ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 543 พบเจออีกครั้ง
บทที่ 543 พบเจออีกครั้ง
บทที่ 543 พบเจออีกครั้ง
“ปล่อยกงกงรอนานแล้วขอรับ” อู๋ฝานเดินมาถึงห้องโถงพร้อมได้พบบุรุษในชุดขันทีที่กำลังนั่งดื่มชา
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หามิได้ขอรับ” เมื่อขันทีผู้นั้นเห็นอู๋ฝานมาถึง เขาจึงรีบลุกขึ้นพร้อมเอ่ยตอบด้วยความสุภาพ
แม้อู๋ฝานคือจื่อเจวี๋ย แต่บรรดาศักดิ์ดังกล่าวสำหรับเมืองหลวงแล้วถือว่าเล็กจ้อย ทว่าเพราะเป็นคนที่ช่วยชีวิตจักรพรรดิเอาไว้จึงมีความดีความชอบใหญ่หลวง ดังนั้นเพียงแค่เรื่องรอคอยสักเล็กน้อยไม่คู่ควรให้กล่าวถึง ต่อให้ต้องรอสักครึ่งวัน ขันทีผู้นี้ก็ไม่มีทางกล้าแสดงความไม่พอใจออกมา
“ฝ่าบาทต้องการพบข้าหรือขอรับ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
“ถูกต้อง” ขันทีกล่าวตอบรับ “นับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่ฝ่าบาทเรียกผู้อื่นเข้าเฝ้า ใต้เท้าอู๋ได้รับความไว้ใจถึงเพียงนี้ จะต้องมีอนาคตที่สดใสแน่ขอรับ”
“คงต้องรบกวนกงกงชี้แนะอีกมากขอรับ” อู๋ฝานหัวเราะตอบ
“หากใต้เท้าอู๋พร้อม พวกเราก็ออกเดินทางกันได้เลยขอรับ ฝ่าบาทรออยู่ที่วังหลวง” ขันทีตอบรับ
“รบกวนกงกงแล้วขอรับ”
“ข้าต่างหากที่ต้องรบกวนใต้เท้าอู๋”
ด้วยเหตุนี้ขันทีคนดังกล่าวจึงรับหน้าที่นำทาง พาอู๋ฝานเข้าไปยังวังหลวงแห่งอาณาจักรเหยียนเฟิงเป็นครั้งที่สอง
หากเทียบเปรียบกับครั้งแรก อู๋ฝานรู้สึกได้ชัดเจนว่าการคุ้มกันของวังหลวงเข้มงวดมากขึ้น ทุกระยะห้าก้าวถึงสิบก้าวจะมีคนเฝ้าประจำที่ ทุกคนต่างมีสีหน้าขึงขัง ยามนี้เมื่อเห็นชายหนุ่มมาถึงจึงสำรวจตรวจสอบด้วยสายตาเป็นการประเมิน เขาเชื่อว่าหากตอนนี้ตนเองเคลื่อนไหวผิดแปลกสักเล็กน้อย เกรงว่าทหารเหล่านี้คงพร้อมจะพุ่งตัวออกมาอย่างไม่ลังเล
นอกจากคนที่อยู่ในที่แจ้ง อู๋ฝานยังได้พบอีกหลายคนที่อยู่ในเงามืด คนเหล่านี้มีลมหายใจอันสงบ ทว่าออร่าที่เปล่งออกมาแข็งแกร่งยิ่งกว่า เห็นได้ชัดว่าเป็นเหล่ายอดฝีมือ
ภายใต้การนำทางของขันที อู๋ฝานจึงมาเยือนวังที่เคยเข้าเฝ้าจักรพรรดิชราหลังเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารอีกครั้งหนึ่ง
วังชีวิตนิรันดร์!
