ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 614 ข้าบุตรเเห่งโชคชะตาจะทำให้ความเป็นไปได้เช่นนั้นกลายเป็นร้อยส่วนเอง
- Home
- All Mangas
- ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา
- บทที่ 614 ข้าบุตรเเห่งโชคชะตาจะทำให้ความเป็นไปได้เช่นนั้นกลายเป็นร้อยส่วนเอง
บทที่ 614 ข้าบุตรเเห่งโชคชะตาจะทำให้ความเป็นไปได้เช่นนั้นกลายเป็นร้อยส่วนเอง
เมื่อลู่หยวนก้าวไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว ทุกสิ่งรอบตัวก็พังทลายลง โลกใบใหม่กวาดผ่านรอบกายลู่หยวน
ในทันใดนั้น ฟ้าดินสว่างไสวเสียงทั้งหมดสงบนิ่ง
เหลือเพียงคนในชุดขาดวิ่นกับลู่หยวน
วิถีโบราณผู้นั้นหันกลับมาสบตากับลู่หยวน ดวงตาเต็มไปด้วยประกาย มองขึ้นลงราวกับกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง
ลู่หยวนเผชิญสายตานั้นและเอ่ยขึ้นว่า “พอได้แล้ว มีของดีอะไรจะให้ข้าใช่หรือไม่ อาวุธวิเศษหรือคัมภีร์วิชา หรือพลังบำเพ็ญ ข้าก็ไม่เลือกหรอก”
วิถีโบราณหัวเราะเบา ๆ “ข้าคือวิถีโบราณนะ เป็นสิ่งมีชีวิตที่เทียบเท่าวิถีสวรรค์ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าเช่นนี้ คำพูดของเจ้าเหมือนข้าติดหนี้เจ้าอยู่อย่างนั้นแหละ”
สีหน้าของลู่หยวนเคร่งขรึมลง “ท่านไม่ติดหนี้ข้างั้นหรือ ท่านกับวิถีสวรรค์เล่นเกมนี้ใหญ่โตมากนะ ซ่งชิงน่าจะเป็นคนที่วิถีสวรรค์เลือก ส่วนข้าก็เป็นคนที่ท่านเลือก พวกท่านเลือกข้ากับเขาไม่ใช่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของพวกท่านหรอกหรือ?”
“พวกท่านไม่ต่อสู้กันโดยตรง แต่กลับให้พวกข้าต่อสู้กัน ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็ไม่ทำให้พวกท่านได้รับบาดเจ็บจริง ๆ ใช่หรือไม่?”
เมื่อได้ยินคำพูดของลู่หยวน วิถีโบราณก็ก้มหน้ายิ้มเบา ๆ “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ลู่หยวน ระหว่างเจ้ากับข้าก็ไม่ต้องปิดบังกันแล้ว ข้ารู้ว่าขีดจำกัดของเจ้าอยู่ตรงไหน วางใจได้ ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเป็นอันใดไปหรอก ในโลกนี้นับตั้งแต่สิ่งมีชีวิตเกิดมามันก็ถูกกำหนดให้ต้องดับสูญไปในที่สุดอยู่แล้ว ข้าถามใจตัวเองและได้ให้ชะตากรรมที่ดีที่สุดแก่เจ้าแล้ว”
“ลู่หยวนเอ๋ยลู่หยวน ตลอดทางมานี้ เจ้าคงรู้สึกแล้วว่าในโลกนี้ ผู้ใดจะมีครอบครัวเช่นเจ้า ผู้ใดจะมีพลังยุทธ์เช่นเจ้า จนถึงวันนี้บนแผ่นดินหยวนหง ผู้ใดไม่ก้มหัวเรียกเจ้าว่านายท่านบางเล่า แม้แต่ ซ่งชิงที่เจ้าถือเป็นคู่แข่งมาตลอดก็ถูกเจ้ากดดันไว้ถึงเพียงนี้ เจ้ายังไม่พอใจอีกหรือ?”
วิถีโบราณพูดจบในดวงตายังคงมีรอยยิ้มอยู่
จริง ๆ แล้ว ภายใต้การจัดการมากมายของเขา ชะตากรรมของลู่หยวนนับว่าสูงส่งไร้ผู้ใดเทียบเทียม
ชะตากรรมเช่นนี้ ไม่ว่าจะตกอยู่กับใครก็ล้วนทำให้ผู้คนปลาบปลื้มยินดี
ฟังคำพูดของวิถีโบราณแล้ว ลู่หยวนก็ไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย ในดวงตายังคงสงบนิ่ง สายตาจับจ้องไปที่วิถีโบราณโดยไม่ละสายตา
“พลังแข็งแกร่ง มีน้องชายมากมาย หล่อเหลาเจ้าชู้และมีสาวงามอยู่เคียงข้าง ลู่หยวนได้ทำตามใจชอบขนาดนี้ ยังไม่พอใจอีกหรือ?”
