ระบบรักฉบับเทพบุตร - ตอนที่ 8
ตอนที่ 8 นี่คือลายเซนต์ของคุณหลิน
หลังจากที่ เซี่ยหว่านชิว กลับมาเธอก็เห็นผู้จัดการของเธอ หยางชิง รอเธออยู่
ส่วน เซี่ยหว่านชิว ถอดหมวกออกและยิ้มเบา ๆ
เมื่อเห็นท่าทางของ เซี่ยหว่านชิว หยางชิง ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
เพราะ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เซี่ยหว่านชิว เพิ่งจะหายตัวไปโดยที่ไม่ได้บอกอะไรเลยและทุกครั้งที่ว่างก็จะหายไปทันที เซี่ยหว่านชิว มักจะเป็นแบบนี้ตลอด และเมื่อถึงเวลาทำงานเธอจึงจะกลับมา
“หว่านชิว พี่ไปไหนมาตอนนี้มันดึกแล้วนะ” หยางชิง ถาม
“ออกไปเดินเล่น………ให้ฉันได้ออกไปสูดอากาศบ้างเถอะ” เซี่ยหว่านชิว เมื่อถอดหมวกออก และมีสีแดงระเรื่อที่แก้มของเธอ
เมื่อหยางชิงถามอย่างสงสัย
“เฮ้อ…ถอดหน้ากากแล้วค่อยสบายหน่อย” เซี่ยหว่านชิว รู้สึกผ่อนคลาย
“หว่านชิว พี่หน้าแดงมากนะรู้ตัวไหม.. พี่ก็รู้ว่าออกไปแบบนี้อาจเป็นข่าวอื้อฉาวได้ และบน เว่ยป๋อ จะมีแต่การขุยคุ้ยข่าวของพี่ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการงานของพี่ ช่วงนี้งานพี่กำลังอยู่ช่วงขาขึ้นนะ … “หยางชิง เตือนเพราะกลัวว่าเธอจะหายไปนานกว่านี้
“เหมียว ~~ ฉันนี่แย่จังเลย” เซี่ยหว่านชิว มักจะทำเสียงคล้ายเสียงแมวเหมียว แล้วพยักหน้าโดยในใจคิดถึง หลินฟ่าน เธอไม่ได้คิดว่าคือการแอบไปสำหรับการที่ไปทานอาหารที่ร้านหลินฟ่าน แต่ก็ยังต้องดูเหมือนลึกลับอยู่ดี
หยางชิง ถอนหายใจ เธอเป็นผู้จัดการส่วนตัวของ เซี่ยหว่านชิว มาสามปีแล้ว และในสามปีนี้เซี่ยหว่านชิวไม่เคยโกหกแบบนี้
……..
หลังจากหลินฟ่าน ส่ง เซี่ยหว่านชิว และเขาได้แอบถ่ายรูปเธอจากด้านหลังไว้แล้วจึงได้กลับ
และหลังจากนั้น หลินฟ่าน ก็ขับรถสปอร์ตไปที่ห้างสรรพสินค้า
เขายิ้มเมื่อคิดถึงเรื่องที่ เซี่ยหว่านชิว ไม่เชื่อว่ารถคันนี้เป็นของเขา
“เซี่ยหว่านชิว จะเป็นอย่างไงนะเมื่อเธอเห็นฉันขับรถคันนี้?”
เสียงคำรามของเครื่องยนต์ของ บูกัทติ และแสงไฟอันเจิดจ้าทำให้สิ่งต่างๆบริเวรนั้นดูมีชีวิตชีวาขึ้นเมื่อ หลินฟ่าน ขับไปบนถนนในเมืองเมจิกซิตี้ แห่งนี้
“ว้าว … รถสปอร์ต บูกัทติ!”
