ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 574 ตั้งรูปสลักแห่งศรัทธา
บทที่ 574 ตั้งรูปสลักแห่งศรัทธา
บทที่ 574 ตั้งรูปสลักแห่งศรัทธา
[ตรวจพบว่าผู้เล่นมีรูปสลักอยู่กับตัว ท่านต้องการตั้งค่าให้รูปสลักนี้เป็นรูปสลักแห่งศรัทธาหรือไม่?]
ขณะอู๋ฝานกำลังดื่มด่ำกับฝีมือของปรมาจารย์หงกวง เสียงจักรกลอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นเป็นการขัดจังหวะ
“หือ?” อู๋ฝานชะงัก
รูปสลักของตัวเองก็ได้งั้นเหรอ?
ก่อนหน้านี้ที่เปิดใช้งานระบบศรัทธา อู๋ฝานคิดว่าสิ่งที่จำเป็นต้องใช้คือเทวรูปของเทพเซียนที่ผู้คนในโลกฝั่งนี้เชื่อถือ ดังนั้นตอนที่ได้รับรูปสลักของตนเองจากปรมาจารย์หงกวง เขาจึงไม่ได้นึกเชื่อมโยงไปถึงเรื่องเทวรูปกับที่ดินศักดินา กระทั่งคิดจะขอเทวรูปจากอีกฝ่ายเพิ่มเสียด้วยซ้ำ
แต่ดูเหมือนว่าเขากำลังจะเข้าใจอะไรผิดไป เพราะตอนได้รับแจ้งเตือนเรื่องระบบศรัทธา มันบ่งบอกชัดว่าต้องใช้รูปสลักไปจัดตั้งในที่ดินศักดินา แต่มันไม่ได้หมายความถึงเทวรูป
เมื่อคิดได้ดังนั้น ก็คล้ายว่ารูปสลักของเขาน่าจะใช้งานได้
อีกเรื่องหนึ่งคือ แม้ระบบศรัทธาแจ้งว่าควรจัดตั้งรูปสลักในที่ดินศักดินา แต่หากมีรูปสลักที่ได้รับการนับถืออยู่แล้วก็ใช้งานได้เช่นกัน เพราะมันสามารถถือเป็นตัวแทนและส่วนหนึ่งของที่ดินศักดินา
อู๋ฝานที่เพิ่งได้ทำความเข้าใจใหม่จึงต้องเปลี่ยนความคิด แต่เขาจะเอารูปสลักของตนเองไปตั้งให้เป็นที่บูชาในที่ดินศักดินาได้จริงหรือ?
ตามคำอธิบายของระบบศรัทธา เห็นได้ว่ายิ่งผู้คนเชื่อมั่นในรูปสลักที่นำไปจัดตั้งเพียงใด โบนัสจากระบบศรัทธาก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เป็นไปได้ว่าหากนำรูปสลักตนเองไปจัดตั้ง มันอาจจะไม่มีใครศรัทธาเลยก็เป็นได้ คนของโลกฝั่งนี้ยังค่อนข้างมีความเชื่อในเรื่องของเทพเซียน เหมือนดังนิยายหรือตำนานเล่าขาน รวมถึงความเชื่อตามยุคสมัย ดังนั้นถ้ามีใครนำรูปสลักตนเองไปตั้งในที่ดินศักดินาเพื่อรับแรงศรัทธา คนที่นับถืออาจมี แต่บัฟที่จะได้รับก็จะมีอย่างจำกัดเช่นกัน มันจะไม่ได้ส่งผลดีเท่าการนำรูปสลักที่ได้รับความศรัทธาแต่เดิมไปตั้งอย่างแน่นอน
‘แต่ในตอนนี้เราก็มีรูปสลักแค่อันนี้อันเดียว ตำแหน่งรูปสลักแห่งศรัทธาก็ยังว่างอยู่ ลองดูหน่อยจะเป็นอะไรไป?’ อู๋ฝานเกิดความคิดขึ้นมา
ทันทีที่คิดได้ดังนั้น อู๋ฝานจึงเลือกตั้งค่าให้รูปสลักในมือเป็นรูปสลักแห่งศรัทธาประจำที่ดินศักดินา
[ติดตั้งรูปสลักแห่งศรัทธาเสร็จสิ้น!]
เสร็จสิ้น?
แค่นี้?
