ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 559 ไม่เห็นด้วย!
บทที่ 559 ไม่เห็นด้วย!
บทที่ 559 ไม่เห็นด้วย!
นับจากวันนี้ สวีอี้ซานจะเป็นเจ้าวังของพวกเขา!
คำประกาศของอู๋ฝานดังก้องในจิตใจของเหล่าศิษย์วังเมฆาสีชาด ทิ้งเอาไว้เพียงแต่อาการสับสนและสงสัย
พวกเขาต่างตื่นตะลึงกับคำประกาศ ไม่มีใครคาดคิดว่าอู๋ฝานจะตัดสินใจแบบนี้
สวีอี้ซานผู้ที่ลุกขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอนบนพื้น ขณะนี้พยายามลุกขึ้นยืน เมื่อได้ยินคำประกาศของอู๋ฝาน เขาทั้งตื่นเต้น ประหม่า และร้อนรน กระทั่งเกิดลางสังหรณ์ว่านับจากวันนี้โชคชะตาของตนเองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
เพียงเท่านี้เขาก็ได้เป็นเจ้าวังเมฆาสีชาด หลังเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ วังเมฆาสีชาดคงสูญเสียความแข็งแกร่งไปมากมาย แต่รากฐานยังคงอยู่ แม้ไม่อาจได้เป็นสำนักชั้นหนึ่งในเจียงโจวอีกต่อไป ทว่าก็ยังเป็นสำนักแถวหน้าในหมู่สำนักทั้งหลายของเจียงโจว ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยฐานะเจ้าวังเมฆาสีชาด สถานะของเขาจะพุ่งทะยานสูงส่งกว่าที่เคยเป็น
ทว่าหากว่าเขาเกิดทำพลาด เมื่อนั้นจะกลายเป็นเป้าของเหล่าศิษย์วังเมฆาสีชาด กระทั่งถึงขนาดตายโดยไร้ที่กลบฝัง
สวีอี้ซานทราบดีว่าตนเองไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว หากปฏิเสธคำถามเมื่อครู่ของอู๋ฝาน ขณะนี้เขาก็คงกลายเป็นศพไปเป็นที่เรียบร้อย ในเมื่ออีกฝ่ายสังหารคนไปมากมายแล้ว จะสังหารเพิ่มอีกสักศพหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่อย่างใด
ยิ่งไปกว่านั้น สวีอี้ซานไม่อาจปฏิเสธความปรารถนาห้วงลึกในใจของตนเองได้
ดังนั้นเขาจึงเลือกเดิมพัน!
“ฉันคัดค้าน!” หลังเงียบงันไปช่วงระยะเวลาหนึ่งกลับปรากฏเสียงดังขึ้น ท่ามกลางลานกว้างอันเงียบงัน เสียงนี้จึงดังจนได้ยินชัด
“ฉันขอคัดค้านเรื่องที่จะให้สวีอี้ซานเป็นเจ้าวังเมฆาสีชาด เขามีความสามารถอะไรถึงได้รับตำแหน่งนี้? เขามีคุณสมบัติอะไรเหมาะสมจะเป็นเจ้าวัง?” หม่าฉางหมิงผู้กำลังนอนแบกรับความเจ็บปวดบนพื้นเอ่ยคำถามออกมา
หม่าฉางหมิงตัดสินใจเอ่ยปากเห็นต่าง เพราะเสียเลือดมากสีหน้าในเวลานี้จึงซีดเผือด แม้เสียงค่อนข้างดัง แต่ในน้ำเสียงก็แฝงไว้ซึ่งร่องรอยของความอ่อนเรี่ยวแรง
ปัจจุบันหม่าฉางหมิงไม่มีความคิดล้างแค้นใด ๆ กับอู๋ฝาน อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเขาทราบดีว่าตนเองไม่อาจต่อกรอีกฝ่าย รวมถึงไม่อาจเอาชนะลูกน้องของอีกฝ่ายได้ การล้างแค้นตอนนี้จึงไม่ต่างกับการแส่หาความตาย
ดังนั้นเขาจึงไม่โต้แย้งเรื่องการกระทำของอู๋ฝานก่อนหน้านี้แต่ประการใด
แต่สิ่งที่เขารับไม่ได้คือการที่จะปล่อยให้สวีอี้ซานเป็นเจ้าวังเมฆาสีชาด หลังความตายของเมิ่งข่าย สำนักของพวกเขาต้องการเจ้าวังคนใหม่ก็จริง แต่บุคคลนั้นต้องไม่ใช่สวีอี้ซาน!