“ฉันจำรถสปอร์ตคันนี้ได้ คนที่ขับ เป็นหนุ่มหล่อไปถ่ายรูปกันเถอะ”
“จริงเหรอ บูกัทติ ลา โวชูนั่ว เป็นรถสปอร์ตรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นราคามากกว่า 100 ล้าน เจ้าของยังเป็นหนุ่ม จริงเหรอ?!”
หลังจากขับรถมาถึงประตูห้างแล้วเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนก็รีบทักทายต้อนรับเขาทันทีและให้เขาใช้ช่องจอดถึงสองช่องสำหรับรถของเขาคันเดียว
“ สวัสดีครับยินดีต้อนรับครับ” รปภ. ทั้งสองกล่าวอย่างอบอุ่น
“ ที่จอดรถช่องเดียวก็พอแล้วครับ” หลินฟ่าน กล่าวแม้ว่ารถของเขาจะมีมูลค่าหลายร้อยล้านเขาก็จะไม่ใช้พื้นที่สาธารณะมากเกินความจำเป็นเช่นเดียวกับพวกนักการเมืองหรือเศรษฐีคนอื่น
“ครับ แต่จอดสองช่องดีกว่าครับเราจะช่วยคุณดูแลรถตลอดเวลาที่คุณอยู่ที่ห้างนี้และไม่จำเป็นต้องจ่ายใดๆเพิ่มเติม” รปภ. กล่าว
หลินฟ่าน พยักหน้าแน่นอนว่าการรักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งนี้ก็ดีมากเช่นกันและยังช่วยดูแลรถอีกด้วย
เมื่อ หลินฟ่าน เข้ามาในห้างสรรพสินค้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนนั้นทำงานร่วมกันและมองไปรอบ ๆ รถ อย่างจริงจัง
นี่คือรถสปอร์ต บูกัทติ รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นมูลค่าหลายร้อยล้านถ้ามีใครมาทำให้เป็นรอยขีดข่วน รปภ.ทั้ง สองคนคงต้องลำบากเพราะฉนั้น จะละทิ้งในการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้เลย
ในห้างสรรพสินค้าชั้นหนึ่ง ทั่วไปแล้วจะเป็นสินค้าราคาค่อนข้างธรรมดาเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งราคาไม่กี่สิบเหรียญเท่านั้น
แต่ชั้นแปดของห้างนั้นจะเป็นสินค้าที่มีราคาสูงมาก…
แต่ หลินฟ่าน ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นหก
เหตุผลหลักคือตอนนี้ หลินฟ่าน มีเงินมากพอที่จะสามารถเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่ดูดีกว่าที่ใส่อยู่นี้…และเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่เพื่อยกระดับชีวิตของเขา
เมื่อเขาไปถึงชั้นหก เห็นได้ชัดว่าราคานั้นสูงกว่าที่เขาเคยใช้พอสมควร
อย่างไรก็ตามคุณภาพของที่นี่ย่อมดีกว่าทั่วไป แต่พวกพนักงานคอยเดินตาม หลินฟ่าน และถามว่าต้องการเสื้อผ้าแบบไหน อันที่จริงแล้วหลินฟ่าน ยังไม่รู้ว่าจะเลือกเสื้อผ้าแบบไหน เพียงแค่เดินดูก่อนและไม่รีบร้อนที่จะซื้อ
หลังจากเดินดูในร้านเกือบสิบนาที หลินฟ่าน ก็ลองสวมเสื้อโค้ท
