ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 26
30 ล้านต่อปี
หญิงชราหวั่นไหว ดวงตาของเธอสั่นไหวเล็กน้อย
การลงทุนปีละ 30 ล้านหยวนจะช่วยให้ตระกูลหวังพัฒนาไปอย่างแน่นอน หวังเสี่ยวหวู่ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เฉินจื่อเฉ่าล้มละลายเพราะเขาถูกหรงติ่งจัดการเรื่องที่มาช่วยเธอ แต่ตอนนี้เขากลับใช้ตำแหน่งใน ฉี่เทียน เพื่อคอยช่วยเหลือเธอ
“ย่า!”
หวังเฉินกล่าวออกมา “คุณย่าเสี่ยวหวู่แต่งงานแล้ว คุณจะให้เธอแต่งงานอีกได้ยังไง?”
“นอกจากนี้ธุรกิจใหญ่ของตระกูลเรา จะให้ไปอยู่ในมือของผู้หญิงได้ยังไงกัน “
หวังเฉินมองไปรอบ ๆ และพูดต่อ: “ผมได้คุยเรื่องโครงการการลงทุนกับทางอาจารย์สมิธที่วอลล์สตรีทแล้ว ตราดใดที่ลงทุนได้ 300 ล้านหยวน ในสามปีมันสามารถเพิ่มได้เป็นสิบเท่า!!”
สิบเท่า! สิบเท่ามันคือเงินสามพันล้าน! ทุกคนอึ้งกับตัวเลขนี้ นี่มันน่าตกใจกว่าเงิน 30 ล้านของเฉินจื่อเฉ่าถึงสิบเท่า!
“ เฉินเอ๋อเจ้าสิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริง?”
“ไม่มีความเสี่ยงใช่ไหม? “
เสียงของหญิงชราสั่นสะท้าน หากที่หวังเฉินพูดเป็นความจริงตระกูลหวังจะกลายเป็นยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆ ของหยุนไห่ทันทีในสามปี!
“คุณย่านี่สิ่งที่อาจารย์สมิธส่งมาให้จากวอลล์สตรีทมันมีตราประทับของธนาคารกลางของสหรัฐด้วยไม่มีทางผิดผลาดแน่นอน!”
หวังเฉินรีบส่งสัญญาให้เธอและหญิงชราได้ส่งให้ฝ่ายการเงินตรวจสอบก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ อย่างไงก็ตามเธอก็ยังคงลังเล เงินสามร้อยล้านไม่ใช่จำนวนน้อยๆ อาจกล่าวได้เลยว่าเป็นทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลหวัง และมันก็มีความเสี่ยงมากเกินไป
“คุณย่าเกี่ยวกับการลงทุนครั้งนี้ผมได้จำนอนวิลล่าของผมด้วยเงินจำนวน 5 ล้าน!”
เขากล่าวพร้อมกับเอาสัญญาจำนองออกมา
นี่ทำให้หญิงชรามั่นใจ! “ดีดี! เฉินเอ๋อเธอมีความกล้าหาญจริงๆ ไม่ทำให้ย่าผิดหวังจริงๆ!”
หญิงชราพยักหน้าอย่างพอใจ แต่แรกวันนี้เธอจะประกาศว่าหวังเฉินจะเป็นทายาทของเธอ ตอนนี้เธอยิ่งมั่นใจเป็นอย่างมาก
“คุณย่าการลงทุนยังไงก็มีความเสี่ยงคุณคงไม่ตัดสินใจง่ายๆหรอกมั้ง!”
ในที่สุดหวังซูก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นกล่าว “ถ้ามันล้มเหลวความพยายามที่ผ่านมาจะสูญเปล่าไปเลยทันที!”
หลานคนในตระกูลกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
“ผู้ที่จะประสบความสำเร็จต้องกล้าที่จะมองไปข้างหน้ากล้างตัดสินใจ เฉินเอ๋อเอาวิลล่าของเขาไปจำนองเพื่อลงทุนแสดงว่าเขามั่นใจกับการลงทุนมาก แม้ว่ามันจะมีความเสี่ยงบ้างเล็กน้อย แต่มันก็คุ้มหากว่ามันสามารถทำได้จริงและเราพลาดไปฉันจะผิดหวังมาก! “
หญิงชรากล่าว
อย่างแรกเลยที่ทำให้เธอกล้าตัดสินใจเพราะเธอเชื่อมั่นในหลานชายของเธอ และเงินจำนวนสามพันล้านมันเป็นเงินจำนวนมากที่ล่อตาล่อใจเกินไป!
“ คุณย่าคุณจะไม่ทบทวนดูก่อนหรอ?”
“หากว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดผลาดละ! “
หวังซูขมวดคิ้ว
“แกกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง”
หญิงชราโกรธจัดเธอตะวาทออกไป “หวังซูดูเหมือนว่าฉันจะทำดีกับแกมากเกินไปสินะ เธอถึงไม่เชื่อในการตัดสินใจของฉัน!”
