ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 545 แผนการของจักรพรรดิชรา
บทที่ 545 แผนการของจักรพรรดิชรา
บทที่ 545 แผนการของจักรพรรดิชรา
“โฉวหย่งเชา? กระหม่อมรู้จักคนผู้นั้นพ่ะย่ะค่ะ เนื่องจากกระหม่อมเป็นคนสังหารด้วยมือคู่นี้เอง” อู๋ฝานตอบกลับ “แต่ฝ่าบาททราบเรื่องได้อย่างไรกันพ่ะย่ะค่ะ?”
อู๋ฝานยังจำได้ว่าตอนที่ตนเองสังหารโฉวหย่งเชาได้ขอให้กัวจื่อหมิงช่วยรายงานความดีความชอบ ผลลัพธ์ที่ได้คือคนของเขาถูกอีกฝ่ายขับไล่ออกมา เรื่องรายงานจึงค้างคาไว้เช่นนั้น หาได้นึกไม่ว่าจักรพรรดิชราจะทราบเรื่องนี้เข้า
“เจ้าสังหารงั้นหรือ?” จักรพรรดิชราเผยอาการประหลาดใจ
“พ่ะย่ะค่ะ” อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะเล่ารายละเอียดของเรื่องราวที่โฉวหย่งเชาบุกเข้ามาโจมตีหมู่บ้านเร้นลับ
“หลังสังหารกบฏโฉวหย่งเชา กระหม่อมก็ต้องการรายงานให้เบื้องบนทราบ แต่ผู้ว่าการเทศมณฑลกัวไม่เห็นด้วย และกระหม่อมก็ไม่มีช่องทางใช้รายงาน ดังนั้นจึงคิดว่าเรื่องนี้ถูกลืมเลือนไปแล้ว ไม่นึกว่าฝ่าบาทจะทราบเข้าจนได้ ขอกระหม่อมสอบถามว่าฝ่าบาททราบได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?” อู๋ฝานเผยความสงสัย
จักรพรรดิชราเป็นคนฉลาด เพียงได้ฟังปากคำของอู๋ฝานก็เข้าใจว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร เห็นได้ชัดว่าคนแซ่กัวผู้นั้นต้องการช่วงชิงความดีความชอบของผู้อื่น กลั่นแกล้งอีกฝ่ายโดยไม่รายงานความดีความชอบทางการทหาร หาได้นึกไม่ว่าสุดท้ายแล้วความจะแตกเอาเช่นนี้
“ฉีเอ๋อร์ฉลาดได้ข้าโดยแท้” จักรพรรดิชราเอ่ยชื่นชมอยู่ในใจ
“อู๋ฝาน ยิ่งผ่านไปเจ้ายิ่งทำข้าประทับใจมากยิ่งขึ้น” จักรพรรดิชราเอ่ยคำชม โดยไม่ตอบคำถามที่เพิ่งได้รับเมื่อครู่
“เป็นพระกรุณาพ่ะย่ะค่ะ” อู๋ฝานตอบรับ
“เอาละ เจ้ากลับไปก่อน ข้าคงต้องพักแล้ว” ร่องรอยความเหนื่อยล้าแสดงออกมาผ่านทางสีหน้าของจักรพรรดิชรา เขาบอกกับอู๋ฝาน “เรื่องลอบสังหารจักรพรรดิแห่งหนานปิงมีความสำคัญอย่างใหญ่หลวง เจ้าจงใส่ใจมันให้มากและเตรียมการให้พร้อม เมื่อใดเตรียมพร้อมแล้วก็จงออกเดินทาง”
หลังเหตุการณ์ลอบสังหาร แม้จักรพรรดิชราจะฟื้นคืนกำลังขึ้นในทุกวัน แต่เพราะความเฒ่าชรานั้นเอง แม้ผ่านมาหลายวันแล้วก็ยังยากจะกลับมาแข็งแรงดังเดิม ดังนั้นแก่นแท้จึงอ่อนล้าและทรุดโทรมลงกว่าที่เคยเป็น
“ฝ่าบาท เรื่องศักดินาของกระหม่อม…” อู๋ฝานเอ่ยคำถามสวนขึ้นมา
“จะมีโองการตามไป” จักรพรรดิชราหลับตาลงขณะตอบคำกลับ
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา” อู๋ฝานประสานมือให้ก่อนจะหันกลับออกไป
สาเหตุที่ว่าทำไมอีกฝ่ายจึงเรียกตัวเขามาพบที่นี่วันนี้ มันไม่ใช่เพราะต้องการมอบที่ดินศักดินา แต่เป็นการมอบภารกิจพิเศษให้ บางทีเรื่องราวเช่นที่ดินศักดินานั้น ในสายตาของจักรพรรดิชราคงไม่มีค่าแต่อย่างใด มันเป็นเรื่องที่สามารถดำเนินการผ่านพระราชโองการได้ ที่อีกฝ่ายเล็งเห็นค่ากว่าสิ่งอื่นใดคือภารกิจลอบสังหารต่างหาก