“คุณครับ ชุดนี้ราคาเท่าไหร่?” ถามหลังจากที่สวมเสื้อโค้ท
พนักงานบริการประจำร้านมองไปที่ หลินฟ่าน แล้วพูดแบบห้วนๆ “มากกว่าหนึ่งพัน” หลังจากนั้นพนักงานคนนั้นหันกลับมาและทักทายลูกค้าผู้หญิงอีกคนที่สวมแบรนด์ดังอย่างสุภาพ เมื่อเห็นแบบนี้ หลินฟ่าน ไม่คิดที่จะเลือกดูต่อไป
“แล้วพันเท่าไหร่ครับ” หลินฟ่านถามอีกครั้ง
“ อย่าแตะต้องมันเลย ถ้าคุณไม่สามารถจ่ายได้เดี๋ยวมันสกปรก” พนักงานคนเดิมเหลือบมองไปที่ หลินฟ่าน และทำเสียงเย็นชาไม่พอใจ
หลินฟ่าน ยังไม่ได้พูดอะไรและลูกค้าผู้หญิงในชุดสีแดงที่สวมแบรนด์ดังก็ไม่พอใจกับการพูดจาของพนักงาน
“นี่คุณ พนักงานไม่ควรพูดแบบนี้กับลูกค้านะ เขาถามคุณว่าเสื้อผ้าราคาเท่าไหร่ ทำไมคุณไม่ตอบ และเขาแตะเสื้อผ้าที่มีมากกว่าพันไม่ได้หรือ”
“ฉันจะไม่ซื้อเสื้อผ้ากับพนักงานแบบเธออีกต่อไป เป็นแค่พนักงานแต่กลับพูดจากับลูกค้าแย่แบบนี้ เธอคงคิดว่าเธอเป็นเจ้าของที่นี่?” ผู้หญิงในชุดแดงไม่พอใจกับท่าทีบริการแบบนี้มากนักและเธอก็หันและจากไป
“ก็เขาใส่เสื้อผ้าที่ขายตามแผงขายของข้างทาง คิดว่าเขาจะซื้อเสื้อผ้าที่นี่ได้งั้นเหรอ “พนักงานกระซิบคุยกัน
หลังจาก หลินฟ่านได้ยิน เขาก็ไม่ได้โกรธ ไม่ถือสาอะไร
มีพนักงานตั้งหลายคน คงไม่ใช่ทุกคนที่บริการแย่แบบนี้ และตัดสินคนจากการแต่งตัว
เหมือนที่ เล่าปี่ และ ซุนกวาน ในสามก๊กยังคงดูถูกรูปลักษณ์ของ เฟิงชู่
หลินฟ่าน ตัดสินใจที่จะไม่ซื้อของที่นี่
แต่เขาเดินออกจากร้านนั้นมาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เหตุการณ์เมื่อสักครู่ ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายที่อยูบริเวรนั้น
” หลินฟ่าน ใช่ไหม?” สาวสวยคนหนึ่งที่มองดูเหตุการณ์ เห็น หลินฟ่าน ทำสีหน้าประหลาดใจและวิ่งเหยาะๆไปที่ หลินฟ่าน
“เสี่ยวซื่อหยิน เหรอ?” หลังจากที่ได้เห็นหญิงสาว หลินฟ่าน ก็ยิ้มทันทีและกอดทักทายกันเบาๆเขาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เสี่ยวซื่อหยิน เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขาที่ได้คะแนนท๊อป 90 คะแนน
“หลินฟ่าน, นายทำให้ฉันเสียใจนะ นายมาที่นี่ซื้อเสื้อผ้าที่นี่ทำไมไม่มาหาฉัน, ฉันเคยบอกแล้วว่าต้องมาอุดหนุนฉัน” เสี่ยวซื่อหยิน พูดเหมือนโกรธ
“หลังจากเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเราไม่ได้เจอกันมาสามปีแล้วนะเนี่ย ฉันไม่คิดว่าเธอจะเป็นพนักงานขายอยู่ที่นี่?” หลินฟ่าน ยิ้ม
