ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 564 ปัญหาของโจวกวง
บทที่ 564 ปัญหาของโจวกวง
บทที่ 564 ปัญหาของโจวกวง
ในส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นกับวังเมฆาสีชาด อู๋ฝานไม่คิดบอกให้ทราบอย่างละเอียด เพราะมันเป็นเรื่องที่เขาไม่อาจพูด รวมถึงไม่อาจอธิบายให้ชัดเจนได้
“ยังไงเรื่องราวก็คลี่คลายลงได้ก็ดีแล้ว ตอนนี้คงไม่ต้องกลัวการมากินของอร่อยที่ร้านโลกในแหวนอีกต่อไป” หวังจื่อหมิงไม่คิดถามให้มากความอีก กระทั่งเผยสีหน้ายิ้มแย้มออกมา
“ใช่แล้ว ตอนนี้วิกฤตของตระกูลเกิ่งก็คลี่คลายลงได้ด้วยดี อู๋ฝาน ฉันขอดื่มไวน์แก้วนี้ให้ ถือเป็นตัวแทนขอบคุณจากทั้งตระกูลเกิ่งค่ะ” เกิ่งหย่าเฟยคว้าแก้วไวน์ตรงหน้าขึ้นมา ก่อนจะดื่มหมดในรวดเดียว เธอวางแก้วลงก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“หย่าเฟย เหมือนเธอกำลังจะใช้โอกาสนี้ดื่มให้หนักมากกว่านะ” หลิวอวี่กวงเผยยิ้ม
“อย่ามาพูดบ้า ๆ” เกิ่งหย่าเฟยกลอกตามองตอบหลิวอวี่กวง
เพราะวิกฤตของอู๋ฝานคลี่คลาย ทำให้ทุกคนต่างก็อารมณ์ดี บรรยากาศงานเลี้ยงในวันนี้จึงค่อนข้างครึกครื้น
หลังได้ดื่มกินจนสาแก่ใจ ทุกคนจึงแยกย้ายเดินทางกลับด้วยความอิ่มเอม
วันถัดมา ชีวิตของอู๋ฝานก็ยังคงเป็นเหมือนเช่นเคย เป็นการยุ่งอยู่กับการดูแลธุรกิจและกลางคืนสลับไปยังโลกแห่งเกม
ทางด้านโลกความเป็นจริง พวกอาจารย์ลู่ที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์กำลังก้าวหน้าไปได้ด้วยดีเพราะได้รับคำชี้แนะ ปัจจุบันพวกเขาสามารถแยกกันไปสร้างเฟอร์นิเจอร์ได้แล้ว เพียงแต่ความเร็วไม่ได้มากมายอะไร และเพราะอู๋ฝานคอยช่วยตรวจสอบโดยละเอียด ความคืบหน้าการจัดทำคำสั่งซื้อมูลค่าห้าแสนจากกู้หมิงจึงไม่มีปัญหา เจ้าหย้าหนานเองก็คอยช่วยจับตามองอยู่ตลอด เนื่องจากเธอทราบดีว่าคำสั่งซื้อครั้งนี้มีความสำคัญอย่างไร
นอกจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์ที่กำลังก้าวหน้าไปได้ด้วยดี ร้านโลกในแหวนก็กลับมาคึกคักเหมือนดังที่เคยเป็น จำนวนผู้มาใช้บริการชั้นที่หนึ่งไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก ตรงส่วนนี้ยังคงมีคนเข้ามาใช้บริการไม่ขาดเหมือนเคย แต่ในส่วนห้องส่วนตัวที่ชั้นสอง นับตั้งแต่อู๋ฝานกลับมาจากวังเมฆาสีชาด ทั้งชั้นนี้จึงกลับมาคึกคักอีกครั้ง กระทั่งได้รับความนิยมยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ ปัจจุบันหากว่าต้องการจองใช้งานห้องส่วนตัว ก็จำเป็นต้องนัดหมายไว้ล่วงหน้ากว่าสัปดาห์
และยังมีเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือการเปลี่ยนเจ้าของร้านคัลเลอร์แมน นับตั้งแต่หวงถิงเฟิงตายไป ร้านคัลเลอร์แมนก็หยุดชะงัก ทางเข้าหน้าร้านปัจจุบันกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง ป้ายชื่อร้านคัลเลอร์แมนถูกถอดออกและแทนที่ด้วยสาขาใหม่ของโลกในแหวน ใครก็ตามที่พอมีไหวพริบย่อมสามารถคาดเดาได้ว่าร้านคัลเลอร์แมนในตอนนี้ได้กลายเป็นทรัพย์สินของอู๋ฝานแล้ว และชื่อร้านคัลเลอร์แมนจะหายไปจากเจียงโจวตลอดกาล
