอโรคจิตคนนี้มันเป็นใคร?”
ในเวลานี้ผู้หญิงอีกคนที่กำลังคุยกับเธอก่อนหน้านี้ก็กล่าวขึ้น เธอเป็นผู้หญิงวัยสามสิบที่สวมชุดรัดรูปทำให้เธอดูมีเสน่ห์และเธอยังมีรูปร่างที่น่าหลงใหล
เธอเป็นผู้ช่วยของเฉินจื่อเฉ่า หยางเหม่ย หยางเหม่ยจงใจที่จะอยู่ข้างนอกเพื่อที่จะขัดขว้างยูเฉียนไว้ตามคำสั่งของเฉินจื่อเฉ่า
“ เขาเป็นสามีของประธานหวัง!”
ยูเฉียนกล่าว
“อ๋อ?
นายเป็นสามีที่ไร้ประโยชน์ที่กลับมาจากทหารนะหรอ? “
แววตาของหยางเหม่ยแสดงความรังเกียจทันที “ขอโทษทีคุณหวังกำลังคุยธุระกับเจ้านายของฉันอยู่ แม้ว่านายจะเป็นสามีเราก็ให้นายเข้าไปไม่ได้!”
“อยู่ห้องไหน!”
เจียงเป่ยเฉินถามย้ำแววตาของเขาฉายแววอาฆาตทำให้หยางเหม่ยที่เห็นเช่นนั้นรู้สึกหวาดกลัว
“เจียงเป่ยเฉินนายไม่ได้ยินที่พี่หยางบอกหรอ พี่เสี่ยวหวู่กำลังคุยธุระกับคุณเฉินอยู่ และมีประธานเฉินอยู่ด้วยนายไม่เห็นหรอว่าพี่หยางบอกให้เรารอน่ะ? นายอย่าได้ไปรบกวนสิ่งดีๆที่กำลังจะเกิดกับน้องสาวเสี่ยวหวู่….”
เพี๊ยะ! ก่อนที่ยูเฉียนจะพูดจบเธอก็ถูกเจียงเป่ยเฉินตบไปที่ให้หน้าปรากฏเป็นรอยนิ้วสีแดงประทับอยู่บนใบหน้าของเธอ เธอชี้ไปที่เขาด้วยความโกรธ “กะ แกกล้าตบฉันหรอ!”
“แล้วมันจะทำไม!”
เจียงเป่ยเฉินจ้องมองอย่างโหดเหี้ยมทันทีที่เธอเห็นแววตาของเขา เธอก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออกหัวใจเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“นายกล้าดียังไง! นายรู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน นี่เป็นส่วนหนึ่งของ ฉี่เทียนไม่ใช่ที่คนอย่างนายจะมาทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ!”
หยางเหม่ตะโกน “มีใครอยู่บ้าง มีคนมาสร้างความวุ่นวาย!”
หยางเหม่ยตะโกนอีกครั้ง ขณะเดียวกันนั้นเจียงเป่ยเฉินกลับไม่สะทกสะท้านเขาเดินไปหยิบขวดไวน์จากตู้ข้างๆ และฟาดมันไปที่ศรีษะของหยางเหม่ย ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างไม่มีใครคาดคิดทุกสิ่งกลายเป็นเงียบงัน หยางเหม่ยเอามือจับไม่ที่ศีรษะของตัวเองที่มีน้ำสีแดงไหลออกมาเธอไม่มั่นใจว่าเป็นไวน์หรือเลือดของเธอกันแน่ เธอรู้สึกเวียนหัวจะเป็นลมล้มไปแต่แล้วกลับมีมือมาคว้าเธอไว้และดึงเธอเข้าไปใกล้ๆ
สิ่งที่เธอเห็นเป็นแววตาที่เย็นชาไร้อารมณ์
“ กูจะถามเป็นครั้งสุดท้ายเมียกูอยู่ไหน!!!”