เสี่ยวซื่อหยิน พูดน้อยใจ “ใช่เหรอ…นายไม่เคยสนใจเรื่องของฉันเลยมากกว่ามั้ง”
“เฮ้…ไม่ใช่แบบนั้นหรอก คนหล่อๆอย่างฉัน จะลืมเพื่อนไปได้ไงล่ะ”หลินฟ่าน ยิ้ม
“นายมันยังหลงตัวเองมาก แต่ก็หล่อจริงๆมีสาว ๆ มากมายไล่ตามนายในมหาลัย แล้วตอนนี้นายมีแฟนหรือยัง?” เสี่ยวซื่อหยิน มองไปที่ หลินฟ่าน หลังจากผ่านสามปีแล้ว หลินฟ่าน ก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง เห็นว่าเพื่อนหล่อขึ้นเรื่อย ๆ
“ยัง” หลินฟ่าน ตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ ถ้าอย่างนั้นนายจะรับฉันไว้เป็นแฟนนายเอาไหม” เสี่ยวซื่อหยิน กล่าวและแอบยิ้ม
“ไม่เป็นไร ฉันไม่คิดจะเป็นแฟนกับเพื่อนน่ะ” หลินฟ่าน พูดติดตลก เขารู้ว่า เสี่ยวซื่อหยิน ก็ล้อเล่นเช่นกัน
“โดนปฏิเสธแบนี้น่าเบื่อจริงๆ” เสี่ยวซื่อหยิน ยักไหล่หลังจากได้ยินหลินฟ่านพูด เธอโน้มตัวไปใกล้หูของหลินฟ่านและกระซิบว่า: “ถ้าพนักงานขายคนนั้นดูถูกนายตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเขาจะต้องโดนสาวๆที่ชอบนาย กลั่นแกล้งจนอยากตายแน่ๆ
ฮ่า ๆ ๆ แต่ฉันว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง “หลินฟ่าน หัวเราะและไม่สนใจด้วย ว่าใครจะมองเขายังไง
“นายหล่อมากแต่ต้องดูดีด้วย นายต้องการซื้อเสื้อผ้าไหม เสื้อผ้าที่นี่อาจแพงหน่อยนะ…แต่ฉันสามารถแนะนำที่ราคาไม่แพงให้นายได้นะ” เสี่ยวซื่อหยิน กล่าว
“ไม่..เสื้อผ้าที่นี่เป็นของเธอและพวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันเธอต้องให้ส่วนลดฉันสิ”
หลินฟ่าน พูดล้อเล่น อันที่จริง หลินฟ่าน ไม่ได้สนใจส่วนลดซักเท่าไหร่
“มันง่ายที่จะบอกว่าฉันจะให้ส่วนลด 20% แต่มันแพงไปหน่อยนายดูสิว่านี่คือ 1135 หยวน..นี่คือเสื้อผ้า 2459 หยวน…เงินเดือนหนึ่งเดือนได้แต่ไม่กี่ชุด” เสี่ยวซื่อหยินกล่าว
“ ลด20เปอร์เซ็นต์นั่นจะเอาเปรียบเธอเกินไป เอาเสื้อผ้าทั้งหมดในแถวนี้ละกัน” หลินฟ่านยิ้ม
“โอเค… ฮะ!เดี๋ยวก่อน … นายพูดว่าอะไรนะ ทั้งแถวนี้เหรอ?” เสี่ยวซื่อหยิน ตะลึง
หลินฟ่านกำลังช่วยอุดหนุนเธอ
“เสื้อผ้าในแถวนี้ทั้งหมดเป็น 53 ชิ้น รวมเป็นเงิน 120,000 หลังจากลดราคาแล้ว จะอยู่ที่ 96,000 นายจะซื้อจริงๆน่ะเหรอ?” เสี่ยวซื่อหยิน ถามด้วยความรู้สึกตกใจเล็กน้อย
เธอรู้ว่าพื้นเพ ครอบครัวของ หลินฟ่าน เป็นชาวบ้านธรรมดาพ่อแม่ของเขาเป็นคนงานรับจ้างในโรงเรียน หลินฟ่าน อยู่ในครอบครัวที่ยากจน หลังจากทำงานหนักในเมืองมาสามปี หลินฟ่าน หาเงินได้มากมายขนาดนี้เลยหรือ?