วิถีโบราณยิ้มพลางพูดต่อ “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังกังวลอะไร ข้าจะพูดตรง ๆ ในโลกนี้ไม่มีเรื่องดี ๆ ที่จะร่วงหล่นจากฟ้า ในเมื่อเจ้ามีชะตากรรมที่สูงส่งเช่นนี้ เจ้าก็ต้องแบกรับบางสิ่งเอาไว้บ้าง ข้าไม่ขอมากนักหรอก ขอเพียงเจ้าทำงานให้ข้าอย่างเต็มที่ ข้าก็จะปกป้องให้เจ้าได้ใช้ชีวิตอย่างสะใจเช่นนี้ตลอดไป ว่าอย่างไรเล่า”
มุมปากของลู่หยวนยกยิ้มเยาะ “วิถีโบราณกับวิถีสวรรค์เป็นกฎของฟ้าดินที่เทียบเท่ากัน พวกท่านทรงพลังเช่นนี้ ยังมีสิ่งใดที่ได้ไม่ถึงอีกหรือ ข้าไม่คิดหรอกว่าพวกท่านว่างถึงขนาดวางแผนบทนี้ขึ้นมาให้ข้ากับซ่งชิงต่อสู้กันไปมาที่นี่”
ใช่แล้วระหว่างวิถีโบราณกับวิถีสวรรค์จะต้องมีเป้าหมายบางอย่างแน่นอน!
ลู่หยวนในใจจริง ๆ แล้วไม่คิดว่าวิถีโบราณกับวิถีสวรรค์ได้สิ่งที่ต้องการที่สุดแล้ว และก็ไม่คิดว่าพวกเขาเหนือกว่าใครในใต้หล้า
ในโลกนี้มีนับพันนับหมื่น เมื่อมีวิถีสวรรค์กับวิถีโบราณสองกฎที่เทียบเท่ากันปรากฏขึ้นก็อาจหมายความว่า นอกเหนือจากโลกนี้ เหนือสามพันโลกยังมีโลกอื่น ๆ อยู่
วิถีโบราณกับวิถีสวรรค์ก็เป็นเพียงสองฝ่ายในบรรดากฎมากมายเท่านั้น บางทีอาจมีกฎที่แข็งแกร่งกว่านี้อยู่ก็ได้
ก็เหมือนกับแผ่นดินหยวนหงกับแดนเซียน เทพยุทธ์เป็นจุดสูงสุดของแผ่นดินหยวนหงแต่ในแดนเซียนอาจไม่ใช่อย่างนั้น
แผ่นดินหยวนหงรู้จักแดนเซียนน้อยมาก เพียงเพราะพวกเขาถูกปิดกั้นให้อยู่ในโลกนี้ ถูกผูกมัดภายใต้กฎนี้ หากออกจากชั้นนี้ไปจะมีโลกที่แข็งแกร่งกว่าปรากฏขึ้นหรือไม่? แล้วจะมีสิ่งที่แตกต่างจากวิถีโบราณกับวิถีสวรรค์ปรากฏขึ้นหรือไม่?