“ฮ่า ๆ ๆ การประชุมประจำปีของตระกูลหวังมีชีวิตชีวามาก ฉันได้กลิ่นหม้อไฟลอยมาตั้งแต่อยู่หน้าประตูเลย!”
เสียงหัวเราะดังเข้ามาจากด้านนอกจากนั้นชายร่างสูงและบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาจากด้านนอก
“ บอสซีเฉิง , ท่านสี่?”
“ ท่านสี่ก็มาที่นี่!”
หลายคนลุกขึ้นยืนและอดไม่ได้ที่จะตื่นตัว
บอสของซีเฉิง จ้าวซือเฟิง เขาอายุมากที่สุดเป็นอันดับสี่ในตระกูลจึงทำให้เขาถูกเรียกว่า ท่านสี่ และเขายังเป็นหนึ่งในลูกน้องของเล่ยเย่ “ท่านสี่คุณมาทำอะไรที่นี้?”
เฉินจื่อเฉ่ากล่าวทักมายแต่กลับถูกผลักออกมา ใบหน้าของเฉินจื่อเฉ่าเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด แต่เขาไม่กล้าที่จะมีแสดงความไม่พอใจออกมาแม้แต่น้อย
“เป็นท่านสี่นี่เอง!”
ท่าทีของหญิงชราเปลี่ยนไปเธอทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม เพราะด้วยอิธิพลที่เขามีตระกูลหวังไม่สามารถเทียบได้และต้องไม่ทำให้เขาขุ่นเคือง
ยิ่งไปกว่านั้นที่ตั้งของตระกูลยังอยู่ในเขตของ ซีเฉิง ตราบใดที่ท่านสี่ต้องการเขาสามารถทำลายตระกูลหวังได้ทันที! “ผมได้ยินมาว่าตระกูลคุณจะเลือกทายาทในวันนี้?”
เขาถามด้วยร้อยยิ้ม
หญิงชราตะลึงและยิ้มตอบ “ฉันไม่คิดว่าท่านสี่ก็ทราบ นี่มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยในตระกูลเท่านั้น”
“ก็นะวันนี้ฉันมาที่นี่ก็มีจุดประสงค์อยู่ เพราะฉันค่อนข้างที่จะสนิทกับหวังซู ฉันคิดว่าเด็กคนนี้มีดีอยู่และฉันหวังว่าคุณจะช่วยส่งเสริมและส่งมองตำแหน่งทายายของตระกูลหวังให้เขา!”
จ้าวซือบอกจุดประสงค์ในการมาที่นี่ของเขา
หืออ! คนอื่นๆเข้าใจได้ในทันที จ้าวซือ ได้รับการว่าจ้างมากจาก หวังซู ให้มาสนับสนุนเขา นี่เขากำลังจะขูย่าของเขา!
“ หวังซู ไอลูกเต่าแกกล้าขู่ย่าหรอ?”
หวังเฉินไม่พอใจอย่างมากและตะโกนออกไป ต่อมาเขาก็ถูกลูกน้องสองคนของจ้าวซือกดเขาลงกับพื้น
“ปล่อยหลานชายของฉัน!”
หญิงชราก้าวลงจากเวทีอย่างรวดเร็วและชี้ไปที่หวังซูด้วยความโกรธว่า “แกมันเป็นคนหัวดื้อ ไม่มีความซื่อสัตย์แกจะร่วมมือกับคนนอกเพื่อมาข่มเหงย่าของแก่งั้นหรอ?”
“ คุณย่าคุณจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะ ผมทำงานเพื่อตระกูลมาหลายปี แต่พอหวังเฉินกลับมาคุณก็จะส่งมอบ บริษัท ให้เขาเลยทันทีคุณคิดว่ามันยุติธรรมกับผมไหมละ?”
“แก!”
หญิงชราหายใจไม่ทันและแทบจะเป็นลมไป แต่ยังดีที่ได้คนอื่นๆในตระกูลที่อยู่ข้างๆมาช่วยไว้ เธอมั่นใจว่าหวังซูต้องตกลงเรื่องผลประโยชน์กับจ้าวซือไว้แน่นอน หากว่าเธอไม่ตกลงเขาคงจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่ เธอโบกมืออย่างอ่อนแรงและกล่าว “ไม่เป็นไร! เธอต้องการเพียงแค่ตำแหน่งประธานบริษัทใช่ไหม?”
“ฉันจะ… “
” เล่ยหง, เล่ยเย่มาถึงแล้ว! “
อย่างไรก็ตามจู่ก็มีเสียงดังขึ้นมาและเห็นชายในชุดจีนเดินเข้ามาที่ห้องจัดเลี้ยง
“ท่านเล่ย?”
จ้าวซือทันทีที่เห็นเล่ยหงมาเขาก็รีบลุกจากเก้าอี้เพื่อทักทายทันที เขาไม่คิดมาก่อนว่าเจ้านายของเขาจะมาเข้าร่วมงานประชุมประจำปีของตระกูลหวังด้วย! “โอ้เสี่ยวซือเจ้าก็อยู่ที่นี่ด้วยงั้นหรอ!”