ถ้าซื้อเสื้อผ้าชิ้นละเกือบแสนหยวนต้องรวยมาก
แม้ว่าจะไม่สามารถเทียบกับทายาทเศรษฐีเหล่านั้นได้ แต่ในสายตาของ หลินฟ่าน เขาซื้อเสื้อผ้าในราคาหนึ่งแสน เพราะอยากซื้อเท่านั้น
“หลินฟ่าน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเป็นเวลาสามปีเขามีรายได้สองล้านเป็นไปได้ไง?”
เสี่ยวซื่อหยิน คิด
“นี่..ฉันใช้บัตร” หลินฟ่าน หยิบบัตรธนาคารของเขาออกมาเขาไม่สนใจเรื่องเงินมากนักชีวิตแค่สนุกกับมัน
“ว้าว …หลินฟ่าน นายโชคดีอะไรมาแนะนำฉันบ้างได้ไหม เสี่ยวซื่อหยิน มองไปที่ หลินฟ่าน อย่างว่างเปล่า และดูมีความคาดหวัง
“มันไม่พอที่จะให้เรียกโชค ฉันทำบางอย่างแล้วได้เงินมานิดหน่อย” หลินฟ่าน ยิ้มและพูด
“มันเป็นยังไงน๊า…หาเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ หลินฟ่าน นายช่วยฉันได้มากเดือนนี้เงินเดือนและค่าคอมมิชชั่นของฉันอาจมากกว่า 20,000 หยวนซึ่งสามารถช่วยรักษาน้องชายของฉันให้หายป่วยได้” เสี่ยวซื่อหยิน รู้สึกของคุณ เธอรีบตรงเข้าไปในอ้อมแขนของหลินฟ่าน และกอดกอดหลินฟ่าน เหมือนน้องสาวกอดพี่ชาย
“เอาไว้ฉันจะตอบแทนนายนะ” เสี่ยวซื่อหยิน หน้าแดงและวิ่งหนีไปและรีบไปช่วยแพ็คเสื้อผ้า ให้ หลินฟ่าน
“ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนเสียดาย” หลินฟ่านพูดพลางถอยหลัง
“เธอนี่มันไร้ยางอาย!จริงๆ” เสี่ยวซื่อหยิน สะอึกออกมาในขณะที่แพ็คเสื้อผ้าใส่ถุง แก้มของเธอเป็นสีชมพู
การกระทำของ หลินฟ่าน และ เสี่ยวซื่อหยิน ทำให้หลายคนในห้างตกใจ
ยกเว้นพวกทายาทเศรษฐีและรวยคนส่วนใหญ่ก็ซื้อเสื้อผ้าเป็นแถว
“ว้าว … ดูพี่ชายคนนั้นสิเขาซื้อเสื้อผ้ามาแถวหนึ่งราคาคงหลายแสนเลยนะ”
“บ้าจริงๆ ฉันน่าจะไปต้อนรับเขานะเมื่อกี้ แล้วให้เขามาซื้อของกับฉัน เธอก็ไม่ได้ต้อนรับเขาไว้เหรอ? “
” น้องชายคนนั้นกลายเป็นเศรษฐีและเขาซื้อเสื้อผ้าที่ละเป็นแสน “
” น่าอิจฉาจังเลย … เสี่ยวซื่อหยิน ได้ค่าคอมมิชชั่นเยอะมากแน่ๆเดือนนี้ แต่ใคร จะคิดได้ว่าเขาจะทั้งหล่อและรวยมาก”
พนักงานขายหลายคนแสดงสีหน้าอิจฉา หลังจากขายเสื้อผ้าจำนวนมากในคราวเดียว เสี่ยวซื่อหยิน ไม่เพียง แต่สามารถอัพเกรดเป็นการเป็นพนักงานขายได้เท่านั้น ยังได้ค่าคอมมิชชั่นเยอะมากอีกด้วย
ในทางตรงกันข้ามพนักงานขายที่ดูถูก หลินฟ่าน ไว้ก่อนหน้านั้น มองไปที่ หลินฟ่าน อย่างรู้สึกเสียดาย
ฉันรู้ … ฉันรู้ว่า ฉันควรต้อนรับเขา เป็นอย่างดี ฉันไม่ควรไล่เขาออกไปเลย
พนักงานขายคนเดิม มี แต่ความเสียใจในใจของเธอ แต่เธอจะทำอะไรได้อีก ถ้าเธอไม่มองคนแค่ภาพนอก หลินฟ่าน อาจซื้อเสื้อผ้าจากเธอก็ได้