หม่าฉางหมิงและสวีอี้ซานไม่ลงรอยกันมานานแล้ว ไม่เช่นนั้นก่อนหน้านี้เขาคงไม่ดูหมิ่นอีกฝ่ายต่อหน้าผู้คนมากมาย ชายชราเชื่อว่าตนเองแข็งแกร่งยิ่งกว่าอีกฝ่าย มีความเหมาะสมที่จะรับตำแหน่งเจ้าวังยิ่งกว่า หากต้องให้เลือกเจ้าวังคนใหม่ก็ต้องเป็นเขา ไม่ใช่สวีอี้ซาน!
เขาไม่อาจยอมรับให้สวีอี้ซานเป็นเจ้าวังคนใหม่!
“ไม่ยอมรับงั้นเหรอ?“ อู๋ฝานมองหม่าฉางหมิงก่อนจะเอ่ยถามด้วยท่าทีสงบ
“ใช่ ฉันไม่ยอมรับ ฉันต่างหากที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะเป็นเจ้าวังคนใหม่!” หม่าฉางหมิงตอบกลับอย่างดุดัน “สวีอี้ซานทำอะไรได้ ฉันก็ทำได้!”
ตอนนี้เขาเลือกไม่ถอยกลับ เพราะเห็นแล้วว่าอู๋ฝานต้องการเลือกเจ้าวังคนใหม่ที่เชื่อฟัง อีกทั้งเรื่องนี้มันจะคลี่คลายปัญหาภัยคุกคามจากวังเมฆาสีชาดไปด้วยในตัว
หม่าฉางหมิงไม่ใส่ใจหากว่าเบื้องบนตนจะมีอู๋ฝานอยู่ ตราบใดที่ได้เป็นเจ้าวังเขาก็พร้อมจะยอมเชื่อฟังอู๋ฝานเหมือนสวีอี้ซาน ความแข็งแกร่งที่อีกฝ่ายแสดงให้เห็น มันทำให้เขาได้ตระหนักทราบดีว่าตนเองไม่อาจเทียบแม้แต่ลูกน้องของอีกฝ่าย ดังนั้นหากได้เป็นลูกน้องของคนเช่นนั้น สำหรับเขามันไม่ใช่เรื่องต้องอับอายแต่อย่างใด
มันจึงทำให้หม่าฉางหมิงแสดงออกว่าสามารถจงรักภักดีกับอู๋ฝาน และยินดีที่จะเชื่อฟังคำสั่งของอีกฝ่ายเหมือนดังสวีอี้ซาน
อู๋ฝานไม่ตอบกลับ แต่หันไปมองสวีอี้ซานด้วยสีหน้าราวกับได้พบเรื่องสนุก “ผู้อาวุโสสวี ผมสนับสนุนให้คุณเป็นเจ้าวังคนใหม่ แต่ตอนนี้มีคนไม่พอใจแสดงตัวออกมา คิดจะพูดหรือว่าจะจัดการยังไง?”
สวีอี้ซานมองหม่าฉางหมิงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลด้วยสายตาเย็นยะเยือก การที่อีกฝ่ายคัดค้านนั้นไม่ได้ทำให้เขาประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่ที่ประหลาดใจคือการที่อีกฝ่ายยอมรับให้อู๋ฝานจัดการเรื่องราวใหญ่ขนาดนี้โดยไม่ตอบโต้
ขณะเดียวกันนี้เอง สวีอี้ซานก็ทราบดีแก่ใจว่าเมื่อไหร่ที่หม่าฉางหมิงได้เป็นเจ้าสำนักคนใหม่ ไม่เพียงเขาจะไม่อาจอยู่วังเมฆาสีชาดได้ต่อ แต่ยังจะตายด้วยมือของอีกฝ่าย หม่าฉางหมิงจะไม่ปล่อยให้หนามยอกเช่นเขาอยู่ต่อไปอย่างแน่นอน!