หลังอู๋ฝานออกไปแล้ว จักรพรรดิชราจึงอยู่ในห้องเพียงผู้เดียวอีกครั้ง ดวงตานั้นลืมตื่นขึ้นเล็กน้อยขณะจ้องมองทิศทางที่ชายหนุ่มเดินจากไปด้วยท่าทีที่ไม่อาจคาดเดา
แท้จริงแล้ว แม้ว่าของขวัญเมื่องานเลี้ยงวันเกิดองค์หญิงเจ็ดเมื่อครั้งก่อนจะเป็นที่ชอบพอ แต่ก็ยังไกลห่างเกินกว่าจะแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ให้ แม้แบบนั้นจักรพรรดิชราก็ยังอวยยศจากปั๋วเจวี๋ยขึ้นเป็นจื่อเจวี๋ย ทั้งยังมอบที่ดินศักดินาให้ รวมถึงเรียกตัวอีกฝ่ายมาพบเจอต่อหน้าที่เมืองหลวง ทั้งหมดก็เพราะมีแผนการอยู่ในใจ
จักรพรรดิชราทราบสถานการณ์ดีว่าตนเองทั้งแก่เฒ่าและสุขภาพเริ่มถดถอยลงทุกวัน บุตรชายไม่มีใครมีความสามารถ หากเมื่อใดตนเองตายไป ก็เกรงว่าจักรพรรดิพระองค์ใหม่จะไม่อาจควบคุมสถานการณ์บ้านเมือง หากราชสำนักไม่อาจควบคุมและดำรงอยู่ ไม่ว่าจะขุนนางหรือขุนพลทหารอาจพร้อมใจกันล้มล้าง แม้ตอนนี้พวกเขาไม่ลงรอยกัน แต่กาลเวลาเป็นสิ่งที่พร้อมจะแปรเปลี่ยนสรรพสิ่ง
ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว เขาจึงต้องการอำนาจจากภายนอกมาทำลายเรื่องตรงนี้ และอู๋ฝานคือเป้าหมายที่จักรพรรดิชราเลือกขึ้นมา แต่ชายหนุ่มคือเป้าหมายคนหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด มันแยบยลอย่างที่ทั้งตัวอู๋ฝานและเหล่าข้าราชบริพารทั้งหลายในราชสำนักไม่คาดคิดและตระหนักถึง
ครั้งแรกที่จักรพรรดิเห็นนามของอู๋ฝาน มันเป็นช่วงเวลาก่อนวันเกิดขององค์หญิงเจ็ดเสียด้วยซ้ำ ครั้งนั้นชายหนุ่มแสดงความสามารถในขบวนขนส่งเสบียงได้อย่างดีเยี่ยม ไม่เพียงนำส่งอย่างราบรื่น แต่ยังสามารถสยบทัพกบฏที่เจอระหว่างทาง ครั้งนั้นจักรพรรดิชราจึงแต่งตั้งให้ชายหนุ่มได้บรรดาศักดิ์ปั๋วเจวี๋ย โดยกล่าวว่าเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้อื่นปราบกบฏดังเช่นที่ชายหนุ่มกระทำ และที่งานเลี้ยงวันเกิดขององค์หญิงเจ็ด จักรพรรดิได้ยินนามอู๋ฝานอีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้มันทำให้เขาต้องจดจำชื่ออีกฝ่ายเอาไว้อย่างขึ้นใจ และมองชายหนุ่มเป็นเป้าหมายของผู้ที่มีศักยภาพ ดังนั้นจึงเรียกตัวอีกฝ่ายมาเข้าเฝ้าถึงเมืองหลวง
เดิมนั้นจักรพรรดิชราเพียงแค่ต้องการเฝ้าดูและทดสอบอีกฝ่าย หาได้คาดคิดไม่ว่าจะเกิดเรื่องเช่นการลอบสังหารขึ้น และเหตุการณ์นั้นยังเป็นการยกระดับสถานะในใจของอู๋ฝานต่อจักรพรรดิชรา ทำให้เกิดความคาดหวังอยากฝากฝังแรงกล้ามากยิ่งขึ้น
แท้จริงแล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้จักรพรรดิชราได้เจอผู้คนมากมาย เพียงแต่ภายนอกไม่ได้ตระหนักถึง ผู้คนเหล่านั้นมีสถานการณ์คล้ายคลึงกับอู๋ฝาน เป็นคนที่ไม่มีใครรู้จัก มีพื้นเพธรรมดาเรียบง่าย ทว่ามีฝีมือที่แข็งแกร่งและความคิดที่ยืดหยุ่น จักรพรรดิชราได้เตรียมการเอาไว้เป็นเบื้องหลัง เพื่อเตรียมฝึกซ้อมกลุ่มคนที่มีความสามารถแก่จักรพรรดิคนถัดไป เพื่อไม่ให้จักรพรรดิคนใหม่ต้องขึ้นบัลลังก์อย่างว่างเปล่าไร้ซึ่งผู้ใดให้เชื่อใจ