“ไปก่อนนะ ไว้เจอกันคราวหน้า” หลินฟ่านยิ้ม
“อืม…นายช่วยฉันมากเลยไว้ฉันจะเลี้ยงข้าวนายวันหลังนะ”
เสี่ยวซื่อหยิน มองไปที่ หลินฟ่าน และท้ายที่สุดด้วยความช่วยเหลือของ หลินฟ่าน เธอสามารถหาเงินได้มากขึ้นเพื่อช่วยรักษาน้องชายของเธอให้หายอาการป่วยได้
“ เราเป็นเพื่อนกัน ทุกคนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ถึงยังไงฉันก็ตั้งใจมาซื้อเสื้อผ้า เธอไม่ต้องเกรงใจฉันขนาดนี้ก็ได้” หลินฟ่านยิ้ม
“หือ…ผู้หญิงคนนี้เชิญนายมาทานอาหารเย็นนายไม่สนใจเหรอเหรอ?” เสี่ยวซื่อหยิน มองไปที่ หลินฟ่าน โดยเอามือวางบนสะโพกของเธอ
เธอก็สวยดีนะสมัยเรียนมหาลัยถ้า หลินฟ่าน ไม่ใจแข็งอาจกลายเป็นแฟนกันไปแล้วก็ได้
ในทางตรงกันข้าม หลินฟ่าน ที่ยังไม่มีแฟน ทำให้เธอสบายใจมากขึ้นเมื่ออยู่ด้วยกัน ท้ายที่สุดไม่ว่าคนที่หล่อเหลาจะเป็นอย่างไรสิ่งที่สำคัญกว่าคือลักษณะนิสัยของเขา
“ได้ เธอบอกแล้วนะว่าจะเลี้ยง” หลินฟ่าน กล่าว
ออกจากที่นี่ด้วยพอใจและในที่สุดก็ใช้จ่ายเงิน 100,000 หยวน
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของ หลินฟ่าน เสี่ยวซื่อหยิน ก็ยิ้มเล็กน้อย
หลังจากเรียนจบเธอได้ไปสอบถามใครๆเกี่ยวกับที่อยู่ของ หลินฟ่าน รู้เพียงว่า หลินฟ่าน อยู่ในเมจิกซิตี้
แต่วันนี้ในที่สุด เสี่ยวซื่อหยิน ก็พบ หลินฟ่าน และและจะต้องตามไปให้รู้ที่อยู่เขาให้ได้ จากที่อยู่ที่บันทึกการจัดส่งของที่เขาซื้อไว้ที่ร้านที่เธอทำงาน
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดคือ หลินฟ่าน เขา หล่อขึ้นเรื่อย ๆ จริงๆและเขายังไม่มีแฟนอีกด้วย เสี่ยวซื่อหยิน ยิ้มหวานมาก โดยที่ไม่รู้ตัวเลย
หลินฟ่าน หล่อมากแถมยังรวยอีกด้วยและที่สำคัญเป็นคนที่มีคนต่ำต้อยแบบฉัน ไม่รู้จักย่านคนรวยและไม่รู้จักถนนด้วยซ้ำ
หลินฟ่าน ไม่สามารถนำเสื้อผ้ากว่าห้าสิบชิ้นกลับมาได้ด้วยตัวเองเขา ให้ที่อยู่กับผู้จัดการร้านไว้และขอให้ผู้จัดการส่งเสื้อผ้าไปยังที่ที่เขาอาศัยอยู่
“ คุณหลิน เสื้อผ้าเหล่านี้จะส่งไปที่ หั่วซิน วิลล่า ในชุมชน ลานโบ๋หว่าน เลขที่ 583 ถนนเฟิ่งเดวี๋ยน ใช่ หรือไม่” ผู้จัดการถาม
“ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?” หลินฟ่าน รู้สึกสงสัยเล็กน้อย
“ไม่ค่ะ…คุณหลิน…เราจะรีบส่งให้ตรงเวลาคุณนี่คือบัตรสมาชิกแพลตตินั่มสำหรับคุณคุณคุณจะได้ราคาที่ดีที่สุดเมื่อคุณมาซื้อสินค้าครั้งต่อไป” ผู้จัดการโน้มตัวเล็กน้อย
หลังจาก หลินฟ่าน จากไปพนักงานขายทุกคนตรงไปที่ผู้จัดการและถามว่า “ผู้จัดการทำไมต้องให้บัตรสมาชิกแพลตตินัมกับเขาด้วย?”