อู๋ฝานชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบเปิดหน้าต่างค่าสถานะตัวละครออกมา พร้อมกับเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังการตั้งค่ารูปสลักแห่งศรัทธา
ในหน้าต่างค่าสถานะ มันมีความเปลี่ยนแปลงสองส่วน
หนึ่งคือ พลังแห่งศรัทธา และอีกหนึ่งคือ สถานะโบนัส
พลังแห่งศรัทธาที่เดิมมีค่าศูนย์ หลังติดตั้งรูปสลักแห่งศรัทธาประจำที่ดินศักดินา มันขยับขึ้นมาเป็นยี่สิบแปด
“ยี่สิบแปด? หมายความถึงในที่ดินศักดินามีคนศรัทธาเรายี่สิบแปดคนงั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง?” ขณะอู๋ฝานเห็นตัวเลข แม้แต่ตัวเขาเองยังต้องประหลาดใจ
เดิมอู๋ฝานคิดว่าคงไม่มีใครในที่ดินศักดินาจะนับถือตนเองเป็นประหนึ่งเทพเซียน เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนยึดมั่นและเชื่อถือในตนแรงกล้าถึงเพียงนั้น
แต่หลังเห็นจำนวนค่าพลังศรัทธา มันจึงทำให้เขาตระหนักว่าคิดผิดไปอย่างมหันต์
อู๋ฝานลอบมองลั่วเยวี่ยที่อยู่ข้างกาย
คนอื่น ๆ อู๋ฝานไม่ทราบมากนัก แต่ลั่วเยวี่ยคือคนที่ภักดีกับเขาอย่างถึงที่สุด กระทั่งว่ายอมเสี่ยงอันตรายถึงตาย ขอเพียงตนเอ่ยปาก นางพร้อมที่จะตอบรับโดยไม่ปฏิเสธ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าใจของเด็กสาวจะมีความศรัทธาต่อเขาอย่างเปี่ยมล้น
ในเมื่อจำนวนคือยี่สิบแปด ไม่ใช่แค่หนึ่ง นั่นก็หมายความว่าทั่วทั้งที่ดินศักดินา นอกจากลั่วเยวี่ยแล้วยังมีคนอื่นที่เชื่อมั่นในตัวเขาถึงยี่สิบแปดคน
ขณะกำลังรู้สึกนึกทึ่ง อีกทางหนึ่งก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันชวนเครียดและความน่าภาคภูมิไปในเวลาเดียวกัน
แท้จริงแล้วอู๋ฝานไม่ทราบว่าในช่วงยุคแห่งความวุ่นวายเช่นปัจจุบัน ความเชื่อเดิมของผู้คนมากมายได้พังทลายลงเพราะปัญหาการเอาชีวิตรอดแล้ว ท่ามกลางสถานการณ์อันสิ้นหวัง พวกเขาพยายามภาวนาด้วยศรัทธาอันแรงกล้า แต่สุดท้ายกลับไม่สำเร็จผลใดทั้งสิ้น และมันเป็นช่วงเวลานั้นเองที่หากมีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจนทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นมาได้ สถานะของบุคคลดังกล่าวในใจของพวกเขาจะยิ่งสูงส่งเท่าทวี การจะเกิดผู้ศรัทธาด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
อู๋ฝานเคยช่วยและเปลี่ยนแปลงโชคชะตาให้คนมากมาย ไม่แปลกหากจะมีคนที่เชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเขา
ทว่าระหว่างมนุษย์และเทพเซียนก็ยังมีความแตกต่าง มนุษย์คือสิ่งที่สามารถเห็นและจับต้องได้ ขณะที่เทพเซียนเป็นเพียงตำนานเล่าขาน การปรากฏหรือดำรงอยู่มีแต่ความลึกลับ พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ล้วนเป็นตำนาน หากต้องการนำมนุษย์คนหนึ่งไปแทนที่เทพเซียน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเรียกความศรัทธาของผู้คน ดังนั้นแม้อู๋ฝานเคยช่วยเหลือคนที่หมู่บ้านเร้นลับเอาไว้มากมาย ก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะทำให้พวกเขาเหล่านั้นเกิดความศรัทธา