แค่ชื่อก็นับว่าวิเศษเลิศล้ำแล้ว
“หยุดก่อน!” เป็นดังคาดเอาไว้ อู๋ฝานถูกสั่งให้หยุดหน้าทางเข้าวังชีวิตนิรันดร์ เหล่าทหารก้าวเดินออกมาตรวจค้น และเห็นได้ว่าการตรวจค้นครั้งนี้จริงจังและละเอียดกว่าครั้งก่อนหน้า
“ในนี้มีอะไร?” หัวหน้าทหารเอ่ยถาม พร้อมชี้ไปยังขวดในมือของอู๋ฝาน
“ชาตื่นรู้ขอรับ” อู๋ฝานตอบกลับ “เป็นเครื่องดื่มช่วยทำให้จิตใจกระจ่างแจ่มใส ข้าคิดนำมาถวายให้แก่องค์เหนือหัว”
“ไม่นำเข้าไปได้หรือไม่?” ทหารเอ่ยถาม
“เพราะเหตุใดหรือขอรับ?” อู๋ฝานขมวดคิ้ว “สงสัยว่าในขวดนี้มีอาวุธลับซ่อนอยู่ หรือว่ามีพิษงั้นหรือ? หากสงสัยว่ามีอาวุธเช่นนั้นข้าเปิดให้รับชมได้ แต่หากสงสัยว่ามีพิษหรือไม่นั้นคงไม่จำเป็น เนื่องจากข้าไม่อาจบีบบังคับให้ฝ่าบาททรงเสวยได้”
“ไม่ ไม่ว่าของในนั้นคืออะไรก็ไม่อาจนำเข้าไป เข้าไปแต่ตัว ไม่อาจนำสิ่งของอื่นเข้าไปได้” ผู้นำทหารเอ่ยอย่างเคร่งครัด
ก่อนหน้านี้อูหย่าเคยใช้ปิ่นปักผมที่อยู่บนศีรษะเป็นอาวุธลอบสังหาร มันเป็นอาวุธที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน หลังเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น กลุ่มคนที่รับผิดชอบตรวจค้นร่างกายจึงต้องระมัดระวังอย่างถี่ถ้วน กระทั่งว่าเป็นของที่ดูไม่น่าจะใช้เป็นอาวุธสังหารได้ หากทำได้พวกเขาก็ไม่อนุญาตให้นำเข้าไป เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดเหตุไม่คาดฝันเหมือนดังเช่นก่อนหน้านี้
“นี่ออกจะไร้เหตุผลกันเกินไปแล้ว” อู๋ฝานขมวดคิ้ว
เหตุผลที่ว่าทำไมชายหนุ่มยืนกรานต้องการนำชาตื่นรู้เข้าไปให้ได้นั้น มันไม่ใช่เพื่อเอาให้จักรพรรดิชรา แต่เพราะมันมีความสำคัญยิ่งกว่านั้น เขาต้องการให้จักรพรรดิเป็นลูกค้าของทางร้าน หากอีกฝ่ายดื่มเข้าไปและออกปากว่าเป็นของดี เช่นนั้นเหล่าเสนาบดีและผู้อยู่เบื้องล่างมีหรือจะคิดเห็นเป็นอื่น?
เนื่องจากมันมีผลทางด้านการโฆษณา แม้หลี่จื่อหยางและคนอื่นจะช่วยอุดหนุน แต่ในเมื่อเวลานี้จักรพรรดิเรียกเข้าเฝ้า เขาก็ไม่คิดปล่อยโอกาสการโฆษณาครั้งนี้หลุดลอยไป
แต่ไม่คาดคิดว่าจะถูกขัดขวางตั้งแต่ทางเข้า ทหารองครักษ์ไม่อนุญาตให้เขานำชาตื่นรู้เข้าไป
“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะกล่าวว่าอะไร ของสิ่งนี้ไม่อาจนำเข้าไปได้!” ทหารผู้นั้นกล่าวตอบ
ขณะอู๋ฝานกำลังโกรธเคืองจนคิดโต้เถียงกับอีกฝ่าย เสียงของจักรพรรดิชราพลันดังขึ้นจากด้านในห้อง
“ให้อู๋ฝานเข้ามา!”
ผู้นำทหารพลันเผยท่าทีอ่อนน้อมถอยเท้ากลับพร้อมเอ่ย “เชิญ!”