มีความตกใจในดวงตาของผู้จัดการเขาจับจ้องไปที่พนักงานขายและพูดว่า “พวกคุณรู้อะไรไหม”
“คุณรู้จักชุมชน ลานโบ๋หว่าน ที่เลขที่ 583 ถนน เฟิ่งเดวี๋ยน ไหม?เป็นชุมชนระดับไฮเอนด์ที่มีชื่อเสียงมากในเรื่องเมืองเมจิก ซิตี้ มูลค่าวิลล่าที่นั่นไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน! “
” และคุณรู้หรือเปล่าว่า หั่วซิน วิลล่า ในเขต ลานโบ๋หว่าน ถูกซื้อโดยเศรษฐี ลึกลับ ในราคา 200 ล้านเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา “
” หรือว่าเศรษฐีคนนั้นคือ คุณหลิน บ้านที่เขาซื้อมีมูลค่าถึง 200 ล้านหยวนและถ้าสามารถซื้อบ้านมูลค่า 200 ล้านหยวนได้จะต้องมีทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านหยวน!”
ผู้จัดการแทบจะดูไม่ออกว่าเศรษฐีอย่างหลินฟ่านแต่งตัวธรรมดาแบบนี้
ถ้าพวกคุณรวยมากพอแล้ว คุณก็คงจะไม่ซื้อสินค้าแบรนด์ดังราคาหลักหมื่น ต่อให้เป็นเพียงแค่เสื้อผ้าราคาหลักพันและคุณก็สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายใจ
“รวยระดับ … พันล้านเลยเหรอ?” พนักงานขายคนนั้นก็ยิ่งเสียใจมากขึ้น. เพราะเธอมองหลินฟ่านตั้งแต่หัวจรดเท้า. โชคดีที่หลินฟ่านไม่ได้ตำหนิเกี่ยวกับมารยาทของเธอ มิฉะนั้นงานของเธอคงมีปัญหา
ผู้จัดการเหลือบมองไปที่พนักงานคนนั้น “คุณหลินไม่ได้ตำหนิคุณ เพราะเขาไม่ใส่ใจและให้ค่ากับคนที่มองคนแค่เปลือกนอกอย่าคุณ นั่นอาจเป็นเพราะว่าคุณหลินเขาเป็นคนจิตใจดี”
“แต่คุณตัดสินคนตามรูปลักษณ์ของพวกเขาและเกือบจะทำให้ลูกค้ารายใหญ่ของร้าน ไม่พอใจ! โชคดีที่ เสี่ยวซื่อยิน รู้จักกับ คุณหลิน
แต่ฉันจะมองข้ามความผิดของคุณไปไม่ได้นะ “
” ตอนนี้ฉันขอประกาศ … “
” คุณถูกไล่ออกแล้ว! “