เพียงแต่จำนวนยี่สิบแปดที่ได้เห็นก็ทำให้เขาพึงพอใจมากแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้มันมีเพียงเลขศูนย์
นอกจากความเปลี่ยนแปลงด้านจำนวนพลังศรัทธา ด้านล่างค่าสถานะดังกล่าวยังมีเครื่องหมายคำถามอีกจำนวนหนึ่งแสดงผลอยู่ มันคงเป็นข้อมูลที่ยังไม่พร้อมแสดงให้ชม บางทีอาจจะเป็นเพราะค่าพลังศรัทธาต่ำเกินไป หรือไม่ก็จำเป็นต้องมีเงื่อนไขที่เหมาะสม
นอกจากพลังศรัทธา มันก็ยังมีความเปลี่ยนแปลงทางด้านค่าสถานะโบนัส
[โบนัสรูปสลัก : เพิ่มอัตราผลผลิตทางพืชผลในที่ดินศักดินา 0.0028% เพิ่มประสิทธิภาพโรงผลิตภายในที่ดินศักดินา 0.0028% เพิ่มอัตราความสำเร็จเล็กน้อยแก่ทักษะดำรงชีวิต เช่น การสร้างอาวุธและการปรุงยาในที่ดินศักดินา ลดโอกาสประสบภัยทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นกับที่ดินศักดินาเล็กน้อย ลดโอกาสที่ผู้คนในที่ดินศักดินาจะเจ็บป่วยเล็กน้อย…]
อู๋ฝานได้ตระหนักว่าโบนัสรูปสลักค่อนข้างมีผลกว้างหลายสิบประการ! และทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของผู้คนในที่ดินศักดินา
ทว่าเพราะยังมีผู้ศรัทธาในตัวอู๋ฝานเพียงเล็กน้อย โบนัสรูปสลักจึงไม่ได้มากมายอะไร หลายส่วนมีก็เหมือนไม่มี แต่เขาเชื่อว่าหากจำนวนของผู้ศรัทธาเพิ่มมากขึ้น โบนัสรูปสลักจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และสุดท้ายมันจะย้อนกลับไปยังคุณภาพการดำรงชีพของผู้คนในที่ดินศักดินา
‘ความพิเศษของค่าพลังศรัทธายังไม่ค่อยกระจ่างนัก แต่โบนัสรูปสลักช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนในที่ดินศักดินาได้ บางทีค่าพลังศรัทธาคงมีผลกับเราโดยตรงอยู่บ้าง’ อู๋ฝานคาดเดาอยู่ในใจ
ไม่ว่าจะด้วยอะไร ผลประโยชน์จากการติดตั้งรูปสลักแห่งศรัทธาก็ได้เห็นออกมาเป็นตัวเลขแล้ว มันเป็นเรื่องที่ดีกับอู๋ฝาน และเป็นเรื่องดีกับผู้คนในที่ดินศักดินาของเขาด้วยเช่นกัน
‘แต่เราก็มีบทบาทแค่เรื่องภาษีในที่ดินศักดินา ไม่ใช่ผู้ปกครองอย่างเป็นทางการหรืออะไร คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนดีขึ้นแล้วยังไง สุดท้ายความดีความชอบนั่นก็ไม่ได้ตกอยู่กับเราไม่ใช่เหรอ มันจะต่างอะไรกับตัดเย็บชุดแต่งงานให้คนอื่น?’ อู๋ฝานครุ่นคิดอยู่ในใจ
ยกตัวอย่างเช่นเทศมณฑลชิงหยวนอันเป็นที่ดินศักดินาของอู๋ฝาน แม้มันจะเป็นที่ดินศักดินาของเขา แต่เทศมณฑลชิงหยวนก็ยังต้องมีผู้ปกครองเทศมณฑล หากคนของเทศมณฑลมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองและก้าวหน้า ทางราชสำนักย่อมมองว่าเป็นความดีความชอบของผู้ปกครองเทศมณฑล ส่วนจื่อเจวี๋ยเช่นอู๋ฝานที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย จึงไม่ได้รับความดีความชอบอะไร
เว้นแต่ผู้ปกครองเทศมณฑลจะเป็นอู๋ฝาน ทว่าสถานการณ์ดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นในอาณาจักรเหยียนเฟิงมาก่อน เพราะหากเมื่อใดเกิดขึ้น ผู้มีบรรดาศักดิ์จะกลายเป็นจักรพรรดิในพื้นที่ศักดินาของตนเองทันที
หากจะมีหนทางอื่นไม่ให้เกิดเหตุการณ์ตัดเย็บชุดแต่งงานให้ผู้อื่น ก็ต้องเป็นการสร้างรากฐานของตนเองให้แข็งแกร่งประหนึ่งขุนเขา!