เมื่อคิดได้ดังนั้น สวีอี้ซานจึงก้มลงคว้ากระบี่เล่มหนึ่งขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะเดินไปทางหม่าฉางหมิงทีละก้าว
เหล่าศิษย์วังเมฆาสีชาดต่างเงียบเสียงและรับชมเรื่องราว บางคนกระทั่งเข้าใจแผนการของอู๋ฝาน แต่ต่อหน้าอีกฝ่ายที่แข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด ต่อให้พวกเขาเห็นต่างก็ไม่กล้าแสดงออกมา ยิ่งไปกว่านั้นเหล่าผู้อาวุโสคนอื่นก็ไม่คล้ายจะใส่ใจเรื่องที่อู๋ฝานจะแต่งตั้งเจ้าวังคนใหม่ เพราะที่พวกเขากำลังกังวลตอนนี้คือสุดท้ายตำแหน่งจะตกเป็นของใคร
“แกคิดจะทำอะไร?” หม่าฉางหมิงมองสวีอี้ซานที่เดินเข้ามาใกล้ สีหน้าท่าทีเวลานี้ทั้งตื่นตระหนกและตกใจ โดยเฉพาะยามได้เห็นกระบี่ในมือของอีกฝ่าย สีหน้าของเขาจึงยิ่งร้อนรนขึ้นมา
สวีอี้ซานไม่ตอบ แต่ยืนนิ่งตรงหน้าหม่าฉางหมิง แม้ทั้งสองฝ่ายจะบาดเจ็บ แต่เห็นได้ชัดว่าหม่าฉางหมิงบาดเจ็บหนักยิ่งกว่า อย่างน้อยสวีอี้ซานก็ยังสามารถเดินถือกระบี่ได้ ขณะที่หม่าฉางหมิงไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่จะยืนขึ้นด้วยซ้ำ
“สวีอี้ซาน! ฉันคือผู้อาวุโสสำนักในลำดับที่หนึ่งแห่งวังเมฆาสีชาด! มีสถานะสูงส่งและแข็งแกร่งยิ่งกว่าแก ฉันมีคุณสมบัติได้เป็นเจ้าวังคนใหม่ อย่าคิดทำเรื่องโง่เขลา!” หม่าฉางหมิงจ้องสวีอี้ซานราวคิดกินเลือดเนื้อ
“แกน่ะเหรอมีคุณสมบัติ?” สวีอี้ซานจ้องอีกฝ่ายก่อนจะแค่นเสียงเย้ยหยัน สุดท้ายก็แทงปลายกระบี่ใส่ร่างหม่าฉางหมิงโดยไร้ซึ่งความลังเล
แม้หม่าฉางหมิงได้เห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย แต่เพราะอาการบาดเจ็บสาหัสทำให้ไม่อาจหลบเลี่ยงจนต้องรับบาดแผลนี้
“แก… กล้าดียังไง?!” หม่าฉางหมิงถลึงตามองสวีอี้ซานราวกับไม่เชื่อสิ่งที่ได้เห็น
“แล้วทำไมจะไม่กล้า? อาศัยจากความโปรดปรานที่ได้รับจากเจ้าวัง แกเลยเอาแต่กลั่นแกล้งฉันมาโดยตลอด ทำให้สถานะของฉันในสำนักสูงกว่าผู้อาวุโสสำนักนอกเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ฉันขอถามว่าแกเคยคิดว่าจะมีวันนี้รึเปล่า?!” สวีอี้ซานคำรามเสียงดังออกมา
“อั่ก!”
สวีอี้ซานดึงกระบี่ออกจากร่าง ก่อนจะแทงลงไปอีกครั้งโดยไม่มีความลังเล
“อยากเป็นเจ้าวังงั้นเหรอ? จงไปเป็นในปรโลกเถอะ!” สวีอี้ซานเอ่ยขณะแทงกระบี่ใส่ร่างหม่าฉางหมิงอย่างต่อเนื่อง อีกฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้วปรากฏรอยแผลเป็นรูเลือดหลั่งไหลออกมา
ระหว่างแทง ร่างของสวีอี้ซานถูกเลือดที่สาดกระเซ็นของหม่าฉางหมิงกระเด็นใส่ เขาจึงดูราวกับเป็นคนคลั่ง คล้ายกำลังระบายความคับแค้นที่โดนหม่าฉางหมิงกระทำมาโดยตลอดหลายปีออกมา
ท่ามกลางลานกว้าง มีเพียงเสียงกระบี่แทงใส่ร่างเนื้อและเสียงบ่นพึมพำของสวีอี้ซาน ส่วนหม่าฉางหมิงนั้นตายไปนานแล้ว
หลังผ่านไปนาน สวีอี้ซานจึงค่อยหยุดมือและคำบ่นต่อร่างไร้ชีวิตของอีกฝ่าย ก่อนจะหันกลับและมองทางสามผู้อาวุโสที่ต่างก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน
เมื่อผู้อาวุโสทั้งสามเห็นสายตาที่มองมา หัวใจของพวกเขาก็เต้นผิดจังหวะ ตอนนี้ถึงกับพร้อมใจเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน “พวกเราเห็นพ้องให้ท่านเป็นเจ้าวังคนใหม่!”
เมื่อเห็นร่างของหม่าฉางหมิงตายยังไม่ทันเย็นชืด ขณะนี้จึงไม่มีใครกล้าเห็นต่างเรื่องที่สวีอี้ซานจะเป็นเจ้าวัง หากมีเขาก็เพียงสังหารเพิ่มจนไร้คนเห็นต่าง เห็นได้ชัดว่าสวีอี้ซานพร้อมจะเป็นทรราชเพื่อให้ได้เป็นเจ้าวัง