มุมปากของลู่หยวนเผยรอยยิ้ม
เฮอะ! คนก็พยายามไต่ขึ้นที่สูง น้ำก็ไหลไปที่ต่ำ ลู่หยวนไม่เชื่อหรอกว่าวิถีโบราณกับวิถีสวรรค์ วางแผนมานานขนาดนี้ก็แค่เพื่อให้ต่อสู้กันเอง ต้องมีเป้าหมายแน่นอน [1]
และผู้ทรงพลังอย่างพวกเขา หากทำเรื่องมากมายขนาดนี้ กลัวว่าก็เพื่อหลุดพ้นจากข้อจำกัดนี้ไปสู่โลกที่แข็งแกร่งกว่า
แล้วหนทางที่จะไปสู่โลกที่แข็งแกร่งกว่านั้น คือต้องบูชายัญพวกเขางั้นหรือ…
ลู่หยวนในใจยังคิดไม่ตก ไม่น่าเป็นไปได้ที่การต่อสู้ระหว่างลู่หยวนกับซ่งชิงจะทำให้วิถีโบราณ กับวิถีสวรรค์พอใจ
ในตอนนั้น วิถีโบราณเอ่ยปากขึ้นมา “ข้าจะพูดความจริงกับเจ้า ข้ากับวิถีสวรรค์ต้องการที่จะกลืนกินแดนเซียนทั้งหมด”
ลู่หยวนได้ยินดังนั้นจึงมองหน้าเขา
“เจ้าใช้ชีวิตอยู่ในแผ่นดินหยวนหงมาโดยตลอด จึงไม่ค่อยรู้เรื่องราวในแดนเซียนมากนัก
จักรพรรดิทั้งเก้าแห่งในแดนเซียนนี้ล้วนเทียบชั้นเท่ากับวิถีสวรรค์แล้ว และไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของวิถีสวรรค์อีกต่อไป แม้ข้าจะได้รับการยกย่องให้เป็นวิถีโบราณแต่ก็ยังด้อยกว่าวิถีสวรรค์อยู่บ้าง ยิ่งไม่สามารถไปกดดันจักรพรรดิแห่งแดนเซียน พวกนั้นได้อีก”
“กำลังของจักรพรรดิแห่งแดนเซียนที่เพิ่มพูนขึ้นเช่นนี้ ล้วนเป็นภัยคุกคามต่อข้าและวิถีสวรรค์ หากวันหนึ่งพวกเขามีใครสักคนสามารถทะลุทะลวงขึ้นไปและก้าวเข้าสู่ข้ามกฎแห่งสวรรค์ได้ ก็จะมายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับข้า เมื่อถึงเวลานั้น ผลประโยชน์ของข้าจะไม่ถูกกดลงไปอีกหรือ? ดังนั้นข้าจึงร่วมมือกับวิถีสวรรค์วางแผนเรื่องนี้ขึ้นมา”
พูดมาถึงตรงนี้ วิถีโบราณก็โบกมือใหญ่ครั้งหนึ่ง ภาพลวงตาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าลู่หยวน
เมื่อมองไปก็เห็นภาพลวงตานั้น ภาพพระราชวังอันโอ่อ่าหรูหรายิ่งนัก ภายในพระราชวังมีเงาร่างเก้าร่างนั่งแยกกัน พวกเขาต่างมองไปยังตรงกลาง บางครั้งก็พูดคุยกัน บางครั้งก็เงียบ
ลู่หยวนมองเห็นเพียงสีหน้าของพวกเขาแต่ไม่ได้ยินอะไร
ลู่หยวนหันสายตาไป สายตาของเขาก็หยุดอยู่ที่คนผู้หนึ่ง คนผู้นี้เขาค่อนข้างคุ้นเคย
ดูเหมือนจะเป็นจักรพรรดิเก้าสวรรค์ที่ส่งร่างแยกลงมาเป็นจิตเทวะก่อนหน้านี้
“นี่คือจักรพรรดิทั้งเก้าแห่งแดนเซียน พวกเขาตอนนี้รวมตัวกันอยู่ เพื่อสังเกตการณ์เจ้ากับซ่งชิง พวกเขากำลังถกเถียงกันว่าตนเองจะอยู่ฝ่ายไหนกันแน่”
วิถีโบราณกล่าว “จักรพรรดิเหล่านี้ไม่ได้เกรงกลัวกฎเกณฑ์ แต่พวกเขารู้ว่าในความปั่นป่วนครั้งนี้ มีผลประโยชน์ให้แสวงหา แม้กระทั่งมีโอกาสเล็กน้อยที่จะก้าวกระโดดจากตำแหน่งในตอนนี้กลายเป็นกฎเกณฑ์ทีเดียว!”
วิถีโบราณวางสายตาลงบนตัวลู่หยวน คำพูดของเขาน่าสงสัยยิ่งขึ้น “ลู่หยวนหากเจ้ามีโอกาสหนึ่งส่วนสิบที่จะก้าวเข้าสู่ระดับกฎเกณฑ์ เจ้าจะทำหรือไม่?”
ลู่หยวนได้ยินดังนั้น มุมปากยิ่งเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม แววตาก็แสดงออกถึงความดุดัน “หนึ่งส่วนสิบรึ? เหอะ! การฝึกฝนวิถีเดียว หนึ่งส่วนก็ถือเป็นความเป็นไปได้อย่างใหญ่หลวงแล้ว ต่อให้เป็นหนึ่งในล้านส่วน ข้าบุตรเเห่งโชคชะตาจะทำให้ความเป็นไปได้เช่นนั้นกลายเป็นร้อยส่วนเอง!”
[1] คนก็พยายามไต่ขึ้นที่สูง น้ำก็ไหลไปที่ต่ำ หมายถึง เกิดเป็นคนควรตั้งใจพัฒนาตนเอง ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