อู๋ฝานแกว่งขวดชาตื่นรู้ในมือโดยไม่เอ่ยคำอื่นใดกับอีกฝ่าย
ประตูห้องถูกเปิดออกโดยทหารที่ประจำการหน้าประตูทั้งสองบาน หลังอู๋ฝานเข้ามาด้านใน ประตูจึงปิดลงในทันที ทั้งห้องกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้งหนึ่ง
“มาทางนี้” เสียงของจักรพรรดิชราดังขึ้นอีกครั้ง
อู๋ฝานเดินไปตามเสียง ก่อนจะผ่านหัวมุมทั้งสองแห่งจนได้พบอีกฝ่ายที่นอนอยู่บนเตียง
“ถวายพระพรฝ่าบาท” อู๋ฝานประสานมือให้กับจักรพรรดิ
จักรพรรดิชรามองอู๋ฝานพลางตอบ “ไม่ว่าจะเสนาบดี ขันที หรือข้ารับใช้ในวังแห่งนี้ หากพบเจอข้าล้วนแล้วแต่ต้องคุกเข่าทำความเคารพ มีเพียงเจ้าที่ไม่ยินดีคุกเข่า”
“คุกเข่าเป็นเพียงพิธีพ่ะย่ะค่ะ เหล่าผู้ที่คุกเข่าให้อาจไม่ได้นับถือฝ่าบาทจากใจจริง บรรดาผู้ที่ไม่ได้คุกเข่าให้ก็ไม่ใช่ไม่นับถือฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ” อู๋ฝานตอบกลับ
“ฮ่าฮ่า เจ้าพูดมาก็ถูก” จักรพรรดิชราหัวเราะตอบ “มานั่งก่อน”
“เป็นพระกรุณาพ่ะย่ะค่ะ” ขณะนี้เองที่อู๋ฝานเดินเข้าไปยังเก้าอี้ตรงหน้าเตียงของจักรพรรดิชราและนั่งลง
เบื้องหน้าภายในห้องแห่งนี้มีเพียงแค่อู๋ฝานและจักรพรรดิชรา แต่ในความเป็นจริงแล้ว นับตั้งแต่เข้ามาในห้องเขาก็ตระหนักได้ ว่าทุกตำแหน่งหัวมุมของห้องจะมีออร่าเบาบางคงอยู่ มันไม่ใช่ความเบาบางของคนใกล้ตาย แต่เป็นร่องรอยการกลบเกลื่อนอันแยบยลของยอดฝีมือที่ซุกซ่อนตัวตนอยู่
เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิชราไม่ได้ไว้ใจอู๋ฝานเต็มร้อย แต่ในเมื่อคนเหล่านั้นไม่ได้แสดงตัว อู๋ฝานจึงทำตัวประหนึ่งไม่เห็นสิ่งใด
“เสียงวุ่นวายเมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น?” จักรพรรดิชราเอ่ยถาม
“เพราะสิ่งนี้พ่ะย่ะค่ะ” อู๋ฝานส่งขวดชาตื่นรู้ในมือให้จักรพรรดิชรา “เป็นชาที่กระหม่อมพัฒนาขึ้นมาด้วยตนเอง นามว่าชาตื่นรู้ เพียงดื่มเข้าไปจะสามารถส่งผลให้จิตใจกระจ่างใสและคลายความเหนื่อยล้า แต่ทหารองครักษ์ภายนอกกังวลว่ากระหม่อมอาจมีเจตนาร้าย ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้นำสิ่งนี้เข้ามาพ่ะย่ะค่ะ”
“ชาตื่นรู้?” จักรพรรดิชรารับเอาไว้พลางเผยสีหน้าสงสัย “มันได้ผลน่าทึ่งถึงเพียงนั้น?”
“ฝ่าบาทเสวยแล้วจึงได้ทราบพ่ะย่ะค่ะ” อู๋ฝานกล่าวตอบ
จักรพรรดิชรามีอาการลังเล อู๋ฝานที่เห็นจึงรินชาตื่นรู้ลงใส่ถ้วยน้อยและดื่มให้เห็นต่อหน้า พร้อมกับเอียงให้เห็นก้นแก้วเป็นการแสดงความจริงใจ
จักรพรรดิชราพลันเผยสีหน้าจริงจัง “เจ้าทำอะไร? เจ้าเป็นคนช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ดังนั้นย่อมไม่คิดร้ายใด ๆ ข้าเชื่อในตัวเจ้า”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมแค่กระหายน้ำไปบ้างจึงเผลอดื่มไป” อู๋ฝานแสร้งทำเป็นยอมรับความผิด
จักรพรรดิชราพยักหน้าตอบด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะขอให้อู๋ฝานช่วยรินใส่แก้วเหมือนดังที่เพิ่งกระทำไป จากนั้นจึงดื่มในหนึ่งอึกพร้อมเผยดวงตาเบิกโพลงทอประกาย
“วิเศษจริงแท้” จักรพรรดิชราเอ่ยชม เพียงแค่หนึ่งอึก เขายังรับรู้ได้ถึงเรี่ยวแรงที่ฟื้นกลับคืนมาอย่างเห็นได้ชัด จิตใจรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ไม่พร่ามัวเหมือนดังเช่นที่เคยเป็น
“ฝ่าบาทชอบ กระหม่อมก็ยินดีพ่ะย่ะค่ะ” อู๋ฝานตอบรับ
“คงต้องขอให้ส่งมายังพระราชวังเพิ่มเสียแล้ว” จักรพรรดิชรากล่าวตอบ
“เป็นเกียรติอย่างล้นเหลือพ่ะย่ะค่ะ” อู๋ฝานตอบรับ
จักรพรรดิชราพยักหน้ารับก่อนจะเริ่มตรงเข้าประเด็น “เจ้าทราบหรือไม่ว่าเหตุใดวันนี้ข้าเรียกมาพบ?”
……………………………