มันยิ่งทำให้ทุกคนในเจียงโจวสงสัยว่าวันนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับวังเมฆาสีชาด แต่อู๋ฝานไม่ได้เอ่ยคำใดออกมา และทางฝั่งวังเมฆาสีชาดก็ไม่ได้เปิดเผยเรื่องใดออกมาเช่นกัน ดังนั้นแม้ทุกคนจะสงสัย แต่ก็ยากจะได้ทราบถึงข้อเท็จจริง
ส่วนเรื่องเจ้าวังคนใหม่ของวังเมฆาสีชาด ปัจจุบันมีเพียงอู๋ฝานและคนกลุ่มน้อยที่สนิทกับเขาได้ทราบ
แต่การที่อู๋ฝานสามารถคลี่คลายข้อพิพาทกับวังเมฆาสีชาดได้อย่างหมดจด ทำให้ทุกคนในเจียงโจวทราบถึงความแข็งแกร่งของเขาอย่างกระจ่างชัด ดังนั้นในช่วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ร้านโลกในแหวนแห่งแรก หรือว่าร้านสาขาที่เดิมเป็นร้านคัลเลอร์แมน ปัจจุบันจึงมีคนแวะเวียนเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย พวกเขาเหล่านี้ต่างมาเพราะเห็นแก่ชื่อของชายหนุ่มทั้งสิ้น
อู๋ฝานไม่ได้ใส่ใจเรื่องในอดีตมากนัก ตอนที่คนอื่นไม่กล้ามาร้านของเขาเพราะหวาดเกรงวังเมฆาสีชาด มันถือเป็นเรื่องเข้าใจได้ และเขาไม่ได้โกรธอะไร ปัจจุบันจึงไม่ได้รู้สึกทั้งดีหรือว่าแย่ที่คนเหล่านั้นกลับมาใช้บริการเหมือนดังที่เคยเป็น
ในโลกความเป็นจริง การงานของอู๋ฝานกำลังก้าวหน้าอย่างมั่นคง ส่วนในโลกแห่งเกม เขายังต้องพักอาศัยอยู่ที่ศาลาพักม้า ระหว่างช่วงเวลาที่ผ่านมาก็มักจะฝึกฝนการปรุงยาอยู่ตลอด ค่าประสบการณ์วิชาปรุงยาของเขาได้ก้าวไปถึงจุดสูงสุดของระดับมาสเตอร์แล้ว เชื่อว่าหากฝึกฝนต่ออีกเล็กน้อย ระดับวิชาปรุงยาจะสามารถก้าวสู่ระดับปรมาจารย์ได้
“อูหย่าเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว?” อู๋ฝานเอ่ยถามจากลั่วเยวี่ย
วันนี้คือวันที่องค์หญิงเจ็ดกล่าวเอาไว้ว่าจะออกไปขอพรที่นอกเมืองอีกครั้ง และยังเป็นวันที่อู๋ฝานวางแผนจะพาอูหย่าออกไปจากนครเหยียนหยาง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น เขาจึงขอให้นางปลอมตัวเพื่อปิดซ่อนตัวตน
“ไม่น่าจะมีปัญหาเจ้าค่ะ” ลั่วเยวี่ยตอบกลับ
ทันทีที่ลั่วเยวี่ยเอ่ยคำจบ ประตูก็ถูกผลักเปิดออกพร้อมปรากฏชายหนุ่มรูปงามในชุดขาวเดินออกมา เนื่องจากเห็นรูปลักษณ์ที่พอจะดูคุ้นเคย ทั้งอู๋ฝานและลั่วเยวี่ยต่างก็ต้องประหลาดใจกันพอสมควร
“ทำไมแต่งชุดแบบนี้ล่ะ?” อู๋ฝานที่ดึงสติกลับคืนมาได้เผยสีหน้ายิ้มแย้มเอ่ยคำถาม
ผู้ที่ออกมาคืออูหย่า ตอนนี้นางปลอมตัวเหมือนเจ้าฉีที่ใส่ชุดบุรุษ หน้าอกของนางถูกเก็บซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี เส้นผมยาวม้วนขึ้นและมัดอย่างเรียบร้อย และยังแต่งกายด้วยชุดบัณฑิต ทว่าอีกฝ่ายก็เหมือนดังเจ้าฉีที่หากว่าพิจารณาให้ดีอย่างไรก็สามารถทราบตัวตนที่แท้จริงได้
“ไม่เลวเลยใช่หรือไม่?” อูหย่าหมุนตัวตรงหน้าพลางถาม “เป็นไง รู้หรือไม่ว่าเป็นข้า?”