ส่วนเรื่องการลอบสังหารจักรพรรดิแห่งอาณาจักรหนานปิง มันเป็นเรื่องที่จักรพรรดิชราเพิ่งคิดขึ้นมาได้ ทั้งยังเป็นบททดสอบให้แก่ทุกคน รวมถึงอู๋ฝานด้วยก็เช่นกัน ครั้งนี้คนที่จักรพรรดิชราส่งตัวไปทำภารกิจลอบสังหารไม่ได้มีเพียงแค่อู๋ฝาน แต่ตอนนี้มีกี่คนนั้นยังไม่อาจทราบแน่ชัด และจักรพรรดิชราก็พร้อมจะตกรางวัลแก่พวกเขาโดยอาศัยจากการประเมินศักยภาพและความสามารถ
แน่นอนว่าจักรพรรดิชราทราบดี ภารกิจที่มอบออกไปนี้อันตรายอย่างถึงที่สุด อัตราการเสียชีวิตสูงเทียมฟ้า มีความเป็นไปได้ว่าเกินกว่าครึ่งของคนที่ส่งไปจะถูกสังหารหรือบาดเจ็บหนักกลับมา หรืออาจตายตั้งแต่ยังไม่ทันได้เข้าถึงเป้าหมายภารกิจด้วยซ้ำ แต่จักรพรรดิชราไม่คิดใส่ใจ คนที่แข็งแกร่งและไร้พื้นเพนั้นเป็นสิ่งที่สามารถเฟ้นหามาเติมเต็มได้เสมอ สิ่งที่ต้องทำก็มีเพียงแค่ฝึกฝน เฝ้าสังเกต และประเมินผลพวกเขาก็เท่านั้นเอง
และหากว่ามีใครทำภารกิจสำเร็จ บุคคลผู้นั้นก็พิสูจน์ความกล้าหาญและความสามารถได้สำเร็จ และยังจะได้เป็นมือขวาของจักรพรรดิองค์ถัดไป
อย่างน้อยทั้งหมดนั้นก็เป็นในความคิดของจักรพรรดิชรา
“อู๋ฝาน อนาคตของเจ้าจะเป็นอย่างไรก็จงลิขิตมันด้วยตนเองเถอะ” จักรพรรดิชราพึมพำเสียงเบา
แม้ก่อนหน้านี้อู๋ฝานจะช่วยชีวิตตนเองเอาไว้ แต่จักรพรรดิชราก็ไม่ได้เปิดประตูต้อนรับอีกฝ่ายเพียงเพราะเรื่องแค่นั้น เนื่องจากมันเกี่ยวพันถึงอนาคตของอาณาจักรเหยียนเฟิง เขาจึงยังยืนกรานที่จะส่งตัวชายหนุ่มไปทำภารกิจตามแผนเดิมที่คิดเอาไว้
ในความเห็นของจักรพรรดิชรา วิธีการนี้ไม่ว่าจะมองจากมุมของผู้ปกครองหรืออาณาจักรเหยียนเฟิงล้วนแล้วแต่เหมาะสม เขาไม่คิดสนใจความคิดของบรรดาผู้ได้รับการคัดเลือก ในความเห็นของเขานั้น คนที่ได้รับการคัดเลือกให้มีโอกาสเหยียบย่างหนึ่งก้าวขึ้นสู่สวรรค์ต่างหากจะควรยินดี มันเป็นโอกาสที่หากมีใครได้รับก็คงไม่มีทางปฏิเสธ
ผู้อื่นอาจเป็นเช่นที่เขาคิด แต่ไม่ใช่กับอู๋ฝาน!
จักรพรรดิชราไม่ได้เข้าใจอะไรในตัวอู๋ฝาน เขาเพียงคิดไปเองว่าอีกฝ่ายก็เหมือนคนอื่น ทั้งที่แท้จริงแล้วความคิดของชายหนุ่มแตกต่างไปจากคนอื่นอย่างมาก แม้จะอยู่ในอาณาจักรเหยียนเฟิง กระทั่งว่าได้รับบรรดาศักดิ์และตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเมือง ก็ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มจะมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเหยียนเฟิง!
จักรพรรดิชรามอบหมายภารกิจอันตราย มันอาจทำให้เกิดความไม่พอใจ อีกทั้งอู๋ฝานยังไม่เคยคิดเรื่องการลอบสังหารอะไรเช่นนั้น ที่เขาต้องการก็มีเพียงแค่สถานะตัวตนที่สามารถทำเงินได้ ทั้งหมดก็เพื่อนำไปป้อนแก่โลกความเป็นจริง
ส่วนเรื่องจะเป็นขุนนางแห่งอาณาจักรเหยียนเฟิงไปชั่วชีวิตที่เหลือนั้น เขาไม่เคยคิดเลยแม้แต่น้อย กระทั่งไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