เล่ยหงพยักหน้าจากนั้นก็มองไปรอบๆ เขาไม่เห็นร่างของเจียงเป่ยเฉินทำให้เขารู้สึกเสียใจนิดหน่อย
“เสี่ยวซือนายมา… ” เล่ยหลงเลิกที่จะสนใจจ้าวซือและรีบเดินตรงไปที่คนของตระกูลหวัง คนในตระกูลหวังตกใจมากจึงหลีกทางให้กับเขา เพราะพวกเขายังไม่ลืมว่าเจียงเป่ยเฉินเอาชนะหวังเต็งมาก่อนและเล่ยหงอาจจะมาที่นี่เพื่อแก้แค้น
เห็นได้ชัดว่าเลยว่าเล่ยหงและหวังเต็งทั้งสองเดินไปหาหวังเสี่ยวหู่โดยที่ไม่หยุดพักเลยสักนิด หวังเสี่ยวหวู่ตัวสั่นส่วน เตวหยูหลานที่ยืนอยู่ข้างๆเกือบที่จะยืนไม่ไหวแทบจะล้มลงกับพื้น
ยังไงก็แล้วแต่เล่ยหงนั้นเป็นถึงจักรพรรดิของโลกใต้ดินมันช่วยไม่ได้ที่ใครจะรู้สึกหวาดกลัวเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เมื่อเห็นเล่ยหงและหวังเต็งเขามาใกล้มากขึ้นหวังเสี่ยวหวู่ก็หน้าซีดลงทันที เธอรู้สึกอับจนหนทางและสิ้นหวังอย่างมากในขณะนี้
แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ตุบ! หวังเต็งก้าวออกมาด้านหน้าและคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมกับกล่าวออกมา
“เป็นผมทำผิด! วันนั้นเป็นความผิดของผมเองผมทำให้นายหญิงขุ่นเคือง ผมหวังว่านายหญิงจะให้อภัยกับผมด้วย!”
หวังเต็งคร่ำครวญ
“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของลูกทูนหัวของฉัน ฉันเลยพามันมาขอโทษคุณในวันนี้หวังว่าคุณจะให้อภัยและนี่เป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆจำนวนสิบล้านหยวนได้โปรดรับไว้ด้วย!”
เล่ยหงก้มหัวและยื่นเช็คให้
เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงให้กับคนอื่นๆในตระกูลหวังอย่างมา
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
หวังเต็งคุกเข่าและยอมรับความผิดของเขา
เล่ยเย่โค้งคำนับและขอโทษหลานสาวของตระกูลหวัง?
แถมยังมอบของขวัญสิบล้าน! นี่มันเหลือเชื่อมาก! หวังเสี่ยวหวู่รู้สึกงุนงงเธอไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเธอรู้สึกเหมือนว่าฝันไป
“นายหญิงโปรดรับไว้ด้วยมิฉะนั้นแล้วเล่ยหงจะไม่สามารถไปอธิบายกับคุณชายได้!”
เล่ยหงขอร้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง
คุณชายเคยบอกกับเขาก่อนหน้านี้ว่าต้องให้ภรรยาของเขายกโทษให้ ถ้าหวังเสี่ยวหวู่ยอมรับเงินเขาก็จะสามารถโล่งใจได้
คนอื่นๆได้ฟังพวกเขาก็อดที่จะสงสัยไม่ได้
เขาไม่รู้ว่า “คุณชาย” ที่เล่ยหงพูดถึงนั้นคือใคร เขามีอำนาจมากขนาดนั้นเลยหรอ ถึงทำให้เล่ยหงมาขอโทษได้?
“เอ่อ… งั้นก็ได้!”
หวังเสี่ยวหวู่เก็บเช็คอย่างงุนงง
เห็นแบบนั้นเล่ยหงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เห้ออ ตอนนี้คุณชายก็ไม่อยู่ หากว่าคุณหญิงช่วยบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องในวันนี้เล่ยหงจะรู้สึกของคุณอย่างมาก!”
เล่ยหงพูดจบและก็เดินออกไปข้างนอกพร้อมกับหวังเต็ง
และจ้าวซือก็เดินตามพวกเขาออกไปด้วย
เมื่อเห็นแบบนั้นหวังซูก็รีบตามไป”ท่านสี่ที่เราตกลงกันไว้… ”
“เวรเอ้ย! เรื่องของตระกูลหวังแกมันเกี่ยวอะไรกับฉัน!”
จ้าวซือมองไปที่เล่ยหงด้วยความตกใจ ท่านเล่ยมาที่นี่แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงท่าทีว่าสนับสนุนหวังเสี่ยวหวู่ในการเป็นทายาทของตระกูล แต่จากการกระทำของท่านเล่ยที่มีต่อเธอนั้นก็ทำให้เข้าไม่กล้าที่จะยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลหวังแล้ว!