อู๋ฝานพยักหน้าตอบ อูหย่าที่เห็นจึงแสดงท่าทีผิดหวังออกมา
“อันที่จริงก็ทำได้ดีมากแล้ว ยังไงในเมืองนี้ก็มีคนเคยพบเจ้าไม่กี่คน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราจะร่วมทางโดยใช้รถลากขององค์หญิงเจ็ดเจ้าฉี ขอเพียงเจ้าฉีไม่ทราบก็ไม่มีปัญหาอะไร” อู๋ฝานตอบกลับ
เหตุผลที่อู๋ฝานขอให้อูหย่าปลอมตัวก็เพราะนับตั้งแต่เกิดเรื่องการลอบสังหาร ภาพเหมือนของอูหย่าได้ถูกแปะประกาศเอาไว้ทั่วเมือง ดังนั้นเจ้าฉีก็ย่อมเคยได้เห็นที่ในวังเช่นกัน เพื่อซ่อนไม่ให้เจ้าฉีทราบ จึงจำเป็นต้องปลอมตัว
อูหย่าพยักหน้าตอบ เมื่อมาถึงตรงนี้แล้วนางก็ทำได้เพียงคาดหวังว่าทุกเรื่องจะราบรื่น
ขณะกำลังรอให้เจ้าฉีมาถึง โจวกวงก็แวะมาที่ศาลาพักม้าเพราะถูกอู๋ฝานเรียกตัว หลังออกไปนอกเมืองวันนี้เขาไม่มีแผนกลับมายังนครเหยียนหยางอีก ดังนั้นจึงยังมีเรื่องต้องอธิบายให้โจวกวงทราบก่อนออกเดินทาง
โจวกวงมาถึงและเจออู๋ฝาน ไม่รอให้ผู้เป็นนายพูด เขาก็เป็นฝ่ายเอ่ยออกมาแทน
“นายท่านยังมีสินค้าเก็บสำรองไว้อีกหรือไม่ขอรับ? ชาตื่นรู้ เหล้าองุ่นสุดเหนือเมฆ สัตว์เลี้ยง รวมถึงของอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ถ้าพวกเราไม่มีของเหล่านี้มาเติม ร้านที่เพิ่งเปิดของเราคงได้ปิดตัวลงแน่ขอรับ” โจวกวงพูดร่ายยาวออกมา
“เป็นอะไรไป? สินค้าที่เตรียมไว้ขายหมดแล้วหรือ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
“ขอรับ วันที่เปิดร้านใต้เท้าหลี่จื่อหยางมาช่วยอุดหนุนอย่างเต็มที่ ทำเอาที่ร้านคึกคักไม่น้อย เขาซื้อของไปมากมาย หลังจากนั้นชื่อเสียงร้านของเราก็เริ่มกระจายออกไป ปริมาณสินค้าที่เตรียมเอาไว้แต่เดิมไม่ได้มากมายอะไร ดังนั้นเมื่อเปิดขายได้ไม่ถึงสองวันหลายอย่างจึงเกือบหมดจนไม่พอขายแล้วขอรับ หากไม่จำกัดปริมาณซื้อต่อวันของลูกค้าหนึ่งคนเอาไว้ในช่วงสองวันมานี้ เกรงว่าคงไม่เหลืออะไรให้ขายไปนานแล้วด้วยซ้ำขอรับ”
“แต่ก็คาดการณ์ว่าประมาณช่วงบ่ายของวันนี้ทุกรายการในร้านคงขายออกจนหมดสิ้น สินค้าของพวกเราดีเยี่ยม ด้วยคำบอกเล่าปากต่อปากของใต้เท้าหลี่และใต้เท้าทั้งหลาย ยามนี้ยิ่งมีคนแวะเวียนมาซื้อหาสินค้าที่ร้านอยู่ทุกวันขอรับ” โจวกวงสาธยายออกมา แม้ดูภาคภูมิแต่ก็ดูเคร่งเครียดไปด้วยในเวลาเดียวกัน
กิจการรุ่งเรืองเป็นเรื่องน่ายินดี อย่างไรเขาก็คือคนรับผิดชอบโครงการค้าขายครั้งนี้ ทว่าปริมาณสินค้าของทางร้านมีไม่มากพอต่อความต้องการของผู้ซื้อ สินค้าที่อู๋ฝานรับปากว่าจะนำมาจัดส่งจึงเกิดความล่าช้า โจวกวงจึงได้ร้อนใจจนถึงวันนี้ ดังนั้นแม้ผู้เป็นนายไม่ได้เรียกตัวมาพบ เขาก็พร้อมจะเป็นฝ่ายมาหาเพื่อบอกเล่าเรื่องราว เนื่องจากไม่อาจจัดการปัญหาขาดแคลนสินค้าด้วยตัวเอง มีแต่ต้องขอให้ผู้เป็นนายช่วยคลี่คลาย